หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

แหวกม่านฮอลลีวูด ตอน 10

โพสท์โดย Donald trumps

– เรื่องที่คุณอาจไม่รู้ในกองถ่าย Fight Club –
_______________________________
เคยเขียนถึงกันไปแล้วกับเรื่องราวคำทำนายของไทเลอร์ เดอร์เด้น ในภาพยนตร์ Fight Club ซึ่งมีแฟนเพจชื่นชอบพอสมควร เลยขอหยิบยกเอาอีกเรื่องที่คิดว่าน่ารู้มาฝากแฟนๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้กันอีกหน่อย โดยก่อนหน้าที่หนังเรื่องนี้จะได้แบรด พิตต์ มารับบทไทเลอร์ เดอร์เด้น เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน มารับบทผู้บรรยาย และเฮเลน่า บอร์แฮม คาร์เตอร์ มารับบทมาร่า ซิงเงอร์ นั้น ก็ได้มีการวางตัวนักแสดงคนอื่นๆ กันมาก่อน
.
บทไทเลอร์ของแบรดเคยเกือบเป็นของรัสเซล โครว์ มาแล้ว บทของนอร์ตั้นมีแคนดิเดตอยู่สองคนคือฌอน เพนน์ กับแมตต์ เดมอน ส่วนบทมาร่าของคาร์เตอร์ มีชื่อของดาราสาวหลายคนที่ถูกทาบทามให้มารับบทนี้ ทั้ง รีส วิธเธอร์สปูน วิโนน่า ไรเดอร์ คอร์ทนีย์ เลิฟ และจูเลีย หลุยส์ ไดรฟัส ที่ถูกเชิญมาแคสติ้ง แต่รีสติดปัญหาตรงที่ว่าดูเด็กกว่าบทเกินไป วิโนน่ามาแคสติ้งแล้วแต่ไม่ผ่าน ส่วนคอร์ทนีย์ติดปัญหาเรื่องตารางเวลาที่ไม่ลงตัว และสำหรับจูเลีย หลุยส์ ไดรฟัส ที่เดวิด ฟินเชอร์ ผู้กำกับภาพยนตร์คิดว่าลงตัวที่สุดกับบทมาร่าไม่ยอมมาแคสติ้งบทนี้ เพราะเธอบอกว่าเธอไม่รู้ว่าอีตาผู้กำกับโนเนมอย่างเดวิด ฟินเชอร์ นั้นเป็นใครถึงจะมากำกับเธอได้
.
การถูกปฏิเสธจากคำพูดดังกล่าวทำให้ฟินเชอร์หัวเสียเป็นอย่างมาก เพราะในตอนนั้นเขาเป็นผู้กำกับดาวรุ่งของฮอลลีวู๊ดที่ใครๆ ต่างพูดถึงจากการยัดหัวกวินเน็ท พัลโทรว์ลงในกล่องจากตอนจบของภาพยนตร์เรื่อง Se7en อันลือลั่น จนดาราหลายคนแทบจะอยากโดนเขาตัดหัวยัดกล่องเพื่อแจ้งเกิดสักทีบ้าง และมันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นไอ้ขี้แพ้ไปเลย แต่กระนั้นก็ตามทีเขาก็ได้เฮเลน่า บอร์แฮม คาร์เตอร์ ดาราสาวผู้ชอบรับบทคาแรกเตอร์แปลกๆ มาเป็นผู้รับบทนี้แทน ซึ่งเธอได้ส่งเคมีบนจอภาพยนตร์อย่างลงตัวกับนอร์ตันและพิตต์ จนหนังเรื่องนี้ถูกใจแฟนๆ เป็นอย่างมาก และแทบจะขึ้นหิ้งทันทีที่มันออกฉาย (ทุกวันนี้มีใครเห็นผลงานของจูเลีย หลุยส์ ไดรฟัส บ้างไหมล่ะ หืมม์)
.
นอกเหนือจากรายละเอียดดังกล่าวของการแคสติ้งบท การฝึกซ้อมชกมวยเพื่อความสมจริงของนักแสดงนำอย่างพิตต์และนอร์ตั้นก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ด้วยเช่นกัน นอร์ตั้นและพิตต์ถูกส่งไปเรียนทำสบู่เพื่อให้เข้าถึงบทบาทคนขายสบู่ของไทเลอร์ และถูกส่งไปเรียนมวย MMA และเทควันโด้ขั้นพื้นฐานเพื่อนำมาใช้ในฉากดวลหมัดกันในหนัง
.
ในตอนที่ทั้งคู่ไปเรียนชกมวย ฟินเชอร์ได้ส่งจูเลีย เพียร์ซ เมคอัพอาร์ทติสต์ประจำกองถ่ายให้ติดตามสองดาราหนุ่มไปดูการดวลหมัดกันสดๆ ด้วย เพื่อให้เธอเข้าใจถึงรอยฟกช้ำและรอยแผลที่เกิดจากการชกต่อยเพื่อให้นำมาใช้ได้จริงตอนถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งนอกเหนือจากอินเนอร์ที่สิงสู่ในตัวนักแสดงนำอย่างที่เราได้เห็นบนจอหนังแล้ว อินเนอร์เหล่านี้ก็เข้าไปสู่หัวใจของจูเลียผู้เป็นช่างแต่งหน้าด้วย เธอใช้มือขวาข้างที่เธอถนัดตกแต่งรอยฟกช้ำดำเขียวให้ตัวละครชายในเรื่อง และใช้มือซ้ายข้างที่ไม่ถนัดของเธอในการแต่งหน้ามาร่า ซิงเงอร์ โดยให้เหตุผลที่ว่า คนอย่างมาร่า ซิงเงอร์ ไม่น่าจะสนใจมากนักหรอกว่าใครๆ จะมองว่าเธอแต่งหน้าสวยไม่สวยหรือเลอะเทอะเสียแค่ไหน และคนอย่างมาร่าไม่น่าจะใช่คนที่แต่งหน้าได้สะสวยอะไรนักแน่ๆ จนเราได้เห็นเมคอัพดำคล้ำเลอะรอบดวงตามาร่าในหนังแทบทุกซีน ซึ่งมันเข้ากับคาแรกเตอร์ตัวละครตัวนี้ได้เป็นอย่างดี

-ตลกผู้ถูกนรเทศ-
_______________
ในหนังผู้คนอาจจะมอง ชาลี แชปปลินเป็นชายตลกเซ่อซ่าที่สร้างเสียงหัวเราะ แต่ความจริงแล้วแชปปลินเป็นมากกว่านั้น เขาเป็นตลกอัจฉริยะผู้รังสรรค์บทหัวเราะทั้งน้ำตา เขายังเป็นผู้สร้าง ผู้กำกับ นักแสดง หนังของเขานำเสนออย่างมีศิลปะ มีความสร้างสรรค์ เสียดสีอย่างมีชั้นเชิง แต่เมื่อการทำหนังของเขามีผลกระทบอย่างรุนแรงในความนิยมของเขาในอเมริกา หนังของแชปปลินถูกข้อหาว่าเป็นโฆษณาชวนเชื่อให้หลงนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์
.
ในการทำหนังแชปปลินเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความกล้าหาญในการเปิดเผยให้ผู้คนรับรู้ถึงความอยุติธรรมในสังคม เขามองว่ามันเป็นการแก้ปัญหาสังคมส่วนหนึ่งที่จะต้องแสดงให้พวกเขารับรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยถ่ายทอดในฐานะนักวิจารณ์ที่มีพลังต่อสาธารณะ แชปปลินได้รับการถกเถียงเกี่ยวกับล้อเลียนระบบสังคมในขณะที่กลุ่มยุโรปกำลังรวมกำลัง ส่วนแชปปลินได้ต่อสู้กับทฤษฏีอุตสาหกรรมของอเมริกัน มีหนังของเขาที่หลายครั้งถูกนำมาประกอบการเรียนในวิชาประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและสังคม
.
หนังเรื่องThe Gold Rush (1925)ที่สะท้อนอเมริกันในยุคตื่นทอง สภาพชีวิตคนอเมริกันในยุคต้นของระบบทุนนิยมที่สังคมเต็มไปด้วยการแย่งชิงและฉวยโอกาส
.
Modern Time (1936) หนังที่สะท้อนสังคมในยุคที่โลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม สภาพการกดขี่แรงงานและ โลกสมัยใหม่ที่กำหนดความสุขซึ่งสะท้อนศีลธรรมอันตกต่ำในสังคม
.
A King in New York (1957) เรื่องราวในมุมมองที่โดดเด่นของแชปปลินกับอเมริกาเกี่ยวกับการทดลองปรมณู และการหาเหยื่อทางพาณิชย์ในสังคมอเมริกันยุคการโฆษณาทางโทรทัศน์
.
The Great Dictator (1940)และ Monsieur Verdoux (1947)หนังที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ช่วงที่สถานการณ์โลกเริ่มเลวร้าย เมื่อ ฮิตเลอร์ ผู้นำกองทัพนาซีเยอรมัน กำลังฮึกเหิม ฝรั่งเศสก็กำลังถูกเยอรมันบุก ประเทศอังกฤษประกาศสงครามกับเยอรมัน ช่วงเวลานั้นแชปลิน ประกาศสร้างหนัง The Great Dictator หรือ “จอมเผด็จการ” เพื่อล้อเลียนนาซี แชปปลินได้รับโทรเลขสั่งจองหนังจากสายหนังอย่างคึกคัก พร้อม ๆ กันกับจำนวนของจดหมายขู่จากผู้นิยมนาซีว่า หากหนังออกฉายเมื่อไร ก็เตรียมรับลูกระเบิดได้เลย แต่แทนที่จะหวั่นวิตก เขากลับยิ่งใส่วิญญาณของผู้เรียกร้องสันติภาพผ่านตัวละครแชปปลินใช้เวลาถ่ายทำอยู่เกือบปี และถ่ายทอดความบ้าของฮิตเลอร์ผ่านตัวละคร ที่ล้อเลียน เหน็บแนม และเป็นในครั้งแรกของหนังที่มีบทพูดในรอบสองทศวรรษของเขา หนังแสดงให้เห็นถึงอุดมคติของการล้างผลาญ และได้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามในหลายประเทศทั้งในละตินอเมริกาและหลายส่วนในยุโรปช่วงที่หนังถูกปล่อยเป็นช่วงที่อังกฤษกำลังทำสงครามกับเยอรมัน หนังเรื่องนี้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสก้าร์5สาขา และเป็นหนังที่ทำเงินได้มหาศาลในยุคนั้นโดยเฉพาะอเมริกาและสหราชอาณาจักร
.
Monsieur Verdoux เขาได้ถ่ายทอดมุมมองทางการเมืองและวิจารณ์ทุนนิยม โดยการพิสูจน์ว่าโลกกระตุ้นให้เกิดการฆ่าล้างผ่านทางสงครามและอาวุธทำลายล้างสูง แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกโห่ในรอบปฐมทัศน์และเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตร เป็นครั้งแรกที่แชปปลินล้มเหลวในอเมริกา และมีการประท้วงอยู่หน้าโรงหนังที่ฉาย Monsieur Verdoux แต่มันเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ บทของเขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสก้าร์และเขาเองก็มีความภาคภูมิใจในภาพยนตร์เรื่องนี้และเขียนไว้ในหนังสืออัตตชีวประวัติของเขาว่า "Monsieur Verdoux เป็นหนังที่ฉลาดและยอดเยี่ยมที่สุดที่เขาเคยทำมา"
.
แชปปลินถูกรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพ่งเล็งว่าฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์จากการทำหนังเรื่อง The Great Dictator, Monsieur Verdoux เนื่องจากเขามีความคิดทางการเมืองที่ขัดกับรัฐบาล เขาถูกทำเนียบขาวตำหนิว่ากำลังสร้างความยุ่งยากให้อเมริกา ซึ่งขณะนั้นวางตัวเป็นกลางจากความขัดแย้ง จากดาราที่มีคนรักมากที่สุด แชปปลินกลายเป็นศิลปินคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมืองกับคนทั้งประเทศ และความเกลียดชังก็ยิ่งถมทับทวีคูณยิ่งเมื่อสังคมอเมริกันก้าวเข้าสู่ยุคมืด จากการปลุกปั่นให้เกลียดกลัวคอมมิวนิสต์ โดยแมกคาร์ที ผู้ก่อตั้ง “ลัทธิแมกคาร์ที” เขาได้สร้างอาณาจักรFBIให้กลายเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลองค์กรหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ภายใต้การก่อตั้งและการอำนวยการของ เจ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ซึ่งใช้ทุกวิธีทางในการลิดรอนเสรีภาพของคนอเมริกันไม่ว่าจะติดเครื่องดักฟัง แอบสะกดรอย ข่มขู่ ฯลฯ ไม่ใช่แค่คอมมิวนิสต์เท่านั้นหากรวมไปถึงการเป็นพวกรักร่วมเพศ ซึ่งต้องห้ามอย่างมากในสังคมอเมริกันในยุค1950s หากพบว่าใครเป็นอาจจะต้องตกงานหรือติดคุกในที่สุด ( เป็นเรื่องตลกที่ว่าเกิดมีผู้ชายหิ้วกระเป๋าของผู้หญิงในที่สาธารณะอาจโดนตำรวจจำกุมได้) การกล่าวหาว่าบุคคล ๆ นั้นมีพฤติกรรมการเป็นคอมมิวนิสต์ หรือเป็นสายลับของโซเวียต ได้ทำให้บุคคลในวงการต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ นักการทูต นักเขียน มาเฟีย ฮอลลี่วู๊ด แม้แต่กองทัพ นายพล จอร์จ มาร์แชลล์ ยังกล่าวหาว่าทรยศต่อชาติ รวมไปถึงประธานาธิบดี แฮร์รี เอส. ทรูแมน เองก็โดนนายแม็คคาธีหาว่า อ่อนข้อให้กับพวกคอมมิวนิสต์ ปกป้องสายลับโซเวียต บุคคลหลายคนในสมัยนั้นต้องติดคุกหรือลี้ภัยไปต่างประเทศ และมีอยู่เป็นจำนวนมากที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
.
ในปี1952รัฐบาลอเมริกาประกาศให้ ชาลี แชปลิน ถูกเนรเทศในข้อหา “เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา!” จอห์น อี. แรนกิน ผู้ก่อตั้งHUAC กล่าวกับคองเกรสว่า "ชีวิตของแชปปลินในฮอลลีวู๊ดเป็นอันตรายต่อโครงสร้างศีลธรรมของอเมริกา รูปภาพที่น่ารังเกียจของเขาจะต้องถูกเก็บให้พ้นจากสายตาของเยาวชนอเมริกัน เขาควรถูกเนรเทศและกำจัดไปในครั้งเดียว"
.
วันที่19 กันยายน ปี 1952 อัยการสูงสุดMcGranery ได้เพิกถอนคำฟ้อง และระบุว่าเขาจะต้องถูกส่งกลับไปให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมุมมองทางการเมืองและศีลธรรมเพื่อที่จะกลับเข้าสู่อเมริกา แต่แชปปลินได้โทรเลขแจ้งว่าเขาต้องการตัดความสัมพันธ์กับอเมริกา
.
ในปี 1972 แชปลินได้รับรางวัลกิตติมศักดิ์ที่ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอเมริกา "ต้องการที่จะชดใช้" เขายังมีความลังเลแต่ก็ตัดสินใจกลับไปยังอเมริกาเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา การมาเยือนของเขาดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก จากทั้งบรรดาแฟนๆ นักวิจารณ์ และสื่อต่างๆ ขณะขึ้นรับรางวัลเขากล่าวขอบคุณที่ทุกคนยังระลึกถึงเขาอยู่และรู้สึกซาบซึ้งมากจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ทุกคนในงานต่างลุกขึ้นปรบมือให้เขานานมากนานจนถูกบันทึกไว้ในสถิติว่าเป็นการสแตนดิ้งโอเวชั่นที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์

– ความตายของจอห์น เลนนอน –
_______________________
8 ธันวาคม ปี 1980 มาร์ก เดวิด ชาร์ปแมน ได้นำอุปกรณ์บางอย่างของเขาไปหลบซ่อนเพื่อไม่ให้ตำรวจตรวจพบในภายหลัง เขาซื้อหนังสือ The Catcher in the Rye มาหนึ่งเล่ม และใช้เวลาแทบทั้งวันในบริเวณทางเข้าอพาร์ทเม้นท์ดาโกต้า อพาร์ทเม้นท์ที่จอห์น เลนนอน หนึ่งในสมาชิกวงเดอะบีเทิล พักอาศัยอยู่
.
เช้านั้นเขามารอพบจอห์นหน้าอพาร์ทเม้นท์ เหมือนอย่างเช่นแฟนเพลงรายอื่นๆ ทำกัน จอห์นและโยโกะทักทายแฟนๆ อย่างไม่ขัดเขิน เพราะเชื่อมั่นว่าแฟนๆ เหล่านั้นให้ความเคารพความเป็นส่วนตัวของเขาทั้งคู่อยู่เสมอ ชาร์ปแมนได้ลายเซ็นของเลนอนไปประดับบนปกอัลบั้มที่เขาเตรียมมา
.
นอกเหนือจากการได้พบจอห์นและโยโกะ ในวันนั้น ชาร์ปแมนยังได้พบ ฌอน เลนนอน ลูกชายของจอห์นที่อายุ 5 ขวบที่อยู่กับแม่บ้าน เขาเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ และยื่นมือไปจับทักทายฌอนตัวน้อยพร้อมชมเขาว่าเป็น “พ่อหนุ่มน้อยน่ารัก” (อันมาจากคำว่า Beautiful Boy จากเพลง Darling Boy ของเลนนอน) และรอคอยนักร้องขวัญใจเขากลับมาตอนค่ำ
.
งานในวันนั้นของคู่รักนักดนตรี คือการฟังเพลง Walking on Thin Ice ของโยโกะที่เพิ่งมิกซ์เสร็จไปหมาดๆ พวกเขาและทีมงานฟังมันอยู่หลายเที่ยวจนพอใจและตั้งใจว่าจะทำมาสเตอร์เพลงนี้ในวันรุ่งขึ้น ตามปรกติ แจ๊ก ดัลลาส หนึ่งในทีมงานทำเพลงชุดนี้มักจะกลับบ้านพร้อมจอห์นและโยโกะ แต่ในวันนั้นทั้งคู่รู้สึกหิวจึงแวะซื้อแซนด์วิชที่ร้านสเตจ เดลี ก่อนกลับบ้าน แจ๊กไม่อยากไปด้วยจึงร่ำลาพวกเขาที่ลิฟท์ จอห์นเอ่ยลาแจ๊กว่า “เจอกันพรุ่งนี้นะพวก สดชื่นแจ่มใสนะ”
.
โยโกะเรียกรถลีโมมารับ เมื่อถึงที่พักประมาณ 5 ทุ่ม จอห์นพาโยโกะเดินผ่านสนามตามปรกติก่อนเข้าอพาร์ทเม้นท์ ในตอนนั้นเขาได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเรียกชื่อของตน ซึ่งน่าจะเป็นแฟนเพลงที่มาดักรอเขาเหมือนเช่นเคย จอห์นขานรับคำเรียกและหันกลับไปหาต้นเสียงที่ทักทายมา ตรงหน้าเขาคือชาร์ปแมน แฟนเพลงที่เขาได้พบเจอแล้วเมื่อตอนเช้า ชาร์ปแมนสาดกระสุน .38 คาลิเบอร์ไม่ยั้งใส่ร่างจอห์น เลนนอน โยโกะหวีดร้องตกใจกลัวอย่างสุดขีด จอห์นล้มลงกับพื้น มือของเขากำอัลบั้ม Walking on Thin Ice ของแฟนสาวไว้แน่น
.
ยามประจำตึกตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืนหลายนัดดังระรัวต่อเนื่องกัน เขาวิ่งเข้ามายังที่เกิดเหตุ พบร่างจอห์นนอนจมกองเลือดและรีบเรียกรถพยาบาล เลือดสดๆ เริ่มไหลทะลักออกจากปากและจมูกของจอห์นระหว่างที่รอรถพยาบาลมารับ เมื่อรถพยาบาลมาถึง โยโกะก็ขึ้นรถไปกับจอห์นด้วยอาการการมึนชา ส่วนชาร์ปแมนผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญด้วยการปลิดดวงใจของแฟนเพลงทั่วโลกทิ้งไปนั้น หลังก่อเหตุ เขาโยนปืนทิ้ง และนั่งอ่านหนังสือ The Catcher in the Rye ในบริเวณที่เกิดเหตุอย่างใจเย็น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ระหว่างที่รอตำรวจมาจับตัวเขา
.
แพทย์วินิจฉัยว่าจอห์นถูกกระสุน 7 นัดที่บริเวณหน้าอก แขนข้างซ้าย และด้านหลัง และเป็นบาดแผลฉกรรจ์จนเชื่อได้ว่าจอห์น เลนนอนน่าจะเสียชีวิตทันทีหลังจากกระสุนนัดแรกวิ่งผ่านร่าง เขาสิ้นใจลงด้วยอายุ 40 ปี ทิ้งไว้เพียงบทเพลงและความโศกเศร้าจากการเสียชีวิตของเขาให้แก่แฟนเพลงทั่วโลก
.
ถ้อยคำหนึ่งที่มาร์ก เดวิด ชาร์ปแมน กล่าวไว้หลังปลิดชีพสมาชิกเต่าทองคนสำคัญไป เขาพูดไว้ว่า “มันเหมือนความไร้ค่าของผมกับความโด่งดังของเขามาปะทะกัน” และเขาก็ได้รับการพิพากษาจำคุก 20 ปี ข้อหาก่อเหตุฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
.
.
** หมายเหตุ : ภาพที่เห็นคือชาร์ปแมนที่เจอเลนอนในตอนเช้าตรู่ เขาเอาอัลบั้มให้เลนนอนเซ็น ก่อนที่จะรอปลิดชีวิตเขาในตอนค่ำ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Donald trumps's profile


โพสท์โดย: Donald trumps
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: ลูกเป็ดยักษ์พเนจร, ไข่ต้มยางมะตูม
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นางเอก Doctor X เผย "ฉันป่วยหนักมา 5 ปีแล้ว"หนุ่มอินโดช็อก!! แต่งงานไป 12 วัน เพิ่งรู้ว่าเมียเป็นผู้ชายชายไต้หวัน กลายเป็นหิน ระหว่างกินข้าวช่างกล้า! ตำรวจขนม้ากลางกรุง..มีประชาชนถ่ายคลิปเอาไว้ได้สาขาอาชีพข้าราชการในประเทศไทย ที่ประสบปัญหาหนี้สินมากที่สุด"กาบหมากคาบต้น" ความเชื่อโบราณของดีหาดูยาก โอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก?กระบะชนท้ายเบนซ์ S580e Maybach ราคา 12 ล้าน..งานนี้ลมจับแน่ๆหนุ่มจีนกลั้นใจใต้น้ำก่อนดับสลด โดยมีไลฟ์การ์ดยืนหัวเราะลั่นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุด และมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศกัมพูชา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หนุ่มจีนกลั้นใจใต้น้ำก่อนดับสลด โดยมีไลฟ์การ์ดยืนหัวเราะลั่นช่างกล้า! ตำรวจขนม้ากลางกรุง..มีประชาชนถ่ายคลิปเอาไว้ได้มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุด และมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศกัมพูชา"แฟชั่นกางเกงช้าง" Localization ก้าวสู่ Globalization
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บันเทิง ดารา
ลิซ่าก็แค่มาโบกธงที่ F1"ลิซ่า BLACKPINK" เข้าชมแข่งรถไมอามีจีพี..พร้อมโบกธงเข้าเส้นชัยลิซ่า BLACKPINK ถึงสนาม F1 ที่ไมอามี่แล้ว โจวเหวินฟะ กับบทบาทโจโฉที่อ่อนโยนใน The Assassins(2012)
ตั้งกระทู้ใหม่