แบ่งปันชีวิตมนุษย์เงินเดือน : เงินเก็บครบ 1 ล้านบาท ได้เมื่ออายุ 28 ปี (สาระ)
ผมเองมีความตั้งใจตั้งแต่เรียนจบแล้วว่าต้องมีเงินเก็บครบ 1 ล้านบาทให้ได้ก่อนอายุ 30 ปี ซึ่งผมก็เพิ่งทำได้ครับ
ผมไม่ได้อยากจะอวดหรืออะไร แต่เพียงอยากจะแบ่งปันและเป็นกำลังใจให้ผู้ที่มีเป้าหมายเดียวกันครับ
Background ของผมคือมนุษย์เงินเดือนธรรมดาคนนึงครับ ไม่ใช่แพทย์ ไม่ใช่ทันตแพทย์ ไม่ใช่เภสัชกร หรือ ดีเทลยา ไม่ใช่อัยการ หรือ ผู้พิพากษา ไม่ใช่ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือ ผู้จัดการกองทุน ...
ผมเป็นพนักงานกินเงินเดือนบริษัททั่วๆ ไป เหมือนกับคนส่วนใหญ่ครับ ยังไม่แต่งงาน ในด้านครอบครัวก็มาจากครอบครัวธรรมดา พ่อเป็นลูกจ้างโรงงานบริษัทเอกชนจนเกษียณ แม่เป็นแม่บ้าน มีน้องๆ ให้เลี้ยงดู มรดกแต่เพียงสิ่งเดียวที่พ่อแม่มีให้ผมคือการศึกษาแค่เพียงเท่านั้น
ผมจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง และจบปริญญาโทที่เรียนแบบภาคนอกเวลาราชการ ที่คณะเดิม มหาวิทยาลัยเดิม โดยค่าเทอมปริญญาโทผมเป็นคนจ่ายเองจากเงินเดือนของผม ผมควรจะได้ล้านแรกเร็วกว่านี้ ติดที่ตรงนี้เองทำให้ผมเสียเวลาเก็บเงินไปมากเพราะค่าเทอมนั้นมหาโหดจริงๆ
ผมเรียนจบปริญญาตรีปี 2010 และเริ่มต้นชีวิตมนุษย์เงินเดือนเลยหลังเรียนจบ ไม่เคยทำกิจการของตัวเอง ไม่เคยค้าขายใดๆ เกิดมาเพื่อเป็นลูกจ้างเค้าเท่านั้น ย้ายงานรวมทั้งหมดสองครั้ง เพื่ออัพเงินเดือน ตอนเรียนโทก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย เอาเงินเดือนมาจ่ายค่าเทอม
------------------------------------------
นี่คือพอร์ทฯ สินทรัพย์ของผมที่สะสมได้ครบหนึ่งล้านบาทแรกครับ โดยที่พอร์ทฯ นี้จะ === 'ไม่รวม' === สิ่งต่อไปนี้
-เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและเงินประกันสังคมที่นำส่งทุกเดือน
-เงินค่างวดคอนโดและรถ
-ทุนเรือนหุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์ของมหาวิทยาลัยที่ผมจบมา 100,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดของสมาชิกสมทบจะสามารถซื้อได้ (เอาไว้เป็นเงินสำรองกรณีฉุกเฉินจริงๆ )
-ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เพราะมันเป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง ไม่มีมูลค่าเงินสดใดๆ

Asset กลุ่มแรก : หุ้นสามัญ (น้ำหนักร้อยละ 27)
ผมเปิดพอร์ทฯ กับโบรกฯ เจ้านึงที่ไม่เก็บขั้นต่ำเพราะขี้งก (ในตลาดมีไม่กี่เจ้า ลองไปค้นเองนะครับ) และบางเดือนผมก็ไม่ได้เทรดเยอะ ... ผมลงทุนแบบ Value Averaging คือกันเงินเดือนไว้ส่วนหนึ่ง ประมาณ 20-30% ของเงินเดือนที่ได้ ฝากไว้กับพอร์ทฯ หุ้น คอยจับจังหวะเข้าซื้อในแต่ละเดือนแบบมีเป้าหมายและแผนที่ชัดเจนในแต่ละเดือน โดยหุ้นที่ผมซื้อ มีเงื่อนไขดังนี้ :
-P/E น้อยกว่า 15
-BV น้อยกว่า 3
-ROE, ROA มากกว่า 10% ติดต่อกันอย่างน้อย 5 ปี
-Dividend Yield มากกว่า 5% ติดต่อกันอย่างน้อย 5 ปี
-Profit Margin มากกว่า 10% ติดต่อกันอย่างน้อย 5 ปี
-Current Ratio มากกว่า 1
-D/E Ratio น้อยกว่า 1
-ไม่ขาดทุน มีกำไรสะสม และมีเงินสดเหลือเฟือ
-เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานดีและมีมูลค่าที่เหมาะสม
ซึ่งเงื่อนไขพวกนี้ผมคิดขึ้นมาเองตามความพอใจส่วนบุคคล ไม่อ้างอิงจากทฤษฎีหรือกูรูใดๆ เอาแนวลูกทุ่งๆ แบบนี้แหละ เรื่องกราฟหรือเรื่องเทคนิคผมไม่สันทัดและไม่เวลาจ้องขนาดนั้น พอร์ทฯ นี้ดอยมั่งไม่ดอยมั่งแล้วแต่ช่วง แต่ปีที่แล้วตลาดขาลง ก็ทำให้ขาดทุนกันไป ยิ่งผมนี่เป็นเม่าพันธุ์แท้กลุ่มสุสาน ทำเอานอนไม่หลับไปหลายวันช่วงหลังประมูล 4G แต่ก็ยังมีกระแสเงินสดจากเงินปันผลมาปลอบใจบ้าง ก็ถือว่าถัวๆ กันไป
พอร์ทฯ นี้มูลค่า 300k นิดๆ (มูลค่าต้นทุนนะ)
Asset กลุ่มที่สอง : เงินสดหรือรายการเทียบเท่าเงินสด (น้ำหนักร้อยละ 4.6)
ผมเป็นคนที่ไม่เชื่อในดอกเบี้ยเงินฝาก เพราะมันน้อยนิดและเสียโอกาสในการเอาเงินตรงนี้ไปทำให้งอกเงย และเงินสำรองผมมีแล้วในสหกรณ์ออมทรัพย์ สัดส่วนเงินตรงนี้เลยน้อยนิด เป็นเพียงแค่ส่วนที่ฝากประจำเท่านั้น ล่าสุดผมเพิ่งถอนเงินสดออกมาซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งกรมธรรม์ ทำให้เงินสดเหลือสัดส่วนน้อยที่สุดในพอร์ทฯ ผม นั่นก็คือ 50k หน่อยๆ
Asset กลุ่มที่สาม : ประกันชีวิต (น้ำหนักร้อยละ 30) ...

พอพูดถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต คนส่วนใหญ่จะไม่ชอบเพราะเงินจมนาน ผลตอบแทนไม่ดี ฯลฯ ... แต่ผมโคตรชอบ
กรมธรรม์ประกันชีวิตถือเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง ซึ่งมีมูลค่าและยิ่งนานวันยิ่งมีมูลค่า สามารถนำไปค้ำประกันหรือสามารถกู้เงินได้ตามมูลค่าเงินสด และค่าเบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ผมสะสมกรมธรรม์ประกันชีวิตเพราะมันคือ "ความแน่นอน" เป็นจำนวนเงินที่เราจะได้ "แน่นอน" และถ้าเราตายคนข้างหลังเรา "ไม่ลำบากแน่นอน" และในพอร์ทฯ ผมกว่า 60% เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงที่สูงมากๆ อยู่แล้วเลยต้องการความแน่นอนมาช่วยถ่วงความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ทไว้ โดยผมสะสมไว้สามกรมธรรม์ ดังนี้
-ออมทรัพย์ ส่งเบี้ยปีละ 30,000 บาท ส่งมาแล้ว 4 ปี
-Unit Linked ส่งเบี้ยปีละ 60,000 บาท
-บำนาญ เพิ่งถอยกรมธรรม์ใหม่มาสดๆ ร้อนๆ จ่ายเบี้ยไปแล้ว 150,000 บาท ได้มาแค่ใบเสร็จรับเงินชั่วคราวตอนนี้ 555+
ผมรู้สึกว่าบริษัทประกันชีวิตที่เป็นเจ้าตลาด ความคุ้มค่าของ product สู้เจ้าเล็กๆ ไม่ได้ แต่ก็หลวมตัวไปแล้วสองกรมธรรม์ ดังนั้นกรมธรรม์ตัวล่าสุดผมเลยไม่เลือกของเจ้าตลาดครับ
ค่าเบี้ยผมสะสมไว้ทุกเดือน เดือนละเท่าๆ กัน พอสิ้นปีถึงเวลาจ่ายค่าเบี้ยก็เอาเงินสดที่เก็บไว้บวกกับโบนัสบางส่วนมาจ่าย อาศัยวินัยและอดเปรี้ยวไว้กินหวาน สัดส่วนสินทรัพย์ในส่วนนี้ประมาณ 300k
Asset กลุ่มที่สี่ : กองทุนรวม (น้ำหนักร้อยละ 30)
นอกการกรมธรรม์ประกันชีวิตแล้ว ผมบ้ากองทุนมาก กระจายการลงทุนไปในกองทุนหลายรูปแบบ รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ส่งคำสั่งซื้อ โดยผมจะลงอัตราส่วนกองทุนที่เสี่ยงๆ ไว้ 20-25% และลงในกองทุนตราสารหนี้ประมาณ 5-10% ผมถือว่ากองทุนตราสารหนี้มีค่าเทียบเท่าเงินสด ... เพราะถ้าชอร์ตจริงๆ ก็ขายได้เพราะมัน T+2 เท่านั้น
LTF บางกอง ผมครบกำหนดไปแล้วก็ไม่ขายคืน ปีที่แล้วหุ้นตกหนักจากเขียวๆ กลายเป็นแดงเดือดยกแผง ผมกลั้นใจซื้อสวนทุกเดือนเหมือนเดิมครับ
เนื่องจากผมเป็นสมาชิกหลาย บลจ. (บ้ากองทุน) ผมเลยใช้บริการเวป wealthmagik สำหรับจดรายการซื้อกองทุนของผม (ใช้เวปแทน excel) ทำให้เห็นภาพรวมของการลงทุนผ่านกองทุนรวมได้ดีกว่ามากรอก excel เอง
การซื้อกองทุน ผมอาศัยการซื้อผ่านบัตรเครดิต (กรณี LTF-RMF) เพื่อควบคุมกระแสเงินสด ส่วนกองทุนอื่นๆ ทำเรื่อง Auto Direct Debit รายเดือนไว้กับบัญชีเงินเดือน (พอเงินเดือนออกปุ้ป โดนหักไปกองทุนก่อนเลย 555+) ปีที่แล้วเห็นพวกกองทุน Health Care กำลังบูม เลยบ้าไปซื้อตามเค้า สุดท้ายตอนนี้เจ๊งตามระเบียบเม่าไทย แฮ่ะๆ พอร์ทฯ นี้มีมูลค่าประมาณ 320k (ต้นทุนนะ)
และ Asset กลุ่มสุดท้าย : ทองคำแท่ง (น้ำหนักร้อยละ 6)
มีเงินนับเป็นน้อง มีทองนับเป็นพี่ ... ผมอยากเป็นพี่ เลยสะสมทอง 555+
หลายคนบอกว่าเก็บทองไม่ดี เพราะมีมีดอกเบี้ย ไม่มีเงินปันผล ไม่มีสภาพคล่อง อันตราย เอาไปทำประโยชน์ใดๆ ไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าปีที่แล้วยามที่หุ้นแดงทุกวัน ... มีทองคำแท่งนี่แหละครับที่ผมลูบคลำแล้วรู้สึกดีที่สุด แม้ว่าทองคำจะไม่มีดอกเบี้ยให้คุณได้ แต่มันก็ไม่เคยทรยศคุณ ที่สำคัญ ... ทองคำสามารถเอาไว้ขอสาวได้ด้วยครับ (ประเด็นเลยตรงนี้ 555+)
ผมสมัครแผน Gold Saving กับบริษัทขายทองแห่งหนึ่งใต้ตึกยูไนเต็ด ถนนสีลม (มีอยู่สองเจ้า ผมไม่บอกนะครับว่าเป็นลูกค้าเจ้าไหน) โดยให้หักเงินจากบัญชีไปทุกเดือนเพื่อไปเฉลี่ยซื้อทองทั้งเดือน ยามทองแพงก็จะได้หน่วยน้อย ยามทองถูกก็จะได้หน่วยมาก พอร์ทฯ นี้มีมูลค่าประมาณ 70k
============
สุดท้าย ... อยากจะเป็นกำลังใจให้กับคนมีเป้าหมายเดียวกันครับ ผมเองยังกระจอกอยู่มาก มีคนทำได้ก่อนผมมากมาย แต่โดยรวมแล้วผมพอใจในสิ่งที่ผมทำได้ในวันนี้
พฤติกรรมการใช้เงินของผมนั้นเรียบง่าย ผมชอบกินกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลและอาหารตามสั่งแถวที่ทำงาน โทรศัพท์ผมได้แถมมาจากซื้อคอนโด (แต่ tablet นี่กัดฟันซื้อเพราะตอนเรียนโทมันต้องใช้) ชอบนั่งรถไฟฟ้าและรถเมล์และอูเบอร์ ถ้ามีต้องขนของถึงจะขับรถ สมัยเรียนเคยใช้เงินเท่าไหร่ ปัจจุบันนี้ผมยังใช้เงินเท่าเดิม
รายได้ส่วนที่เข้ามาแต่ละเดือนหลังจากหักหนี้สิน (คอนโด รถ) และส่งให้พ่อแม่แล้ว ผมเอาเก็บก่อนเลย เหลือจากเก็บเท่าไหร่ค่อยเอามาใช้และ เงินที่เหลือจากเก็บจากลงทุนแล้ว "ผมใช้เกลี้ยงทุกเดือน" เหมือนเป็นจิตวิทยาหลอกตัวเองว่าเราใช้เงินเป็นรางวัลชีวิตตัวเองจนไม่เหลือซากในแต่ละเดือน บ้านและรถผมก็พอมี (ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วตอนนี้มันเป็นของไฟแนนซ์ก็เหอะ ... แต่สักวันนึงมันก็เป็นของผม) และผมมีความสุขตามสมควร
หวังว่ากระทู้ของผมนี้ จะเป็นใจบันดาลแรงให้ใครหลายๆ คน ไม่มากก็น้อย นะครับ :')
http://pantip.com/topic/34887605?utm_source=facebook&utm_medium=pantip_page&utm_content=Boom&utm_campaign=34887605
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
วิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลว
จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
เจาะลึกเบื้องหลังดราม่า "โตเกียว" และ "หนุ่มแว่น" กับปมร่างทรงเกม ROV ที่ยังหาข้อยุติไม่ได้
กัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
วงในแฉ "ฮุนเซน" ยกหูหาจีน และสหรัฐ เจ้าตัวถึงขั้นยอมแลกผลประโยชน์ของชาติเพื่อรักษาเก้าอี้
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
ต้อนรับเทศกาลฤดูหนาวกับเทศกาล"Yule"แห่งแสงสว่างและการเริ่มต้นใหม่
อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิด
หนุ่มนักดนตรีพบจดหมายตอบรับ “ฮาร์วาร์ด” หลังผ่านไป 6 ปี จากความเสียใจสู่บทเรียนชีวิตที่โลกออนไลน์ยกย่อง
ด่วน! กองทัพภาค 1 แจ้งเตือนประชาชน 4 อำเภอชายแดน ‘สระแก้ว’ งดเข้าที่พักอาศัย-ด่วน! ทภ.1 แจ้งเตือนประชาชน 4 อำเภอชายแดนสระแก้ว
สุขภาพดีก็พอแล้ว
สันติภาพคือความสำเร็จ "โดรนลอยบนท้องฟ้าสื่อสัญญาณว่าเราครอบครองได้อย่างครบถ้วน"
ของสดเลือดสีแดงสาด จิ้มน้ำจิ้มรสเด็ดแบบอีสาน "ซอยจุ๊" อร่อยเหนือกาลเวลา
"สกีบก" ของเล่นเด็กในฐาน สามัคคีคือพลังเก้าเท้าพร้อมกันสร้างความผูกพันที่มีความแข็งแกร่งขอวนักวางแผน

