ผลไม้ที่มีวิตามิน C สูง 10 อันดับ
วิตามินซี เป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีเยี่ยมพอๆ กับวิตามินอี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของสารอาหารต้านมะเร็ง และใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง นอกจากนั้นประโยชน์ของวิตามินซียังมีอีกมากมาย ได้แก่ ช่วยในการสร้างคอลลาเจ้น ทำให้ผิวดูสดใสเต่งตึง ป้องกันโรคหัวใจ ลดความเครียด เป็นสารสำคัญในการผลิตสเปิร์ม เป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างและต่อสุขภาพของกระดูกอ่อน ข้อต่อ ระบบหลอดเลือด และผิวหนัง วิตามินซียังช่วยในเรื่องของการเสริมระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง หรือเป็นที่รู้กันดีว่าวิตามินซีช่วยป้องกันโรคหวัดและป้องกันโรคลักปิดลักเปิด
จากที่กล่าวมาแล้วประโยชน์ของวิตามินซีมีมากมาย เพื่อที่เราจะมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์เราควรได้รับวิตามินซีเข้าไปอย่างเพียงพอต่อการใช้ในแต่ละวัน ซึ่งแต่ละคนจะต้องการวิตามินซีในปริมาณที่แตกต่างกันขึ้นอยู่สภาวะร่างกายของแต่ละคน ในสภาวะปกติต้องการวันละ 60 มิลลิกรัม และต้องการมากขึ้นในคนที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงหรือคนที่ต้องการรักษาและป้องกันโรค อาจจะต้องการสูงถึงวันละ 1,000 – 2,000 มิลลิกรัม แล้วเราจะได้วิตามินซีจากที่ไหนล่ะ ผลไม้เป็นแหล่งของวิตามินซีที่ดีมาก โดยเฉพาะเมืองไทยมีผลไม้ตลอดทั้งปี ผลไม้แต่ละชนิดให้วิตามินซีแตกต่างกันมากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับชนิดและสายพันธุ์ เรามาดูผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง 10 อันดับแรกกัน
อันดับ 1 อะเซโรล่าเชอร์รี่
เป็นผลไม้เมืองร้อน ผลมีขนาดเล็กตอนสุกจะมีสีแดง อะเซโรล่าเชอร์รี่ถูกขนานนามว่า The King of C เพราะอะเซโรล่าเชอร์รี่ 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 1,600 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าสูงเว่อร์เมื่อเทียบกับผลไม้อื่น อะเซโรล่าเชอร์รี่ 1 ลูก มีวิตามินซีมากกว่าส้มลูกใหญ่ๆ ถึง 4 ลูก ถ้าเอามาคั้นให้ได้น้ำสด 1 แก้ว จะมีปริมาณวิตามินซีเทียบเท่าน้ำส้มคั้นสด 14 ลิตร นอกจากนั้นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยส่งเสริมให้เรามีสุขภาพดีขึ้น ภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น อีกทั้งห่างไกลจากโรคที่เกิดจากอนุมูลอิสระ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคที่เกิดจากความเสื่อม
อันดับ 2 ฝรั่ง
เมื่อเอ่ยถึงฝรั่งคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่หาง่ายที่สุดในเมืองไทย และที่สำคัญคือมีให้กินตลอดทั้งปี มีหลากหลายสายพันธุ์ พันธุ์ที่มีรสชาติอร่อยถูกปากและเป็นที่นิยมของคนไทย ได้แก่ ฝรั่งกิมจู ฝรั่งกลมสาลี่ ฝรั่งเวียดนาม ฝรั่งไร้เมล็ด ฝรั่งแป้นสีทอง และฝรั่งขี้นก อาจจะพูดได้เลยว่าฝรั่งเป็นแหล่งวิตามินซีที่หาง่ายและราคาถูกที่สุด ฝรั่ง 100 กรัม มีวิตามินซีถึง 228 กรัม นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยเส้นใย ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซี่ยม
อันดับ 3 แบล็กเคอเรนท์
เป็นผลไม้เมืองหนาว มีมากที่สุดในนิวซีแลนด์ แบล็กเคอเรนท์ถือเป็น The King of Berry เป็นราชาของผลไม้ตระกูลเบอรรี่ เพราะมีคุณค่าทางสารอาหารสูงที่สุด มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสุขภาพของดวงตา และสมอง แบล็กเคอเรนท์ 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 215 มิลลิกรัม นอกจากนั้นแบล็กเคอเรนท์ยังมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพ และอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอีกมากมาย
อันดับ 4 กีวี่
เป็นผลไม้เมืองหนาวมีถิ่นกำเนิดในเมืองจีน แต่ปัจจุบันปลูกมากในนิวซีแลนด์ ในเมืองไทยก็มีปลูกบ้างแล้วที่เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นทางตอนเหนือ กีวีจัดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงอีชนิดหนึ่ง กีวี่ 100 กรัม มีวิตามินซีสูงถึง 92 มิลลิกรัม นอกจากนั้นยังมีสารอาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินบีรวม ซึ่งถูกนำมาเป็นผลไม้เพื่อการชะลอวัยและต้านมะเร็งกันเลยทีเดียว และกีวี่ยังเป็นผลไม้ที่มีแร่ธาตุอีกหลายชนีด ได้แก่ เหล็ก แคลเซี่ยม แม็กนีเซี่ยม โพแทสเซี่ยม ฟอสฟอรัส แมงกานีส และสังกะสี จุดเด่นอีกข้อนึงของกีวี่คืออุดมไปด้วยไฟเบอร์ กีวี่จึงถูกจัดเป็นผลไม้ลดความอ้วนที่อยู่ในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว
อันดับ 5 ลำใย
ลำใยเป็นผลอีกชนิดหนึ่งที่หากินได้ง่าย ปลูกมากทางภาคเหนือของไทย เนื่องจากเป็นไม้ที่ชอบอากาศเย็น ประเทศจีนก็เป็นแหล่งที่ปลูกลำใยมากพอสมควร ลำใยจะมาเป็นฤดูกาลไม่มีให้กินตลอดทั้งปี จะออกวางตลาดตอนช่วงเดือนกรกฏาคม หรือบางท่านจะจำง่ายๆ ก็คือจะมาหลังทุเรียนนิดหน่อย ลำใยมีคุณค่าทางอาหารมากมาย แต่ที่รู้กันดีก็คือ เรื่องความหวาน ลำใยเป็นผลไม้ที่ให้น้ำตาลสูงมาก คนเป็นเบาหวานต้องระวัง นอกจากนั้นลำใยยังเป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญหลายตัว รวมทั้งวิตามินบี และวิตามินซีลำใย 100 กรัม จะมีวิตามินซีประมาณ 84 มิลลิกรัม ก็สูงพอสมควรพอที่จะทำให้คอลำใยได้อุ่นใจบ้างว่านอกจากน้ำตาลแล้วยังได้สารอาหารอย่างอื่นด้วย
อันดับ 6 ลิ้นจี่
ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ปัจจุบันมีปลูกในหลายประเทศ ในประเทศไทยก็มีปลูกเป้นจำนวนมากจนสามารถผลิตเป็นผลไม้ส่งออกทำเงินเข้าประเทศได้ปีละหลายพันล้านบาทเลยทีเดียว ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่ทานได้ทั้งแบบสด หรือนำไปแปรรูปได้หลายอย่าง เช่น นำไปเชื่อมทำเป็นลิ้นจี่ลอยแก้ว หรือจะนำไปปั่นเป็นสมูทตี้ลิ้นจี่ก็สุดยอดเลย เนื้อลิ้นจี่ 100 กรัม ให้วิตามินซี 72 มิลลิกรัม นอกจากนั้นยังมีวิตามินบีรวม และเกลือแร่ที่สำคัญต่อสุขภาพอีกหลายตัว ได้แก่ แคลเซี่ยม แม็กเนเซี่ยมและฟอสฟอรัส นอกจากเนื้อแล้ว ส่วนของสารสกัดจากเปลือกลิ้นจี่ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดีเยี่ยมทีเดียว ซึ่งคนสมัยก่อนหรือตามตำรายาจีนจะใช้เปลือกตากแห้งมาชงเป็นชาดื่ม ลองทำดูก็ได้นะ
อันดับ 7 มะละกอ
ถ้าพูดถึงมะละกอบางคนน้ำลายสอละ นึกถึงเมนูอาหารยอดนิยมคือส้มตำ ที่ต้องใช้มะละกอเป้นส่วนผสมหลัก แต่นั่นเป็นอาหารที่ใช้มะละกอดิบ และถ้าพูดถึงมะละกอสุกก็คงจะนึกถึงอาหารจานสุดท้ายที่จะถูกเสริฟบนโต๊ะอาหาร มะละกอเป็นผลไม้ที่เราหากินได้ตลอดทั้งปี ทุกดินแดนทั่วไทยและทั่วโลก มะละกอสุก 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 60 – 70 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีวิตามินบีและแร่ธาตุต่างๆ ที่สำคัญต่อสุขภาพ และมีสารพฤกษเคมีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผู้ที่ทานมะละกอเป็นประจำมีสุขภาพแข็งแรง ภูมิต้านทานโรคสูง ห่างไกลจากโรคมะเร็ง และมะละกอยังเป็นผลไม้ที่ให้ไฟเบอร์ทำให้การขับถ่ายเป็นไปได้ปกติช่วยแก้ปัญหาคนท้องผูกได้ด้วย
อันดับ 8 สตรอเบอร์รี่
สตรอเบอรี่ ผลไม้ลูกเล็กๆ หน้าตาน่ารัก แต่คุณค่าทางสารอาหารไม่เล็กตามขนาดลูกเลย สตรอเบอรี่เป็นผลไม้เมืองหนาว นิยมทานแบบผลสด เอามาทำเป็นเครื่องดื่ม เช่น น้ำสตรอเบอรี่ปั่น หรืออาจจะมีการดัดแปลงนำมาประกอบอาหารบ้างแต่ก็ยังคงให้มันสดอยู่อย่างนั้น เพราะสตรอเบอรี่สด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจและหลอดเลือด สตรอเบอรี่ 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 58 – 62 มิลลิกรัม นอกจากนั้นยังมีแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ แคลเซี่ยม แม็กนีเซี่ยม ธาตูเหล็ก ฟอสฟอรัส และฟูออไรด์ สตรอเบอรี่เป็นผลไม้ที่หาทานได้ตามตลาดผลไม้และซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ราคาก็ตามขนาดและแหล่งที่มาของสตรอเบอรี่
อันดับ 9 ส้ม
ส้ม เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่หากินได้ง่ายและมีให้กินได้ตลอดทั้งปี ส้มมีหลายชนิดหลายสายพันธ์ุ รสชาดก็แตกต่างกันไปตามสายพันธ์ ส่วนมากจะมีรสเปรี้ยวนำ ส้มเขียวหวานนิยมนำมาทานสด และคั้นเป็นน้ำส้ม พันธ์ที่มีรสชาดดีและเป็นที่นิยม ได้แก่ ส้มบางมด ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มโชกุน ส้มวาเลนเซีย ส้ม 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 53 มิลลิกรัม ส้มมีสารพฤกษเคมีหลายชนิด อีกทั้งส้มมีไฟเบอร์สูงคนที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายหากกินส้มเป็นประจำก็จะช่วยได้
อันดับ 10 สับปะรด
สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดแถบทวีปอเมริกาใต้ แต่ปัจจุบันหากินได้เกือบทุกดินแดนทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทยมีให้กินได้ทั่วประเทศ และหากินได้ตลอดทั้งปี เป็นผลไม้ยอดนิยม สามารถกินแบบผลไม้สด และนำไปทำเป็นอาหารได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน สับปะรดเป็นแหล่งของวิตามินและเกลือแร่ที่สำคัญหลายตัว เช่น แคลเซี่ยม แม็กเนเซี่ยม และมีโปแตสเซี่ยมสูงกว่าผลไม้อื่น วิตามินบี และวิตามินซี โดยใน 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 48 มิลลิกรัม สับปะรดเป็นผลไม้ที่ราคาไม่แพงแต่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย สับปะรดช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยในเรื่องระบบหมุนเวียนเลือด ช่วยป้องกันมะเร็งเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยเพิ่มกากใยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น