ประสบการณ์ 1 ปีการเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตของผมก่อนลาออก ใครคิดจะทำควรอ่าน
สวัสดีครับ ผมจะมาเล่าประการณ์การเป็นตัวแทนขายประกันชีวิต ให้ฟัง ผมเป็นตัวแทนของบริษัท ........ มา 1 ปีจึงตัดสินใจลาออก ตอนแรกก็คิดอยู่นะว่า จะตั้งกระทู้ดีมั้ย ผมไม่ได้คิดลบต่ออาชีพนี้ แต่ไม่ชอบการบริหารแบบที่เจอ
เพราะใจหนึ่งก็อยากปล่อยวาง จากที่เข้าเข้าวัดทำบุญ
แต่พอเห็นหลายๆ คนที่เรารู้จักและไม่รู้จักผิดหวังเสียใจกับอาชีพนี้แล้ว ก็อดปล่อยวางไม่ได้
กลัวจะมีเหยื่อ หรือคนอื่นๆ อีกมากมายที่จะหลงเข้ามาอาชีพนี้แล้ว ผิดหวังกลับไป
ถามว่าอาชีพขายประกันเงินดีมั้ย รวยมั้ย สบายมั้ย
ผมตอบได้ชัดเจนเลยครับว่า
อาชีพนี้ เงินดี รวย และสบาย แน่นอน
แต่...
แต่อะไรละ ใช่ครับ มันมีแต่...
มันขึ้นอยู่กับองค์กร บริษัท ถ้าเจอองค์กรดี หน่วยงานดีก็ดีครับ
แน่นอนครับ ถ้าใครเข้ามาอ่านและเป็นตัวแทนขายประกันบางคน อาจจะพูดว่า ผมมันอ่อนเอง กระจอกเอง ไม่มีความสามารถ ล้มเหลวแล้วมาตั้งกระทู้ประจานอาชีพคนอื่น แต่ผมเผื่อไว้แล้วครับคำพูดพวกนี้ ที่อาจจะมีในกระทู้นี้
ที่ผมบอกว่าแต่...ขึ้นอยู่กับองค์กร เพราะอาจความโชคร้ายของผม ที่เจอองค์กรที่ไม่ดีสำหรับผมมั้งครับ แต่อาจจะดีสำหรับคนอื่น
เพราะส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบเอาเปรียบใครและไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบ ไม่ชอบหลอกลวงใคร สร้างภาพให้ดูดี ผมจึงล้มเหลวกับองค์กรนี้
ถ้าใครเข้ามาอ่านแล้วมีเพื่อนๆในเฟส ที่ขายประกัน อาจจะเห็นเพื่อนๆโพสต์ โชว์เงิน โชว์รถ โชว์บ้าน โชว์เงินเดือนหลักแสนหลักล้าน โชว์อาหารการกิน อยู่ดีกินดี สุดท้าย จบลงที่ ประกาศ รับสมัครงาน ใช่แล้วครับ มองผิวเผิน มันไม่ต่างจาก พวกอาชีพขายตรงเลยครับ (หมายถึงบางองค์กร หน่วยงานนะครับ ที่จะมีลักษณะนี้)
ที่เขาทำแบบนี้ก็เพราะว่า เขาต้องการหาคน หาสายงาน หาคนทำงาน หาเงินให้เขา เพื่อให้เขาเติบโต เป็น ผจก. เป็นผอ.
บางครั้งเราเห็น พวกขายตรง ธุรกิจเครือข่าย ที่โพสต์ตามเพจ ตามเว็บต่างๆ แล้วมีคนด่า ถ้างรวยแล้วทำไม ไม่ชวนญาติพี่น้องมาทำด้วยกัน นั่นแหละครับท่านผู้ชมครับ ไม่ต่างกัน
ผมเข้าอาชีพนี้ ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่เงินเดือนประมาณ 3 หมื่น เพื่อมาหาอาชีพที่ว่าบอกว่า
ตอบโจทย์คนเบื่องานออฟฟิต ที่เบื่อตรอกบัตรเข้างาน มีคนมาคอยจูจี้ กดดัน ประจบสอพอ
มองหาอิสระ ด้านเวลา เงิน และชีวิต
แต่เอาเข้าจริง
ต้องหายอด ต้องหาคน ต้องหางาน ต้องถ่ายรูปส่งไลน์ตามเวลาที่กำหนด ยอดไม่ได้ต้องทำงานหนักๆ ออกต่างจังหวัด ค่าใช้จ่ายออกเอง มีคนมากำหนดหนักกว่าเดิม
พอหยุดที ลาที ก็โทรมาพูดกดดัน
ผมเข้าอาชีพนี้ ผมขายประกันด้วยความซื่อสัตย์ต่อจรรยาบรรณ เพราะก่อนที่ผมจะมาทำอาชีพนี้ ผมก็ได้ศึกษาปัญหาต่างๆไว้บ้าง เรื่องตัวแทนเก่าๆทำเสียไว้ ผมก็ได้ตั้งใจว่า ผมจะเปิดใจคนที่เคยคิดลบต่อการทำประกันชีวิต จนให้เขาๆยอมรับและเปิดใจกับมันอีกครั้ง แรกๆผมมีความสุขมากที่ได้ดูแลและบริการลูกค้า จนมีลูกค้าช่วยแนะนำบอกต่อปากต่อปาก
แต่ผมกลับลืมศึกษาปัญหาที่ตัวแทนเจอ หรือ แต่ผมเคยค้นหาแล้ว มันไม่เจอ เพราะไม่มีใครได้กล่าวเอาไว้
การทำประกันชีวิตคือสิ่งที่ดี และที่จะดีคือมีตัวแทนที่ดูแลสม่ำเสมอ
ผมนอกประเด็นมายาว ผมขายประกันมาเรื่อยๆ 3-4 เดือนแรก ก็เริ่มมีลูกค้าในมือ พอมีลูกค้าในมือเราดูแลดีบริการดี เขาก็จะแนะนำให้เราเรื่อยๆ เริ่มมีรายได้เข้ามา จนประมาณเดือนที่6เข้ามา ก็มีรายได้เงินรัน จากที่ลูกค้าจ่ายรายเดือน ก็ทำให้เป็นรายได้ประจำ
(ลืมบอกว่า ตัวแทน ไม่มีเงินเดือนประจำนะครับ มีแต่ค่าคอมมิชชั่น ) รัน อยู่ที่ประมาณเดือนละ 10,000 กว่าบาท ไม่รวมค่าคอมรายปีหรือรายหกเดือนที่เเราขายได้ระหว่างเดือน รวมรับเดือนหนึ่งก็ตกประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท ถามว่า ดีมั้ย ดีสิครับ สำหรับอาชีพนี้ ที่บอกว่า อิสระเวลา แน่นอน อยากขายก็ขาย ไม่อยากขาย ก็มีเงินรันให้
แต่.....ตรงนี้ครับ ถ้าลูกค้าที่ทำประกันแบบรายเดือน แล้วลูกค้าไม่จ่าย แล้วแต่เหตุอะไรของลูกค้า บางทีเราตามลูกค้าว่าติดขัดอะไร พอทราบปัญหาเราก็เข้าใจ จะบังคับเขาจ่ายก็ใช่เรื่อง แต่ ตัวแทนต้องจ่ายเบี้ยประกันแทนลูกค้าครับ งง ใช่มั้ยครับ บางท่านคงงง ผมก็งงครับ เพราะเรื่องนี้เราไม่รู้มาก่อนเลย ตอนแรกลูกค้าเลิกจ่ายเคสสองเคส ก็ไม่มีอะไร พอหนักเข้าๆ มันมากขึ้นเรื่องๆ
คิดดูนะครับ รายเดือน เฉลี่ย เดือนละ 1,500 บาท 2 เคส 3,000 บาท ถ้า 10 เคส 15,000 บาท รายรับ 20,000 บาท
แต่กับต้องมาจ่าย 15,000 บาท บางคน ถึงขั้นติดลบ ยืมเงินคนอื่นมาจ่าย
เรื่องนี้เรียกว่า การจ่ายแล๊บ ครับ แล๊บ คืออะไร คือ เคสรายเดือน ที่ลูกค้าหยุดจ่าย จ่ายไม่ไหว ตัวแทนต้องจ่ายแทน
แล้วเพื่ออะไร เพื่อรักษาเปอร์
เปอร์คืออะไร เปอร์คือคะแนนวัดสถานะตัวแทนที่จะได้รับโบนัส และคะแนนไว้ขึ้นระดับผจก.
โดยที่ตัวแทนใหม่เข้ามาจะมีที่ 100% เท่ากันทุกคน ขอบเขตของบริษัท ห้ามต่ำกว่า 60% สำหรับโบนัส 80% สำหรับขึ้นต่ำแหน่ง ผจก. แต่องค์กรที่ผมสังกัด บังคับห้ามต่ำกว่า 80% (โดยวันที่ผมลาออก ของผมอยู่ที่ ประมาณ 92%)
โดยการปล่อยแล๊บ หรือปล่อยกรมธรรม์ให้สิ้นผลของบริษัท กำหนดให้ตัวแทนปล่อยได้เดือนละ1เคส
ในตอนแรกผมรู้เรื่องการจ่ายแล๊บ ผมตกใจ พอมารู้กฎเกณฑ์การให้ปล่อยได้ก็สบายใจขึ้นมาบ้าง
แต่มันไม่ใช่แบบนั้นนะสิครับ พอเราปล่อยปุ๊บ ผจก.มันก็ช้อนกลับมา (ช้อน หมายถึง จ่ายแทนเราในเคสที่เราปล่อยไปแค่1เคส)
จากที่เราปล่อยไปสรุปก็คือไม่ได้ปล่อย จาก 2 เคส เป็น 3 จาก 3 เป็น 4 เป็น 5 สะสมไปเรื่อยๆจนเป็น 10 11 เรื่อยๆ สรุปคือไม่ได้ปล่อยสักเคส ทั้งๆ ที่เปอร์ผมก็ยังเยอะอยู่ ตอนผมออก ประมาณ 20 เคส ลองเอา 20×1,500 บาท ที่เราต้องจ่ายไปสิครับ รายรับ 40,000 จ่าย 30,000 บางคนจ่ายเกินรายรับก็มี แน่นอน ยังไม่รวมค่าบ้านค่ารถค่ากิน แทบกระอัก
ส่วนการจ่ายเบี้ยแทนเรื่องนี้ผิดจรรยาบรรณของอาชีพ ส่วนเรื่องการขายประกันไม่ตรงแบบ ขายแบบไม่ได้รับอนุญาติจาก คปภ. ผมไม่อยากจะเอย ขนาดระดับ ผอ. ก็ตอบคำถามผมไม่ได้ ตอนผมทักท้วงไป ใครจะทำจะซื้อประกัน ต้องศึกษาให้ดี อย่าเชื่อตัวแทนทั้งหมด บางทีผมบอกจุดเสียจุดอ่อนของประกันแบบที่ผมขายจนลูกค้าไม่ซื้อ ผมยังสบายใจกว่าที่ขายแบบที่ทำให้ลูกค้าเขาใจผิด
ต่อ ถามว่าแล้วจะจ่ายทำไม ถ้าไม่จ่ายก็โดน ระงับผลประโยชน์ไงครับ เดี๋ยวผมจะมาบอกเรื่องนี้ช่วงท้ายๆ
เรื่องเปอร์ ตรงนี้มันมีส่วนต่อเปอร์ของหน่วยด้วยครับ
ถ้าผมปล่อยให้เปอร์ตก เปอร์หน่วยก็ตก พวก ผจก. ผอ. พวกระดับสูงก็จะได้โบนัสน้อยลง
แต่การจ่ายแล๊บ กลับให้ตัวแทน รับผิดชอบ ซึ่งเงินที่เราจ่ายไป มันจะย้อนตอบแทนกลับมาให้ 30%
คือถ้าจ่าย 100 เราได้คืน 30 แต่พวก ผจก. ผอ. ก็ได้ประโยชน์ไปด้วย แต่ภาระมาให้เรา มันไม่ต่างจากการรักษายอด ของพวกขายตรงเลยสักนิด บางคนลงทุนลงแรงมาเยอะ เจอตรงนี้ก็พากันถอยหลังลาออก ทั้งที่ทุ่มเท คาดหวัง ความฝัน ที่เหล่าๆพวกที่สำเร็จหรือพวก ต้นสายต้นน้ำวาดไว้ให้ บางคนทะเลาะเลิกลากับแฟน บางคนติดหนี้ติดสิน ต้องกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
ตอนลาออกผมก็พยายามแจ้งกับลูกค้าที่สามารถติดต่อได้ให้ได้ทราบ และแจ้งเหตุผลให้เข้าใจ ตอนแรกฝืนอยู่เพราะเสียดาย และสงสารลูกค้าเรา ที่เราได้คุยได้ให้คำปรึกษา
ส่วนปัญหาที่ลูกค้าไม่จ่าย มีทั้งหมุนเงินไม่ทัน เราจ่ายให้ก่อน แล้วก็คืนให้เราก็มี
บางคนบอกให้จ่ายให้ก่อน แล้วหายไปก็มี บางคนก็ไม่ไหวจะจ่าย ผมก็เข้าใจถ้าให้ตัดค่าใช้จ่าย ผมก็คงตัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้
บางคนไม่จ่าย เพราะเวลาจะเคลม บริษัทก็ตุกติกที่จะเคลม ให้ง่ายๆ บางคนเคลมมา 4-5 รอบ อยู่ดีๆ บริษัทยกเลิกสะงั้น เจอเคสทำมาทั้งครอบครัว ถ้ายกเลิกเคสหนึ่ง ลูกค้าก็เลิกจ่ายทั้งบ้าน งานงอกตัวแทนสิครับ
บางคนไม่จ่ายแล๊บ ก็ถูก ขู่จะทำร้ายถึงบ้านก็มี
จนถึงจุดพีค ความรู้สึกผม วันหนึ่ง ผจก.ตามให้ผมจ่ายแล๊บ ซึ่งผมจ่ายไปแล้วบางส่วน จนไม่มีแม้แต่เงินจะกินข้าวเติมน้ำมัน
เหลือเคสหนึ่งที่ผมไม่มีเงินจ่าย ผมจึงขอยืม ผจก. แต่กลับ บอกผมลองไปหายืมคนอื่นมาจ่ายแทน น้ำตาแทบไหลครับวันนั้น
มันจึงเป็นส่วนช่วยให้ผมตัดสินใจลาออก คือเลิกทำงานขายประกัน แต่เราก็จะยังมีรายได้เงินให้เราต่อไปเรื่อยๆ จนกว่า สัญญาเราจะสิ้นสุด หรือเราไม่ได้ส่งงาน 2 เดือน และผมก็ไม่ได้จ่ายแล๊บ ผมก็โดนระงับเงิน งวดแรกประมาณ 26,000 บาท และงวดหลังประมาณ 40,000 บาท ซึ่งตอนนี้เงินนี้ก็ยังค้างที่บริษัท ซึ่งผมพยายามที่จะติดต่อขอเงินค่าคอมค่าบำเหน็จนี้ แต่ก็ไร้ผล นอกจากต้องจ่ายแล๊บ 555555 ตัวแทนๆหลายคนเป็น 100 เป็น 10,000 ที่ออกไปก็โดนแบบนี้ทุกคน แต่ไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือตัวแทน (คงจะมีที่บริษัทนี้ และเอเจนซี่นี้เท่านั้นที่ทำแบบนี้ จากการสอบถามเพื่อนๆบริษัทอื่นหน่วยอื่นไม่มี ผู้บริหารที่เห็นแก่ตัว)
มีครั้งหนึ่ง ตัวแทนของหน่วยหนึ่งลาออกไปพร้อมกันยกเครือ ประมาณ 400-500 คนไปบริษัทอื่น ก็มีการโจมตีกัน สาเหตุที่ไปกัน ก็เพราะทนต่อกฏเกณฑ์ทาส การจ่ายแล๊บ ใครไม่จ่ายก็โดนระงับเงิน แต่ไม่นึกถึงความเดือดร้อนที่เขามี ถึงขั้นขนาดถ้ามีใครไปคุยไปไลด์ ไปโพสต์กับเพื่อนต่างบริษัท มีขั้นระงับผลประโยชน์
บางคนส่งผลต่อปัญหาครอบครัว ถึงเวลาจ่ายแล๊บ ก็ทะเลาะ บางคู่เลิกลากันเพราะอาชีพนี้ ผมเองก็เกือบเลิกกับแฟนเพราะอาชีพนี้หลายหน
ส่วนการทำงาน แล้วแต่ละหน่วยจะทำงานกันยังไง
แต่ที่ผมเจอคือ
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างคุณออกเองหมด
ค่ารถ ค่ากิน ค่าบูท
อ่อ เกือบลืม ต้องมีประชุมเดือนละครั้งที่โรงแรมหรือที่ศูนย์ประชุม และต้องเสียเงินค่าประชุมคนละ 150 บาท
สิ่งที่ได้คือ การปลูกไฟจุดพลัง และข้าวกล่อง+ของว่าง ราคาสภาพรวมแล้วไม่น่าเกิน 50 บาท ที่เจอฟินสุดๆคือข้าวต้มมัดกีบหนึ่งกับน้ำผลไม้กล่องหนึ่ง 5555
มีการออกแรลลี่ ตามต่างจังหวัด อดหลับอดนอน ตากแดดตากฝน โดนไล่ยังกับหมูหมา
มีการลงขันแข่งขัน การกินการพักตัวแทนออกค่าใช้เองหมด
ใครไม่ไปก็โดนระงับเงินอีกนั้นแหละ
มีการแข่งขันเงินลงขันแข่งกัน โดยเอาเงินตัวแทนมาแข่งกันเอง กินกันเอง พวกผู้บริหารไม่ได้สมทบสักบาท แต่คุณจะได้โล่ห์หรือเกียรติบัตร มีคนมายินดี แล้วก็ถ่ายรูปแชร์ลงเฟส (ผมก็เคยมีโมเม้นนี้ 5555)
ถ้าทำงานไม่มีงานส่งนานๆ หรือหยุดบ่อยๆก็มีสายตรงกดดัน (บอกว่างานอิสระ เจ้านายตัวเอง ปากบอกว่าเป็นห่วง ความจริงถ้าไม่ให้จ่ายแล๊บ น่าจะคือความเป็นห่วงที่ถูกต้อง 55555)
งานเราก็หาเอง ลูกค้าเราก็หาเอง บริษัทก็เป็นคนจ่ายเงินเรา แต่พวก ผจก. ทำยังกะเป็นนายจ้างเรา
ที่ผมตั้งกระทู้นี้ ผมไม่ได้หมายถึง อาชีพตัวแทนขายประกันไม่ดี ไม่รวย ไม่สำเร็จ
แต่ที่ผมหมายถึง การบริหารงานขององค์กรนี้ ถ้าใคร เจอ 04 ขอให้ตัดสินใจดีๆ
แน่นอน บางท่านคงเคยได้ยิน ใครอยู่ 04 มีแต่คนรวยๆคนสำเร็จเยอะ
แต่อาจจะไม่รู้ คนพวกนี้ มันรวยและสำเร็จโดยเหยียบอยู่บนคาบน้ำตาของตัวแทน หลายร้อยหลายพันชีวิตที่ทุ่มเทให้กับอาชีพนี้
ใครจะอยู่ได้ ใครจะเติบโต ต้องหาคนหาตัวแทนมาใต้สายงาน แต่ถ้ารู้เรื่องแล๊บ ไม่มีใครจะมาทำอาชีพนี้กับองค์กรเครือนี้แน่นอน
บางคนคงจะถามว่า แล้วผมไม่รู้หรอ ทำไมไม่ถามตอนแรก
ก็เพราะ
เขาไม่ได้โกหกผม แค่เขาบอกผมไม่หมดเท่านั้นเอง 55555
ยังไงใครที่คิดจะหาโอกาส เข้าสู่อาชีพนี้ ลองเอาข้อมูลผมกระทู้นี้ตัดสินใจดูนะครับ
ส่วนใครคิดจะเป็นลูกค้า อยากได้ประกันชีวิตและสุขภาพฟรี ลองติดต่อขอทำประกันกับตัวแทนของบริษัทนี้
เพียงแค่ท่าน ลงทุน จ่ายแบบรายเดือน 3-4 เดือน หลังจากนั้น จะมีคนจ่ายให้คุณต่อเอง
อาชีพตัวแทนขายประกันทำให้คุณรวยได้จริงๆ ถ้าอยู่ถูกที่
จะอยู่เครือนี้จะรวยได้ คุณต้องเป็นระดับ ผจก. แต่คุณต้องหาตัวแทนมาให้คุณเหยียบบนคาบน้ำตาของพวกเขา
แล้วมาร่วมกันจ่ายแล๊บ ให้พวกระดับสูง เอาเงินไปซื้อเพชรซื้อบ้านซื้อรถ ช้อปปิ้งกินหรู ส่วนตัวแทนพักห้องเช่า กินต้มมาม่า ยำปลากระป๋องกินกันถ่ายรูปเซลฟี่ลงเฟสบุ๊ค ผมเห็นแล้ว อนาจใจ
อย่างน้อยอาชีพนี้ก็ให้ประสบการณ์หลายๆอย่าง ที่หนักสุดคือ มีเคสลูกค้าป่วยแล้วเคลมไม่ได้ ยอดประมาณ 80,000 บริษัทแนะนำให้ผม ตกลงยอมรับภาระหนี้ไปก่อน แต่บริษัทยอมจ่ายเงินให้ รพ.ก่อน ถ้าผลเคลมลูกค้าไม่ผ่าน ผมต้องเป็นหนี้แทนลูกค้า เพราะลูกค้าไม่ยินยอมจ่ายแน่นอน ทั้งๆที่ลูกค้าไม่เคยมีประวัติ
ปล.ถ้านึกจำอะไรได้อีกจะมาบอกนะครับ
ตอนนี้ทำงานใหม่ เงินเดือน 17,000 แต่มีความสุขกว่าอาชีพอิสระรายได้หลักแสนเยอะเลยคับ