สุดเจ๋ง! นักวิชาการไทยค้นพบ “เบนโทไนท์” แร่ภูเขาไฟสรรพคุณที่ต้องทึ่ง
แร่ภูเขาไฟชนิดนี้คือ “เบนโทไนท์” ซึ่งผู้ค้นคว้าและวิจัยจนพบสรรพคุณอันน่ามหัศจรรย์ของแร่ชนิดนี้
สิโรตม์ ศัลยพงษ์ อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาณจนบุรี ผู้เชี่ยวชาญสาขาการสำรวจธรณีวิทยาและวิจัยด้านศิลาวรรณาและศิลาวิทยา ผู้คร่ำหวอดในวงการกว่า 35 ปี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “เบนโทไนท์” ว่าเป็นแร่ที่เกิดจากการตกผลึกของ “แก้วภูเขาไฟ” (คล้ายกับการเกิดของหินภูเขาไฟ) ถูกค้นพบในโลกนี้เพียง 2 ชนิด คือ “โซเดี่ยม เบนโทไนท์(Na Bentonite) และ “แคลเซี่ยม เบนโทไนท์(Ca Bentonite)” ซึ่ง โซเดี่ยม เบนโทไนท์ เมื่อผสมกับน้ำจะขยายตัวและจับตัวเป็นโคลนเหนียวข้น จึงนิยมใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมเหล็ก รวมไปถึงนำมาใช้เคลือบบ่อเจาะน้ำมันหรือน้ำบาดาล ส่วน แคลเซี่ยม เบนโทไนท์ ถูกนำมาใช้ในด้านการเกษตร วงการยา และที่กำลังมาแรงในตอนนี้คือ ถูกนำมาเป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องสำอางค์
“แคลเซี่ยม เบนโทไนท์ (Ca Bentonite)” เป็นแร่ดินเหนียว มีส่วนประกอบหลักคือ แคลเซี่ยม มอนต์มอริลโลไนต์ (Ca montmorillonite) ในเมืองไทยพบได้บริเวณเขาพนมฉัตร จังหวัดลพบุรี ซึ่งจุดนี้มีการพบแร่ที่สำคัญหลายชนิด ได้แก่ Kaolinite,Lllite และ Halloysite เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มแร่ดินเหนียวเช่นกัน
ด้วยคุณสมบัติที่เป็นประจุลบของ แคลเซี่ยม เบนโทไนท์ ที่สามารถดูดซับสิ่งต่างๆ ที่เป็นของเหลว สารพิษ รวมไปถึงเชื้อโรค (ซึ่งเป็นประจุบวก) แถมยังสามารถปลดปล่อย Trace elements(ธาตุที่เป็นส่วนสำคัญของวิตามินหรือฮอร์โมน) ซึ่งได้จากการตกผลึกใหม่ของแก้วภูเขาไฟ มีส่วนช่วยในการจัดการกับเชื้อโรคได้อีกด้วย และเมื่อ แคลเซี่ยม เบนโทไนท์ สัมผัสกับน้ำ ก็จะมีคุณสมบัติขยายตัวเล็กน้อย ทำให้แตกตัวและกระจายตัวได้ง่าย หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า ล้างออกได้ง่ายนั่นเอง
หลัการของ แคลเซี่ยม เบนโทไนท์ หากนำมาใช้ในรูปแบบเครื่องสำอางค์ จะสามารถดูดซับความมัน สิ่งสกปรกต่างๆ ที่ตกค้างอยู่บนผิวหน้า แล้วล้างออกได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผิวหน้าสะอาด ใส ไม่มัน ไม่เป็นสิว แต่ใช่ว่าเราจะนำแคลเซี่ยม เบนโทไนท์มาทาหน้าโดยตรงได้ เพราะโดยปกติแล้ว แร่เบนโทไนท์จะมีส่วนผสมของแร่อื่นๆปะปนอยู่ด้วย จึงต้องนำมาผ่านกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ก่อนจึงจะสามารถนำไปใช้ทางการแพทย์ หรืออุตสาหกรรมอื่นๆ ต่อได้