5 ปีที่ความรักของเกย์มันช่างทรมานและเจ็บปวด ... คุณจะทนหรือเลิกครับ?
สวัสดีทุกท่านครับ ขอบคุณที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านนะครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก และครั้งแรกของผมที่อยากจะแชร์ประสบการณ์ในด้านความรักของเพศที่สาม ตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบ 5 ปี ผมไม่เคยบอกหรือเล่าให้ใครฟังเลย จนถึงวันนี้ ...
เล่าคร่าวๆนะครับ
ความรักครั้งแรกของผมเกิดขึ้นเมื่อมัธยมปลาย เราเริ่มคุยกันสักพัก และก็ได้เป็นแฟนกัน ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่มีแฟนคนแรกแล้วดีแบบนี้ แต่ผมไม่เคยแสดงตัวหรือเปิดเผยให้ใครทราบเลยว่ามีเค้าหรือแม้แต่ให้เขารู้จักกับที่บ้าน ... จะทำได้ยังไงได้ล่ะครับ ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าผมเป็นอะไร เพราะผมก็ปกติทั่วไป แต่เขาต่างหาก ที่พาผมไปบ้าน ไปพบญาติพี่น้องและแม่ของเขา เรารู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดี สรุปผมก็อยู่บ้านเค้าเรื่อยมา จากการที่เป็นฝ่ายถูกรัก มันก็เลยไม่ค่อยจะสนใจหรือใส่ใจกับสิ่งที่เขาทำให้เรา จนเริ่มรู้สึกรักเค้ามากขึ้น ๆ แต่เราเริ่มรู้สึกว่าเขารักเราน้อยลง ๆ
เรารักเขามาก จนรู้สึกว่าไม่อยากพูดคำหยาบคายต่างๆด้วยเลย แม้ว่าจะโมโหแค่ไหน ก็พูดดีด้วยตลอด ซึ่งโดยปกติเป็นคนไม่เคยยอมใครแต่กลับยอมให้เขาทำร้ายทั้งกายและใจ ทุกๆครั้งที่เราทะเลาะกัน หลายครั้งลงไม้ลงมือ แล้วก็ร้องไห้ .... เป็นอย่างนี้พักใหญ่ สามวันดีสี่วันร้ายอยู่แบบนี้ จนกระทั่งผมเอนทรานซ์ติดที่ มศก.สนามจันทร์ ต้องไปอยู่หอ เราก็ลากันด้วยดี แต่มันก็ไม่เป็นไปตามวิถีวัยเรียน
ผมเริ่มไม่อยากอยู่หอ ไม่อยากอยู่ที่นั่น เพราะ "คิดถึงเค้า" เลยใช้วิธีนั่งรถไปเช้าเย็นกลับ จนเริ่มหนักถึงขนาดไม่ไปเรียน ไม่อยู่หอ อาจารย์โทรตาม เพื่อนโทรตามก็ไม่รับ ช่วงนั้นปัญหารุมเร้ามาก ทางบ้านก็ว่า บอกเลยว่าเครียดมาก โชคดีที่แม่ของผมเข้าใจและเป็นกำลังใจให้ตลอด สรุปคือ ผมออกจากที่นั่นไม่ติดต่อใคร มาอยู่บ้านเค้า ส่วนเค้าก็ไปเรียน เย็นกลับมา ทำทุกอย่างที่คิดว่า ทำแล้วเค้าจะรัก เค้าก็ไม่รู้นะครับว่าที่ผมออกมา สาเหตุจริงๆคืออะไร .... ผมโง่มากใช่มั้ยล่ะครับ? ครับ ผมโง่จริงๆ ไหนจะต้องช้ากว่าคนอื่น ไหนจะไม่มีเงินใช้ ไหนจะต้องเครียดเรื่องเรียน ... แล้วรู้มั้ยครับเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?
เขาแอบคุยกับคนอื่นอยู่ !!
ทีแรก ผมก็ไม่รู้หรอกครับ แต่เห็นมันผิดสังเกต เลยจับพิรุธได้ เขาบอกกับผมว่าเขาเบื่อ เบื่อที่ผมไม่มีอนาคต ....ช่วงนี้เราทะเลาะกันบ่อยมาก ลงไม่ลงมือกันบ่อยมาก ผมเจ็บตัว แต่เจ็บใจตัวเองมากกว่า ว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ พ่อแม่เรายังไม่เคยเลย คิดถึงแม่มากๆ แต่ถึงขนาดนี้ ผมก็ไม่เคยที่จะเล่าให้ใครฟังเลยนะครับ ว่าผมทุกข์อะไร เวลาผมกลับไปบ้านผมก็จะพยายามทำปกติ เพื่อให้แม่สบายใจ เพราะแม่รู้แค่ว่ามาอยู่บ้านเพื่อน
หนึ่งปีผ่านไป ผมซื้อหนังสือมาอ่านเองที่บ้านก่อนช่วงสอบใหม่ คราวนี้ผมสอบได้มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ ผมภูมิใจมาก ผมมีเพื่อน มีสังคม ได้ทำกิจกรรมนู่นนี่ของมหาวิทยาลัยหรือชมรม เรียนหนัก งานเยอะ เหมือนทุกอย่างจะเรื่มเป็นไปได้ด้วยดีใช่ไหมครับ ....แต่เปล่าเลย
ผมกลับบ้านค่ำๆ เพราะอยู่กับเพื่อนบ้าง ทำงานกลุ่มบ้าง ทำกิจกรรมบ้างตามความสนใจ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่มันทำให้เราทะเลาะกันเรื่อยๆอยู่ดี ตลอดปีหนึ่งและปีสองของผม จนกระทั่ง ...
ผมจับได้อีกครั้งว่า เค้าคุยกับคนอื่นเป็นครั้งที่สอง !
ผมไม่อยากจะเชื่อว่าจะมาเจอเหตุการณ์ที่ผมเกลียดที่สุดเป็นครั้งที่สองแบบนี้ ผมจับพิรุธได้อีก เพราะเขาทำดีกับผมผิดสังเกต และพอรู้แล้ว ให้เหตุผลที่ว่า ผมไม่มีเวลา เขาบอกว่าผมให้ความสำคัญกับงาน เพื่อน คนอื่น มากกว่าเขา .... ?? มันเจ็บปวดมากนะครับที่เจอแบบนี้ในชีวิตคู่ทั้งๆที่นอนกอดทุกคืน ทำงานเสร็จ ทำกับข้าวให้กิน .... เราผิดใช่มั้ย ที่เราเรียน ที่เรามีสังคม
เค้าด่าทอผมสารพัดทุกสัตว์ เปลี่ยนหน้าของผมเป็นหน้าต่างๆที่เค้าสรรมาด่า เขาฉีกหนังสือ พังของๆผม เพราะเขารู้ว่าผมรักหนังสือมาก
ไม่ว่าจะไปไหน ไปห้าง ไปกินข้าวด้วยกัน เราก็เหมือนพร้อมที่จะทะเลาะกันตลอดเวลา แม้กระทั่งจะมีเซ็กซ์กันก็ตาม ... น่าสมเพชจริงๆ
ช่วงนี้ทะเลาะกันบ่อย บ่อยมาก เขาขอเราเลิกหลายครั้ง ผมไม่เคยพูดคำๆนั้นเลย ผมอึดอัดมาก เพราะไม่มีใครรู้ จึงไม่มีใครที่สามารถให้ผมปรับทุกข์หรือขอคำปรึกษาได้ ผมคิดเองคนเดียว คิดในใจ แก้ไขปัญหาเองตลอด บางทีก็เล่าในใจว่ามีคนฟังเราอยู่ ผมต้องอดทน อดกลั้นอย่างมาก ยิ่งเวลากลับไปบ้านแล้วมองหน้าของแม่ เวลาแม่หัวเราะ หรือเห็นแม่ยิ้ม ผมแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ทีเดียว ....
ระหว่างนี้ผมกับเขา ก็ทะเลาะกันเนืองๆ จนเกือบจะไม่มีเรื่องราวอะไรแล้ว แต่แปลกอยู่ที่ผมก็ใจอ่อนทุกที โกรธเค้าได้ไม่นานก็ใจอ่อนอีกละ
จนกระทั่งปีสาม ผมได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ 4 เดือน เขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะดีใจหรือเสียใจเลย เขาบอกกับผมเรื่อยๆว่า หมดรักไปนานแล้วทุกครั้งที่ได้ยิน มันทำให้ผมหมดแรงและไม่มีอารมณ์จะอ่านหนังสือ ช่วงนี้ก่อนไปผมยุ่งมาก อาจจะไม่ได้ดูแลเขาเต็มที่ (ทั้งๆที่เขาไม่ได้รักเรา) แต่เขาก็เหมือนใจหายแอบเศร้าๆอยู่เหมือนกัน ช่วงที่อยู่นี่ ผมก็คุยกับเขาเรื่อยๆ ทั้งโทรทั้งวอทส์แอพ แต่โทรไปเขาก็ไม่ค่อยคุย เราก็พูดอยู่ฝ่ายเดียว เขาบอกว่าไม่มีไรจะคุย วอทส์แอพไปเขาก็ถามคำตอบคำบ้าง วันไหนอารมณ์ดีก็ดีหน่อย คุยกันยาว แต่ถึงกระนั้นเขาก็หาเรื่องทะเลาะกับผมได้แม้ขนาดคุยเป็นตัวหนังสือก็ตามถึงขนาดจะเลิก ... เป็นแบบนี้เรื่อยมา เขาไม่เข้าใจหรอก ว่าอารมณ์คนที่ต้องจากบ้าน จากพ่อแม่ หรือแฟนไปไกลๆ มันว้าเหว่แค่ไหน คิดถึงแค่ไหน ไม่ต้องพูดถึงอยากได้ยินเสียง บางทีแค่อยากเห็นข้อความที่อ่านแล้วชื่นใจ ยังไม่มีเลย
ใช่ว่าระยะเวลาที่คบกันมานั้น ไม่มีใครผ่านเข้ามาอยากทำความรู้จักกับผม ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง ผมก็ไม่ได้ขี้เหร่หรือด้อยอะไรกว่าคนอื่น ยอมรับว่าผมคุย แต่แค่คุยเล่นผ่านๆเท่านั้น หากจะทำก็ทำได้แต่เพราะผมฝังใจ และเกลียดผมไม่มีวันทำ ...
จนกระทั่งเดือนที่สาม ผมมีปัญหาเรื่องวีซ่า ทำให้ต้องกลับไทย แล้วกลับไป ผมเจออะไร เดาสิครับ ท่านคงทายถูก.... ครับ
เขาคุยกับอีกคนอยู่ ผมรู้ได้ไงหรอ? ไม่ยอมวางโทรศัพท์เลยครับ ใบเสร็จเติมเงินเต็มไปหมด แต่ไม่เคยโทรหาผมเลยซักครั้ง โทรศัพท์ไม่เคยเอาไว้ห่างตัว ไปข้างล่าง เข้าห้องน้ำก็เอาไป ถามว่าคุยกับใครก็บอกว่าเพื่อน เพื่อนที่ไหนคุยกันจะเขิน จะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่??
จนคืนนั้น ผมตื่นไปเข้าห้องน้ำ เลยแอบดู ... ใจเต้นแรง หน้าร้อนผ่าว อ่านข้อความที่คุยกัน ดูเป็นห่วงกันเหลือเกิน ยิ่งรู้ว่าเคยไปเจอกันด้วยยิ่งหน้าชานะครับ ผมยังไปเห็นรูปคู่อีก โอ้ หัวใจมันวาบเหลือเกินครับ .... ทำไมครับ ? ผมกลับไปด้วยหัวใจที่คิดถึงมาก เพราะไปไม่กี่วันก็ต้องบินกลับ แล้วมันควรจะรู้สึกยังไงหรอครับที่เจอแบบนั้น? พอถามเขาก็บอกว่าไม่มีไร เค้าก็ยังทำดีกับผมอยู่ เราก็ไปกินข้าว ซื้อของกันเพราะผมจะกลับแล้ว
เรื่องล่าสุดตอนนี้ คือวันก่อนกลับ โน๊ตบุคเกิดมีปัญหา เปิดไม่ติด เค้าบอกว่าเราทำ ผมก็บอกไปว่าใช้ตั้งแต่วันที่เขาไม่อยู่บ้านแล้ว แล้วมันก็ไม่เห็นเป็นอะไร สรุป เขาก็โทษเราอีกนั่นละครับ จนผมกลับมาอยู่นี่ เขาก็ยังไม่เลิกหาเรื่องเลย ขนาดพิมพ์คุยนะครับ เขาจะยียวนประสาทอยู่ตลอด ให้ผมอารมณ์เสีย ผมก็อึดอัด ไม่มีใครปรึกษา กลับไปไม่รู้จะต้องเจออะไรอีกบ้าง ที่แน่ๆคือ หากกู้ข้อมูลกลับไม่ได้ เขาเอาผมตายครับ
ตอนนี้ผมรู้สึกเสียใจ หดหู่ เสียความรู้สึกมาก ไม่คิดว่าคนที่เรารัก จะเปลี่ยนหรือพูดจาได้เห็นแก่ตัวขนาดนี้ ผมไม่ได้ปรักปรำเขานะครับ อย่าคิดว่าผมรักเขา แล้วทำไมผมเอาเขามาว่าแบบนี้ ... เปล่าครับ ผมแค่อยากระบายความในใจที่เก็บความรู้สึกมาตลอดหลายปีน่ะครับ ผมรักเขาอยู่เสมอ และถ้าเลิกกัน สำหรับผม ผมยังเป็นเพื่อนเขาได้และยังเป็นห่วงเขาเสมอครับ ตอนนี้ผมก็ได้แต่หวังว่าคงจะดีขึ้นแต่อีกใจก็ไม่อยากทนแล้ว จึงอยากรู้ว่าถ้าเกิดแบบนี้ คุณจะทำยังไงครับ?
เรื่องยาวมาก ขอบคุณที่รับฟังนะครับ