หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ระวังไว้!!! 7 อาหารอันตราย ที่อาจฆ่าคุณได้

โพสท์โดย Exoexo

เมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้อง! แต่ถ้าท้องและร่างกายต้องปั่นป่วนเพราะอาหารที่เรารับประทานเข้าไป มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ทุกวันนี้รอบตัวเรารายล้อมไปด้วยสารพิษมากมายที่พร้อมจะเข้ามาทลายความแข็งแกร่งของสุขภาพ คุณควรรู้ให้เท่าทันว่าสิ่งใดควรเลี่ยง ไม่รับประทาน แต่เชื่อเถอะว่ายังมี อาหารอันตราย ที่คุณนึกไม่ถึงว่าจะมีพิษฤทธิ์ร้ายแรงถึงขั้นปลิดชีวิตคุณได้  และวันนี้เราได้นำอาหารทั้ง 7 ชนิด ที่ควรระวังเอาไว้มาฝาก…ลองมองในจานคุณสิ มีวัตถุดิบเหล่านี้รวมอยู่ด้วยหรือเปล่า?

 

 

1. มะม่วงหิมพานต์

มะม่วงหิมพานต์หวาน มัน กรอบ ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินต่าง ๆ เช่น แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก รวมไปถึงมีใยอาหาร ที่ช่วยในเรื่องการทำงานของลำไส้ได้เป็นอย่างดี ประโยชน์มากมายขนาดนี้ แต่รู้มั้ยว่าความจริงอาหารชนิดนี้มีความอันตรายซ่อนอยู่ บริเวณเปลือกสีเขียวเข้มของมะม่วงหิมพานต์ดิบจะมีสารที่ชื่อว่า อุรุชิออล (Urushiol) ซึ่งเป็นสารพิษที่สามารถสร้างความระคายเคืองต่อผิวหนังได้อย่างรุนแรง ทำให้เกิดเป็นแผลพุพองหากสัมผัส หรือหากเผลอรับประทานเข้าไปจะเกิดอาการระคายเคืองในช่องปาก ลิ้น และหลอดอาหาร ดังนั้นวิธีที่ปลอดภัยในการรับประทานมะม่วงหิมพานต์ คือ ต้องแกะเปลือกออกและนำไปคั่วก่อนทุกครั้ง เพื่อเป็นการลดหรือทำลายสารพิษดังกล่าว

2. ปลาปักเป้า

เป็นที่เลื่องลืออยู่ไม่น้อย สำหรับความร้ายกาจของพิษจากปลาตัวจ้อย อย่างเจ้าปลาปักเป้า ความรุนแรงของพิษนั้น สามารถพรากดวงจิตของคุณให้ออกจากร่างได้เลยทีเดียว นั่นเพราะปลาปักเป้ามี สารเทโทรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) อยู่มาก โดยเฉพาะในตับ รังไข่ ลำไส้ และหนัง สารชนิดนี้มีความเป็นพิษแถมยังทนต่อความร้อนสูง ดังนั้นการต้มหรือผัดจึงไม่สามารถทำลายสารพิษนี้ได้อย่างแน่นอน หากร่างกายได้รับสารพิษดังกล่าวในแม้ในปริมาณเล็กน้อย จะทำให้เกิดอาการชาตามมือ ใบหน้า คลื่นไส้ อาเจียน น้ำลายไหล และท้องเสีย แต่ถ้าหากได้รับพิษในปริมาณ 1-2 มิลลิกรัม อาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตอย่างรวดเร็วภายในเวลา 4-6 ชั่วโมง ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น การหลีกเลี่ยงไม่รับประทานปลาปักเป้า หรือหากอยากรับประทานจริง ๆ ให้เลือกร้านที่มีเชฟผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตมาเป็นคนปรุงจะดีกว่านะฮะ

3. เชอร์รี่

เชอร์รี่ในซีรีส์ที่ว่าร้าย! ยังเทียบไม่ได้กับเมล็ดของเชอร์รี่สด! นั่นก็เพราะในเมล็ดมีสารพิษที่ชื่อว่า ไฮโดรเจนไซนาไนด์ (Hydrogen cyanide) ที่มีพิษร้ายแรงเป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่ด้วยล่ะ เมื่อได้รับสารพิษชนิดนี้เข้าไปจะทำให้รู้สึกมึนงง หายใจลำบาก ปวดศีรษะ หมดสติ หรือหากได้รับในปริมาณมากอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว ใครที่ชอบทานเชอร์รี่สดเป็นชีวิตจิตใจแล้วล่ะก็ต้องระวังกันหน่อยนะ

4. มะเขือเทศ

คงคิดไม่ถึงใช่ไหมว่า มะเขือเทศ ที่เป็นมิตรกับผิวพรรณของเรานั้นจะมาอยู่ในหัวข้อนี้ได้ ทั้งที่มะเขือเทศอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารมากมาย เช่น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม รวมไปถึงแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมาย แต่จริง ๆ แล้วมะเขือเทศจัดว่าเป็นอาหารที่มีสารพิษเจือปน พิษที่พบในมะเขือเทศนั้นจะอยู่ในส่วนของก้าน และผลของมะเขือเทศดิบ โดยจะพิษสารพิษในกลุ่ม Steroidal Alkaloids ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในบุหรี่ และกัญชา เมื่อร่างกายได้รับสารชนิดนี้จะมีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง และอาจเกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้ ทางที่ดี คือ หลีกเลี่ยงการกินมะเขือเทศดิบ และควรดึงก้านมะเขือเทศออกทุกครั้งก่อนรับประทาน

5. เห็ด

เห็ด แต่ละชนิดก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น เห็ดหอมช่วยลดไขมันในเส้นเลือด เห็ดหูหนูช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาว หรือ เห็ดฟางมีวิตามินซีสูง เป็นต้น มีประโยชน์มากมายขนาดนี้ก็ย่อมมีด้านตรงข้ามด้วยเช่นกัน เพราะเห็ดบางชนิดก็มีพิษ เมื่อทานเข้าไปอาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ อาเจียน หน้ามืด ปวดท้องอย่างรุนแรง หรืออาจถึงขึ้นเสียชีวิตเลยก็เป็นได้  ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ก่อนบริโภคควรตรวจดูให้แน่ใจว่าเป็นเห็ดที่จะทานนั้นมีสารพิษเจือปนอยู่หรือไม่

6. มันฝรั่ง

มันฝรั่ง พืชที่อุดมไปด้วยแป้งซึ่งผู้คนให้ความนิยมเป็นอย่างมาก ประโยชน์ของมันไม่ได้หมดแค่นั้น มันฝรั่งยังมีโพแทสเซียมที่ช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต อีกทั้งยังช่วยบำรุงลำไส้ แก้อาการท้องผูกได้อีกด้วย แต่ของดีแบบนี้ก็แอบเจือปนพิษร้ายมาด้วยเช่นกัน เพราะเปลือกของมันฝรั่งมีสารพิษที่เรียกว่า ชาโคนีน (Chaconine) และโซลานีน (Solanine) ที่หากเผลอทานเข้าไปอาจเกิดอาการปวดศีรษะ อาเจียน หรือท้องเสียได้อีกด้วย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการกินเปลือกมันฝรั่งจะเป็นการดีที่สุด!

7. อัลมอนด์

อัลมอนด์ ถั่วชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก ด้วยรสชาติแสนอร่อยเพิ่มความหอมมันด้วยการนำไปปรุงสุกด้วยการอบ เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งโปรตีน ใยอาหาร แคลเซียม และซิลีเนียม แต่ความอันตรายก็ยังคงมีแฝงอยู่ในเมล็ดถั่วเล็ก ๆ อย่างอัลมอนด์ นั่นก็เพราะอัลมอนด์ดิบจะมี สารไฮโรเจนไซยาไนต์ ที่เป็นพิษต่อร่างกายผสมอยู่ด้วย เมื่อร่างกายได้รับสารดังกล่าวเข้าไป จะเกิดอาการปวดศีรษะ มึนงง หายใจลำบาก หรือหากรับประทานในปริมาณมากอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ทางออกสำหรับเรื่องนี้คือ การนำอัลมอนด์ไปอบให้สุกก่อนรับประทานจะปลอดภัยที่สุด

อาหารที่มีพิษที่เรานำมาให้ชมกันนั้น แต่ละอย่างแลดูจะเป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คนเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการรับประทานอาหารไม่ควรมองแค่ความอร่อย เราต้องมองทะลุเข้าไปให้เห็นถึงประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ ดังนั้นหากจะรับประทานอะไร อยากให้ใส่ใจในขั้นตอนการเลือก และการปรุงสักนิดนึงเนอะ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Exoexo's profile


โพสท์โดย: Exoexo
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
36 VOTES (4/5 จาก 9 คน)
VOTED: Pinksweet, youngboys, Tabebuia, chuanb
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
“จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม” พลิกชีวิตจากมรสุมหนักสู่เส้นทางใหม่ ด้วยอาชีพขายปลาร้าทอดทบ.มีคำสั่งให้ พล.ท.ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ถูกย้ายจากตำแหน่ง หลังเกิดกรณีซ้อมที่รุนแรงUN เผย "ผู้พลัดถิ่นฐานในพม่า 3.4 ล้านคน คิดเป็นเด็กเกือบ 40%""สภาพพังยับ! ยูทูบเบอร์สาวทำเล็บที่อินเดีย รู้ราคาแล้วอยากร้องไห้"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โอปอลได้ไปเยี่ยม นายกอิ๊งค์ และชมว่าสวยงามมาก จนถึงขั้นแซวว่าเหมาะสมกับการประกวดนางงามเลยทีเดียว'ไทเลอร์ ติณณภพ' ลูกชาย 'ธานินทร์' ดาวเด่นยุค 80 สู่พระเอกยุคใหม่"วิธีใช้รีโมทแอร์ในโหมดต่าง ๆ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เกาหลีใต้ส่ายหน้า การท่องเที่ยวขาดดุลหนัก แม้ K-Culture จะปังไปทั่วโลกไทยแลนด์ปังสุด คว้าอันดับ 1 ประเทศน่าเที่ยวแห่งปี 2024 พร้อมเหตุผลที่ฝรั่งหลงรักวิชาลงทุน โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร6 วิธีเติมพลังใจในวันศุกร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับวันหยุดสุดสัปดาห์
ตั้งกระทู้ใหม่