หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

Anne Frank

โพสท์โดย มารคัส





เด็กหญิง แอนน์ แฟรงค์ หรือ อันเน่อ ฟรังค์ มีชื่อเต็มๆว่า อันเน่อ ลีเซอ ฟรังค์
เธอเกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 1929 มีพี่สาว 1 คน ชื่อ มาร์ก็อต แฟรงค์



(มาร์ก็อต แฟรงค์)



พ่อกับแม่ของเธอ อ๊อตโต้ แฟรงค์ และ อีดิธ ฮอลันดา แต่งงานกันเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 1925 โดยอาศัยอยู่ในเมือง แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศ เยอรมันนี

ต่อมาในสมัยที่ฮิตเลอร์ขึ้นครองอำนาจเยอรมันนี
(19 มีนาคม 1933)
อ๊อตโต้ แฟรงค์ รู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

เค้าเตรียมตัวพาครอบครัวอพยพไปยังเนเธอร์แลนด์
โดยให้ อีดิธ แฟรงค์(ภรรยา) และ ลูกสาวคนโต(มาร์ก็อต แฟรงค์)
ไปพักอยู่ที่บ้านของมารดาของเธอ ที่เมือง อาเค่น

ส่วนตัวเค้าได้พาแอนน์ แฟรงค์ ซึ่งตอนนั้นอายุ 3 ขวบ
ไปหาที่ตั้งรกรากในประเทศเนเธอร์แลนด์ จนได้ที่อยู่แห่งหนึ่ง
จึงมารับครอบครัวไปอยู่ด้วย และ เริ่มประกอบธุรกิจ




....คนยิวในเนเธอร์แลนด์ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ส่วนใหญ่ฐานะดีเพราะทำการค้า
อยู่ในสังคมคนชั้นสูง มีการศึกษาที่ดี พ่อแม่ส่งเสริมเรื่องการศึกษา
โดยสนับสนุนให้อ่านหนังสือเป็นพิเศษ
โดยมีความเชื่อมั่นว่า "หนังสือคือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คนมีคุณภาพ"

แอนน์ แฟรงค์ อยู่ใหล้ชิดพ่อมาตั้งแต่เธออายุ 3 ขวบ
เธอซึมซาบนิสัยรักการอ่านมาจากพ่อของเธอเป็นอย่างดี

เมื่อแอนน์ อายุ 10 ขวบ เธอเริ่มตั้งปณิธานว่า โตขึ้นจะเป็นนักเขียน นักหนังสือพิมพ์
คนมีชื่อเสียง ให้จงได้ เธอเริ่มเขียนหนังสือตอนอายุ 12 ปี และ เริ่มเขียนจริงจังมากขึ้นตอนอายุ 13 ปี และหลังจากนั้นเพียงไม่นาน หนังสือของเธอก็ได้เป็น วรรณกรรมล้ำค่า ของโลก!!

วันสุดท้ายที่เธอเขียนบันทึกคือวันที่ 1 สิงหาคม 1944
ในอีกสามวันต่อมา วันที่ 4 สิงหาคม 1944 เธอและสมาชิกที่หลบซ่อนอยู่ทั้งหมด 8 คน ถูกจับตัวไปยังค่ายกักกัน เอ๊าส์ชวิตส์ ซึ่งเป็นค่ายกักกันที่ใหญ่ที่สุด พวกนักโทษชาวยิวทุกคน จะถูกโกนศรีษะ และ ให้ทำงานวันละ 12 ชั่วโมง
โดยมีผู้คุมเป็นอาชญากรโหดเ้ยม(นักโทษจิตไม่ปกติในคุก) มาคุมคนธรรมดา
ซึ่งคนเหล่านั้น ที่ถูกควบคุม มีทั้ง คนที่ทำงานในตำแหน่งสูง ศาสตราจารย์ และ คนดีๆ
แต่พวกเค้าเป็นพวก ยิว !

ในตอนกลางคืนนักโทษทุกคนรวมทั้งแอนน์ แฟรงค์ จะถูกขังในห้องนอนที่เบียดแน่นขนัด
ที่สามารถมองออกไปเเห็นท้องฟ้าแดงแดงฉานด้วยแสงไฟจากเตาเผาคนซึ่งดำเนินไปไม่รู้หยุด

ค่ายนักโทษที่นี่เป็นค่ายที่มีระเบียบเข้มงวดมาก โดยจะทำการกล่าวชื่อนักโทษทุกวัน
อาหารจะมีคุณภาพที่เลวมาก หากมีใครตายในตอนกลางคืน จะถูกนำศพออกมาในช่วงเช้ามืด และ คนป่วยก็จะถูกนำตัวแยกออกไป โดยไม่นำกลับเข้ามาอีก

ผู้ถูกฆ่าตายเพราะเตาแก๊สไม่มีโอกาศร้องเพราะเร็วมาก ชาวยิวนับร้อยคนต่อแถวรอยืนเข้าเตาในแต่ละช่วงเวลา พวกเอสเอส จะยืนถือปืนบนหอคอยเพื่อคอยยิงนักโทษที่คิดจะหนี บนกำแพงในค่ายกักกันติดลวดไฟฟ้าโดยรอบเพื่อป้องกันการหนีของชาวยิว
พวกเคราะห์ร้ายบางคนเดินละเมอออกไป จนถูกไฟฟ้าช็อตตายแข็งทื่อ
เหมือนผีดิบครึ่งตาย ครึ่งเป็น

คนที่รอดมาจากค่ายกักกันได้เล่าว่า "แอนน์โชคดีมากที่เธอถูกทารุณไม่มาก ผมเห็นเธอร้องไห้ที่เห็นหญิงยิปซีกลุ่มหนึ่งที่มีร่างเปลือยเปล่าถูกต้อนเข้าเตาแก๊ส และ เธอร้องไห้อีกครั้งเมื่อเห็นเด็กหญิงชาว ฮังกาเรียนยืนเข้าแถวตากฝนครึ่งวันหน้าเตาแก๊ส เพราะเตายังไม่ว่าง เธอเอาศอกกระทุ้งท้องผมแล้วพูดว่า "ดูสิ ดูพวกเขาสิ" แล้วร้องไห้"

แอนน์ถูกย้ายมาค่ายกักกันเบลเซิ่ล เธอได้พบ ลีส์ กรูเซ่นส์ เพื่อนรักเก่าของเธอ
แอนน์ดีใจมากที่จะได้พบลีส์ เธอตะโกนเรียกลีส์เสียงใสว่า "ลีส์ ลีส์ เธอหรอ เธออยู่ที่ไหน?" เมื่อเจอพบว่าเธอ เสื้อผ้าขาดกระรุ่งกระรริ่ง ตาลึกโหล ทั้งสองร้องไห้สะอึกสะอื้น อยากจะเข้ามากอดกันก็ทำไม่ได้เพราะมีเส้นลวดหนามไฟฟ้ากั้นอยู่





ไม่นานมาร์ก็อตก็ตายด้วยโรคไทฟอยส์ที่ระบาดอยู่ ทุกคนปิดข่าวไม่ให้แอนน์ลับรู้ แต่ทว่า ความลับไม่มีในโลก ในที่สุดเธอก็รู้ว่ามาร์ก็อตเสียชีวิตแล้ว เรี่ยวแรงของเธอหมดลง เธอหมดหวังเพราะคิดว่าถึงเธอจะต้องอยู่ก็ไม่มีใครที่สามารถอยู่ให้เธอพักพิงได้ (เธอคิดว่าพ่อและแม่ของเธอก็เสียชีวิตไปพร้อมกับมาร์ก็อตแล้ว) ดังนั้นทุกอย่างทุกกำลังใจความแข็งแกร่งที่แอนน์สะสมมานานก็พังลง เธอติดโรคไฟอยส์และเสียชีวิตตามมาร์ก็อตไปไม่กี่วันหลังจากนั้น อ๊อตโต้ แฟรงค์ เป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มผู้หลบภัยทั้ง 8 คนที่มีชีวิตรอดอยู่



หลังจากสงครามได้จบลง เมี้ยปนำสมุดที่แอนน์เคยบันทึกไว้เก็บไว้ให้พ่อของเธอ

เขาอ่านด้วยน้ำตานองหน้า และ คัดลอกเก็บไว้ 2-3 สำเนาสำหรับครอบครัว เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงลูกสาว

ต่อมาจึงนำไปตีพิมพ์

--- > เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตแอนน์แฟรงค์ในแต่ละวันที่เธอเขียนบันทุกไว้ ถ้าใครสนใจอยากอ่านก็บอกเราได้ เราจะได้ทำให้ < ---

ตัวอย่าง ใน ที่แอนน์เขียนไว้ในสมุดบันทึก(บางส่วน)

"แต่บ่ายนี้เอง ฉันต้องการเขียนบัญชีการซื้อของให้กับแม่ เพราะลายมือแม่อ่านยาก แม่ก็ไม่ยอมให้ฉันเขียน แม่ดุฉัน แล้วทุกคนก็ร่วมสมทบด้วย ฉันรู้สึกว่าเข้ากับพวกเขาไม่ได้เลย"
.....................................................................
"พ่อคนเดียวเท่านั้นที่ดูเหมือนจะเข้าใจฉัน แม้บางครั้งพ่อจะเข้าข้าแม่และมาร์ก็อต ฉันไม่ชอบทีพวกเขาจะเล่าเรื่องของฉันให้บุคคลภายนอกฟัง"
......................................................................
มูร์ตี้(แมวของแอนน์) เป็นจุดอ่อนของฉัน ฉันคิดถึงมันมาก เวลาพูดถึงมันทีไรฉันอยากจะร้องไห้" (แมวไม่ได้ไปด้วยขณะพวกเค้าอพยพไปอยู่ที่อื่นกัน)
......................................................................
"ฉันเป็นเด็กเลว ฉันอยากตระโกนกรี๊ดกรี๊ดกรี๊ด แล้วตบหน้าแม่"
......................................................................

มีอีกมากมายในบันทึกของแอนน์ในแต่ละวัน

 

คลิปประกอบจาก มื้อดึกสยองขวัญ
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
มารคัส's profile


โพสท์โดย: มารคัส
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: ginger bread, ดินสอพอง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สื่อดัง "วอยซ์ทีวี" ประกาศปิดกิจการ 31 พ.ค.นี้ เลิกจ้างพนักงานกว่า 100 ชีวิต ด้าน "แขก คำผกา"เคลื่อนไหวแล้ว ป่วน ! 3 จว.ใต้ ใบปลิวเกลื่อนยะลา ขณะที่ชาวบ้านไปละหมาดวันศุกร์แล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้นนท.จีน เกือบพาร้านซวย เหตุเพราะอยากนั่งชิมวิวที่อ่างแก้วสุดกร่าง ผลักมาสคอตตกน้ำ เกือบไม่รอดทางกัมพูชา และ จีนจัดงานโชว์ศิลปะการต่อสู้ กังฟู + โบกาตอร์ ตอนแรกหลายคนนึกว่า จะเอามาสู้ๆกัน อ้อ ไม่ใช่ มาโชว์กระบวนท่าการแสดงเฉยๆ พอมีคนดูอยู่เหมือนกันเด้อวันนี้ไม่ดีเท่าเมื่อวาน อย่าพึ่งท้อ3 นักษัตรที่การเงินเด่น มีโชคด้านการลงทุน เสี่ยงดวงช่วงนี้ภาพถ่ายจากกล้องอินฟราเรด เชอร์โนบิลจากเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เผยเขตหวงห้าม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วันนี้ไม่ดีเท่าเมื่อวาน อย่าพึ่งท้อเมื่อคุณยายขอแจม "ASOKA MAKEUP"..แบบนี้สิของแทร่!แล้งหนัก...ประปาไร้น้ำ เกาะพีพีต้องซื้อน้ำใช้"ภาวะโลกเดือด" การปรับตัวในยุคที่ท้าทายสุดขีดของมนุษย์!!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
Huawei ทวงคืนบัลลังก์! ขึ้นแท่นอันดับ 1 ตลาดสมาร์ทโฟนจีนอีกครั้ง"ภาวะโลกเดือด" การปรับตัวในยุคที่ท้าทายสุดขีดของมนุษย์!!วิธีใช้ " ปลั๊กพ่วง " ให้ถูกวิธีกินอย่างไรไม่ให้เป็น (เบาหวาน)
ตั้งกระทู้ใหม่