ชีช้ำระกำใจ ทำไวน์หกใส่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ โดนบอกให้ไปซัก กกน.
ออกตัวก่อนว่าแค่แชร์ประสบการณ์การทำงานด้านบริการ จขกท เคยทำงานกับสายการบินดังอันดับต้นๆ ปีนี้อยู่ที่ 1 ด้านบริการ ที่ 2 ด้านทั่วไป
เราโดนเทรนมาอยู่แล้วค่ะว่าเซอร์วิส ต้องเนียบ ต้องเป๊ะ ขนาดไหน ไม่ว่าจะอยู่ Economy class หรือ Business Class. แต่เขาจะมีรายละเอียดเยอะขึ้นเมื่อเราขึ้นไปทำ ชั้น Business Class ผู้โดยสารไม่ผิด ต้องยิ้มและพูดขอโทษเสมอ เป็นหลักต้นๆของงานบริการอยู่แล้วค่ะ ซึ่งจขกท ปฏิบัติตาม ใส่หน้ากากชิวๆอยู่แล้ว คนไทยดราม่าเก่ง 555 สามารถยิ้มหวานๆพูดเพราะๆหนีออกมาจากสถานการณ์คับขันได้อย่างปลอดภัย
แต่ไม่เก่งเอาตอนนี้แหละค่ะ ไฟลท์ที่จะเล่าต่อไปนี่ เป็นไฟลท์ยาว 4 ขา ทั้งหมด 7วัน ไป โตเกียว-แอลเอ ป้ะเข้าให้เลยค่ะ ขาแรกไม่มีอะไรสบายๆ ขาที่สองกำลังจะไปแอลเอ จขกท ได้ทำงานชั้นธุรกิจในขานั้น ตอนนั้นเพิ่งเป็นน้องใหม่ในชั้นนั้นเลยค่ะ นึกสภาพ ต้องจำเยอะ เวลาน้อย ต้องเร็ว ต้องสะอาด ต้องทำให้ครบถ้วน แล้วโอ้โห หัวหน้าดุอย่างกับนายทหาร เนี๊ยบอย่างกับผู้จัดการโรงแรม เอาสองอันรวมกันค่ะ จากระยะเวลาการทำงานต่อ 1 เซอร์วิสคือการเสริฟ1มื้อ ปกติก็ 2ชม.- 2ชม.ครึ่ง พอทำกับหัวหน้าคนนี้ล่อไป 4 ชม.จ้า นั้นคือที่ เคยเจอและได้ยินมา ทุกคนก็ทำใจไว้แล้ว
ชั้นธุรกิจเต็มก็ 60 ท่าน การทำงานแบ่งเป็นสองฝั่ง คนเสริฟฝั่งละ 2 คน ในการทำงานต้องพร้อมๆกัน พยายามอย่าเสร็จก่อนหรือหลัง และต้องโอเวอร์แลบ 2 คนในฝั่งห้ามทำงานซ้ำกัน เสียเวลาค่ะ วิธีคือ
1. แจกถุงเท้า
2. ถามแต่ละคนว่าอยากดื่มน้ำอะไร
3. เตรียมสะเต๊ะ
4. เสริฟน้ำก่อนแล้วเสริฟสะเต๊ะ (นี่ก็วิ่งไปวิ่งมา)
5. เก็บจาน
6. เติมน้ำที่สั่งถ้าดื่มหมดแล้วก็เคลียร์ได้
7. ถามว่าจะเสริฟอาหารเย็น อยากทานอะไรดีค่ะ
8. ระหว่างนั้นว่างก็เชคห้องน้ำ
9. เตรียมคาร์ทออกไปเสริฟ ออร์เดริฟ กับน้ำเปล่ากับไวน์
10. จัดโต๊ะ วาง ช้อนซ้อมมีด พริกไทยเกลือ จานออร์เดริฟ จานขนมปังทน้ำเปล่า ไวน์
จัดไปจนครบ ฝั่งละ 30
11. กลับมาเริ่มใหม่
12. เก็บจานออร์เดริฟ
13. เติมเครื่องดื่ม
14. พร้อมบอกให้เพื่อนอีกคนทราบว่าผู้โดยสารคนไหนพร้อมเสริฟ ให้อีกคนเสริฟอาหาร
15. เอาคาร์ทกลับมา จัดระเบียบคาร์ท ก็จะพอดีกับที่เพื่อนอีกคนเสริฟไปครึ่งนึง
16. เราเตรียม อาหารหวาน
17.เราออกไปเก็บจานทั้งหมดเริ่มแถวแรก พร้อมเติมเครื่องดื่ม ไปสัก 10คน
18. เพื่อนอีกคนเสริฟของหวาน พร้อมช่วยเก็บจาน
19. เก็บจานหมด แจกของหวานหมด
20. เก็บจานของหวานก่อนไปสัก 4แถว
21. อีกคน ออกทรอลลี่ ชีสกับผลไม้ (คนครัวจะเตรียมไว้ให้ก่อน)
22. อีกคนพอเก็บจานของหวาน หมดก็มาช่วย
23. เสริฟเสร็จ เริ่มใหม่ 1คน ถามว่ารับชากาแฟไหม อีกคนชงชากาแฟตามสั่ง มาเต็ม คาร์ปู ลาเต้ ดับเบอร์เอส ทีดับเบลยูจี โก้ๆร้อน โอ้วมาย
คนจด ก็จดแล้วส่งต่อคนชง จนครบก็กลับมาเสริฟ
24. ชากาแฟหมดไป เก็บจาน ทำความสะอาดโต๊ะ
25. แจกผ้าร้อน เก็บผ้าร้อน
เป็นอันเสร็จ
โอ้ว เชคห้องน้ำ ทำความสะอาด ท้อปอัพทิชชู่ แปรงสีฟัน หวี ฉีดสเปรย์ ให้หอมทุกห้อง สลับกันทำ
โอเคนั่นคือเซอวิสธรรมดา
แบบไม่ธรรมดาคือ มีอาหารญี่ปุ่นคือข้าวกล่องญี่ปุ่น ซึ่งมีจำกัด ซึ่งเซกเตอร์นี้เป็นอะไรที่คนญี่ปุ่นเยอะๆ ชาตินิยม ไม่กินอาหารอื่น นอกจากอาหารประจำชาติตัวเอง อีแอร์ก็หน้าซีดต้องพยายามหา พยายามขายของ ขายอาหารที่มีค่ะ ถ้าหมดโดนด่าโอ้ว ถ้าหนูเปิดประตูเครื่องบินออกไปซื้อมาให้ได้ทำแล้วค่ะ เพราะผู้โดยเชื้อชาติญี่ปุ่นถ้าดีก็ดี ถ้าร้ายก็สุดๆ
เวลาทำข้าวกล่องญี่ปุ่นบนเครื่องยุ่งยาก การวาง อาหารให้กล่องแต่ละชื้นต้องปราณีต แข่งกับเวลา เพราะเราไม่ได้พรีเซตอาหารมา ทุกอย่างต้องใหม่ มีน้ำซุปมิโสะอีก ต้องใช้คน 1 คนจัดจาน และอีก1คนเสริฟสองข้าง นอกจาก แอร์ที่ออกไปเสริฟประจำข้าง ของตัวเองอยู่แล้ว งงใช่ไหมละคะ ตอนแรก จขกท ก็งงนี่แหละ มันต้องดูและทำและโดนด่าถึงจะเรียนรู้ได้
ตอนระหว่างเสริฟข้าวกล่องเจ้าปัญหา ให้ผู้โดยสารญี่ปุ่น นางก็มีถ้วยชาเขียว แชมเปน น้ำเปล่า และไวน์แดง สารพัดน้ำดื่มว่างระเกะระกะบนโต๊ะอาหาร จะเอากล่องอาหารลงยังไง ถือมาแล้ว ไม่มีมือ นางก็นั่งง่อยไม่ช่วย
อะเคร อิฉันก็ต้องถือกล่องอาหารญี่ปุ่น มือเดียว แล้วจัดเรียงที่ให้มีที่ว่าง
อย่าบอกนะคะ ทำไมไม่เก็บน้ำออกไป นางนังดื่มอยู่ทั้งหมด เก็บไม่ได้ค่ะ
ด้วยเนื้อที่จำกัด และอยู่บนเครื่องบิน สภาพอากาศมันแย่นะคะ ครึ่มๆ เครื่องบินเอน ตกหลุมอากาศ
ประจวบกับมือนึงของจขกท กำลังจับไวน์แดง (หอย) หล่นตุบ ลงบนโต๊ะทานข้าว เห็นเลยค่ะว่าไวน์แดงค่อยๆไหลเป็นสโลวโมชั่น จริงอยู่มีผ้าปูโต๊ะ มันซับไวน์ได้ส่วนหนึ่งแต่ เราทำอะไรไม่ได้นอกจากผู้โดยสารจะหลบ และลุกออกมาจากที่นั่ง แต่นางนั่งเฉยๆ ไม่แตะอะไรเลย
มือนึงถือกล่องอาหาร อีกมือพยายามเคลียร์เพื่อให้นางลุกออกมา ... จขกท. รู้สึกแย่มากค่ะ เพราะ ผู้โดยไม่ช่วยไม่พอ เพื่อนที่ทำงานด้วยกัน เป็นคนญี่ปุ่น เดินผ่านไปเฉยๆ ไม่ช่วยแถมไปฟ้องหัวหน้าให้มาจัดการ (ห่าน) หัวหน้าบอกให้หัวหน้าคนญี่ปุ่นไปคุย เราก็ทำเซอร์วิสรีคอฟเวอร์รี่ทั้งหมด เปลี่ยนที่นั่ง จัดโต๊ะใหม่ เสริฟใหม่ อย่างรวดเร็ว หาชุดนอนมาให้ใส่ แทนชุดเก่า ขอโทษก้มหัวหลายรอบ ปรากฎว่า นางนั่งกอดอก ไม่กินตลอดงาน
หลังเซอร์วิสเสร็จ หัวหน้าคนญี่ปุ่นก็ไปคุยกับผู้โดย แล้วนางกลับมาพร้อมถุงและกก สแลค จขกท เห็นก็ทราบเลยว่า ต้องเอาไปทำความสะอาด ด้วยความที่ต้องรับผิดชอบก็บอกไปว่าเดี๋ยวไปซักให้
นางหัวหน้าก็บอกหน้าที่ยูอยู่แล้ว ดูยูมาย ?
ถามตรู.. พร้อมยื่นถุงพลาสติดเล็กๆข้างในเป็นกกน โหหหหห มันจะอะไรขนาดนั้น
ทราบดีว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่นมันแตกต่างจากชาติอื่น แต่นี่มันเอ็กตรีมไปนิดนึง
ต้องก้มหน้าทำทั้งน้ำตา ร้องไห้จริงๆค่ะ Culture shock กว่าจะซักได้กว่าจะแห้ง คนอื่นได้พักได้กินข้าว เราทานอะไรไม่ลง ไม่ได้พักด้วย ทำเสร็จเริ่มเซอร์วิสที่สองแล้วค่ะ ร่างแหลกเลยบอกตรงๆ
ลูกเรือหน้าที่หลักคือดูแลความปลอดภัย ของผู้โดยสารและตัวเรา หน้าที่รองคือเซอร์วิส จริงๆถ้าหัวหน้าเดินมาบอกแล้วเราไม่อยากทำก็บอกไปได้เลยค่ะ คนไทยอย่าอมพะนำ ทำตามที่เขาบอกไปหมด ทรมานค่ะ ไม่คือไม่ ได้คือได้ เดี๋ยวนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะแล้ว คนไทยกล้าๆนะคะ fatigue ความเหนื่อยล้าก็เป็นความเสี่ยงอย่างนึง ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา สภาพการณ์ตัดสินใจ และ reaction ของเราก็ช้า วินาที ต่อวินาทีสำคัญค่ะบนเครื่อง เงิกๆงั้กๆ ไม่ใช่แอร์ไลน์อันดับหนึ่งค่ะ กล้าๆ ต้องสู้เพื่อตัวเองค่ะ
เล่าสู่กันฟังประสบการณ์ฝั่งลึก ไม่กล้าเสริฟไวน์แดงไปนานมากเลยจริงๆ