"เท้าดอกบัวทอง" เรื่องที่น่ากลัวเมื่อคุณรู้ว่าทำไมจึงมีประเพณีนี้ขึ้นมา
ประเพณีรัดเท้าของสตรีจีนโบราณ ประเพณีจีนแต่โบราณมาเชื่อว่า สุดยอดความงามของสตรีคือ การมีเท้าคู่เล็กดุจกลีบดอกบัว โดยการรัดเท้าจะส่งผลต่อความมั่งคั่ง และสถานภาพในอนาคตของลูกสาว รวมถึงความสุขในชีวิต ภายใต้ความเชื่อดังกล่าว สตรีจีนทั่วประเทศต้องทรมาน อย่างแสนสาหัสมากว่าพันปี เพิ่งจะมาเมื่อเกือบร้อยปีที่แล้วนี้เอง ที่มีการปลดแอกจากประเพณีสุดทรหดนี้ หลังรัฐบาลคอมมิวนิสต์ชุดแรกสั่งห้ามไม่ให้มีการรัดเท้า!!
สมัยก่อนการรัดเท้าถือเป็นข้อบังคับทางสังคม สำหรับสตรีฮั่นทั่วประเทศ ไม่ว่ายากดีมีจน ผู้หญิงที่มีลูกสาว อายุ 4-5 ขวบ จะต้องรัดเท้าให้ลูกสาว ไม่เช่นนั้น จะถูกเยาะหยันที่ไม่ได้ทำหน้าที่ของแม่ ยิ่งรัดให้ยิ่งเล็กก็ยิ่งดี
เพื่อให้ดูเล็กลงคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว พอถึงศตวรรษที่ 11 การรัดเท้าจึงกลายเป็นค่านิยม ที่แพร่หลายในหมู่สตรีชาววังและตระกูลขุนนาง ก่อนที่จะระบาดไปยังชนชั้นล่าง โดยเท้าดอกบัวที่สวยงามจะต้องมีลักษณะ 7 ประการสำคัญ คือ บาง เล็ก เรียว โค้ง หอม นุ่ม และต้องเท่ากัน
เพื่อให้ดูเล็กลงคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว พอถึงศตวรรษที่ 11 การรัดเท้าจึงกลายเป็นค่านิยม ที่แพร่หลายในหมู่สตรีชาววังและตระกูลขุนนาง ก่อนที่จะระบาดไปยังชนชั้นล่าง โดยเท้าดอกบัวที่สวยงามจะต้องมีลักษณะ 7 ประการสำคัญ คือ บาง เล็ก เรียว โค้ง หอม นุ่ม และต้องเท่ากัน
การรัดเท้าทำโดยใช้แถบผ้า ซึ่งทำจากผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ กว้างประมาณ 3 นิ้ว ยาว 7 นิ้ว แม่ของเด็กมักจะเป็นผู้ทอผ้าเอง บางครั้งจะมีการย้อมครามสีน้ำเงิน เพราะเชื่อว่า ป้องกันไม่ให้เท้าเน่าเปื่อย การเลือกวันมงคลเพื่อเริ่มรัดเท้า จึงมีความสำคัญยิ่ง
ประเพณีการรัดเท้าสร้างความเจ็บปวด และทรมานให้แก่สตรีจีน มาแล้วกว่าพันปี มีสตรีจีนนับไม่ถ้วนต้องพิการ หรือเสียชีวิต เพราะขั้นตอนการรัดเท้า
การรัดเท้าจะทำให้นิ้วเท้าทั้งหมด ยกเว้นหัวแม่เท้าถูกพับลงไป และรัดติดแน่นกับฝ่าเท้า จะเรียกว่า เท้าดอกบัวทองได้ ก็ต่อเมื่อเท้ามีขนาดเล็กแค่ 3 นิ้ว ถ้าเหลือ 4 นิ้ว เรียกว่าดอกบัวเงิน และถ้าใหญ่เกิน 4 นิ้ว เรียกว่าดอกบัวเหล็ก
ในปี 1912 มีการสถาปนาสาธารณรัฐจีน ทุกมณฑลถูกสั่งห้ามไม่ให้มีการรัดเท้า แต่ก็ยังมีสตรีจีนจำนวนมากที่เต็มใจเจ็บปวด โดยเลือกการรัดเท้า เพราะเชื่อว่า เท้าดอกบัวของผู้หญิงที่รัดเท้า จนดูเหมือนเท้าตุ๊กตา เป็นสิ่งกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ