มันดีจริง-หรือแค่สังคมตอแหล-กับวันพระควรหยุดเหล้า

สุราที่แปลว่าเหล้า ดื่มแล้วเมาฟ้อนแอ๊ะฟ้อนแอ่น ………
เราล้วนรู้จักกันดีว่า เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว มีผลต่อสุขภาพของคนดื่ม และยังมีผลต่อจิตใจของคนรอบข้างไม่น้อยเช่นกัน
แต่สุรานั้นหากดื่มในปริมาณพอดี หรือในเวลาที่พอเหมาะ ก็เป็นผลดีได้เช่นกัน

ขณะที่หลายคนกำลังมีความสุขกับการล่ำสุรา เมรัย แต่ก็มีอีกหลายคนพยายามที่จะเลิก เลิกดื่ม
หลายคนบอกว่า อยากเลิกแต่ก็เลิกไม่ได้เพราะว่า
…ขาดเพื่อนไม่ได้ เพื่อนดื่มก็ต้องดื่ม
…ติดใจในบรรยากาศ ติดใจในรสชาด
…ติดสุรา ขาดไม่ได้ ยังไงก็ต้องเสพ

มีบางคนบอกว่า เลิกเหล้า เลิกสุรา นั้นไม่ยากเลย เพราะเลิกมาหลายครั้งแล้ว อันนี้ต้องบอกว่าขอเอาใจช่วย ขอให้ความพยายามนั้นสำเร็จซะที
มีบางคนบอกว่า เลิกตามวาระและโอกาส เช่นเข้าพรรษา งดเหล้าวันพระ
มีอีกหลายคนเลิกเพราะคำสั่งอันศักสิทธิ์ ต้องให้หมอสั่งถึงจะยอมเลิก

แต่ก็มีไม่น้อยเช่นกันที่พยายามจะเลิก แต่เลิกด้วยตนเองไม่ได้ ต้องมีตัวช่วย เช่น ใช้การรักษาทางการแพทย์ การรักษาทางบำบัด และอีกหลายๆหนทาง แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายามที่ดี แต่ก็ต้องดุผลที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกาย หรือจิตใจ ที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับการติดสุราของแต่ละคน

ประสบการณ์ของผม พอคิดจะเลิก ทำไมมันง่ายดายเช่นนี้ มันมีอะไรเป็นแรงบันดาลใจ ลองอ่านดูนะครับ
ผมเริ่มกัดดื่มเหล้าเมื่อครั้งสมัยเรียนอยู่ชั้น ม ปลาย ตามประสาของวัยรุ่นที่ต้องทำตัวให้เข้ากับเพื่อนๆ สมัยนั้นเริ่มจากการดื่มเหล้าขาว 40ดีกรี ผสมน้ำแดง น้ำอัดลมในสัดส่วนที่เท่ากัน จำได้ว่าวันหนึ่งเพื่อนเอาเหล้าสาโท เป็นเหล้าที่ชาวบ้านทำขึ้นมาเอง มีรสหวาน ดื่มง่าย ผมขอดื่มคนเดียวจนหมดขวด คืนนั้นเพื่อนๆต้องหิ้งปีกไปส่งถึงบ้าน จำได้แม่นว่า แม่นั่งเฝ้าผมทั้งคืน คอยเช็ดตัวให้ทั้งคืน เพราะความเมาของผม

เมื่อผมเรียนจบ เริ่มทำงานหารายได้เอง ก็เริ่มมีการสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน เพื่อนเก่าๆสมัยเรียนอยู่เป็นประจำ จนถึงระดับที่ต้องดื่มทุกวัน อย่างน้อยจะดื่มเบียร์วันละขวด ผมไม่ได้ติดเหล้า ติดสุรา แต่ผมชอบที่จะดื่ม ชอบนั่งดื่มในเวลา และบรรยากาศเป็นใจ บางวันก็นั่งดื่มคนเดียว เมาบ้าง มึนบ้าง ตึงบ้างก็เข้านอน บ่อยครั้งที่ต้องสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือญาติๆ

ทุกๆวันหลังเลิกงาน กลับถึงบ้านผมต้องนั่งดื่ม นั่งจิบทุกเย็น ก่อนเข้านอน
เพราะมีความรู้สึกว่ามันเป็นเครื่องดืมประจำวัน เป็นความชอบเฉพาะตัวแล้ว
ตั้งแต่วันที่เริ่มดื่ม ผมไม่สามารถบอกได้ว่า กี่ร้อย กี่พันลิตรแล้วที่เหล้า เบียร์ผ่านเข้าไปในร่างกายของผม จากสภาพร่างการที่ผอมชะรูดเมื่อครั้งเรียนจบจามหาวิทยาลัยในปี 2531 น้ำหนักตัวเพียง 48กก. รอบเอว 27″ ในขระนั้น ไม่สามารถจะหาซื้อกางเกงยี่ห้อดีที่เขาใส่กันได้เหมือนเช่นคนอื่น เพราะเขาจะทำเอว 29″ขึ้นไป

จากนั้นไม่นาน ไม่กี่ปีผมได้พิสูจน์สิง่ที่เคยเรียนมาในสมัยเด็กว่า เมื่อคนเราอายุถึง 25ปีแล้วร่างกายจะเริ่มไม่เจริญเติบโต …. ผมได้รู้ว่าทฤษฏีนี้มันผิด เพราะร่างกายผมมันขยายใหญ่ขึ้นหลังจากอายุ 30ปี มันออกทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง พุงเป็นพุง ก้นเป็นก้น และ six packs ที่เคยเป็น มันก็รวมเป็น single pack หุ่นยังกะถังเบียร์เคลื่อนที่ จากที่เคยมีเอววัดรอบได้ขนาด 27นิ้ว มันกลายเป็น 36นิ้ว จากที่เคยมีน้ำหนักตัว 48กก. มันเพิ่มขึ้นถึง 70กก. เริ่มที่จะยอมรับตัวเองไม่ได้

ยิ่งออกกำลังกาย ก็ยิ่งดื่มได้เยอะขึ้น ผมเป็นคนที่ชอบออกกำลังกาย ชอบเล่นกีฬา หลังออกกำลังกายในตอนเย็น อาบน้ำเสร็จก็มานั่งดื่มสบายอารมณ์ และยิ่งเล่นกอล์ฟด้วยแล้ว หลังจบจากออกรอบ ทั้งก๊วนก็มาตั้งวงกันต่ออีก กว่าจะแยกย้ายกัน ก็หลายชั่วโมง หลายขวด หลายขวดหลายกรม

ตั้งแต่กลางปี 2551 บริษัทส่งผมมาทำงานประจำที่ต่างประเทศ ทั้งความเหงา ความว้าเหว่ และบวกกับเบียร์ถูกกว่าน้ำ มันช่างเป็นสวรรค์ของผมจริงๆ ดื่มเบียร์อย่างน้อยวันละสีขวด ช่วงหลังๆมาเริ่มเปลี่ยนจากเบียร์เป็นไวน์ และวอดก้าตามลำดับ

คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากต้องการให้มีสุภาพแข็งแรงแล้ว ยังต้องกาารให้ตัวเองมีหุ่นแบบนักกีฬา ใส่ชุดไหนมันก็เทห์ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น และหลงดีใจอยู่พักหนึ่งว่าตัวเองนั้นหุ่นดี แต่พอถ่ายรูปเต็มตัวออกมา โอ้โห ผู้กำกับเส้นยกธงบอกว่าพุงผมล้ำหน้า ….. ตรงนี้แหละครับที่รับตัวเองไม่ได้

หาข้อมูลจากหลายๆกูรู ต่างก็แนะนำวิธีการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก และลดพุงอย่างได้ผล รวมถึงการควบคุมอาหาร ผมก็ทำตามทั้งหมด ทำด้วยควมอดทน มันก็ไม่เป็นผล เห็นผลช้า ไม่ทันใจ มาสะดุดเอาตรงที่มีอยู่ข้อความหนึ่งบอกว่า ต้องเลิกดื่มด้วยถึงจะได้ผล เพียงเท่านี้แหละครับ

นับตั้งแต่เย็นวันนี้เป็นต้นไป จะไม่ซื้อเหล้า เบียร์ ไวน์ วอดด้า เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล รวมถึงน้ำอัดลม เข้าบ้านอีกแล้ว แก้วไวน์ที่เพิ่งซื้อเมื่อวันก่อนขอเก็บเข้าตู้ ขวดที่เหลือยกให้เพื่อน ข่าวดีอีกอย่างกลับถึงบ้าน เพื่อนทำหน้าละห้อยบอกว่าขอโทษทีเขาทำที่เปิดไวน์ผมหัก …ดีเลยเข้าทางแล้ว ไม่ต้องไปซื้ออันใหม่มาแทนนะ เพราะจะไม่ใช้มันอีกแล้ว

ผมบอกกับตัวเองว่า ผมจะเลิกดื่มไปเรื่อยๆ แต่ไม่รับปากกับตัวเองให้เครียดหรือกดดันตัวเองว่าจะเลิกกี่วัน จะเลิกนานเท่าไหร่ แต่เลิกไปเรื่อยๆ
กอร์ปกับผมชอบดื่มชาร้อน เปลี่ยนจากเหล้า ไวน์ เป็นชาร้อน เพื่อนดื่มเบียร์ ผมจิบชาร้อน

เมื่อวานงดได้หนึ่งวัน วันนี้ของงดอีกวัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วงดได้ สัปดาห์นี้ของงดต่ออีก
เมื่อเดือนที่แล้วเรางดได้ เดือนนี้ของดอีกเดือน

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาจนถึงวันนี้ ผมงดมาได้ร่วม 6เดือนแล้วครับ งดด้วยใจที่อยากจะงด เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมเอาชนะใจตัวเองได้ และเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมบอกว่ากับแม่ว่า ผมตั้งใจทำเองโดยที่แม่ไม่ต้องขอ และที่สำคัญมันทำให้ผมออกกำลังกายได้นานขึ้น และปรับลดพุงของตัวเองได้ง่ายขึ้นครับ

บางครั้ง บางอารมณ์ ผมก็จะหมดความอดทน จะห้ามใจไม่ไหวเช่นกัน แต่ก็บอกกับตัวเองทุกครั้งว่า เราผ่านมันมาได้หลายวันแล้ว วันนี้อีกวันหนึ่งก็คงไม่เป็นไร มันก็ทำให้เราผ่านมันมาได้ ไม่เผลอไปกับมันอีก
เป็นบ่อยครั้งที่ต้องบอกกับตัวเองว่า เลิกงานแล้วต้องกลับให้ถึงบ้านให้เร็ว หากเอ้อระเหย มันก็จะได้บรรกาศ ได้อารมณ์กลับไปหามันอีก

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ตัวผมเองก็ยังคลุกอยู่กับเพื่อนๆในวงเหล้าเช่นเคย ถึงผมจะเลิกดื่ม แต่เพื่อนๆผมยังคบเหมือนเดิม ผมดื่มน้ำเปล่า หรือชาร้อน เฮฮากับเพื่อนๆในวงเหล้า ได้เช่นเคย ตามนิสัยส่วนตัวผมไม่ดื่ม แต่หารเท่ากัน ไม่ดื่มแต่ช่วยออกตัง อันนี้ผมไม่มีปัญหา ขอให้ทุกคนมีความสุขเราแบ่งปันกันได้

ถึงผมยังไม่สามารถรับประกันตัวเองได้ว่า จะเลิก หรือ งดดื่มได้นานสักเพียงไหน แต่ที่เริ่มทำมากว่า 6เดือนมันเป็นการเริ่มต้นที่ดี ไม่มีผลต่อจิตใจ ไม่มีผลต่อร่างกาย และผมจะพยายามให่ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็บอกกับตัวเองเสมอว่า หากมันเหตุการณ์ที่เลียงไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้เป็นเพียงแค่ครั้งนั้น

ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ต้องการและพยายามจะเลิก
หากการเลิกนั้นมันยาก ขอให้เริ่มที่การงด
และสิ่งสำคัญที่สุด คือใจเราเอง ครั