พระแม่กาลี (มหากาลีเทวี) เทพีแห่งการทำลายอุปสรรค ขจัดศัตรู
พระแม่กาลี คือร่างที่แบ่งภาคมาจาก พระอุมาเทวี (พระแม่อุมา) โดยทรงมีจุดประสงค์เพื่อลงมาปราบอสูรที่มีนามว่า อสูรทารุณ
กล่าวกันว่า อสูรทารุณ เป็นอสูรที่ฆ่าไม่ตาย และหากเมื่อใดที่เลือดหยดลงถึงพื้น เลือดนั้นก็จะทวีขึ้นเรื่อยไปไม่หมดสิ้น ด้วยความคิดที่ว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์มากมายเหนือใคร และไม่มีใครสามารถฆ่าได้ จึงทำให้อสูรทารุณเกิดฮึกเหิมลำพองในความเก่งกาจของตน และได้นำอิทธิฤทธิ์ความเก่งกาจมาใช้กลั่นแกล้งผู้คน และเทวดาทั่วไป จนในวันหนึ่งก็เกิดความคิดที่จะครอบครองโลกทั้งสาม
เมื่อเหล่าเทวดา นางฟ้า และผู้ทรงศีลทั้งมวล ทราบเรื่อง ก็นำเรื่องไปกราบทูลเข้าเฝ้าพระอิศวร เพื่อให้ช่วยหาทางปราบอสูรตนนี้ แต่เมื่อได้ฟังความอันตรายของอสูร ก็ไม่มีเหล่าเทวดาองค์ใดกล้าอาสาออกไปสู้รบเลย
ในที่สุด เทพสตรีแห่งสวรรค์ หรือองค์พระศรีมหาอุมาเทวี ก็ตั้งใจจะอาสาออกไปปราบศัตรูร้าย พระองค์ได้ขอพรต่อพระศิวะผู้เป็นเจ้า เพื่อให้ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ ก่อนจะเสด็จไปบำเพ็ญตบะเพื่อทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ให้มีฤทธิ์มากจนมีอำนาจปราบศัตรูร้ายได้
พระองค์ได้เข้าไปทำพิธี ณ อุทยานในแนวเขตแดนป่าหิมพานต์ โดยพระศรีมหาอุมาเทวีได้ให้องค์ขันทกุมารผู้เป็นโอรส ช่วยทำหน้าที่ดูแลปกป้องตน และห้ามไม่ให้ใครย่างกรายเข้าไปในพิธีได้เป็นอันขาด หลังจากเสร็จพิธีแล้ว พระแม่กาลีจึงรีบเสด็จออกไปตามล่าหาอสูรทารุณ ซึ่งเพียงไม่นาน ทั้งคู่ก็ได้พบเจอกัน พระแม่กาลีได้ต่อสู้เผชิญหน้ากับอสูรทารุณอย่างยาวนาน เนื่องจากทั้งคู่มีฤทธิ์อำนาจสูงด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ในจังหวะหนึ่งที่พระแม่กาลีทรงใช้ดาบฟันคออสูรจนขาด เลือดของอสูรจึงหยดลงบนพื้น ทำให้อสูรจำนวนมากทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และผุดขึ้นมาจากหยดเลือดเหล่านั้น เมื่อพระแม่กาลีเห็นดังนั้น ก็คิดว่าคงไม่มีวันฆ่าอสูรตนนี้ให้ตายได้เป็นแน่
ด้วยเหตุนี้เอง พระแม่กาลีจึงคิดกลอุบายขึ้นมาเพื่อหวังจะเอาชัยชนะในครั้งนี้ พระองค์ตั้งใจที่จะตัดหัวของอสูรพร้อมทั้งดูดกินเลือดทั้งหมดของอสูรก่อนที่เลือดจะตกลงถึงพื้น และเมื่อกินจนหมดสิ้นแล้ว รูปกายของพระแม่กาลีจึงอ้วนใหญ่มากขึ้น ในมือของพระแม่กาลีนั้นถือหัวของอสูรที่ตัดร้อยเอาไว้เป็นพวง อสูรทารุณจึงสิ้นฤทธิ์ลงในที่สุด
ด้วยความดีพระทัยที่ทรงได้รับชัยชนะ พระแม่กาลีจึงทรงเต้นระบำอย่างสำราญหทัย จนลืมไปว่าพระองค์มีร่างกายที่ใหญ่โต พระแม่กาลีทรงยกพระบาทขึ้นโดยหวังจะกระทืบเท้าลงพื้นโลกอย่างเต็มที่ ในเวลานั้นเอง เหล่าเทวดาทั้งหลายก็เกรงว่าพื้นโลกจะแตกสลายหากพระแม่กาลีกระทืบพระบาทลงบนพื้น จึงรีบพากันไปเข้าเฝ้าพระศิวะอย่างเร่งด่วน
เมื่อพระศิวะได้ฟังคำจากเหล่าเทวดา ก็ได้ตะหนักในความจริงว่า ที่พระแม่กาลีทรงมีรูปกายใหญ่โตน่ารังเกลียดเช่นนี้ก็เพราะปราบยักษ์มา พระแม่กาลีน่าจะจดจำพระองค์ได้บ้าง พระศิวะจึงรีบเสด็จไปนอนขวางพื้นโลกไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่พระแม่กาลีจะกระทืบเท้าลง เมื่อพระแม่กาลีก้มลงเห็นพระศิวะนอนขวางอยู่ ก็ชะงักด้วยความเกรงอกเกรงใจพระสวามี นางจึงหยุดการกระทำดังกล่าวลง เหล่าเทวดาทั้งหลายต่างพากันโล่งอกโล่งใจเมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไป จากนั้น พระแม่กาลีก็กลับร่างคืนสู่ปกติ เหตุการณ์ทั้งหมดจึงก็กลับมาสงบดังเดิม