ระวังโรคใหม่ของเด็ก "โรคไม่รู้จักลำบาก"
เด็กไทยในปัจจุบัน และ อนาคต จะไม่สู้ชีวิต และ รักสบายมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความสบายในการเลี้ยงดู
เพราะทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่คนรวยเท่านั้นที่เลี้ยงลูกสบาย คนไม่รวยก็พยายามทำให้ลูกสบายเหมือน คุณหญิง คุณชาย พอเค้าออกไปพบโลกความจริง หรือ รู้ความจริงที่เป็นจริง ก็ถึงกับเสียหลัก
หรือบางครั้ง คนที่รวย เลี้ยงลูกให้ลำบาก ก็มีถมเถไปอนาคตเด็กน้อยอาจไม่แน่นอน แต่ที่แน่นอน แน่ๆ คือ ไม่มีชีวิตใคร สบายตลอดไป ต้องมีล้ม ลำบาก ดังนั้น การเลือกสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่เด็ก เรื่องของความลำบาก ความพยายาม ย่อมเป็นเรื่องดี
เพราะทุกวันนี้ ยังพาลูกๆ ไปฉีดวัคซีน คุ้มกันโรคไข้ โรคต่างๆมากมาย ทำไมถึงไม่คิด ถึงการสร้างภูมิค้มกันของ ความลำบาก กันบ้างถึงแม้มันจะยาก ที่ไม่ได้ง่ายเหมือนเดินไป รพ. จ่ายเงินหมอ แล้วได้มา เพราะมันต้องสร้าง จากการใส่ใจในการเลี้ยงดูลูก
พยายาม อดทนเพื่อลูกใน 4 ปีแรก เพื่ออนาคตของเค้าทั้งชีวิต เพราะ วันหนึ่งเค้าก็ต้อง ออกไปยืน และ ใช้ชีวิตเอง อยู่ดี โดยการไม่ตามใจ ฝึกลูกให้มีหน้าที่รับผิดชอบ รู้การแบ่งปัน การให้ การลำบาก
1.มีเทคโนโลยีครอบงำ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันอย่างการใช้สมาร์ทโฟน แทปเล็ต ได้กลายมาเป็นสื่อที่มีบทบาทกับเด็ก ๆ ตั้งแต่ตัวเล็กในยุคดิจิตอล และมีอิทธิพลมากขึ้นกว่าในสมัยก่อน ซึ่งมีให้เลือกหลายแบบ หลายราคาที่จับต้องได้ ทำให้พ่อแม่ยุคใหม่หยิบยื่นให้ลูกใช้ง่าย ๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาอันสมควร และไม่พยายามปฏิเสธหรือเบี่ยงเบนความสนใจให้ลูกไปทำกิจกรรมอย่างอื่น
2.อยากให้ลูกสบายเป็นผลทำร้ายลูกโดยไม่รู้ตัว
การมีพี่เลี้ยงไว้คอยดูแลลูกน้อย เพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่อันเหนื่อยหนักของพ่อแม่ โดยไม่ยอมสอนลูกให้ลองทำอะไรด้วยตัวเอง จนลูกไม่สามารถทำอะไรเป็นได้ เมื่อเติบโตขึ้นในสังคม เช่น เริ่มต้นเข้าโรงเรียนก็จะกลายเป็นภาระให้กับบุคคลรอบข้างที่ต้องคอยช่วยเหลือ
3.ปกป้องลูกมากเกินไป
เพราะความกังวลเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับลูกรัก จึงไม่หาโอกาสพาลูกออกไปเปิดประสบการณ์ต่อโลกภายนอก และจำกัดที่ทางให้ลูกอยู่ภายใน comfort zone ยอมให้ลูกนั่งดูทีวี เปิดยูทูป เล่นเกมในไอแพด ซึ่งเป็นการปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้กับสังคมภายนอก และไม่รู้จักกับการแยกแยะความแตกต่างระหว่างคนดีกับคนไม่ดี ขาดการสังเกตและเรียนรู้
4.ไม่ยอมปล่อยให้ลูกลำบาก เพราะพ่อแม่เคยลำบากมาก่อน
เพราะไม่อยากให้ลูกมีชีวิตเหมือนที่ตนเองเคยเป็นมาก่อน พอฐานะดีขึ้นจึงส่งเสริมและเลี้ยงลูกด้วยวัตถุ เงินทอง ฯลฯ เหล่านี้จะทำให้เด็กกลายเป็นคนขาดความอดทน ไม่มีความมั่นคงในจิตใจ อ่อนแอ และแข็งกระด้าง
5.การใช้ชีวิตติดรูปแบบจากอิทธิพลของสื่อ
ด้วยเทคโนโลยีที่เข้าถึงอย่างรวดเร็ว และมีการนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่ดูสวยหรูผ่านสื่อทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ หรือสื่อออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ มีการโชว์และแชร์ถ่ายภาพ อวดของหรู ชูของสวย ด้วยอิทธิพลของสื่อเองและการเลี้ยงลูกแบบตามใจมาก่อน ทำให้เด็กเกิดความอยากได้อยากมีตามกระแสสังคม
วินัยวุฒิภาวะ คือวัคซีนที่ดีที่สุด ที่จะรักษาโรคนี้
เครดิตภาพวาดจาก ศิลปิน คุณอมรินทร์ บุพศิริ