ที่เกาหลีมีผืนป่าที่อุดมสมบูณ์ ก็เพราะประธานาธิบดีปาร์ค ชุงฮี
Sunshine Sketcher โพสต์เรื่องนี้ว่า
เรื่องเล่าจากเกาหลี
ศาสตราจารย์แชยอง ชอย จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงนัม ดูเหมือนนักธุรกิจเกาหลีทุกกระเบียดนิ้ว พูดน้อย แต่งตัวเนี้ยบ ดูสุภาพเรียบร้อยมากกว่าจะเป็นนักวิจัยป่าไม้ อาจารย์แชยองมาเป็นตัวแทนกรมป่าไม้ของสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) เพื่อนำเสนอประสบการณ์ในการฟื้นฟูป่าที่ว่ากันว่าประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
สถิติอันน่าทึ่งก็คือเกาหลีใต้สามารถเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ที่เหลืออยู่ประมาณ 35% หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็น 64% ได้ภายในระยะเวลา 60 ปี (1952-2012) ทั้งยังเพิ่มความหนาแน่นของต้นไม้ต่อพื้นที่ได้ถึง 14เท่า ในช่วงเวลาเดียวกันเกาหลีใต้มีประชากรเพิ่มขึ้นสองเท่า ในขณะที่เศรษฐกิจเติบโตขึ้นถึง 300 เท่า จาก GDP 67 เหรียญสหรัฐต่อคน เป็น 23,837 เหรียญสหรัฐต่อคนในปัจจุบัน
อาจารย์แชยองย้ำว่า ประเทศของเขาไม่ได้รวยแล้วถึงมาฟื้นฟูป่า ย้อนกลับไปเมื่อ 50-60 ปีที่แล้ว เกาหลีใต้ยังมีฐานะยากจนมาก สาเหตุหลักของการตัดไม้ทำลายป่าในสมัยนั้นคือความต้องการไม้ฟืนมาเป็นเชื้อเพลิงในการให้ความอบอุ่น และการขยายพื้นที่เพื่อการเกษตร ตอนนั้นประชากรส่วนใหญ่ยังเป็นเกษตรกรที่ทำไร่เลื่อนลอย เปิดถางพื้นที่ใหม่ไปเรื่อยๆ หน่วยงานที่ดูแลป่าไม้ในสมัยนั้นก็ยังมีบทบาทไม่ชัดเจน อ่อนปวกเปียก
จุดเปลี่ยนที่สำคัญคือความมุ่งมั่นของผู้นำประเทศได้แก่ประธานาธิบดีปาร์ค ชุงฮี Park Chung-hee ตอนนั้นเกาหลีใต้กำลังประสบกับวิกฤติการณ์หลายด้าน ประเทศเพิ่งผ่านพ้นจากสงครามกลางเมือง การพัฒนาอุตสาหกรรมเพิ่งจะเริ่มต้น แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติหลายครั้ง ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง ดินถล่ม มีปัญหาการกัดเซาะหน้าดินอย่างรุนแรง ไม้ฟืนที่เป็นเชื้อเพลิงก็เริ่มขาดแคลน
ประธานาธิบดีชุงฮี ตระหนักว่าการตัดไม้ทำลายป่าเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ จึงตัดสินใจว่าต้องเริ่มฟื้นฟูป่าไม้อย่างจริงจังตั้งแต่เดี๋ยวนั้นไม่เช่นนั้นต่อไปลูกหลานชาวเกาหลีคงจะลำบากแน่ๆ จากนั้นก็เขาเดินหน้ารณรงค์ฟื้นฟูป่าอย่างจริงจัง โดยลงไปติดตามความก้าวหน้าในการฟื้นฟูเขาหัวโล้นหลายๆแห่งด้วยตัวเอง
อาจารย์แชยอง นำเอาวีดีโอเก่าๆที่บันทึกการฟื้นฟูป่าของเกาหลีใต้มาให้ดู ภูเขาหลายแห่งที่ได้รับการฟื้นฟูนั้นไม่ใช่เป็นแค่เขาหัวโล้นธรรมดา แต่เป็นภูเขาที่แทบไม่เหลือหน้าดินอยู่เลย การฟื้นฟูจึงต้องเริ่มตั้งแต่การปรับพื้นที่ดินใหม่ ขนดินขึ้นไปบนภูเขา ปลูกหญ้าเพื่อช่วยยึดเกาะดิน ก่อนแล้วจึงค่อยนำต้นไม้ไปลงและ ต้องดูแลชนิดประคบประหงม คอยขนดินขึ้นไปเติมเป็นระยะๆ
ภาพเคลื่อนไหวเก่าๆที่ฉายให้เห็นคนเกาหลีแบกจอบแบกเสียม ขนดินขึ้นไปปลูกต้นไม้บนเขาที่ไม่มีพืชพันธุ์อะไรเหลืออยู่เลย เป็นความพยายามอันน่าเหลือเชื่อ และทั้งหมดนี้มีคนระดับประธานาธิบดีไปกำกับด้วยตัวเอง
ประธานาธิบดีปาร์ค ชุงฮีต้องการแสดงให้เห็นว่าการฟื้นฟูป่าในพื้นที่ที่ยากสุดๆนั้นเป็นไปได้ และภายในเวลาแค่ 4 ปี โครงการฟื้นฟูป่าเพื่อรักษาหน้าดินที่เมืองยองอิลก็เริ่มเห็นผลสำเร็จ ต้นไม้กลับมาขึ้นคลุมภูเขาอีกครั้ง ภูมิทัศน์โดยรอบเริ่มกลายเป็นสีเขียว หลังจากนั้นโครงการฟื้นฟูป่าก็ขยายพื้นที่ไปทั่วประเทศ จนพลิกฟื้นผืนดินได้อย่างเหลือเชื่อ
ปัจจัยเสริมที่เอื้อให้การฟื้นฟูป่าในเกาหลีใต้ก้าวหน้าตามลำดับก็คือการเปลี่ยนผ่านเชื้อเพลิงจากไม้ฟืนไปเป็นถ่านหินและแก๊ส และสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนจากระบบเกษตรไปเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทำให้ความต้องการในการใช้ที่ดินลดลง
อาจารย์แชยองสรุปให้ฟังว่าปัจจัยสี่ประการที่ทำให้ประเทศเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูป่าไม้ก็คือ
1) มีผู้นำที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ
2) สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
3) กำหนดนโยบายที่ชัดเจนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กรมป่าไม้จนเป็นมืออาชีพ และ
4) บูรณาการนโยบายและเน้นการประสานงานทั้งระหว่างหน่วยงานของภาครัฐด้วยกันเองและภาคเอกชน
ก่อนจบอาจารย์แชยอง ย้ำอีกครั้งว่าประเทศของเขาไม่ได้ฟื้นฟูป่าตอนที่พัฒนาแล้ว ตอนนั้นเกาหลีใต้ยังยากจนมากแต่ก็ยังทำกันมาได้
บทเรียนสำคัญจากเรื่องจริงเรื่องนี้ก็คือการฟื้นฟูป่าหรือการทำงานอนุรักษ์ให้ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความตั้งใจ
'The best time to plant a tree was 20 years ago. The next best time is now'
- Chinese proverb
==================
เก็บตกมาเล่าตอนที่ 1 จากการประชุม Capacity-building workshop for Southeast Asia on ecosystem conservation and restoration to support achievement of Aichi Biodiversity Targets 28 April - 2 May 2014, Jambi, Indonesia
ภาพ: เปรียบเทียบพื้นที่โครงการฟื้นฟูป่าเพื่อรักษาหน้าดินที่ยองอิลปี 1973 (บน) และปี 1977 (ล่าง)
แล้วเมืองไทยล่ะครับ