เลือกตลาดอย่างไรดี? ให้ตรงกับเป้าหมายเมื่อคุณต้องการส่งออกสินค้า
การเริ่มทำธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ทุกๆ คนมักมีการวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในภายหลัง ยิ่งธุรกิจของเรามีแผนที่จะต่อยอดหรือต้องการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ ยิ่งต้องมีการวางแผนจัดการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เพราะในแต่ละประเทศทั้งเรื่องของการความเป็นอยู่ วิถีชีวิต ค่านิยม รสนิยมก็แตกต่างกันแล้ว ดังนั้นก่อนเริ่มทำควรศึกษาให้ดี วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆเกี่ยวกับการเลือกตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกมาฝากค่ะ
1.ขนาดของตลาดในประเทศเป้าหมาย
ขนาดของประเทศหรือตลาดที่เราต้องการจะส่งสินค้าไปขายก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อสินค้าของเราเป็นสินค้าMass ที่มีกำไรต่อชิ้นน้อยและเน้นขายปริมาณมากๆ ถ้าจำนวนลูกค้าหรือขนาดของกลุ่มเป้าหมายมีขนาดไม่พอ การเข้าไปทำตลาดก็อาจไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน
2.สินค้าของคุณเป็นที่ต้องการในตลาดเป้าหมายหรือไม่
แม้ว่าบางประเทศจะยังไม่มีผู้ที่เข้าไปทำตลาด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นตลาดที่น่าเข้าไปเสี่ยงเสมอไป เนื่องจากสินค้าประเภทที่เราผลิตอาจไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดนั้นๆ หรือที่พูดสั้นๆว่า “ไม่มี Demand” นั่นเอง
3.กำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
การพิจารณากำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในประเทศที่จะส่งสินค้าไปก็มีความสำคัญ บางประเทศอาจมีความต้องการสินค้ามาก แต่ถ้ากำลังซื้อของประชากรในประเทศมีต่ำ สินค้าที่จะนำเข้าไปขายก็ต้องปรับราคาให้ถูกลงโดยลดปริมาณต่อ package หรือลดคุณภาพลง
4.เสถียรภาพและความเสี่ยงภายนอก
ในบางประเทศแม้จะมีขนาดและสภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย แต่การจะเข้าไปทำตลาดกลับมีปัจจัยความเสี่ยงอันนอกเหนือจากสภาวะทางเศรษฐกิจ เช่นความไม่แน่นอนทางการเมือง สภาพความไม่สงบในประเทศ รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ที่เข้าไปลงทุน
5.พฤติกรรมพื้นฐานของผู้บริโภคต่อสินค้าของเรา
นอกเหนือจากปัจจัยในระดับมหภาคที่กล่าวมาแล้วสินค้าที่เราส่งเข้าไปทำตลาดจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามันตรงกับความต้องการและพฤติกรรมการบริโภคของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหรือไม่ ทั้งความชอบในลักษณะ สีสัน หรือแม้แต่ เทรนด์กระแสที่กำลังได้รับความนิยมที่เป็นปัจจุบัน
6.ความยากง่ายในการส่งออกและนำเข้า
การขนส่งสินค้าเองก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน การขนส่งไปยังพื้นที่ห่างไกลเช่นแอฟริกา ยุโรป ตะวันออกกลางอาจมีผลต่อความสดของสินค้า บางประเทศไม่มีท่าเรือของตนเองทำให้การขนส่งต้องไปยังประเทศข้างเคียงและต่อด้วยการขนส่งทางบกเช่นรถบรรทุกข้ามประเทศอีก นอกจากอายุของสินค้าจะลดลงแล้วค่าใช้จ่ายในการขนส่งยังสูงมากอีกด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการตั้งราคาที่เหมาะสมเมื่อสินค้านั้นถึงมือลูกค้าทั้งสิ้น
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการข้อมูล/คำปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศ สามารถโทรสอบถาม DITP Call Center 1169 หรือ http://www.ditp.go.th
และสามารถรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: https://www.facebook.com/DITP-Service-Center-1169-494092043957211/?fref=ts และ Instagram: DITPSERVICECENTER