ไฟป่ากัมมันตภาพรังสีจากเชอร์โนบิล ระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง
เขียน โดย อันตวน เบเนสลาฟกี
ห้าปีมาแล้ว ที่ฉันเป็นสมาชิกกลุ่มดับเพลิงอาชีพในทีมของกรีนพีซรัสเซีย โดยมีอาสาสมัครที่อบรมมาแล้วเป็นอย่างดีคอยให้การช่วยเหลือ ฉันเดินทางไปแล้วหลายพันกิโลเมตรทั่วรัสเซียด้วยภารกิจดับเพลิง การผจญเพลิงเป็นงานอันตรายอยู่แล้ว แต่เมื่อมีไฟไหม้ในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนรังสี ย่อมอันตรายมากยิ่งขึ้น
ไฟป่าในพื้นที่ปนเปื้อนที่เมืองแบรงสค์
ไฟป่าเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนรังสีจากเชอร์โนบิล ไม่มีนโยบายจัดการใดๆจากภาครัฐ ไฟป่ามักเกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิโดยชาวบ้านที่ก่อกองไฟ และไฟก็ลามครอบคลุมพื้นที่หลายพันไร่ ผนวกกับสภาพภูมิอากาศที่อุ่นขึ้นและแห้งขึ้น ไฟลุกไหม้ถี่ขึ้นและทำลายพื้นที่กว้างขึ้นในสองสามปีมานี้
ไฟป่าจะโหมลุกไหม้ทุกฤดูใบไม้ผลิ ในพื้นที่ปนเปื้อนอย่างหนักทั้งในป่าและพื้นราบ
ชาวบ้านเผาหญ้าและลามไหม้บ้านหลังนี้ ในหมู่บ้าน สตารี วิชคอฟ
ตอนนี้ ฉันทำงานอยู่ใกล้หมู่บ้านสตารี วิชคอฟ ซึ่งทางการประกาศให้เป็นเขตต้องอพยพแล้วเนื่องจากเป็นพื้นที่มีการปนเปื้อนสูง แต่ยังคงมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 300 คน อีกหลายล้านคนตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากหมู่บ้านนี้ ที่ต้องดำรงชีวิตอยู่ในเขตปนเปื้อนและเสี่ยงในทุกลมหายใจ ทีมของเราพร้อมกับหน่วยบริการฉุกเฉินของเทศบาลและอาสาสมัครจำนวนหนึ่ง ป้องกันแนวไฟลามทุ่มจากป่าพรุที่ขึ้นอยู่รอบหมู่บ้าน
นักผจญเพลิงของกรีนพีซทำงานอย่างหนักเพื่อสกัดไฟที่กำลังลุกลาม
ฉันและเพื่อนนักดับเพลิงต้องดับไฟกันเองเพราะรัฐบาลไม่ปกป้องประชาชน ขณะที่การจัดการป่าไม้ทั่วประเทศของรัฐบาลก็ไร้ประสิทธิภาพ ปัญหาที่นี่จึงแย่ลงเพราะรัฐบาลเพิกเฉยต่อปริมาณการปนเปื้อนที่สูงมาก พื้นที่เหล่านี้ต้องการระบบการป้องกันไฟและข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัย
“ป่าทั้งผืนปนเปื้อนด้วยรังสีจากเชอร์โนบิลไม่ต่างอะไรจากระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง” ลุดมิลา โคโมกอร์ทเซว่า บอกกับฉันอย่างนี้ เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ และอดีตผู้ช่วยสภาเขตแบรงส์ก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนรังสีจากเชอร์โนบิลในระดับสูงมาก ลุดมิลา รู้ดีถึงความเสี่ยงจากหายนะจากเชอร์โนบิล
“ป่าไม้และป่าพรุสะสมรังสีไว้ และทุกขณะ หญ้าทุกต้นที่ถูกไฟไหม้ ก้นบุหรี่ทุกมวนที่ทิ้งไว้ หรือ แคมป์ไฟในป่า ล้วนติดไฟให้เกิดหายนะครั้งใหม่ได้ทั้งนั้น” ลุดมิลา กล่าว
อาสาสมัครกรีนพีซสวมชุดป้องกันสารพิษขณะถือเครื่องวัดกัมมันตรังสี
บึงป่าพรุในเขตแบรงสค์กักเก็บกัมมันตรังสีไว้มากพอที่จะเรียกว่าเป็นบ่อขยะกัมมันตรังสี ระหว่างที่เกิดไฟป่า นิวไคลด์กัมมันตรังสีจำพวก เคเซียม-137 สตรอนเตียม-90 และ พลูโตเนียม จะกระจายขึ้นสู่อากาศและปลิวไปตามลม จึงเป็นปัญหาสุขภาพที่น่าวิตก เพราะเมื่อเราสูดเอาอะตอมที่ไม่เสถียรเหล่านี้เข้าไป เท่ากับเราหายใจเอารังสีเข้าร่างกาย
เครื่องวัดกัมมันตรังสี แสดงระดับรังสีที่ตรวจวัดได้
ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายรังสีจากไฟป่าเป็นสิ่งที่ยากจะควบคุมได้ ในบางพื้นที่ที่ฉันเข้าไปดับไฟมีการปนเปื้อนสูงมากและไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆที่จะป้องกันรังสีที่เราต้องเผชิญได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการผจญเพลิงนั้นบางครั้งก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืน แต่มาตรการป้องกันต่างหากที่มีความสำคัญมากกว่า
แผนลาดตระเวนขึ้นอยู่กับข้อมูลจากดาวเทียม แต่ทั้งทีมยังคงออกไปตรวจสอบกันเองให้แน่ใจ เรามักจะเริ่มจากการมองหากองไฟในช่วงเช้า ใช้สองตาของเรานี่ล่ะมองไปรอบๆ และสูดหากลิ่นไหม้ไฟ ซึ่งจะช่วยพาเราไปยังจุดที่เกิดไฟไหม้ป่า
ทัศนคติของรัฐบาลก็ไม่ได้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่ในความเสี่ยง เจ้าหน้าที่พวกนี้ไม่มีชุดป้องกัน แต่อาสาสมัครต้องระดมทุนจากประชาชนซื้อให้กันเอง
นิโคไล มาคาเรนโก ผู้ตรวจการป่าไม้และผู้พิทักษ์ป่า บอกกับเราว่า ภารกิจในหน่วยของเขาต้องรายงานเหตุไฟป่าในเขตแบรงสค์ แต่เพราะต้องใช้เวลานานมากกว่ารถดับเพลิงจะมาถึง ผู้ตรวจการเหล่านี้จึงต้องต่อสู้กับอันตรายด้วยตัวเอง โดยใส่เพียงแค่แจ็คเก็ตและบูทส์ ที่ใช้อยู่ทุกวันออกไปผจญเพลิง เคยมีครั้งหนึ่งที่เกิดไฟป่าโหมไหม้รุนแรง เขาต้องดับไฟติดต่อกันสองวันและจำต้องนอนหลับในป่าที่เต็มไปด้วยรังสีปนเปื้อน
เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในเมืองซิงกา ประจำที่เขตปิคนิกในป่าที่เต็มไปด้วยรังสีปนเปื้อนในระดับสูง
เจ้าหน้าที่มักไม่ค่อยเต็มใจที่จะรับรู้ว่า เกิดไฟป่าอีกแล้ว และต้องช่วยกันดับ เมื่อปีที่แล้ว ไฟไหม้ป่าพรุที่ต้องใช้เวลาช่วยกันดับถึงสองเดือน
รัฐบาลเองก็สะเพร่าและไม่มีแนวทางการป้องกันที่เหมาะสมให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปนเปื้อนรังสี แต่กลับตัดโครงการป้องกันต่างๆ รวมทั้งการเฝ้าระวัง การรักษาพยาบาลและอาหารที่ไม่มีรังสีปนเปื้อน รัฐบาลไม่มีแม้แต่ทางออกที่เหมาะสมต่อปัญหาไฟไหม้ป่าพรุในพื้นที่อันตรายเหล่านี้
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงฉุกเฉินสอบถามข้อมูลจากหญิงชาวบ้านคนหนึ่ง
กรุณาร่วมกันยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับผู้คนอื่นๆเช่นเราที่กำลังพยายามปกป้องชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากหายนะภัยเชอร์โนบิล ช่วยกันบอกผู้นำของยูเครน เบลารุส และ รัสเซีย ให้มีมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมและให้แน่ใจว่าหายนะอื่นๆที่เคยเกิดขึ้นกับเชอร์โนบิล จะไม่เกิดขึ้นอีก พลังงานนิวเคลียร์ควรจะฝังไปกับอดีต
อันตวน เบเนสลาฟสกี เป็นเจ้าหน้าที่รณรงค์ด้านป่าไม้ และ เป็นนักผจญเพลิงของกรีนพีซรัสเซีย
ที่มา: Greenpeace Thailand

















