อาถรรพ์คุณอุบล นางรำหลวง ในละครพิษสวาทนั้นมีจริงหรือแค่เรียกกระแส?
เรื่องย่อละคร พิษสวาท บทประพันธ์ ทมยันตี
พิษสวาท เป็นเรื่องราวของสตรีแสนสวยงามสง่าและลึกลับผู้หนึ่ง ที่ปรากฎกายอย่างลึกลับในวงสังคม เธอมีนามว่า "สโรชินี" ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของเธอ แต่ความงามและความลึกลับของเธอทำให้ใครต่อใครล้วนใหลหลง โดยเธอเข้าไปใกล้ชิดกับ "อัคนี" นักโบราณคดีหนุ่มรูปงาม
ในอดีตชาติ สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา อัคนี เป็นขุนศึกคู่บัลลังก์ ได้รับพระราชทานนางละครผู้งดงามเลื่องชื่อในราชสำนักนาม "อุบล" เป็นภรรยา ก่อนเสียกรุง ๗ วัน พระเจ้าเอกทัศน์ได้จัดการซ่อนทรัพย์สมบัติของกรุงไว้ให้พ้นเงื้อมมือศัตรูโดยให้ "อัคนี" เป็นผู้ดูแล หากเขาไม่ไว้ใจผู้ใด เขาไว้ใจเพียง อุบล ภรรยาอันเป็นที่รักยิ่ง ให้เธอเฝ้าทรัพย์สมบัตินั้น
ขณะที่ "อุบล" ชื่นชมสมบัติท้องพระคลังหลวงอันงดงามละลานตา ทั้งเพชร ทอง ทับทิมสว่างกระจ่างวาววับไปทั้งห้องลับนั้น คมดาบของชายอันเป็นที่รักก็ตวัดลงบนคออันงามระหงของเธอ และนับแต่นั้นเธอก็ต้องเฝ้าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นชั่วกัปชั่วกัลป์จนกว่าไฟบรรลัยกัลย์จะมาล้างโลก
อุบลกลับมาอีกครั้งในนามของ "สโรชินี" ครั้งนี้เธอกลับมาหา "อัคนี" การกลับมาของ "อุบล" ในครานี้มีความหมายมากกว่าการกลับมาหาชายอันเป็นที่รักยิ่งในอดีต "อุบล" กลับมาด้วยความรู้สึกที่ทั้งเจ็บ ทั้งแค้น และทรมานนานลึกที่ถูกชายที่รักหักหลังกักขังเธอไว้เกือบสามร้อยปีให้เธอทนทุกข์อยู่ในกรุสมบัติต้องห้ามตลอดกาล
สำหรับบทประพันธ์ เรื่องพิษสวาท นี้เคยนำมาสร้างเป็นละครและภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะเกิดเรื่องราวลี้ลับ ปรากฎการณ์แปลก กับผู้คน ดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ผู้เขียนบทประพันธ์นี้คือทมยันตี ในขณะที่ทมยันตีกําลังเขียนนวนิยายเรื่องนี้ลงตีพิมพ์นิตยสารสกุลไทยรายสัปดาห์ในเวลานั้น ก็ร่วม ๔๐ ปีมาแล้ว คุณหญิงได้ทั้งเล่าให้คนใกล้ชิดและสัมภาษณ์เบื้องหลังนวนิยายเรื่องนี้ว่า ระหว่างที่เขียนถึงอุบลหรือสโรชินีในเวลากลางคืนอยู่นั้น คุณหญิงจะได้กลิ่นหอมของดอกบัวโชยตลบทั่วห้องทํางาน และเห็นภาพผู้หญิงนุ่งห่มสไบมายืนอยู่ที่มุมห้องเสมอ ซึ่งคุณหญิงไม่กลัวแต่กลับพูดคุยด้วย โดยเรียกหญิงนางนั้นว่า “คุณบัว” อยู่เสมอ พร้อมทั้งจุดธูปไหว้ขออนุญาตหญิงนางนั้นไปด้วย ทําให้คุณหญิงเขียนเรื่องนี้ได้อย่างราบรื่นจนจบเรื่อง และหญิงนางนั้นก็หายไปพร้อมกับอุบลด้วยเช่นกัน
กระทั่งต่อมา เทิ่ง สติเฟื่อง นักจัดละครฟอร์มใหญ่คนแรกของวงการละครโทรทัศน์ไทยที่ว่า “ฉิบหายไม่ว่า ต้องการชื่อเสียง” ซึ่งต่อมา “ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา” ซึ่งเป็นคนที่สองที่มีคติพจน์นี้เช่นกัน คือ “เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ไก่ทํา”
ในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นครั้งแรกที่ พิษสวาท ปรากฏบนจอโทรทัศน์ขาว-ดํา โดยทมยันตี และเทิ่ง สติเฟื่อง ต่างร่วมกันเขียนบทละครโทรทัศน์เรื่องนี้ พร้อมทั้งมีเพลงประกอบละครถึง ๒ เพลงด้วยกัน โดยทมยันตีเขียนคําร้องทั้งสองเพลง และครูใหญ่ นภายน เรียบเรียงเสียงประสาน เพลงทั้งสองนี้คือ เพลงมิ่งมิตร ร้องโดย ชาญวิทย์ ผลประเสริฐ และเพลงอุบล ร้องโดย บุษยา รังสี เป็นเพลงที่ไพเราะมาก ซึ่งทั้งคนจัดและคนดูต่างติดตามเรื่องนี้ด้วยความสนุกปนหวาดกลัว และยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเมื่อนางเอกของเรื่อง คือ เสาวนีย์ สกุลทอง ที่กําลังเล่นเรื่องนี้ได้เพียงตอนเดียว จากกําหนดไว้ ๓ ตอนจบ เกิดอุบัติเหตุรถชนกันจนเสียชีวิตทันที ทั้งเทิ่ง และนักแสดงต่างๆ ของเรื่องนี้ต่างตกใจอย่างไม่คิดฝัน ทําให้เทิ่งต้องหานางเอกใหม่มาแทนซึ่งหายากมาก เพราะไม่มีใครกล้าที่จะมารับบทนี้ เทิ่งจึงตัดสินใจจบละครเรื่องนี้ภายใน ๒ ตอนทันที
อีก ๓ ปีต่อมา พิษสวาทก็ถูกนํามาทําเป็นทั้งละครวิทยุและภาพยนตร์ ครั้งนี้ก็เริ่มอาถรรพ์อีก โดยเริ่มที่คณะละครวิทยุอัชชาวดี ของจีรภา ปัญจศิลป์ พี่สาวแท้ๆ ของไพโรจน์ สังวริบุตร ซึ่งในระหว่างที่คนฟังละครวิทยุกําลังสนุกกับการแสดงอยู่นั้น ก็เกิดได้ยินข่าวมาว่าห้องเสียง จาตุรงค์ สถานที่ที่ชาวคณะอัชชาวดีกําลังอัดเทปเล่นเรื่องนี้อยู่ เกิดระเบิดไฟลุกไหม้โดยไม่รู้สาเหตุ ดีว่าดับไฟทัน ไฟจึงไม่ลุกลามจนมอดไหม้ไปหมด แต่ก็ทําให้นักแสดงละครวิทยุต่างอกสั่นขวัญแขวนกันทุกคน ผู้จัดจึงตัดสินใจรีบจบเรื่องนี้เร็วขึ้นกว่ากําหนดทันที
และในปีเดียวกันนั้นเอง เมื่อเป็นภาพยนตร์ก็มีคนดูกันมาก แต่ก็เริ่มพูดถึงอาถรรพ์กันบ้างแล้ว ทว่า รุจน์ รณภพ กลับไม่เชื่อเรื่องนี้ เหมือนที่เขารับบทเป็นเชษฐา ซึ่งเป็นดอกเตอร์สาขาวิทยาศาสตร์ แต่แล้วก็ปรากฏข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ทั้งที่ภาพยนตร์พิษสวาทกําลังฉายในช่วงต้นๆ ของโปรแกรม และกําลังทํารายได้ดี คือ รุจน์ รณภพ และ อรัญญา นามวงศ์ ได้ประกาศแยกทางกันโดยไม่มีใครทันตั้งตัวสักคน ซึ่งสร้างความตระหนกตกใจให้กับแฟนหนังกันทั้งสิ้น ส่วนสาเหตุใดนั้น ขอละไว้ ไม่กล่าวถึง
อีก ๗ ปีต่อมา เมื่อ ตุ้ย-วรยุทธ พิชัยศรทัต นํามาทําอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้ทําการบวงสรวงทุกครั้งที่มีการอัดเทป โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับอุบลหรือสโรชินี จึงไม่เกิดเหตุการณ์ใดๆ แต่กลับไปปรากฏกับ รัชนู บุญชูดวง ที่รับบทนี้
คุณรัชนู บุญชูดวงผู้รับบท อุบล,สโรชิณีเล่าว่า ตอนที่แสดงเจออาถรรพ์ประมาณกำลังนอนกลางวัน จู่ๆเธอก็รู้สึกเหมือนผีอำ แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง เธอเล่าว่าผู้หญิงคนนั้นสวมชุดไทยโบราณ หน้าตาสวยมาก สวยแบบไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้มาก่อน เธอจึงถามว่าเป็นใคร ผู้หญิงคนนั้นตอบมาว่า "พี่บัว" แล้วก็หายไป นี่คือเหตุที่ตามหา"พิษสวาท"มาอ่าน
เธอเล่าให้คนใกล้ชิดฟังว่า เธอทั้งสัมผัสและฝันถึงหญิงสาวโบราณอยู่เสมอ และบอกเธอว่า ขอให้เล่นเป็นตัวเธอ (หญิงสาวโบราณ) ให้ดีที่สุดนะ รัชนูจึงต้องคอยทําบุญอุทิศส่วนกุศลให้หญิงสาวโบราณตราบจนปิดกล้อง หญิงสาวคนนั้นก็หายไปพร้อมกัน
อีก ๑๐ ปี ต่อมา เมื่อบริษัทกันตนาทําละครเรื่องนี้ คราวนี้ไม่ปรากฏกับ ลีลาวดี วัชโรบล ที่รับบทอุบล แต่กลับไปปรากฏกับ วรรณิศา ศรีวิเชียร ที่รับบทเป็นทิพย์ เพื่อนของอุบล ที่กลับชาติมาเกิดเป็นทิพอาภา โดยเล่นเรื่องนี้ไปได้ครึ่งเรื่อง เกิดประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างมาก จนต้องขอถอนตัว ทางบริษัทกันตนาจึงให้ ดี้-ปัทมา ปานทอง มารับบทนี้ในครึ่งหลังของเรื่องแทน
มาในปีนี้ คือ ปีพ.ศ. ๒๕๕๓ บริษัทเอ็กแซ็กท์ได้นํากลับมาทําอีกครั้งซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดอาถรรพ์อีกหรือไม่ หากมองในเชิงวิเคราะห์วิทยาศาสตร์แล้วเห็นว่ามันเป็นเรื่องของอุบัติเหตุเสียส่วนใหญ่ ซึ่งจะเกิดเมื่อใดก็ได้ อีกทั้งบางเรื่องก็เป็นเรื่องของอุปาทาน ของแต่ละปัจเจกบุคคลกันไป ซึ่งเรื่องนี้ว่ากันไม่ได้ เพราะเรื่องศาสตร์ลี้ลับนี้ไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน เหมือนวิทยาศาสตร์ที่ต้องค้นหาข้อพิสูจน์ความจริงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในโลกของศิลปะต่างเชื่อถือเรื่องนี้ว่ามีอยู่จริง แม้จะพิสูจน์ไม่ได้ก็เถอะ จึงอยากจะขอเสนอแนะแก่ผู้จัดค่ายเอ็กแซ็กท์นี้ว่า หากคิดจะบวงสรวงแล้ว ขอให้ไปใช้สถานที่จริงจะเป็นการดีที่สุด เพราะเนื้อหาส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับสมัยอยุธยา ครั้งกรุงแตก ครั้งที่ ๒ คือ พระราชวังโบราณ อยุธยา เหมือนที่ค่ายดีด้า เมื่อครั้งถ่ายทําละครอิงประวัติศาสตร์เรื่องฟ้าใหม่ ก็ทําการบวงสรวงสถานที่แห่งนี้เช่นกัน และก็ไม่พบกับความอาถรรพ์แต่อย่างใดทั้งสิ้น
ปี ๒๕๕๘ นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี เผยที่มาที่ไปของการตกปากรับคำเล่นละครเรื่องดังกล่าวเป็นเพราะตนฝันเห็น “คุณอุบล”นางรำหลวงที่ถูกสามีฆ่าตายเพื่อให้มาเฝ้าสมบัติแผ่นดินมาเข้าฝัน
“ในฝันรู้ว่าคุณอุบลสวยมาก ตอนฝันเห็นใส่สไบสีทอง มีทหารเดินตาม สวยค่ะ สวยมาก ๆ ไม่กังวลค่ะ ในสิ่งที่นุ่นเห็นมันเป็นพลังงานด้านบวก ก็ตอบไม่ได้แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราคิดไปเองหรือเปล่า ก็มีอยู่คืนหนึ่งได้กลิ่นดอกบัวแต่ไม่รู้ว่ากลิ่นอะไร พอดีคุยกับคุณยายอี๊ด ทมยันตี คุณยายก็บอกว่าที่บ้านจะมีกลิ่นนี้บ่อย ๆ ระหว่างประพันธ์บทเรื่องนี้ แล้วมีพี่เลี้ยงหลานเขาไปหาดอกบัวมาให้ ปรากฏว่าเป็นกลิ่นนั้น ก็คงหลาย ๆ อย่าง”
จาก: สไลลา