หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน" พระราชนิพนธ์ที่เกิดจากความคนึงหาเจ้าฟ้าหญิงบุญรอด

โพสท์โดย ขนมปังขิง

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อครั้งทรงดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ไม่เพียงแต่จะบรรยายถึงอาหารไทยไว้อย่างสละสลวย แต่ยังแฝงความนัยไปถึงสตรีนางหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ หากแต่ต้องทรงเก็บซ่อนปิดบังไม่ให้ใครรู้เป็นเวลาถึง ๒ ปี

 

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย(รัชกาลที่ ๒ )

 

สตรีสูงศักดิ์ผู้นั้นได้แก่เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด พระธิดาของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ พระพี่นางของรัชกาลที่ ๑ หรือถ้าพูดกันตามประสาชาวบ้าน เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดก็เป็นลูกสาวของป้านั่นเอง ในหนังสือ "พงศาวดารกระซิบ" เล่าถึงความรักของเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร กับเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดไว้ว่า ในปี พ.ศ.๒๓๒๔ กรมพระศรีสุดารักษ์ประชวร เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรได้เสด็จไปเยี่ยมพระอาการ จึงได้เกิดรักแรกพบกับเจ้าฟ้าหญิงบุญรอด ซึ่งเฝ้าไข้พระมารดาอยู่ที่นั่น นับจากนั้นเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรก็หมั่นไปเยี่ยมสมเด็จป้า บางครั้งก็จะประทับอยู่เป็นเวลานานกว่าจะกลับตำหนัก จนกระทั่งกรมพระศรีสุดารักษ์สิ้นพระชนม์ พระศพถูกเชิญไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดเสด็จไปทำบุญเมื่อใด

กรมหลวงฯ ก็จะทรงตามเสด็จไปช่วยด้วยทุกครั้งไป สองหนุ่มสาวลูกพี่ลูกน้องจึงคุ้นเคยกันจนกลายเป็นความรักขึ้นมา

 

สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี (พระยศเดิม : สมเด็จพระเจ้าหลานเธอเจ้าฟ้าบุญรอด)

 

หลังงานถวายพระเพลิงผ่านพ้นไปแล้ว เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรก็ไม่มีโอกาสจะได้พบเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดอีก เนื่องจากกุลสตรีไทยในสมัยนั้นต้องเก็บตัวอยู่แต่ในเรือน จะออกจากบ้านก็ต่อเมื่อมีธุระเท่านั้น แต่เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรก็หาทางออกจนได้ ด้วยการให้กรมหลวงเทพยวดี พระพี่นางของพระองค์เชิญเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดมาเล่นสกาที่ตำหนัก จากนั้นเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรก็ทำทีเป็นไปเยี่ยมพระพี่นาง เพื่อจะได้ใกล้ชิดเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดนั่นเอง สองหนุ่มสาวแอบพบกันด้วยวิธีนี้ระยะเวลาหนึ่งจนเกือบถูกจับได้คาหนังคาเขา เมื่อสมเด็จพระอัมรินทรามาตย์ พระมารดาเสด็จมาหากรมหลวงเทพยวดีที่ตำหนัก โชคดีกรมหลวงเทพยวดีมีไหวพริบ จึงรีบออกมารับหน้า แล้วพูดเสียดังให้เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรและเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดได้ยิน สองพระองค์จึงรีบวิ่งเข้าไปแอบในห้องพระบรรทม รอดปากเหยี่ยวปากกาไปได้อย่างหวุดหวิด

หลังจากวันนั้น กรมหลวงศรีสุนทรเทพก็ไม่กล้าใช้ตำหนักเป็นที่ลอบพบกันของพระอนุชากับเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดอีก เพราะเกรงเสด็จแม่จะสงสัยเอาได้ จึงเปลี่ยนแผนการใหม่ โดยกรมหลวงศรีสุนทรเทพเป็นฝ่ายเสด็จไปเยี่ยมเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดที่ตำหนักแทน แล้วให้เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรตามไปสมทบ แต่การไปเล่นที่ตำหนักของเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดดำเนินไปได้ไม่นานก็เกิดเรื่องอีกจนได้ วันหนึ่งเจ้าฟ้ากรมขุนอนัคฆนารี พระพี่นางเธอในเจ้าฟ้าหญิงบุญรอด เสด็จไปแอบทอดพระเนตรเห็นกรมหลวงฯ กับเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดนั่งอยู่ชิดกัน กำลังช่วยกันทอดสกาแข่งกับกรมหลวงศรีสุนทรเทพ ก็ตรัสด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า "ท้าวพรหมทัตล่วงลัดตัดแดน มาเท้าแขนเล่นสกาพนัน สูๆ สีๆ อีแม่ทองจันทร์ อีกสองสามวันก็เป็นตัวจิ้งจก" แล้วก็ตรัสเล่นอย่างนั้นเป็นเวลาหลายวัน

เจ้าฟ้ากรมขุนอนัคฆนารี นั้นมีอีกชื่อหนึ่งที่ชาววังเรียกขานกันสั้นๆ ว่า "เจ้าครอกเสียพระจริต" เพราะทรงมีสติไม่สมประกอบเท่าไรนัก ถ้าหากคนสติดีมาเห็นว่าเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดสนิทสนมกับผู้ชาย ก็ยังพอพูดจาให้ช่วยกันปิดบังเรื่องราวได้ แต่พอถูกคนบ้าพบเข้า เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดก็จนปัญญาที่จะปิดปากเจ้าฟ้ากรมขุนอนัคฆนารีได้ วงสกาของหนุ่มๆ สาวๆ จึงต้องย้ายกลับไปเล่นกันที่ตำหนักของกรมหลวงศรีสุนทรเทพตามเดิม แล้วให้นางกำนัลคอยดูต้นทางอยู่หน้าตำหนัก หากพระญาติผู้ใหญ่องค์ใดเสด็จมา เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรจะได้ไปหลบซ่อนได้ทัน

สองหนุ่มสาวลอบพบกันอยู่อย่างนี้ถึงสองปี เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดก็ทรงพระครรภ์ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรเห็นว่าถึงอย่างไรก็เก็บความลับไว้ไม่ได้แล้ว และถ้าพระบิดารู้เรื่องเข้าก็จะพิโรธใหญ่ จึงเสด็จไปหาคุณเสือหรือเจ้าจอมแว่น เจ้าจอมของพระบิดา ขอให้ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาให้ เพราะเจ้าจอมแว่นนั้นรับใช้ใกล้ชิดและรู้พระทัยพระเจ้าอยู่หัวดี สามารถเข้านอกออกในกราบทูลเรื่องราวได้ทุกเวลา แต่ขนาดเจ้าจอมแว่นที่คนทั้งวังยกย่องว่าเป็นคนโปรดก็ยังต้องดูทิศทางลมอยู่นาน จนวันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ กำลังสบายพระราชหฤทัย เจ้าจอมแว่นเห็นเป็นโอกาสจึงเข้าไปทูลว่า

"ขุนหลวงเจ้าขา ดีฉันจะทูลความสักเรื่องหนึ่ง แต่ขุนหลวงอย่ากริ้วหนา ถ้าขุนหลวงกริ้วดีฉันจะไม่ทูล" เจ้าจอมแว่นเข้ามารับใช้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ตั้งแต่เป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ต่อมาแม้จะขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เจ้าจอมแว่นก็ยังเรียกพระสวามีด้วยคำเดิมมาตลอด

พระเจ้าอยู่หัวเฉลียวพระทัยว่าน่าจะมีอะไรชอบกลอยู่ จึงรับสั่งว่า


"เออ พูดไปเถิด กูไม่โกรธดอก"


เจ้าจอมแว่นยังว่า "ดีฉันไม่เชื่อ ขุนหลวงรับสั่งว่าไม่กริ้ว ครั้งดีฉันทูลขึ้นขุนหลวงก็จะกริ้ววุ่นวายไปถ้าอย่างนั้นขุนหลวงสบถให้ดีฉันเสียก่อน ดีฉันจึงจะทูล"

"อีอัปรีย์ บ้านเมืองลาวของ...เคยให้เจ้าชีวิตสันดานสบถหรือ กูไม่สบถ พูดไปเถิดกูไม่โกรธดอก"

ที่ทรงตรัสว่า "บ้านเมืองลาวของ..." เพราะเจ้าจอมแว่นท่านเป็นชาวลาวพุงขาวที่ทรงไปพบเข้าเมื่อครั้งนำทัพไปตีเมืองเวียงจันทร์

เจ้าจอมแว่นแสร้งอิดออดต่อไปอีก จนพระเจ้าอยู่หัวรับปากว่าจะไม่เฆี่ยนตีผู้ที่เกี่ยวข้อง เจ้าจอมแว่นจึงกระซิบว่า

"แม่รอด เดี๋ยวนี้ท้องขึ้นมาได้ 4 เดือนแล้ว"


เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หากอื้อฉาวออกไปก็จะกลายเป็นที่ติฉินนินทาไปทั่ว มีหรือที่พระเจ้าอยู่หัวได้ฟังแล้วจะไม่พิโรธ แต่เจ้าจอมแว่นก็รีบทูลแก้ตัวให้เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรหมายจะให้พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯทรงเห็นความเหมาะสมของคู่หนุ่มสาวว่าสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก


"รักชมสมกันจริงๆ มีลูกมีเต้าออกมาจะอุ้มชูก็ไม่น่ารังเกียจ ขุนหลวงอย่ากริ้วหนา"


"...เห็นดีไปคนเดียวเถิด พี่น้องเขายังอยู่เป็นก่ายเป็นกอง เขาไม่รู้ก็จะว่ากูสมรู้ร่วมคิดเป็นใจให้ลูกทำข่มเหงเขา อนึ่งทำดูถูกเทวดารักษารั้ววังไม่มีความเกรงกลัว ถ้าจะรักใคร่กันก็จะบอกกล่าวผู้ใหญ่ให้เป็นที่เคารพนบนอบแต่โดยดี นี่ทำบังอาจจะเอาแต่ใจไม่คิดแก่หน้าผู้ใด"

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงเกรงกรมหลวงเทพหริรักษ์ พระเชษฐาของเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดจะทรงน้อยพระทัย ทั้งทรงเกรงว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) และกรมพระราชวังบวรสถานพิมุข (วังหลัง) จะดูถูกฝ่ายพระราชวังหลวงเอาได้ จึงมีรับสั่งให้พาเจ้าหญิงบุญรอดออกไปเสียจากพระราชวังในคืนนั้นเลย

เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดจึงต้องไปพักที่ตำหนักของกรมหลวงเทพหริรักษ์ ไม่มีโอกาสได้พบกับเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรอีก เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดเป็นผู้มีฝีมือทางเครื่องคาวหวานจึงมักทำกับข้าวให้คนนำไปถวายเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรอยู่เสมอ

กรมหลวงอิศรสุนทรเสวยแล้วคิดถึงหญิงคนรัก จึงแต่งกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานขึ้นมา เพื่อชมเชยฝีมือทำกับข้าวของเจ้าฟ้าหญิงบุญรอด พร้อมทั้งรำพันความรักความคิดถึงของพระองค์ลงไปในแต่ละบทด้วย

 

"มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา"

 

 

"ทองหยอดทอดสนิท ทองม้วนมิดคิดความหลัง
สองปีสองปิดบัง แต่ลำพังสองต่อสอง"

 

 

ล่วงเลยมาประมาณ ๓ เดือน พอคะเนว่าพระบิดาน่าจะคลายความพิโรธลงบ้างแล้ว เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรก็เสด็จไปเข้าเฝ้ากรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท พระอนุชาธิราชของพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงเป็นคนกลางไปช่วยทูลขอพระราชทานอภัยโทษกับพระบิดา พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระราชทานให้เนื่องจากเห็นแก่เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดซึ่งกำลังใกล้คลอดเต็มทน หากคลอดลูกออกมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงาน เจ้าฟ้าหญิงก็จะได้รับความอัปยศ เสื่อมเสียพระเกียรติยิ่งนัก จากนั้นเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรก็เสด็จไปเฝ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ เพื่อขอรับตัวเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดกลับไปอยู่ในพระราชวังตามเดิม แต่กรมหลวงเทพหริรักษ์ก็ยังไม่วางพระทัย เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทรจึงทรงให้คำปฏิญาณว่าจะยกย่องเจ้าฟ้าหญิงบุญรอดเหนือกว่านางในและพระราชบุตร พระราชธิดาทุกพระองค์ กรมหลวงเทพหริรักษ์จึงยอมให้เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดกลับมาเตรียมตัวคลอดในพระบรมมหาราชวัง

ต่อมาเมื่อกรมหลวงอิศรสุนทรขึ้นเสวยราชสมบัติใน พ.ศ.๒๓๕๒ เจ้าฟ้าหญิงบุญรอดก็ทรงได้ดำรงตำแหน่งพระอรรคมเหสี ตามที่กรมหลวงอิศรสุนทรได้ปฏิญาณไว้กับกรมหลวงเทพหริรักษ์ ทรงมีพระราชโอรสสองพระองค์คือ เจ้าฟ้ามงกุฎ (รัชกาลที่ ๔) และเจ้าฟ้าจุฑามณี (พระปิ่นเกล้าฯ)

เรื่องราวความรักจึงจบลงด้วยดี และไทยเรายังได้มีกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวานไว้เป็นสมบัติอันทรงคุณค่าของชาติอีกชิ้นหนึ่งจนถึงทุกวันนี้ด้วย

 

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน


บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย(รัชกาลที่ ๒ )


ลักษณะคำประพันธ์ : แต่งตามกาพย์เห่เรือคือแต่งเป็นโคลงผสมกาพย์ตอนต้นเป็นโคลงสี่สุภาพ ๑ บท ตามด้วยกาพย์ยานี๑๑ ไม่จำกัดจำนวน กาพย์ยานีบทแรกจะเลียนความจากโคลงสี่สุภาพตอนต้น

 

เห่ชมเครื่องคาว

แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ๚

 

๏ มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา


๏ ยำใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ


๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง


๏ หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย


๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
รสทิพย์หยิบมาโปรย ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ


๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์


ความรักยักเปลี่ยนท่า ทำน้ำยาอย่างแกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น


๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ


๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม แกงคั่วส้มใส่ระกำ
รอยแจ้งแห่งความขำ ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม


๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอม สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์


๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน


๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลในอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง


๏ รังนกนึ่งน่าซด โอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวง เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน


๏ ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญ ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ


๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
ผักหวานซ่านทรวงใน ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ๚

 

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน(เครื่องคาว) อาจารย์วัลลา นาฏประเสริฐ โพสท์โดยคุณ kor pak

 

เห่ชมผลไม้

ผลชิดแช่อิ่มโอ้ เอมใจ
หอมชื่นกลืนหวานใน อกชู้
รื่นรื่นรสรมย์ใด ฤๅดุจ นี้แม
หวานเลิศเหลือรู้รู้ แต่เนื้อนงพาล ๚

 

๏ ผลชิดแช่อิ่มอบ หอมตรลบล้ำเหลือหวาน
รสไหนไม่เปรียบปาน หวานเหลือแล้วแก้วกลอยใจ


๏ ตาลเฉาะเหมาะใจจริง รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ
คิดความยามพิสมัย หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น


๏ ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำเป็น
จากช้ำน้ำตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง


๏ หมากปรางนางปอกแล้ว ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง
ยามชื่นรื่นโรยแรง ปรางอิ่มอาบซาบนาสา


๏ หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา
คิดความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร


๏ ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น เรียกส้มฉุนใช้นามกร
หวนถวิลลิ้นลมงอน ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน


๏ พลับจีนจักด้วยมีด ทำประณีตน้ำตาลกวน
คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวน ยลยิ่งพลับยับยับพรรณ


๏ น้อยหน่านำเมล็ดออก ปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรย
มือใครไหนจักทัน เทียบเทียมที่ฝีมือนาง


๏ ผลเกดพิเศษสด โอชารสล้ำเลิศปาง
คำนึงถึงเอวบาง สางเกศเส้นขนเม่นสอย


๏ ทับทิมพริ้มตาตรู ใส่จานดูดุจเม็ดพลอย
สุกแสงแดงจักย้อย อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย


๏ ทุเรียนเจียนตองปู เนื้อดีดูเหลือเรืองพราย
เหมือนศรีฉวีกาย สายสวาทพี่ที่คู่คิด


๏ ลางสาดแสวงเนื้อหอม ผลงอมงอมรสหวานสนิท
กลืนพลางทางเพ่งพิศ คิดยามสารทยาตรามา


๏ ผลเงาะไม่งามแงะ มล่อนเมล็ดและเหลือปัญญา
หวนเห็นเช่นรจนา จ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม


๏ สละสำแลงผล คิดลำต้นแน่นหนาหนาม
ท่าทิ่มปิ้มปืนกาม นามสละมละเมตตา ๚

 

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน(ผลไม้) อาจารย์วัลลา นาฏประเสริฐ โพสท์โดยคุณ kor pak

 

เห่ชมเครื่องหวาน

 

สังขยาหน้าไข่คุ้น เคยมี
แกมกับข้าวเหนียวสี โศกย้อม
เป็นนัยนำวาที สมรแม่ มาแม
แถลงว่าโศกเสมอพ้อม เพียบแอ้อกอร ๚

 

๏ สังขยาหน้าตั้งไข่ ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลง แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ


๏ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ แทรกใส่น้ำกะทิเจือ
วิตกอกแห้งเครือ ได้เสพหริ่มพิมเสนโรย


๏ ลำเจียกชื่อขนม นึกโฉมฉมหอมชวยโชย
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดย โหยไห้หาบุหงางาม


๏ มัศกอดกอดอย่างไร น่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความ ขนมนามนี้ยังแคลง


๏ ลุดตี่นี้น่าชม แผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
โอชาหน้าไก่แกง แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย


๏ ขนมจีบเจ้าจีบห่อ งามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบกราย ชายพกจีบกลีบแนบเนียน


๏ รสรักยักลำนำ ประดิษฐ์ทำขนมเทียน
คำนึงนิ้วนางเจียน เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม


๏ ทองหยิบทิพย์เทียมทัด สามหยิบชัดน่าเชยชม
หลงหยิบว่ายาดม ก้มหน้าเมินเขินขวยใจ


๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อน เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
ร้อนนักรักแรมไกล เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง


๏ รังไรโรงด้วยแป้ง เหมือนนกแกล้วทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง


๏ ทองหยอดทอดสนิท ทองม้วนมิดคิดความหลัง
สองปีสองปิดบัง แต่ลำพังสองต่อสอง


๏ งามจริงจ่ามงกุฏ ใส่ชื่อดุจมงกุฏทอง
เรียมร่ำคำนึงปอง สะอิ้งน้องนั้นเคยยล


๏ บัวลอยเล่ห์บัวงาม คิดบัวกามแก้วกับตน
ปลั่งเปล่งเคร่งยุคล สถนนุชดุจประทุม


๏ ช่อม่วงเหมาะมีรส หอมปรากฏกลโกสุม
คิดสีสไลคลุม หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน


๏ ฝอยทองเป็นยองใย เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
คิดความยามเยาวมาลย์ เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ๚

 

กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน(เครื่องหวาน) อาจารย์วัลลา นาฏประเสริฐ โพสท์โดยคุณ kor pak
 
 
 
 

 

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

 

ซ้ำขออภัยค่ะ

 

 
 
 
 
อ้างอิง : http://www.anyapedia.com/2014/06/blog-post_3067.html

หนังสือประชุมกาพย์เห่เรือ กองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ขนมปังขิง's profile


โพสท์โดย: ขนมปังขิง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
56 VOTES (4/5 จาก 14 คน)
VOTED: OMGINDI, นางเบิร์ด, Tabebuia, วันละห้าฟ้าเหลือง, igolf, cutiebarbie, 916, แมวฮั่ว แมวขี้งอน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มไรเดอร์อมของหลวง ชี้เกิดใน สน.จริง"ลิซ่า" เป้าแตก! ขณะไปดูแข่ง F1..ทำเอาแฟนๆ ขำและล้อเลียนไม่หยุดเพจดัง แฉ แม่สามารถถาม ใครเสียหายจากการกระทำของตน เงินที่นำมาตนคืนให้หมดแล้ว ที่บอกแผ่นดินเสียหาย เสียหายตรงไหน...ออกหมายจับผู้นำพม่า มิน อ่อง หล่ายตำนานตลอดไป!! กับการประกวด Miss planet international 2024 บอกเลยว่า.. ที่สุดเพจดัง เปิดคลิปวีดีโอ ชาย ไม่ใส่เสื้อ เข้าเซ่เว่นรวมเลขเด็ด! หวยแม่จำเนียร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567ลูกค้ากินบุฟเฟ่ต์ 210 บาทไม่ยั้ง ชาวเน็ตห่วงร้านขาดทุน เจ้าของเผยคำตอบพลิกความคาดหมายหน้าหนาวนี้...เที่ยวเลยไหม! ไปเลย เที่ยวที่ไหน ไปดูกันดราม่า “ทิชา” พุ่ง! หลังนักแสดงเด็กไข้สูงเข้าฉาก พ่อโพสต์เบื้องหลังสุดสมจริง จุดกระแสถกเถียงในโลกออนไลน์ชาวบ้านเฮ! แห่เก็บหอย คลื่นทะเลปากพนังซัดเต็มชายหาดเพจดังเเฉ ครูโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดสระบุรี ใช้คำพูดหยาบคายกับนักเรียนและเรียกเด็กว่า "ตัว"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หนุ่มไรเดอร์อมของหลวง ชี้เกิดใน สน.จริงเพจดัง เเฉ สันดานของทนายคนนึง...ผู้เสียหายถูกทางไฟแนนซ์โกง"10ข้อคิดเตือนใจ"จากพี่30+ถึงรุ่นน้อง20+คลารา เปตัชชิ หญิงสาวผู้เคียงข้างผู้นำเผด็จการของอิตาลี เบนิโต มุสโซลินี จนวาระสุดท้าย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
8 เหตุผลทำไมคนที่ตื่นเช้าได้ทุกวันถึงประสบความสำเร็จมากกว่าabsent: ขาดงาน"ดอกรองเท้าของดาร์วิน" (Calceolaria uniflora): ความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติในเตียร์ราเดลฟวยโกรู้หรือไม่!! ปัญหาปากเหม็น "ชาเขียว" ช่วยได้
ตั้งกระทู้ใหม่