ตำนานหลอน !? " เด็กตาดำ "
โพสท์โดย ผีเจ้า
ตำนานหลอน !? " เด็กตาดำ "
แน่นอนว่าแทบทุกประเทศทั่วโลกนั้นมีเรื่องเล่าขาน หรือตำนานสุดจะลึกลับที่แตกต่างกันไป
หากจะเอ่ยถึงเรื่องลึกลับฝั่งตะวันตก หลายคนอาจนึกถึงเรื่องเล่าของแวมไพร์ ซอมบี้ หรือมนุษย์หมาป่า
แต่ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สะเทือนขวัญชาวอเมริกันอย่างมากในรอบหลายปีให้หลังนี้ ใช่แล้ว...เรื่องของ เด็กตาดำ นั่นเอง
เด็กตาดำ (Black Eyed Children) เป็นชื่อของสิ่งลึกลับ รูปร่างเหมือนมนุษย์วัยเด็กหรือวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 6-16 ปี มีผิวขาวซีดเซียว และอาจพบว่ามีรอยช้ำหรือรอยเส้นเลือดปรากฏบนผิวหนังชัดเจน ดูแล้วคล้ายกับศพที่ถูกฝังไปเป็นระยะเวลาไม่นาน
จุดสำคัญที่สังเกตได้ง่ายที่สุด คือเด็กเหล่านี้จะมีดวงตาสีดำสนิท ไม่ว่าจะเป็นที่ตาดำ ม่านตา หรือตาขาว ทุกบริเวณของลูกตาเป็นสีดำสนิท...ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสิ่งลึกลับเหล่านี้นั่นเอง
ตำนานเล่าขานของเด็กตาดำเหล่านี้ เริ่มเผยแพร่ครั้งแรกบนอินเทอร์เน็ตเมื่อช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1990
ไบรอัน เบเธล นักข่าวจากรัฐเทกซัส ได้ส่งอีเมลเรื่องผีให้กับเว็บไซต์สยองขวัญแห่งหนึ่ง
โดยเป็นเรื่องราวของเด็กตาดำ ที่เขาเคยพบเจอกับตัวเองจัง ๆ
เรื่องราวของเด็กตาดำที่ไบรอันได้พบเจอนั้น เขาเล่าว่า เขาพบเด็ก 2 คนโผล่มาใกล้ ๆ กับรถของเขา และขอติดรถขึ้นไปด้วย ทีแรกไบรอันไม่เอะใจอะไร แต่เมื่อสังเกตดูดี ๆ จึงพบว่าเด็กทั้ง 2 คนนั้นมีตาสีดำสนิท และพวกเขาเริ่มคุกคามไบรอันด้วยคำพูดเดิมซ้ำ ๆ นั่นคือขอให้ไบรอันเชิญพวกเขาขึ้นรถ จนดูเหมือนเด็กเหล่านั้นจะหมดความอดทน จากน้ำเสียงเรียบ ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงตะโกนดังสนั่น ไบรอันตกใจมากจึงเหยียบคันเร่งสุดแรงเกิดแล้วขับรถหนีไปทันที
หลังจากนั้น เรื่องราวของเด็กตาดำ ก็มักจะกลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยเล่ากันว่า เด็กตาดำสามารถปรากฏตัวให้เห็นได้ทุกช่วงเวลาของวัน มักจะพบตามเมืองแถบทะเลทรายที่ห่างไกล อาจพบพวกเขากำลังร้องเพลงหรือเล่นสนุกตามประสาเด็ก ๆ โดยเพลงที่พวกเขานิยมร้องคือเพลงกล่อมเด็กชื่อ
Old Daddy Long Legs (คุณพ่อขายาว)
&
He Jumped into a Bramble Bush (เขากระโดดเข้าไปในพุ่มไม้หนาม)
นอกจากจะมีตาสีดำสนิทไม่เหมือนเด็กทั่วไปแล้ว เด็กตาดำยังมีพฤติกรรมไม่เหมือนเด็กทั่วไป โดยจากรายงานของผู้ที่เคยเผชิญหน้ากับพวกเขา ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เด็กเหล่านี้มีน้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่ ไม่ใช่เสียงสูงเล็กเหมือนเด็กทั่วไป และมักจะพูดจาด้วยสำบัดสำนวนแบบคนมีอายุ
บางครั้งอาจพบเด็กเหล่านี้ได้ที่หน้าประตูบ้าน โดยพวกเขาจะมาเคาะประตูเป็นจังหวะถี่ ๆ และหากเจ้าของบ้านเปิดประตูเพื่อพูดคุยกับเด็กเหล่านี้ พวกเขาจะออกคำสั่งให้เจ้าของบ้านพาพวกเขาเข้าบ้าน เช่น อาจจะพูดว่า กรุณาเชิญพวกเราเข้าบ้านด้วย ขอบคุณ หรืออาจอ้างเหตุผลอย่าง กรุณาเชิญพวกเราเข้าบ้านด้วย พวกเราต้องการใช้โทรศัพท์แค่ไม่นาน ขอบคุณ เห็นได้ชัดว่าเด็กตาดำเหล่านี้ไม่สามารถเข้าบ้านผู้อื่นได้ด้วยตัวเอง ต้องให้เจ้าของบ้านเชิญเข้าบ้านก่อนเท่านั้น
เด็กตาดำจะขอร้องให้เจ้าบ้านเชื้อเชิญพวกเขาด้วยแรงกดดันอันมหาศาล แน่นอนว่าเจ้าของบ้านไม่ใจกล้าพอที่จะเชิญเด็กประหลาดเหล่านี้ให้เข้าบ้านมาเป็นแน่แท้ แต่หากมีคนที่ยังใจกล้าพอที่จะเชิญเด็กตาดำให้เข้าบ้านหรือขึ้นรถ ก็เตรียมตัวพบกับเรื่องที่คาดไม่ถึงได้เลย...
จากการเล่าเรื่องทางวิทยุบนอินเทอร์เน็ตรายการ Dream Land ของอเมริกา หญิงรายหนึ่งขับรถกลับบ้านหลังจากรับลูกชายจากโรงเรียน แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็สังเกตเห็นเด็กน้อยคนหนึ่ง นั่งอยู่เคียงข้างกับลูกชายของเธอที่เบาะหลัง เด็กคนดังกล่าวมีดวงตาสีดำสนิท กำลังจ้องมองมาที่กระจกมองหลัง...
หญิงคนดังกล่าวตกใจแทบสิ้นสติ เธอจอดรถที่ปั๊มน้ำมันแล้วอุ้มลูกชายลงจากรถ เปิดประตูทุกบานของรถทิ้งไว้ ก่อนจะวิ่งไปบอกพนักงานแคชเชียร์ในมินิมาร์ทว่า มีคนอยู่บนรถของฉัน
แต่เมื่อพนักงานมาดูที่รถให้ ก็ไม่พบใครอยู่บนรถเลยแม้แต่คนเดียว...หญิงสาวตกใจกลัวและตัวสั่นงันงก เธอโทรศัพท์หาสามีและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง สามีบอกว่าเขาเองก็กำลังขับรถอยู่ไม่ไกล ให้เธอขับรถมาพบกันที่กลางทาง
ถัดออกไปแค่ไม่กี่กิโลเมตร หญิงสาวพบสามีของตัวเองประสบอุบัติเหตุรถชน
ทุกอย่างดูสับสนอลหม่านไปหมด เธอถามลูกชายว่า เด็กคนที่ขึ้นรถมากับลูกเป็นใคร ? ลูกชายของเธอบอกว่า ผมชวนเขาขึ้นรถมาครับ เพราะเขาขอให้ผมเชิญเขาขึ้นรถ หญิงสาวจึงได้กระจ่างว่า เธอเจอดีเข้าแล้ว...
เรื่องราวของเด็กตาดำโด่งดังเป็นพลุแตกในโลกอินเทอร์เน็ต ถึงขนาดที่ว่า เมื่อปี 2555 มีการสร้างภาพยนตร์จากการระดมทุน ชื่อเรื่อง Black Eyed Kids เป็นการยืนยันในความโด่งดังของตำนานเด็กตาดำได้เป็นอย่างดี
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อปี 2557 สำนักข่าวชื่อดังอย่างหนังสือพิมพ์ Daily Star ตีข่าวเรื่องราวการพบเห็นเด็กตาดำรอบโลก โดยมีการตีพิมพ์เรื่องของเด็กตาดำถึง 3 ฉบับติดกันบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ ตอกย้ำความสะพรึงของชาวตะวันตกที่มีต่อเด็กตาดำยิ่งขึ้นไปอีก และยังคงปริศนาอยู่ทุกวันนี้ !!?
หากจะเอ่ยถึงเรื่องลึกลับฝั่งตะวันตก หลายคนอาจนึกถึงเรื่องเล่าของแวมไพร์ ซอมบี้ หรือมนุษย์หมาป่า
แต่ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สะเทือนขวัญชาวอเมริกันอย่างมากในรอบหลายปีให้หลังนี้ ใช่แล้ว...เรื่องของ เด็กตาดำ นั่นเอง
เด็กตาดำ (Black Eyed Children) เป็นชื่อของสิ่งลึกลับ รูปร่างเหมือนมนุษย์วัยเด็กหรือวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 6-16 ปี มีผิวขาวซีดเซียว และอาจพบว่ามีรอยช้ำหรือรอยเส้นเลือดปรากฏบนผิวหนังชัดเจน ดูแล้วคล้ายกับศพที่ถูกฝังไปเป็นระยะเวลาไม่นาน
จุดสำคัญที่สังเกตได้ง่ายที่สุด คือเด็กเหล่านี้จะมีดวงตาสีดำสนิท ไม่ว่าจะเป็นที่ตาดำ ม่านตา หรือตาขาว ทุกบริเวณของลูกตาเป็นสีดำสนิท...ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสิ่งลึกลับเหล่านี้นั่นเอง
ตำนานเล่าขานของเด็กตาดำเหล่านี้ เริ่มเผยแพร่ครั้งแรกบนอินเทอร์เน็ตเมื่อช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1990
ไบรอัน เบเธล นักข่าวจากรัฐเทกซัส ได้ส่งอีเมลเรื่องผีให้กับเว็บไซต์สยองขวัญแห่งหนึ่ง
โดยเป็นเรื่องราวของเด็กตาดำ ที่เขาเคยพบเจอกับตัวเองจัง ๆ
เรื่องราวของเด็กตาดำที่ไบรอันได้พบเจอนั้น เขาเล่าว่า เขาพบเด็ก 2 คนโผล่มาใกล้ ๆ กับรถของเขา และขอติดรถขึ้นไปด้วย ทีแรกไบรอันไม่เอะใจอะไร แต่เมื่อสังเกตดูดี ๆ จึงพบว่าเด็กทั้ง 2 คนนั้นมีตาสีดำสนิท และพวกเขาเริ่มคุกคามไบรอันด้วยคำพูดเดิมซ้ำ ๆ นั่นคือขอให้ไบรอันเชิญพวกเขาขึ้นรถ จนดูเหมือนเด็กเหล่านั้นจะหมดความอดทน จากน้ำเสียงเรียบ ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงตะโกนดังสนั่น ไบรอันตกใจมากจึงเหยียบคันเร่งสุดแรงเกิดแล้วขับรถหนีไปทันที
หลังจากนั้น เรื่องราวของเด็กตาดำ ก็มักจะกลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยเล่ากันว่า เด็กตาดำสามารถปรากฏตัวให้เห็นได้ทุกช่วงเวลาของวัน มักจะพบตามเมืองแถบทะเลทรายที่ห่างไกล อาจพบพวกเขากำลังร้องเพลงหรือเล่นสนุกตามประสาเด็ก ๆ โดยเพลงที่พวกเขานิยมร้องคือเพลงกล่อมเด็กชื่อ
Old Daddy Long Legs (คุณพ่อขายาว)
&
He Jumped into a Bramble Bush (เขากระโดดเข้าไปในพุ่มไม้หนาม)
นอกจากจะมีตาสีดำสนิทไม่เหมือนเด็กทั่วไปแล้ว เด็กตาดำยังมีพฤติกรรมไม่เหมือนเด็กทั่วไป โดยจากรายงานของผู้ที่เคยเผชิญหน้ากับพวกเขา ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เด็กเหล่านี้มีน้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่ ไม่ใช่เสียงสูงเล็กเหมือนเด็กทั่วไป และมักจะพูดจาด้วยสำบัดสำนวนแบบคนมีอายุ
บางครั้งอาจพบเด็กเหล่านี้ได้ที่หน้าประตูบ้าน โดยพวกเขาจะมาเคาะประตูเป็นจังหวะถี่ ๆ และหากเจ้าของบ้านเปิดประตูเพื่อพูดคุยกับเด็กเหล่านี้ พวกเขาจะออกคำสั่งให้เจ้าของบ้านพาพวกเขาเข้าบ้าน เช่น อาจจะพูดว่า กรุณาเชิญพวกเราเข้าบ้านด้วย ขอบคุณ หรืออาจอ้างเหตุผลอย่าง กรุณาเชิญพวกเราเข้าบ้านด้วย พวกเราต้องการใช้โทรศัพท์แค่ไม่นาน ขอบคุณ เห็นได้ชัดว่าเด็กตาดำเหล่านี้ไม่สามารถเข้าบ้านผู้อื่นได้ด้วยตัวเอง ต้องให้เจ้าของบ้านเชิญเข้าบ้านก่อนเท่านั้น
เด็กตาดำจะขอร้องให้เจ้าบ้านเชื้อเชิญพวกเขาด้วยแรงกดดันอันมหาศาล แน่นอนว่าเจ้าของบ้านไม่ใจกล้าพอที่จะเชิญเด็กประหลาดเหล่านี้ให้เข้าบ้านมาเป็นแน่แท้ แต่หากมีคนที่ยังใจกล้าพอที่จะเชิญเด็กตาดำให้เข้าบ้านหรือขึ้นรถ ก็เตรียมตัวพบกับเรื่องที่คาดไม่ถึงได้เลย...
จากการเล่าเรื่องทางวิทยุบนอินเทอร์เน็ตรายการ Dream Land ของอเมริกา หญิงรายหนึ่งขับรถกลับบ้านหลังจากรับลูกชายจากโรงเรียน แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็สังเกตเห็นเด็กน้อยคนหนึ่ง นั่งอยู่เคียงข้างกับลูกชายของเธอที่เบาะหลัง เด็กคนดังกล่าวมีดวงตาสีดำสนิท กำลังจ้องมองมาที่กระจกมองหลัง...
หญิงคนดังกล่าวตกใจแทบสิ้นสติ เธอจอดรถที่ปั๊มน้ำมันแล้วอุ้มลูกชายลงจากรถ เปิดประตูทุกบานของรถทิ้งไว้ ก่อนจะวิ่งไปบอกพนักงานแคชเชียร์ในมินิมาร์ทว่า มีคนอยู่บนรถของฉัน
แต่เมื่อพนักงานมาดูที่รถให้ ก็ไม่พบใครอยู่บนรถเลยแม้แต่คนเดียว...หญิงสาวตกใจกลัวและตัวสั่นงันงก เธอโทรศัพท์หาสามีและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง สามีบอกว่าเขาเองก็กำลังขับรถอยู่ไม่ไกล ให้เธอขับรถมาพบกันที่กลางทาง
ถัดออกไปแค่ไม่กี่กิโลเมตร หญิงสาวพบสามีของตัวเองประสบอุบัติเหตุรถชน
ทุกอย่างดูสับสนอลหม่านไปหมด เธอถามลูกชายว่า เด็กคนที่ขึ้นรถมากับลูกเป็นใคร ? ลูกชายของเธอบอกว่า ผมชวนเขาขึ้นรถมาครับ เพราะเขาขอให้ผมเชิญเขาขึ้นรถ หญิงสาวจึงได้กระจ่างว่า เธอเจอดีเข้าแล้ว...
เรื่องราวของเด็กตาดำโด่งดังเป็นพลุแตกในโลกอินเทอร์เน็ต ถึงขนาดที่ว่า เมื่อปี 2555 มีการสร้างภาพยนตร์จากการระดมทุน ชื่อเรื่อง Black Eyed Kids เป็นการยืนยันในความโด่งดังของตำนานเด็กตาดำได้เป็นอย่างดี
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อปี 2557 สำนักข่าวชื่อดังอย่างหนังสือพิมพ์ Daily Star ตีข่าวเรื่องราวการพบเห็นเด็กตาดำรอบโลก โดยมีการตีพิมพ์เรื่องของเด็กตาดำถึง 3 ฉบับติดกันบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ ตอกย้ำความสะพรึงของชาวตะวันตกที่มีต่อเด็กตาดำยิ่งขึ้นไปอีก และยังคงปริศนาอยู่ทุกวันนี้ !!?
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: ด๊วกกระซวกดาก, ท่านแมวฮั่ว แม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้ง, cutiebarbie, คืองี้แก, makhamdong, โยนี
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ภาพถ่ายสุดหลอน! แว๊บแรกไม่มีอะไร..แต่พอลองดูอีกที งานนี้ถึงกับผวาขับรถตกสะพาน ขณะใช้ Google Maps นำทาง เสียชีวิต 3 ราย (มีคลิป)ปิดตำนานไร่ชื่อดังที่วังน้ำเขียว ลานกางเต็นท์ยอดนิยมได้ประกาศหยุดดำเนินการแล้วไปอาบน้ำกัน! "เมลาย รัชดา" นัดทริปล่วงหน้ากับแก๊งนักบิด..เริ่ม 9-10 ธ.ค.นี้จำได้ไหม? "พุฒ เดชอุดม" จากยูทูบเบอร์เสียงเพี้ยน สู่สาวสวยสุดlซ็กซี่เหตุกราดยิงเสียชีวิตเพิ่ม 4 ศw ล่าสุดยังตามจับตัวไม่ได้ เผยปมสังหาs (คลิป)ไต้ฝุ่น กนกฉัตร เตรียมวิวาห์แฟนสาวนอกวงการ หลังคบหาดูใจกันหลายปีเจค พอล ท้า iShowSpeed ขึ้นสังเวียน พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 20 ล้านดอลลาร์!จอห์นนี่ โซมาลี เผชิญคดีเพิ่มในเกาหลีใต้ อาจถูกกักตัวจนถึงปีหน้า"เชน" ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หลังอัยการสั่งฟ้องคดีฉ้อโกง พร้อมนัดฟังคำสั่ง 29 พ.ย. นี้ใครเป็นคนคิด ทำไมเมืองไทยถึงสะดวกสบายขนาดนี้ ฝรั่งอึ้ง ไทยแลนด์ครบจบในที่เดียวรวมเลขเด็ด! หวยแม่จำเนียร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ภาพถ่ายสุดหลอน! แว๊บแรกไม่มีอะไร..แต่พอลองดูอีกที งานนี้ถึงกับผวาไต้ฝุ่น กนกฉัตร เตรียมวิวาห์แฟนสาวนอกวงการ หลังคบหาดูใจกันหลายปีขับรถตกสะพาน ขณะใช้ Google Maps นำทาง เสียชีวิต 3 ราย (มีคลิป)ประเทศที่สงบสุขมากที่สุดในโลกหุ่นฟางยักษ์ในบรรยากาศสวนดอกไม้ที่มุกดาหาร...ไร่ชายสี่@มุกดาหารกล้องชัด!กระบะเสียหลักฟาดจยย.หนุ่มพม่ากระเด็นตกร่องริมถนน ดับคาที่