3 พี่น้องนครแห่งพรายน้ำ ยูลิซิส-ไตรตอน-อูควาริส
Loon Special Prject (Merman Project)
เป็นการเล่าเรื่องประกอบภาพถ่ายแฟชั่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางเราแต่งขึ้นเอง ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณนายแบบและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้ทำให้โปรเจคนี้สำเร็จไปด้วยดี เราเดินกันเกือบสองกิโลเมตรเพื่อหาสถานที่ถ่ายทำ ดังนั้นจึงหวังว่า เรื่องราวและรูปถ่ายจะถูกใจผู้อ่านทุกท่าน นะคร้าบ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในยุคที่มนุษย์ยังหวั่นเกรงและบูชาเทพเจ้า มหาสมุทรทอันไกลโพ้นนั้น ใครจักล่วงรู้ว่าภายใต้เงาสะท้อนของคืนพระจันทร์เต็มดวงนั้น เมื่อมองลอดผ่านหินจันทรา จะได้เห็น นครแห่งพรายน้ำ ที่ตั้งอยู่ใจกลางมหาสมุทรที่ลึกเกินจะหยั่งถึง ซึ่งนครแห่งนี้ถูกปกครองโดย “โอเนส” เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่แห่งท้องสมุทร โอเนสปกครองเหล่าพรายน้ำและทุกสรรพสิ่งด้วยคุณธรรม จนกระทั่งวันหนึ่งโอเนสได้ต้องเสน่ห์ของพรายน้ำสาวนางหนึ่ง นางได้ให้กำเนิดบุตรชายสามคนแก่เขา
ยูลิซิส บุตรคนโตเกิดในคืนพระจันทร์เต็มดวง ได้รับพรจากเทพแห่งดวงจันทร์ให้เป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์
ไตรตอน เป็นบุตรคนกลางเกิดในคืนข้างแรม ได้รับพรให้เป็นผู้ที่มีความฉลาดหลักแหลม
และอูควาริส คนเล็กเกิดในคืนข้างขึ้น ได้รับพรให้เป็นผู้ที่มีจิตใจบริสทธิ์
ทั้งสามเป็นพี่น้องที่รักใคร่แบ่งปันกันมาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์ จนเวลาผันผ่านไป ทั้งสามเติบใหญ่กลายเป็นหนุ่ม
ด้วยความที่โอเนสอ่อนกำลังและอยากลองภูมิของลูกทั้งสาม โอเนสสั่งให้พวกเขาไปตกลงกันว่า ใครจะครองบัลลังก์ต่อจากพระองค์ แต่ทว่าทั้งสามกลับตกลงใจกันมิได้ เพราะต่างฝ่ายก็ต่างเลือกอีกคน แต่ด้วยความที่ผู้เป็นพ่อเห็นว่าบุตรคนโตอย่างยูลิซิสมีจิตใจดีและอาจเป็นที่พึ่งของน้องๆ จึงได้มอบอำนาจให้ยูลิซิสยูลิซิสจึงกลายเป็นดั่งผู้กุมบังเหียนทั้งหมดของนครแห่งพราย
ยูลิซิสผู้ซึ่งมีจิตใจโอบอ้อม และเห็นอกเห็นใจจากพรที่ได้รับ นัยย์ตาของเขาเปรียบเสมือนวสัตฤดูท่ามกลางความเย็นยะเยือกของผืนน้ำ แต่ทว่าความคิดของเทพเจ้านั้นยากแท้เกินหยั่งเช่นเดียวกันกับมนุษย์ เมื่อโดนความละโมภและอิจฉาริษยาครอบงำ ก็ทำให้จิตใจที่ใสดั่งแก้วกลับขุ่นมัวดั่งกรวดหินยาวค่ำคืน
เขาหารู้ไม่ว่าไตรตอน น้องคนกลางได้คิดแผนชั่วซึ่งยึดครองมงกุฏแห่งอำนาจ ซึ่งจะเพิ่มพละกำลังมหาศาลที่จะสามารถดลบันดาลได้ทุกสรรพสิ่ง ไตรตอนวางแผน โดยใช้น้องของตัวเองเป็นเครื่องมือ นั่นคือ อูควาริส โดยไตรตอนทำร้ายตนเองให้ได้มาซึ่งบาดแผล และกล่าวหาว่ายูลิซิสเป็นผู้กระทำเพราะมัวเมาในอำนาจ เขาสะกดผู้เป็นน้องด้วยเล่ห์เพทุบายต่างๆนาๆ จนอูควาริส ยอมเชื่อ
อูควาริสผู้ใสซื่อและบริสุทธิ์ดั่งผลึกทรายแก้วนั้น มิได้หยั่งรู้ถึงแผนชั่วของผู้พี่แต่อย่างใด เขาคิดว่าหากชิงมงกุฎจากยูลิซิสคืน คงทำให้เขาขาดพลังอำนาจและได้สติกลับคืนมา จึงได้วางแผนกับไตตรอนเพื่อที่จะยึดอำนาจจากเขา
การต่อสู้เกิดขึ้นอยู่เจ็ดวัน จนในที่สุด ด้วยเล่ห์กลในวาจาที่ไตตรอนใช้หว่านล้อมอูควาเรียส และล่อหลอกให้ยูลิซิสเกิดโทสะจนทำให้เขาขาดสติ ส่งผลให้ใช้พลังอำนาจเกินขีดจำกัดของตน ไตตรอนใช้ช่องโหว่นั้นชิงมงกุฎมาและสังหารเขาเสีย ยูลิซิสตายต่อหน้าอูควาเรียสน้องอันเป็นที่รัก
ส่วนทางอูควาริสผู้เป็นน้องเมื่อได้เห็นเช่นนั้น ก็ได้สติและล่วงรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของไตรตอนเพื่อหลอกใช้ตนเอง
เขารู้สึกเสียใจและได้ปลีกตัวเองออกมายังเกาะอันไกลโพ้น เสียงร่ำไห้ของอูควาเรียสดังไปถึงโอเนส บิดาที่อยู่อีกฟากฝั่งมหาสมุทร เขารู้สึกผิดที่ไว้ใจไตรตอน และมีส่วนในการปลิดชีวิตพี่ชายของตนจึงขอให้ผู้เป็นพ่อลงโทษตนเสีย โอเนสสาปให้อูควาเรียสเป็นโขดหินที่อันเดียวดายบนชายฝั่ง ที่เมื่อยามข้างขึ้น เขาจึงจะสามารถกลับมาเป็นตัวเองและต้องนั่งภาวนาจนกว่าวิญญาณของยูลิซิสจะอภัยให้
ส่วนทางด้านไตตรอนนั้น เมื่อได้ครองอำนาจทำให้เขาตาบอด ไตรตอนมัวเมาและลุ่มหลงในอำนาจ เขาใช้มันเพื่อรังแกผู้ไม่มีทางสู้และก่อภัยให้กับเทพตนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขากระหายที่จะทำสงคราม
วันหนึ่งขณะที่ไตตรอนนอนพักผ่อนอยู่นั้น เขาหารู้ไม่ว่าโอเนสได้กระทำการหลอกล่อเขาโดยแปลงกายเป็นพรายน้ำหญิงสาวที่งามที่สุด จนไม่มีเทพหรือมนุษย์คนใดที่อาจปฏิเสธนางได้เมื่อพบเห็น ด้วยความลุ่มหลงในรูปโฉม ทำให้ไตตรอนมิทันระวังตัวและถูกโอเนสผู้เป็นพ่อยึดมงกุฏคืนมาได้ โอเนสผิดหวังและแค้นเคืองในตัวลูกชาย ด้วยโกรธานั้นจึงสาปให้ไตตรอนกลายเป็นฟองคลื่น ที่สาดพัดให้เขาตะเกียกตะกายขึ้นบนบกและถูกดึงกลับลงทะเล อยู่เป็นนิจนิรันดร์