เรื่องเล่าเขย่าขวัญ คืนหลอน
ชนบทหรือบ้านนอกนั้นยังมีคลองน้ำที่อุดมสมบูรณ์ และยังอุดมไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร กุ้ง หอย ปู ปลา มีมากมายชุกชุมพอหาได้ จิตใจคนก็เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือแบ่งปันน้ำใจกัน ชาวบ้านที่นี่ส่วนมากจะประกอบอาชีพทำสวนยางพาราช่วงนี้ยางพาราได้ราคาดีด้วย ใครที่มีสวนยางเยอะหลายสิบไร่ก็เป็นเศรษฐีย่อยๆ ได้เหมือนกัน ตอนนี้ยางพาราแพร่หลาย ปลูกกันได้ทั่วเกือบทุกภาค ภาคอีสานก็เริ่มปลูกกันแล้ว
อาชีพอีกอย่างที่ชาวบ้านที่นี่ถนัดกันคือ ตกปลาในเวลากลางคืน คันเบ็ดที่ใช้ตกปลาก็ยังเป็นเบ็ดแบบโบราณอยู่ คือคันเบ็ดทำมาจากไม้ระกำเลือกไม้ระกำต้นที่แก่จัด เลาะหนามออกตากแดดไว้ให้แห้งก็จะได้คันเบ็ดที่พลิ้วเรียวเบาถนัดมือ ไม่ได้ใช้คันเบ็ดที่เป็นเหล็กมีรอกชักเหมือนที่นิยมกันอยู่เหมือนทุกวันนี้ เหยื่อที่ใช้ตกปลา ก็ใช้แมลงเม่าตัวเขื่องซึ่งหาขุดได้ตามจอมปลวก
"ป้าเอียด" กับ "ป้าก่อหนะ" และกลุ่มของแกอีก 2-3 คน ชอบไปตกปลากันเวลากลางคืนที่ไหนลือว่ามีปลาชุกชุมก็จะไปตกปลากันที่นั่น พวกเขาชอบตกปลากันเป็นชีวิตจิตใจได้ปลาหรือไม่ขอให้ได้ไปตกก็พอใจแล้ว
อย่างเช่นค่ำคืนนี้ ป้าเอียดกับป้าก่อหนะและพวกๆ เตรียมเหยื่อ เตรียมเบ็ด ตะข้อง พร้อมแล้วก็ปรึกษากันว่าจะไปตกปลากันที่บ้านนาขอ บ้านนาขอนี้อยู่ในกิ่ง อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ระยะทางจากบ้านป้าเอียดไปบ้านนาขอนั้น ไกลโขอยู่เหมือนกันตอนที่ไปกันนั้นแฟนของป้าเอียดขับรถกระบะไปส่งและ ตอนขากลับแฟนป้าเอียดก็จะไปรับ
คืนนั้นป้าเอียดไปถึงบ้านนาขอเกือบๆ 2 ทุ่มเข้าไปแล้ว ก็มองหาทำเลเลือกที่ตกปลากัน มันเป็นคลองน้ำที่กว้างใหญ่อยู่เหมือนกัน 2 ฝั่งแลดูทะมึนรกครึ้มไปด้วยไม้ยืนต้นทั้งต้นเล็กและใหญ่ ยืนต้นแลดูในความมืดเป็นพุ่มเหมือนดั่งอสูรกายเคลื่อนไหวไป-มา เมื่อยามโดนสายลมพัด
ในค่ำคืนนี้เสียงลมพัดหวีดหวิวเห็นแสงเรืองๆ อยู่รอบทิศของหิ่งห้อย ที่บินวนเวียนอยู่ในอาณาบริเวณนั้นป้าเอียดตกปลาอยู่กับป้าก่อหนะเพื่อนๆ อีก 2-3 คนแยกกันไปตกด้านเหนือของคลอง นานๆ จะกู่ร้องเรียกหากัน
"วู้วู้วู้...เป็นยังไง...ตรงนั้นปลาตอดเหยื่อดีไหม" ได้ยินเสียงตะโกนตอบกลับมาว่า
"เออ...ไม่ค่อยตอดเลย"
ป้าเอียดกับป้าก่อหนะตกปลากันจนเพลินโดยเดินเลาะหาที่ตกไปเรื่อยๆ ตามแนวชายตลิ่ง จนห่างไกลจากพรรคพวก และปลาตอดเหยื่อดีด้วย จนเวลาปาเข้าไปค่อนข้างดึกพอสมควรได้ปลาเกือบครึ่งตะข้อง พอดีเหยื่อป้าเอียดหมดและเริ่มออกอาการหาวง่วงนอน แกเลยพูดกับป้าก่อหนะว่า
"เออนี่...เราลงมาอยู่ตรงไหนกันนี่ แล้วพวกโน้นอยู่ตรงไหนกัน ลองตะโกนกู่เรียกดูซิเผื่อว่าจะอยู่ใกล้ๆ กัน...วู้วู้วู้"
"วู้วู้วู้" เสียงขานกู่ตอบมาดังอยู่ใกล้กันประมาณ 30-40 เมตรนี่เอง
"อ๋อ...เขาอยู่ใกล้กับเรานี่เอง ไปหาเขาดีกว่าจะได้ชวนกลับกัน เพราะนี่มันก็ดึกมากแล้วด้วย"
แต่พอป้าเอียดกับป้าก่อหนะมาถึงจุดที่คาดว่าได้ยินเสียงกู่ขานตอบกลับเมื่อครู่นี้กลับพบแต่ความมืดและความว่างเปล่า
"เอ๊ะ! ก็เมื่อกี้ได้ยินอยู่ตรงนี้นี่ ไปไหนกันหมดแล้ว"
"ไม่รู้ซี"
ป้าก่อหนะตอบอย่างหวาดๆ เหมือนในใจกำลังนึกถึงอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นอยู่เหนือธรรมชาติ ป้าเอียดจึงกู่เรียกอีก
"วู้วู้วู้" มีเสียงวู้วู้วู้...ขานตอบรับดังมาจากชายป่าด้านหลัง ที่ป้าเอียดกับป้าก่อหนะยืนกันอยู่
"เอ๊ะ! ตรงนั้นเป็นป่ารกนะไม่เห็นมีใครเลย แล้วไอ้เสียงกู่ตอบรับเมื่อครู่นี้มันเป็นเสียงของใครกัน"
ป้าเอียดกับป้าก่อหนะมองหน้ากันอย่างหวาดหวั่น ทันใดนั้น...ทั้งคู่ได้ยินเสียงอันเยือกเย็นถามมาว่า
"จะกลับแล้วเหรอออออ...จะกลับแล้วเหรอออออ"
เสียงที่ถามมานั้น ดังอยู่ในบริเวณที่ป้าเอียดกับป้าก่อหนะยืนอยู่ เสียงถามนั้นดังซ้ำๆ อยู่แต่ประโยคเดียวว่า
"กลับแล้วเหรอออออ"
ป้าเอียดกับป้าก่อหนะมองหาที่มาของเสียงรอบๆ ตัว โดยกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ ก็ไม่เห็นมีใครแต่แล้วป้าก่อหนะก็ชี้มือและบอกขึ้นว่า
"เสียงมันดังอยู่ที่กระเป๋ากางเกงของเอียด"
ป้าเอียดตกใจ แกจึงล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วควักโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าออกมาดูก็เห็นไฟบน หน้าจอสว่างอยู่ วินาทีนั้นเสียงก็ดังออกมาจากโทรศัพท์ ฟังได้ยินชัดถ้อยชัดคำว่า
"กลับแล้วเหรอออออ"
เสียงนั้นมันยานยาวเยือกเย็นน่าขนลุก สักพักสุนัขไม่รู้ว่ามาจากไหนพากันโก่งคอเห่าหอนโหยหวนขึ้น
"โบร๋ววว...โบร๋ววว"
แล้วเสียงประโยคเดิมก็ดังออกมาจากโทรศัพท์อีก
"กลับแล้วเหรอออออ"
เท่านั้นแหละป้าเอียดกับป้าก่อหนะแทบช็อก พากันวิ่งหนีด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนผมบนหัวตั้งชันลุกซู่ พากันวิ่งล้มลุกคลุกคลานมายังจุดนัดเจอกัน ก็เห็นพรรคพวกนั่งรออยู่ที่รถแล้วพอแฟนของป้าเอียดเห็นจึงถามว่า
"วิ่งหนีอะไรกันมาเหรอ" ป้าเอียดหน้าตาตื่นบอกแฟนแกว่า
"ไป...รีบออกรถเถอะ...กลับถึงบ้านก่อนแล้วจะเล่าให้ฟัง"
พอกลับมาถึงบ้านแกก็เล่าเหตุการณ์ให้พรรคพวกฟังว่าไปเจออะไรมา พอทุกคนได้ฟังจบก็พากันขนลุกซู่ไปตามๆ กัน ป้าเอียดถามพวกที่ไปตกปลาด้วยกันว่า
"เมื่อตอนตกปลากันอยู่นั้นมีใครได้กดโทรศัพท์โทรฯไปหาหรือเปล่า"
พวกที่ไปตกปลาด้วยกันส่ายหน้า บอกไม่มีใครโทรฯหาเลยพอป้าเอียดนึกถึงประโยคคำถามที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ เมื่อคืนนี้ก็นึกสยองขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
ภายหลังป้าเอียดมารู้จากปากของชาวบ้านนาขอว่า ที่บริเวณริมคลองที่ไปตกปลากันนั้นเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว มีคนพบศพของผู้หญิงถูกฆ่าข่มขืนแล้วเอาศพมาทิ้งไว้ตรงบริเวณริมคลองแห่งนั้น มิน่าล่ะ...ถึงได้เฮี้ยนเอาการ!