The Deer Hunter ทีมงานไทยไร้เครดิต
หนึ่งในฉากคลาสสิคที่ทำให้คนทั้งโลกหรี่ตาแทบไม่กล้าดูในหนัง The Deer Hunter ของผู้กำกับฯ ไมเคิล ชิมิโน คือฉากเล่นรัสเซี่ยนลูเล็ต ซึ่งโลเกชั่นในเรื่องเป็นเวียดนามยุคทำสงครามกับอเมริกา แต่ต้องยกกองมาถ่ายทำกันจริงๆที่เมืองไทยเรานี่เอง เป็นที่ฮือฮา และ เงินสะพัดอย่างยิ่ง
.
+++++++++++++++++
.
ฉากนี้ต้องแอบถ่ายทำกันที่ย่าน พัฒน์พงษ์ เพราะเป็นฉากที่ต้องใช้พลัง และ สมาธิ ของนักแสดงอย่างล้นเหลือ ขืนให้สื่อไทยรู้ว่า โรเบิร์ต เดอ นีโร่ มาเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวๆนี้มีหวังไม่ได้ถ่ายกันพอดี เพราะยุคนั้น โรเบิร์ต เดอ นีโร่ ก็ประมาณ ลีโอนาโด้ ดิคราปริโอ ในยุคนี้ดีๆนั่นเอง
.
+++++++++++++++++
.
เป็นฉากบีบคั้นอารมณ์ และเป็นสุดยอดแห่งฉากจำในหนัง ซึ่งเป็นการประสานงานระหว่างทีมงานฮอลลีวู้ด กับ ทีมงานฝั่งไทยที่นำโดย คุณแซม สมพล สังขะเวส สุดยอดคนทำงานระดับอินเตอร์ของบ้านเราในยุคนั้น คุณแซม มีผลงานเป็นผู้ช่วยกำกับฯในหนังอินเตอร์หลายๆเรื่องเช่น Good Morning Vietnam ของ แบร์รี่ เลวินสัน / Casualties of War ของ ไบรอัน เดอพัลม่า / Air America กับ Tomorrow Never Dies ของ โรเจอร์ สป็อททิสวู้ด / และ Heaven And Earth ของโอลิเวอร์ สโตน
.
+++++++++++++++++
.
ที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งสิ้นล้วนมาถ่ายทำในเมืองไทย ประเทสรักสงบที่มีโลเกชั่นไปคล้ายๆหลายๆประเทศที่มีสงครามแถบๆนี้ พม่า เวียดนาม กัมพูชา ฯลฯ หนังที่กล่าวถึงประเทศเหล่านี้มักมาถ่ายกันที่เมืองไทย และประสานงานกับทีมโปรดักชั่นในไทย ยุคนั้นยังมีไม่กี่เจ้าที่ผูกขาดฮั้วงานกับเมืองนอก ดังนั้นจึงสร้างความมั่งคั่งให้ผู้เกี่ยวข้องในเวลานั้นอย่างยิ่ง ทั้งทีมงาน รวมไปจนถึงนักแสดงสมทบ
.
+++++++++++++++++
.
โผ กู้เกียรติตน หรือ ลุงโป๋ เป่าปี่ ดาราอาวุโสผู้ล่วงลับก็เป็นหนึ่งในนักแสดงที่คนไทยฮือฮามาก เพราะได้เข้าไปร่วมแสดงในฉากคลาสสิคฉากนี้ในบทบาทกรรมการตัดสินเกมอันตรายอย่าง รัสเซี่ยนลูเล็ต โดยมี สป๊อก โคลีเซี่ยม เป็นดาราสมทบอีกคนที่คนไทยคุ้นๆหน้ากันดีมายืนร่วมแสดง จริงๆการมายืนเป็นไม้ประดับแบบนี้ต้องมีการแคสติ้งกันมาเป็นอย่างดี แม้ในบทจะแค่มายืนๆกันอยู่เฉยๆก็ตาม อีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ นงนุช ทิมรุ่ง รับบทเป็นโสเภณีแม่ลูกอ่อนในหนัง
.
+++++++++++++++++
.
โลเกชั่นหนังเรื่องนี้ถูกเซ็ตขึ้นให้ใกล้เคียงกับกรุงไซง่อน ประเทศเวียตนามช่วงจวนเจียนใกล้จะถูกพวกเวียตกงเข้ายึด ในกรุงเทพฯนั้นทีมงานใช้โรงเรียนเซนต์คาเบรียลดัดแปลงเป็นสถานทูตอเมริกา โดยมีตัวประกอบไทยหลายร้อยคนร่วมแสดง / ถนนทรงวาด / สนามบินดอนเมือง / สลัมคลองเตย / อาคารเดอมงต์ฟอร์ดก็ถูกดัดแปลงให้เป็นออฟฟิศทำงานของเจ้าหน้าที่สถานทูต / อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และอีกหลายๆแห่งที่กองถ่ายยกไปถ่ายทำโดยเซ็ตฉากขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ
.
+++++++++++++++++
.
จริงๆหนังเรื่องนี้ถูกวิพากย์วิจารณ์ว่า ไมเคิล ชิมิโน นั้นใส่ทัศนคติของตนเองมากเกินไป เหมือนจะบอกให้โลกรู้ว่า อเมริกา ถูกต้องเสมอ ในหนังจึงมีแต่ความชิงชังต่อชาวเวียดกงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า The Deer Hunter คือหนังที่ทรงคุณค่าเรื่องหนึ่งที่ควรหามาดู มันพูดถึงบาดแผลทางใจของคนที่เคยผ่านสงครามผ่านมุมมองของเพื่อน และฉากรัสเซี่ยนลูเล็ต มันเป็นฉากจำลองสงครามขนาดย่อมไว้ในโต๊ะเดียว มันเปรียบให้คนดูเห็นว่า การเหนี่ยวไก แต่ละครั้งก็เหมือนการอยู่ในสงครามนั่นแหละ ใครรอดจากการเหนี่ยวไกแล้วยังมีสภาวะจิตใจปรกติอยู่ได้ นั่นหมายถึงคุณเป็นผู้ชนะ ซึ่งในหนังมันบอกไว้แล้วว่า ไม่มีใครชนะเลย แม้แต่ผู้อยู่รอดเองก็ตาม
.
+++++++++++++++++
.
สุดท้ายนี้ที่อยากจะบอกแบบน่าปวดใจก็คือ การเข้ามาถ่ายทำในบ้านเรา และผ่านลุล่วงไปด้วยดีด้วยฝีมือคนไทยส่วนหนึ่ง แต่มีทีมงานบางคนเท่านั้นที่ได้เครดิต ซึ่งการที่หนังได้รางวัลออสก้าร์นั้นยิ่งทำให้คิดว่าทีมงานไทยน่าจะได้เครดิตไปมากกว่านี้
.
+++++++++++++++++
.
ไมเคิล ชิมิโน่ ผู้กำกับฯ ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 59 ที่เพิ่งผ่านมานี่เอง ในวัย 77 ปี เขาประสบความสำเร็จจาก The Deer Hunter ในปี 1978 ทั้งรางวัลและรายได้หนัง แต่ในอีกสองปีต่อมาเขาก็ย่อยยับไปกับหนังทุนมโหฬาร 40 ล้านเหรียญ(ยุคนั้นเยอะมาก) อย่าง Heaven's Gate จนเกือบทำให้ United Artists ต้นสังกัดล้มละลายกันเลยทีเดียว