อาหารทะเลแช่แข็ง ไม่ดีจริงเปล่า
ในการเลือกซื้ออาหารทะเล รวมถึงอาหารชนิดอื่นๆ ยังคงมีความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งว่า อาหารแช่แข็งคืออาหารคุณภาพไม่ดี ไม่สด และสูญเสียคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติที่แท้จริงไป.... เอ๊ เรื่องนี้จริงแค่ไหน มาดูกัน
ก่อนอื่น มาดูกันว่าการแช่แข็งคืออะไร การแช่แข็งคือการใช้อุณหภูมิต่ำมากๆ (ประมาณ -18 องศา) ซึ่งทำให้จุลินทรีย์ไม่สามารถเติบโตได้ เพราะจุลินทรีย์ต้องใช้น้ำในการเจริญเติบโต แต่น้ำได้ถูกเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งไปแล้วนั่นเอง นอกจากนี้มันยังหยุดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้รักษารสชาติและสารอาหารไว้ได้ดี
ดังนั้น ถ้าของสดต้องถูกทิ้งไว้นานกว่าเราจะรับประทาน เห็นได้ชัดคืออาหารทะเลสด ที่ต้องขนส่งจากทะเลไปจังหวัดอื่น การแช่แข็งจึงช่วยรักษาคุณภาพของอาหาร ไม่ใช่การทำลายแต่อย่างใด
แต่จะได้อาหารทะเลแช่แข็งที่ดีหรือไม่ เราต้องมองลึกลงไปว่า อาหารนั้นมาจากแหล่งไหน การแช่แข็งทำไปเพื่อประโยชน์ด้านไหน เพราะ
1. อาหารแช่แข็งอาจแบ่งใหญ่ๆ ได้สองแบบ แบบแรกคืออาหารแช่แข็งที่วางขายตาม supermarket ร้านสะดวกซื้อ ที่แช่แข็งมาเพื่อจะได้วางขายได้นานๆ ส่วนอีกแบบคือ นำของสดๆ มาแช่แข็งแล้วจัดส่งให้ผู้บริโภคทันที ไม่ใช่การแช่เพื่อวางขายไว้นานๆ แต่ทำเพื่อประโยชน์จัดส่งเท่านั้น
2. คุณภาพก่อนการแช่แข็ง คือตัวกำหนดคุณภาพอาหารแช่แข็งนั้นๆ เช่น ถ้ากุ้ง หอย ปู ปลา เพิ่งจับมาสดๆ ร้อนๆ แล้วเอามาแช่แข็งเลย ก็จะเป็นการฟรีซสภาพนั้นไว้ ทำให้ได้อาหารคุณภาพดี โดยเคยมีการทดสอบของ The Alaska Seafood Marketing Institute เค้าลองให้คนทานอาหารที่ผ่านการแช่เย็นธรรมดา กับอาหารที่ผ่านการแช่แข็งอย่างดี ก็พบว่าหลายคนแยกความแตกต่างไม่ออก
แล้วเราแช่ตู้เย็น แช่น้ำแข็งธรรมดาได้ไหม? นั่นขึ้นอยู่กับว่าระยะเวลาระหว่างที่ของทะเลถูกจับขึ้นมา กับการนำมาทำอาหารนั้น ห่างกันแค่ไหน อาหารทะเลที่ผ่านการแช่แข็งแล้วจะแทบไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา อาหารสามารถเก็บไว้ได้หลายเดือนทีเดียว ส่วนอาหารที่แช่เย็นมานั้น ถ้าเป็นไปได้เราซื้อมาแล้วควรรีบนำมาปรุงเลย แต่หากต้องเก็บจริงๆ ถ้าเก็บถูกวิธีก็จะอยู่ได้ประมาณ 1-3 วัน แล้วแต่ชนิด โดยก็ต้องดูด้วยว่าร้านที่ซื้อมานั้นไว้ใจได้แค่ไหน เพราะเราไม่รู้เลยว่าของนั้นถูกวางขายมานานเท่าไรแล้ว นอกจากนี้จะมีจุลินทรีย์บางชนิดที่ยังเติบโตได้ในอาหารแช่เย็นด้วย เพราะอุณหภูมิยังไม่ต่ำพอจนยับยั้งการเจริญเติบโตได้นั่นเอง
สำหรับใครที่ชอบทานปลาดิบ ปลานั้นก็ต้องผ่านการแช่แข็งมาเช่นกัน เพราะการแช่แข็งฆ่าเชื้อโรคได้ สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นภูมิปัญญาเก่าแก่เลยก็ว่าได้ เพราะชาวไอนุ ชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เค้าทานแซลมอนดิบกันมาเป็นเวลายาวนานมากๆ ก่อนที่ชาวญี่ปุ่นจะเริ่มทานกันเสียอีก โดยชาวไอนุก็ได้ทำการแช่แข็งแซลมอนในหิมะเป็นเวลาหลายวันก่อนนำมาทาน
นอกจากเรื่องการรักษาคุณภาพอาหารทะเลแล้ว National Geographic ก็ยังให้ความเห็นเรื่องอาหารทะเลแช่แข็งว่า มันช่วยให้ชาวประมงทำงานปลอดภัยมากขึ้น เพราะความกดดันเรื่องเวลาลดลง และการขนส่งถึงมือผู้บริโภคก็ดีต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นด้วย เพราะหากอาหารไม่ได้แช่แข็ง ก็จะต้องส่งด้วยเครื่องบินอย่างเดียว
มาดูกันว่า อาหารทะเลแต่ละชนิด แช่แข็งแล้วจะเก็บไว้ได้นานแค่ไหน
- ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาบะ เก็บได้ประมาณ 4 เดือน
- ปลาเนื้อขาว เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า ปลาหิมะ เก็บได้ประมาณ 8 เดือน
- กุ้ง ปู เก็บได้ประมาณ 6 เดือน
- หอย เก็บได้ประมาณ 4 เดือน
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆนะคะ เอาเป็นว่าจะเลือกซื้ออาหารทะเลแบบไหน แช่เย็นหรือแช่แข็ง ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และข้อจำกัดของแต่ละคน แต่ที่แน่ๆ ให้เลือกจากแหล่งที่มีคุณภาพ ไว้วางใจได้ ก็โอเคแล้วค่า