ตัวละครที่ฉีกกฎละครจักรๆ วงศ์ๆ

เรื่องราวของละครจักรๆวงศ์ๆ และนิทานพื้นบ้าน วรรณคดีไทย ที่เราคุ้นเคยกัน
มักจะมีแบบแผนของตัวพระ และตัวนาง สำเร็จรูป เป็นโอรส ธิดา สุดท้ายครองคู่กันอย่างมีความสุข
แต่ก็มีบ้างที่แปลกแยกออกไป เป็นมิติของตัวละคร*
credit : เพจคนรักษ์หนังเจ้า

แล้วตัวละครจักรๆวงศ์ๆ ที่ฉีกกฏ สำหรับคุณคือตัวละครตัวใด มาร่วมแชร์กันนะคะ
###################################################################

เริ่มที่ตัวละครตัวแรกนะคะ


พระธิดาอมราวดี จากเรื่อง ดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง
(ขลา ปานแก้ว)

...จากความเกลียดชัง แปรเปลี่ยนเป็นรักนิรันดร์...

เป็นนางเอกที่ฉีกแนวของละครจักรๆวงศ์ๆเป็นอย่างมาก เพราะโดยมากนางเอกมักจะต้องซื่อใส แสนดี บริสุทธิ์

นางเป็นพระธิดาเมืองอุตระนคร เริ่มต้นเหมือนจะเป็นนางร้าย เพราะนางถูกเลี้ยงดูโดยแม่เฒ่าเมาฬี ปิศาจแมวที่ชั่วร้าย ทั้งยังมีบิดาละโมบโลภมาก จนมารดาของนางไม่อาจทัดทานได้

อมราวดี เชื่อคำแม่เฒ่า ใช้ความงามของตนหลอกล่อบุรุษมากมาย ให้มาตายลงตรงหน้า เพียงเพราะหาสิ่งที่นางต้องการไม่ได้

จนกระทั่ง สิงห์ บุรุษพเนจรที่มีพลังแข็งแกร่ง มาพร้อมกับสะพานเงินสะพานทองที่สร้างเสร็จภายในคืนเดียว ตามคำเรียกร้องของนาง อมราวดีแค้นใจมาก แต่ก็จำต้องแต่งงานกับสิงห์แม้จะชังอีกฝ่ายเพื่อหลอกล่อถามหาของวิเศษจากสิงห์ และกำจัดเขาอย่างเหี้ยมโหด

ทว่าสิงห์กลับมาแก้แค้น ลักพานางไปตกระกำลำบาก ให้อมราาวดีเรียนรู้การเอาชีวิตรอด และความมีน้ำใจภายใต้กริยาโหดร้ายเย็นชาของสิงห์ อมราวดีสับสน ดวงหทัยที่เคยโหดเหี้ยมเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เมื่อได้สัมผัสความรักแท้ กระทั่งนางยอมทิ้งทุกสิ่งแม้แต่ยศถาบรรดาศักดิ์ เพื่อช่วยเหลือบุรุษอันเป็นที่รัก

หากมนต์ดำที่นางเคยร่ำเรียนจากแม่เฒ่าเมาฬีก็ไม่อาจสู้ความชั่วร้ายที่มีอำนาจเหนือกว่าได้ จนต้องเสัยดวงตาทั้งสองข้าง ชีวิตนางอยู่ในความมืดที่ทุกข์ทรมาน มีเพียงความหวังที่จะได้พบกับสิงห์อีกครั้ง แม้เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตก็ตาม

และในที่สุด ก่อนที่ลมหายใจของนางจะทิ้งสุด ความเพียรพยายามหาทางแก้คำสาปให้คนรักก็เป็นผลสำเร็จ และสิ้นใจในอ้อมกอดของสิงห์

นับเป็นโศกนาฏกรรมที่ชวนให้โศกเศร้ากับคู่นี้จริงๆ กับความเพียรพยายามที่สุดท้ายแล้วก็ต้องแลกด้วยความตาย

ผู้เขียน : มีน

................................................................................................................................................................

วิชชุเทพ / เพชรรุ้งไฟ จากเรื่อง เพชรรุ้งไฟ
(โอฬาร ชูชาญ)

...กำเนิดมาเพียงเพื่อหน้าที่เท่านั้น...

เรื่องราวของเทพเทวดามากมาย ที่ได้รับบัญชาให้จุติมาเป็นมนุษย์เพื่อขจัดทุกข์บำรุงสุข
ต้องเผชิญเคราะห์กรรมและอุปสรรคต่างๆ นานา จนในที่สุดก็ครองคู่อย่างเป็นสุขกับชายา ที่อาจจะมีมากกว่าหนึ่ง

เพชรรุ้งไฟเองก็ต้องผจญเคราะห์กรรมและความลำบาก...ทั้งศึกรบ และศึกรัก กว่าจะทำภารกิจสำเร็จลุล่วง

เพียงแต่...เขาเกิดมาเพื่อทำหน้าที่เท่านั้น ไม่ได้เกิดมาเพื่อมีรักแท้!

เพราะเทพบุตรไชยยันต์บำเพ็ญบารมีมาครบหนึ่งพันปี จึงได้รับประทานอาวุธวิเศษจากเทพผู้เป็นใหญ่ แล้วหลงระเริงในอิทธิฤทธิ์
ก่อเหตุอันธพาลไปท้าทายพญายักษ์อสงไขย ผู้มีหน้าที่แบกสวรรค์
จนเดือดร้อนไปทั้งสวรรค์ เทพผู้ยิ่งใหญ่จึงลงทัณฑ์ให้เทพไชยยันต์ลงไปเกิดเป็นมนุษย์ชดใช้กรรม
แต่ทว่ามิได้ริบอาวุธวิเศษกลับคืน เกรงว่าเทพไชยยันต์จะไปก่อกรรมทำเข็ญด้วยนิสัยอันธพาล
จึงต้องสรรหาเทวดาที่บำเพ็ญบารมีมากกว่าเทพบุตรไชยยันต์ลงไปปราบ และวิชชุเทพก็คือเทพบุตรผู้ซึ่งบำเพ็ญบารมีมาถึงสองพันปีแล้ว

วิชชุเทพลงไปถือกำเนิดตามบัญชา พร้อมอาวุธวิเศษที่จะสามารถต่อกรกับเทพไชยยันต์ได้ โดยให้ยักษ์อสงไขยคอยคุ้มครองดูแลอาวุธวิเศษนั้น

เทพไชยยันต์ไปเกิดเป็นบุตรชายของมหาอำมาตย์ผู้ฉ้อฉลในนครคันธราช เหนือหัวมรกตและมเหสีฝ่ายซ้ายฝ่ายขวาต่างรักใคร่เอ็นดู ไชยวุธ บุตรชายของมหาอำมาตย์ เนื่องจากไม่มีโอรสธิดา จนหมายใจว่าจะแต่งตั้งให้เป็นอุปราช

แต่แล้วมเหสีฝ่ายขวาสุมาลัยก็ตั้งครรภ์ ไชยวุธเกรงว่าตนจะไม่ได้เป็นรัชทายาทครองนครคันธราช จึงให้โจรโมรามาลักพาพระโอรสอันเกิดจากมเหสีสุมาลัยไป
โจรโมราหวังจะได้สร้อยข้อมือเพชรรุ้งไฟอันทรงอานุภาพของพระโอรสที่ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เพราะต้อยต่ำ ไม่มีบุญ จึงไม่สามารถแย่งชิงมาได้ โมราเลี้ยงดูโอรสน้อยเป็นลูกของตนเพื่อ
หวังว่าสักวันจะได้ครอบครองสร้อยข้อมือเพชรรุ้งไฟ

ไชยวุธยังคงคิดการณ์ใหญ่ยึดอำนาจและหวังปลงพระชนม์สามกษัตริย์ ในวันที่มเหสีฝ่ายซ้ายสุวรรณอำไพมีประสูติกาลพระธิดา เหนือหัวมรกตและมเหสีสุมาลัยหนีรอดไปได้ ด้วยเกรงว่าธิดาน้อยจะเป็นอันตราย จึงให้พลอยนิลนางกำนัลคนสนิทพาหนีไป

พลอยนิลพาธิดาน้อยซัดเซพเนจรมากลางป่า พบเทวดาแปลงเป็นหญิงชรา มอบแหวนบุษราคัมให้เป็นของวิเศษคู่กายพระธิดา โดยสามารถขอพรจากแหวนได้ 5 ข้อ และตั้งพระนามพระธิดาว่า บุษรา

บุษราได้รับการอุปถัมภ์จากเหนือหัวมัทราชและมเหสีอัมพวันแห่งนครสัตวา เพราะเหตุบังเอิญว่าได้ช่วยชาวเมืองสัตวาจากเหล่าพญายักษ์นครเกาะแก้วที่มารุกราน ด้วยอำนาจของแหวนบุษราคัม และเพื่อเป็นการประกันว่าเมืองยักษ์จะไม่มารุกรานอีก จึงขอ นพมาศ พระธิดาครึ่งยักษ์ครึ่งมนุษย์ของนครเกาะแก้วมาเป็นประกัน

โจรโมราเลี้ยงดูเพชรรุ้งไฟภายใต้การควบคุมดูแลของพระฤษี ทำให้โมราไม่กล้าทำอะไร โมราจึงพาเพชรรุ้งไฟออกเดินทาง ไปจนถึงนครสัตวา เพชรรุ้งไฟได้เป็นเพื่อนเล่นกับพระธิดาบุษรา และ พระธิดานพมาศ

ด้วยสายใยพี่น้อง เพชรรุ้งไฟและบุษราผูกพันกันโดยไม่รู้ความจริง ในขณะที่นพมาศมักตั้งแง่ไม่พอใจเพชรรุ้งไฟจนเกิดเหตุพิพาทกันอยู่เสมอ

เมื่อเจริญวัย ความงดงามของบุษราไปต้องตาต้องใจไชยวุธที่บัดนี้ได้ครองคันธราชสมใจ จึงลักพาตัวนางมา เป็นเหตุให้เพชรรุ้งไฟและนพมาศต้องติดตามไปช่วย

พลอยนิลรู้ความจริงว่า เพชรรุ้งไฟคือโอรสของเหนือหัวมรกตและมเหสีสุมาลัย จึงถูกโมราฆ่าปิดปาก ก่อนตายนพมาศไปพบนางเข้า พลอยนิลจึงได้ฝากฝังขอร้องให้นพมาศขัดขวางไม่ให้เพชรรุ้งไฟและบุษราได้แต่งงานกัน

เพชรรุ้งไฟกับนพมาศตามมาช่วยบุษราและยึดเมืองได้ ขณะที่ไชยวูธและพวกมหาอำมาตย์หนีไป เพชรรุ้งไฟจึงขึ้นครองเมืองคันธราช และเตรียมกำหนดการอภิเษกกับบุษรา นพมาศเข้าขัดขวางตามคำขอร้องของพลอยนิล และบังคับให้เพชรรุ้งไฟอภิเษกกับตนด้วยความรักที่ซ่อนลึกในใจ
กลายเป็นปมบาดหมางระหว่าง เพชรรุ้งไฟ นพมาศ และบุษรา ที่ไม่อาจมองหน้ากันด้วยมิตรภาพเหมือนเดิมได้

ในขณะที่รักสามเส้ากำลังกัดกร่อนดวงหทัยของทั้งสาม เพชรรุ้งไฟสังหารไชยวุธได้ ความทรงจำเมื่อครั้งสวรรค์ทั้งหมดก็กลับมา เขาเลือกกลับขึ้นสู่สวรรค์บำเพ็ญบารมีต่อไปในสภาวะเทพเช่นเดิม

ความรักความผูกพันในชีวิตตัดขาด ด้วยเหตุนี้เรื่องราวทั้งหมดที่ดำเนินมา หัวใจของเพชรรุ้งไฟไม่สามารถเป็นของสตรีใดได้ ทั้งบุษราที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นพี่น้องกัน และนพมาศผู้ร่วมเป็นร่วมตายฝ่าฟันภยันตรายเสมือนเพื่อนแท้

ผู้เขียน : มีน

.......................................................................................................................................................

อินทรานี / อัญญาณี จากเรื่อง เกราะกายสิทธิ์
(พัชรมัย สุขประเสริฐ)

...ชาติภพเปลี่ยน บุพเพสันนิวาสเปลี่ยน...

โดยปกติแล้ว นิทานไทย จักรๆวงศ์ๆ จะมีความเชื่อในเรื่องเนื้อคู่ บุพเพสันนิวาส
ใครเกิดมาเป็นคู่กันแล้ว ย่อมครองคู่กันทุกชาติไป
นอกเสียจากชายาของเทวดาที่หมดบุญลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ซึ่งก็จะได้รับการอนุญาตจากเทวดาองค์นั้น

หาก อินทรานี มเหสีของเทพวิษุวัติ สิ้นบุญในชาติภพเทพธิดา เพราะศรุตเทพไม่นำเกราะกายสิทธิ์มารักษานางได้ทันเวลา
เทพวิษุวัติเสียใจมากที่ไม่อาจรักษาชีวิตนางไว้ได้ ด้วยความแค้นจึงสาปสรรให้ศรุตเทพต้องลงไปเกิดเป็นมนุษย์ ง่อยเปลี้ย พิการ
ซ้ำยังตามจองเวรไม่สิ้นสุด

ทว่ากลับกลายเป็นชักนำให้สุริยะ อันเป็นชาติภพใหม่ของศรุตเทพได้มาพบกับ อินทรานีซึ่งถือกำเนิดเป็น อัญญาณี

ความชิงชังจากส่วนลึกในอดีตที่มีต่อกัน กลับกลายเป็น บุพเพสันนิวาส ที่ถักทอสายใยครั้งใหม่ให้เป็นความเห็นใจซึ่งกันและกัน อาทรต่อกัน
จนเทพวิษุวัติริษยา ยิ่งพยาบาทอาฆาตสุริยะมากขึ้น เมื่อหัวใจรักของอินทรานีในอดีตที่เคยมีให้พระองค์หมดสิ้นไป

ในชาติภพปัจจุบัน นางมีเพียงสุริยะอย่างเต็มหัวใจ

อัญญาณีต้องเลือก ระหว่างเทพวิษัวัติ...รักที่ภักดีในอดีตชาติ และสุริยะ...ความรักในภพปัจจุบันที่ไม่อาจสลัดออกไปจากหัวใจได้
ผู้เขียน : มีน

.........................................................................................................................................................

สามศรี จากเรื่อง เทพสามฤดู
(สพล ชนวีร์)

...รักร้าย หากมีหัวใจเพียงดวงเดียว...

นับเป็นพระร้ายที่ทำให้คนดูสงสารและเชียร์ให้สมหวังในรักมากที่สุดอีกคนหนึ่ง

สามศรีเป็นตัวละครที่เกิดมาเพื่อคำตามความต้องการของบิดามารดาโดยแท้ ทั้งการเป็นกำลังสำคัญในการล้มล้างอำนาจองค์อิศรา เพื่อให้บิดาของตนและขันธมารได้ครอบครองทั้งสามโลก และการแก้แค้นพระสวามีเก่าของมารดา
ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะได้ทำตามความต้องการของตนเอง นอกจากเรื่องความรัก ซึ่งก็ไม่มีทางเป็นไปได้ ด้วยนางคือเทพธิดาจินดาเมขลา ศัตรูของบิดาและมารดาที่ไม่มีวันมอบใจให้เขาตราบจนลมหายใจสุดท้าย

สามศรีมีเชื้อสายครึ่งโคครึ่งมนุษย์ โดยที่ทัศนีย์ผู้เป็นมารดาก็มิได้ตกลงปลงใจกับโคธรรพ์ แต่เพราะโคธรรพ์มีอิทธิฤทธิ์สามารถบันดาลสิ่งที่นางต้องการได้ โดยเฉพาะการแก้แค้นท้าวตรีภพและมเหสีมณี รวมทั้ง เทพทั้ง 3 ที่ถือกำเนิดลงมา โดยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปรากฏร่างตามแต่ฤดูกาล

เขาได้พบจินดาเมขลา ผู้ปรากฏกายในเหมันตฤดู เพราะต้องไปตามสังหารองค์อิศราซึ่งลงมาเดินดินเช่นมนุษย์ธรรมดา ตามคำสั่งของขันธมาร สามศรีถูกตาต้องใจจินดาเมขลา หญิงสาวผู้ห้าวหาญแกร่งกล้าเหนือหญิงใดตั้งแต่แรกพบ
แต่ไม่ว่าจะเพียรพยายามสานสัมพันธ์เช่นไร นางก็ไม่มีท่าทีมีใจตอบ

จนเมื่อความลับของเทพทั้ง 3 เปิดเผย ฐานะที่ต่างฝ่ายต่างเป็นศัตรูกัน ก็ยิ่งทำให้ชีวิตของเขาและหญิงสาวที่ตนหลงรักกลายเป็นเส้นขนาน
และยิ่งจินดาเมขลากลับมีใจให้องค์อิศรา เทพผู้ยิ่งใหญ่ที่เขาจะต้องกำจัด ความเจ็บปวดเดือดดาลก็ยิ่งบังคับให้สามศรีโหดร้ายมากยิ่งขึ้น แม้แต่การสาปให้จินดาเมขลาต้องกลายเป็นนกน้อยในเวลากลางวัน และคืนร่างเป็นคนในเวลากลางคืน และสาปองค์อิศราให้กลายเป็นเสือในเวลากลางคืนและกลับกลายเป็นคนในเวลากลางวัน เพื่อไม่ให้ทั้งสองได้มีโอกาสพบกัน แต่ตนเองก็ไม่เคยมีความสุข

จนกระทั่งถูกพระราหู พี่ชายของจินดาเมขลาสังหารได้ในที่สุด เพื่อแก้คำสาปให้องค์อิศราและจินดาเมขลา ร่างที่ไร้วิญญาณก็ยังถูกโคธรรพ์ผู้เป็นบิดาร่ายมนต์ให้กลับฟื้นคืนมาไม่ต่างจากผีดิบ เพื่อกลับไปแก้แค้น จนสุดท้ายก็เหลือแต่เพียงเถ้าถ่าน

ไม่มีอะไรที่สามศรีทำโดยเป็นความต้องการของตนเองสักอย่าง นอกจากการไขว่คว้าความรักของจากจินดาเมขลา แต่ก็ไม่มีทางสมหวัง

ผู้เขียน : มีน

..........................................................................................................................................

นาคี จากเรื่อง มณีนพเก้า
(สาวิกา กาญจนมาศ)

...ความเข้มแข็งและเสียสละกำหนดเส้นทางชีวิต...

มณีนพเก้า เป็นเรื่องราวที่ดัดแปลงจากเทพสังวาลย์

บทของนาคีในมณีนพเก้า จึงมีความแตกต่างและซับซ้อนกว่าเทพสังวาลย์
นับตั้งแต่ชาติกำเนิดที่มีเงื่อนงำ ก้ำกึ่งระหว่างเผ่าพันธุ์

นางถูกเลี้ยงดูมาในวังบาดาลมานานในฐานะธิดาพญานาค จึงได้นามว่า "นาคี"
แต่นางก็มิได้มีเชื้อสายพญานาคอย่างแท้จริง กระทั่งวันหนึ่งได้พบแสงสุรีย์ ที่พานางขึ้นมายังโลกมนุษย์
ทำให้นาคีได้เรียนรู้วิถีชีวิตและการเติบโตอย่างที่ควรจะเป็น ได้รู้จักเหล่าเทพเทพีผู้ครองอัญมณีนพเก้า และนครกลางหาว เมืองแม่ม่ายที่มีแต่ผู้หญิง

หญิงสาวเป็นเพื่อนรักเพื่อนเล่นกับแสงสุรีย์มาตั้งแต่เยาว์วัย และคอยช่วยเหลือเขาจากมณีแดงที่ตามเข่นฆ่า ไม่ว่าจะลำบากยากเข็ญเพียงใด และแม้ว่าแสงสุรีย์จะต้องพิการนาคีก็ไม่เคยรังเกียจ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและนางอยู่ในฐานะกึ่งมิตรกึ่งความรัก ทำให้ยากที่จะเปิดเผยความในใจซึ่งกันและกัน

มณีแดงคิดจะล่วงเกินนาคีเพื่อเหยียบย่ำจิตใจแสงสุรีย์ แต่เพราะมีพลังอำนาจบางอย่างคุ้มครองนางไว้ นั่นคือพลังจากบิดาของนางซึ่งเป็นถึงมหาเทพผู้ครองเพชร มหาเทพเคยกระทำผิดกฏลักลอบสังวาสกับแม่เฒ่าผู้ครองนครกลางหาว ทำให้เกิดความอัปยศอับอาย จนทั้งสองฝ่ายไม่อาจเปิดเผยว่าได้ให้กำเนิดนาคีขึ้นมา แม้นางจะน้อยใจบิดามารดาหากก็พร้อมจะเสียสละและช่วยเหลือให้เทพและเทพีนพเก้าหยุดยั้งความชั่วร้ายของมณีแดง

นางเสียสละแม้กระทั่งความรักของตนให้กับรัตนาวดี หญิงสาวที่น่าสงสารที่หลงรักแสงสุรีย์ แม้ว่าแสงสุรีย์จะไม่เคยมีใจตอบก็ตามแต่ทั้งสองต่างก็มีฐานันดรที่คู่ควรกัน ยอมเดินออกจากชีวิตของแสงสุรีย์ มุ่งหน้าแสวงหาโชคชะตาตนเองต่อไป ไม่ยอมรับความช่วยเหลือและฐานะที่ตนควรจะเป็นจากองค์มหาเทพ

ผู้เขียน : มีน

........................................................................................................................................

การะเกด จากเรื่อง เกราะเพชรเจ็ดสี
(รุ่งรัตน์ ดวงขวัญ)

...ดอกไม้บ้านป่าที่ยังงดงาม แม้ต้องมีราคี...

ขึ้นชื่อว่า "นางเอก" ตามค่านิยมไทยคือต้องบริสุทธิ์!

ดังนั้นในวรรณคดีหรือละครจักรๆวงศ์ๆ ไทย นางเอกจึงต้องดำรงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง
ชายใดก็ไม่อาจแตะต้องกายได้ นอกจากคู่แท้ หรือมีเทวดารักษาเห็นใจคอยช่วยเหลือ แต่การะเกด ไม่ได้โชคดีมีเทพคุ้มครองเช่นนั้น

การะเกดมีชาติกำเนิดต่ำต้อยเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ไม่ได้เพียบพร้อมเช่นนางเอกคนอื่นๆ ในเรื่องเดียวกัน ทั้งพระธิดาสุวรรณเลขา พระธิดายักษ์เรือนแก้ว เรือนทอง สร้อยดารา

ชีวิตของนางอาภัพเพราะหมู่บ้านของนางถูกอัคณินเผาทำลาย บิดาซึ่งเป็นผู้นำหมู่บ้านก็ถูกฆ่าตาย การะเกดเคียดแค้นอาฆาตออกตามล่าอัคณิน แต่เพราะเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ นางจึงปลอมตัวเป็นชาย และได้พบกับเหล่าบุรุษเกราะเพชร ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปรากฏตัวในแต่ละวัน

วีรเทพ เกราะเพชรวันอังคารถูกชะตาการะเกดตั้งแต่ยังคิดว่าเป็นหนุ่มน้อยอ้อนแอ้น การร่วมทุกข์ร่วมสุขทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นเรื่อยๆ แต่หญิงสาวกลับต้องพบกับโชคชะตาที่เลวร้าย เมื่ออัคณินกลับเป็นฝ่ายพึงพอใจการะเกดตั้งแต่แรกพบ ไม่สนใจความอาฆาตแค้นของนางที่มีต่อตนเอง และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้นางรับรักไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใดก็ตาม

การะเกดต้องตกเป็นของอัคณินด้วยความขมขื่น ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น หนำซ้ำนางยังตั้งครรภ์ ทั้งความแค้นความเกลียดชังที่มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ความรักมั่นจริงจังที่อัคณินแสดงออกมาก็สั่นคลอนจิตใจของการะเกดให้ยิ่งต้องทุกข์ทรมาน ทั้งที่เกลียดชังอย่างแสนสา แต่ก็ไม่อาจะสังหารอัคณินได้ตามความมุ่งมาดแต่แรก

จนกระทั่งอัคณินได้ชดใช้กรรมที่ก่อไว้ทั้งหมดด้วยชีวิต วาระสุดท้ายที่ได้สำนึกตัวและได้ตายในอ้อมแขนของหญิงสาวที่รักอย่างสุดหัวใจ แม้นางจะไม่เคยมีใจตอบ

แม้จะเป็นอิสระ แต่ชีวิตของการะเกดก็เหมือนเดียวดายเหลือเพียงลูกในครรภ์ที่ตอกย้ำความมีราคี แต่นางก็รักเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองจนไม่อาจทำลายได้ และไม่อาจบากหน้ากลับไปหาวีรเทพเมื่อตระหนักว่าตนเองไม่คู่ควรกับเขาอีกต่อไป

วีรเทพติดตามการะเกดไปพิสูจน์ความรักที่มีต่อนาง ไม่เคยนึกรังเกียจแม้ว่านางจะต้องอุ้มท้องลูกของคนที่ชั่วช้าอย่างอัคณินก็ตาม

ชีวิตของการะเกดฉีกภาพนางในอุดมคติที่ต้องยึดมั่นในความบริสุทธิ์ไปหมดสิ้น แม้นางจะมีราคี แต่ก็มิได้หมายความว่าศักดิ์ศรีและคุณค่าในตัวนางจะหมดสิ้น นางเอกที่ไม่บริสุทธิ์ยังสามารถมีชีวิตคู่ครองที่สงบสุข เมื่อพระเอกไม่ได้คำนึงถึงความผิดพลาดที่นางไม่ใช่ผู้ผิด หากแต่เป็นผู้ที่ถูกกระทำย่ำยี

ผู้เขียน : มีน

...................................................................................................................................................

ทิพย์อัปสร/ทิพย์มณี จากเรื่อง มิติมหัศจรรย์
(พรชิตา ณ สงขลา)

...ชนวนศึกระหว่างเทวา แต่หามีผู้ใดได้ครอบครอง...

มิติมหัศจรรย์ นับเป็นนวนิยายสมัยใหม่ที่แต่งออกมาในลักษณะผสมผสานจักรๆ วงศ์ๆ ตัวละครจึงมีความคิดอ่านใกล้เคียงกับคนจริงๆ ในสังคมมากกว่าวรรณคดี ที่มีเพียงเค้าโครง เหตุผลที่มาที่ไปและความรู้สึกของตัวละครตกหล่นไม่ครบถ้วนเพราะคัดลอกสืบทอดกันมา

ทิพย์อัปสรเป็นนางอัปสรที่อ่อนโยนไร้เดียงสา จนได้รับความเอ็นดูจากพระเสาร์ และต้องพระทัยพระอังคาร พระองค์จึงทูลขอทิพย์อัปสรไปเป็นคู่บารมีเมื่อต้องจุติลงไปกำเนิดในโลกมนุษย์ แต่ทิพย์มณีหลงรักพระเสาร์จนกล้าใช้มนตราด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สร้างความเข้าใจผิดให้นางกินรีเกศกัลยา คู่หมายของพระเสาร์เข้าใจว่าพระเสาร์มิได้มาอภิเษกตามกำหนดเวลา นางจึงสยุมพรไปกับวิทยาธรคู่รักของนาง

ผลจากการกระทำด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั้นทำให้พระเสาร์พิโรธสาปภัทรานครให้กลายเป็นหิน นางกินรีเกศกัลยาจึงกล่าววาจาสาปแช่งผู้ที่เป็นสาเหตุทำให้ภัทรานครพินาศให้ประสบกับความวิบัติ คำสาปแช่งนั้นต่อเนื่องมาถึงทิพย์อัปสร ถึงแม้พระเสาร์จะทรงทราบความจริงและให้อภัยในการกระทำของทิพย์อัปสร แต่นางก็ต้องประสบความวิบัติดังเช่นคำสาปแช่งในวันอภิเษกของนางกับพระเสาร์ เมื่อพระอังคารตามมาช่วงชิงนางกลางพิธีอภิเษก

ทิพย์อัปสรจุติไปสู่ชาติภพมนุษย์ แต่มิติแห่งภพมนุษย์สลับซับซ้อน นางจึงเกิดมาในโลกที่ตัดขาดจากการเชื่อมต่อดินแดนแห่งเทพ ในนาม ทิพย์มณี พระเสาร์ยื่นพระหัตถ์เข้าช่วยนางไว้จากความตายและดึงทิพย์มณีเข้าสู่อีกมิติ เพื่อให้นางมาถอนคำสาปให้ภัทรานคร พระฤๅษีให้ทิพย์มณีแปลงเป็นพราหมณ์และมอบผ้าทิพย์ของพระเสาร์ที่ฝากไว้ให้นางป้องกันตัว โดยมีอติลักษณ์ร่วมทางตามหาน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสามภพที่จะนำมาล้างคำสาป

ทิพย์มณีได้รับความช่วยเหลือจากราชาจักรเพชร ซึ่งก็คือพระอังคารจุติลงมา ราชาจักรเพชรประทับใจทิพย์มณีตั้งแต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่านางเป็นหญิง ด้วยความเสน่หาที่มีมาแต่อดีตชาติ ในขณะที่พระเสาร์ผู้ยังดำรงสภาวะเทพคอยคุ้มครองให้ความช่วยเหลือนางด้วยความรักมั่นคงมิเสื่อมคลาย

แต่ทว่าวิถีของมนุษย์ย่อมมีกิเลส ความโลเลหวั่นไหวเมื่อได้รับความรักความห่วงหาจากบุรุษผู้อยู่ใกล้ชิด ยิ่งทำให้พระเสาร์ตรอมตรมแต่ก็ไม่อาจเปิดเผยพระองค์ได้ด้วยทรงอยู่คนละชาติภพ

ราชาจักรเพชรถอนหมั้นเจ้าหญิงพรรณรายพิลาส เพื่อเลือกทิพย์มณีเป็นมเหสีเพียงนางเดียว แต่เพราะเคราะห์กรรมและหน้าที่ นางจเลือกที่จะปฏิเสธไมตรีนั้น ทิพย์มณีตัดสินใจที่จะทำลายภัทรานครเพราะคิดว่าเป็นการปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งหมด พระเสาร์เกรงว่าการกระทำนั้นจะสร้างบาปเวรให้นางต่อไปไม่สิ้นสุด จึงยอมฝืนกฎสวรรค์ นำดอกปาริชาตมาให้ทิพย์มณีและราชาจักรเพชรสูดกลิ่นเพื่อระลึกอดีตชาติ

พระเสาร์และพระอังคารจึงตกลงร่วมมือกันไปชิงน้ำศักดิ์สิทธิ์จากพิภพสวรรค์และพิภพอสูรมาช่วยนางแก้คำสาปได้สำเร็จ แต่ยิ่งเมื่อจดจำอดีตชาติได้ทิพย์มณีก็ยิ่งลำบากใจที่ต้องเลือกบุรุษที่รักนางทั้งสอง ทิพย์มณีเลือกที่จะละทิ้งทั้งความรักภักดีในอดีตชาติและรักใหม่ที่ผูกพัน กลับไปหาบิดามารดาในภพปัจจุบันตนเอง โดยที่บุรุษทั้งสองจำต้องยอมรับในการตัดสินใจของนาง แม้ว่าจะมีความรักให้นางสุดหัวใจไม่แพ้กันก็ตาม

ทิพย์มณีเป็นตัวละครที่มีความคิดอ่านและการตัดสินใจที่ใกล้เคียงกับคนจริงๆ ในยุคปัจจุบันมากที่สุด โดยการที่ไม่ยึดติดกับการต้องครองคู่อย่างสุขสมหวังหรือบังคับให้ต้องมีใครคนหนึ่งเป็นพระรองที่ยอมหลีกทางให้

(เท่าที่ทราบข้อมูลมา สามเศียรก็ซื้อลิขสิทธิ์นิยายมาสร้างเป็นละครจักรๆวงศ์ๆ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว)

ผู้เขียน : มีน

........................................................................................................................

สันธมาลา จากเรื่อง นางสิบสอง
(มรกต มณีฉาย)

...เพราะรักมาก จึงแค้นมาก...

นางยักษ์ คือ ตัวร้ายสำคัญของละครจักรๆวงศ์ๆ และวรรณคดีหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นยักษีหรือยักษา

สันธมาลาเป็นตัวละครที่บทโทรทัศน์ถ่ายทอดออกมาให้มีอารมณ์แปรปรวน รักง่าย เกลียดแรง ขยายเรื่องราวจากในนิทานพื้นบ้านให้ชัดเจนในสายตาผู้ชมมากขึ้น

นางเป็นนางพญาผู้ครองนครทานตะวัน เป็นหม้ายมานานไร้โอรสธิดาจึงเงียบเหงาเดียวดาย เมื่อได้พบนางสิบสองกลางป่าจึงเกิดความเอ็นดูโดยง่าย ไม่คำนึงหรือฟังคำทัดทานของใครว่า พวกนางเป็นมนุษย์ไม่มีทางอยู่ร่วมกับยักษ์ได้ สันธมาลาปิดบังนางสิบสองว่านครทานตะวันเป็นเมืองยักษ์ กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูอย่างดี จนกระทั่งพวกนางเจริญวัยเป็นสาวงามและได้ไปพบเห็นกองกระดูกมากมายที่ซ่อนอยู่ในเมือง ด้วยความหวาดกลัวที่มีมากกว่าความกตัญญูจึงชักชวนกันหนีออกจากเมืองยักษ์

เมื่อนางสันธมาลารู้ว่านางสิบสองหนีไป จากความรักความเอ็นดูก็แปรเปลี่ยนเป็นโกรธแค้น แม้จะได้ เมรี ธิดาบุญธรรมเชื้อสายยักษ์มาเลี้ยงดูแทนก็ตาม ยังคงติดตามไล่ล่าจนไปถึงเมืองกุตระนคร จึงได้รู้ว่านางสิบสองได้เป็นมเหสีของพระรถสิทธิ์ ด้วยความแค้นนางเป่ามนต์เสน่ห์ให้พระรถสิทธิ์หลงใหล สั่งควักลูกตานางทั้งสิบสองและให้ไปอาศัยอยู่ในอุโมงค์ทั้งที่พวกนางกำลังครรภ์แก่

ถึงแม้จะสาสมใจที่ได้แก้แค้นลูกเลี้ยงของนางเอง แต่สันธมาลาก็ไม่เคยมีความสุขเมื่อต้องคอยปิดบังพระรถสิทธิ์ว่าตนเป็นยักษ์ รวมทั้งคำก่นด่าสาปแช่งของนางสิบสองที่ทุกข์ทรมานอยู่ในอุโมงค์ตามหลอกหลอน

นางสิบสองคลอดลูกในอุโมงค์อย่างยากลำบาก ลูกๆ ของนางทั้งสิบเอ็ดคนตายหมด พวกนางจึงนำเนื้อทารกมาแบ่งกันกินปะทังชีวิต เหลือแต่ลูกของนางเภา น้องคนสุดท้องที่แอบเลี้ยงดูไว้โดยที่นางสันธมาลามิได้รู้ระแคะระคาย ชื่อ รถเสน

สันธมาลาได้พบรถเสนโดยบังเอิญ ก็เกิดความเอ็นดูรักใคร่ไม่ต่างจากที่พบนางสิบสองเมื่อวัยเยาว์ แม้ต่อมาจะรู้ว่ารถเสนเป็นลูกของนางเภา หากนางก็ไม่อาจตัดใจได้ยอมทนอยู่อย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะรักลูกของนางสิบสองที่ตนเกลียดชัง

หากโชคชะตาไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เพราะความฝันและคำทำนายที่สันธมาลากลัวว่ารถเสนจะสังหารเมรี ธิดาบุญธรรมที่รอตนอยู่ที่นครทานตะวัน

เพียงเท่านั้นความโกรธแค้นวู่วามก็ทำให้นางตัดสินใจโดยไม่ไตร่ตรองให้ดี เลือกที่จะส่งรถเสนไปให้ถูกยักษ์จับกิน แต่บุพเพสันนิวาสก็ชักนำให้รถเสนและเมรีตกหลุมรักกัน ด้วยสาสน์ที่พระฤๅษีลอบแปลงเพื่อไม่ให้รถเสนเอาชีวิตไปทิ้งที่เมืองยักษ์

แม้จะรักเมรีมากเพียงใด แต่ความกตัญญูต่อแม่และป้าๆ ก็ทำให้รถเสนเลือกที่จะนำลูกตาของนางสิบสองและยาวิเศษขึ้นม้าพาชีหนีกลับกุตระนคร เมรีติดตามมาแทบจะขาดใจ เพราะกลัวว่ารถเสนจะจากไปไม่กลับมาเหมือนนางสันธมาลามารดาบุญธรรมของตนเอง
แต่ก็ไม่อาจฝ่าทะเลน้ำกรดตามพระสวามีไปถึงเมืองมนุษย์ได้

เมื่อสันธมาลารู้ว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ รถเสนสามารถกลับมาพร้อมรักษาดวงตาให้นางสิบสองได้ จึงเข้าใจว่าเมรีถูกฆ่าตายเสียแล้ว จึงคับแค้นใจจนอกแตกตาย

แต่เพราะการกระทำของสันธมาลา ทำให้เรื่องราวของรถเสนและเมรีต้องเวียนชาติเวียนภพ เมื่อเมรีขาดใจตายที่ทะเลน้ำกรดนั้นก่อนที่รถเสนจะกลับไปหาเพียงเสี้ยววินาที และรถเสนก็ขาดใจตายตามนาง ติดตามกันไปจนถึงภพหน้า

สันธมาลาเป็นนางยักษ์ที่มีอารมณ์รุนแรงและเอาแต่ใจตนเองเป็นที่ตั้ง โหยหาไขว่คว้าความรัก ทั้งที่ตนเองก็ไม่สามารถเติมเต็มความรักให้กับลูกๆ คนใดได้

ไม่สามารถปฏิบัติตนเป็นแม่ที่ดีให้กับทั้งรถเสนและเมรีได้ สุดท้ายก็ต้องอกแตกตายเพราะการตัดสินใจผิดพลาดของตนเอง โดยที่ไม่มีทางรับรู้และเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

ผู้เขียน : Admin เว็บบอยสพล