สำหรับคนโสดไม่มีแฟน การมีเพศสัมพันธ์กับคู่ชั่วคราว แบบเปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ รวมทั้งการซื้อบริการทางเพศเป็นครั้งคราว ถือเป็นความผิดบาป ผิดศีล และก่อกรรมหรือไม่ครับ
Q: "เรียนปรึกษาครับ สำหรับคนโสดไม่มีแฟน การมีเพศสัมพันธ์กับคู่ชั่วคราว แบบเปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ รวมทั้งการซื้อบริการทางเพศเป็นครั้งคราว ถือเป็นความผิดบาป ผิดศีล และก่อกรรมหรือไม่ครับ"
===============
A: คำถามเหมือนจะสั้นนะ แต่คำตอบไม่สั้นเลย
เพราะมันมีประเด็นที่ต้องแยกจากกันอยู่หลายส่วน
จากเงื่อนไขที่คุณให้มาคือ โสด ไม่มีแฟน แล้วถามว่า
การกระทำเหล่านี้ ๑. บาปไหม ๒. ผิดศีลไหม และ ๓. ก่อกรรมไหม
เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ต้องคุยกันก่อนว่า บาปคืออะไร
บาปคือสิ่งที่ทำแล้วจิตใจเศร้าหมอง มืดลง ต่ำลง
ไม่ได้วัดแค่ทำแล้วมีความสุขหรือทุกข์ เพราะเสพกาม มันมีกามคุณ
ให้ความสุขได้เหมือนกัน แต่เป็นสุขหยาบๆที่เสพแล้วจิตเสื่อมคุณภาพลง
เซกส์นี่จะว่าไป ก็เหมือนยาเสพติดชนิดหนึ่งนะ ติดได้
มีมากไป ร่างกายเสื่อมโทรมได้ จิตใจบิดเบี้ยวได้
ส่วนศีล ในที่นี้ เรานับเฉพาะศีล ๕ นะครับ ศีล ๘ ไม่พูดถึง
ส่วนเรื่องกรรม แปลตรงตัว ก็คือการกระทำ
จะทำอะไรพูดอะไรคิดอะไร เป็นกรรมทั้งนั้น
โจทย์แรกที่ถาม คือมีเพศสัมพันธ์ แบบเปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ ไม่ผูกมัด
เข้าใจว่าคุณหมายถึงพวก One-Night Stand แบบที่เห็นในหนังฝรั่ง
ถ้าดูแค่ต่างฝ่ายต่างโสดทั้งคู่ ยังไม่พอครับ
ต้อง ดูด้วยว่า ทั้งคู่เป็นบุคคลอิสระไม่อยู่ในปกครองของผู้อื่นหรือไม่
สมมติคุณทำงานแล้ว ไปเจอเด็กมหาวิทยาลัยในผับ
ถูกใจ พากันไปนอน รุ่งเช้าแยกทางกันไป อันนี้ผิดศีลครับ บาปด้วย
เพราะเด็กมหาวิทยาลัย เขายังแบมือขอเงินพ่อแม่
อย่างบางคนมีเสี่ยเลี้ยงด้วย ถึงจะบอกว่าโสด ก็ถือว่าหญิงนั้นมีเจ้าของอยู่
อันนี้ไม่เกี่ยวกับอายุนะ
กฏหมายระบุว่า ๒๐ แล้วคือบรรุนิติภาวะ แต่ทางธรรมให้ดูเรื่องสถานะ
หลักคือถ้ายังเป็นคนในปกครองของใครบางคน เราผิดศีลข้อ ๓ ทันทีครับ
สมมติโสดจริงๆทั้งคู่ ไม่มีพันธะใดๆเลย เป็นบุคคลอิสระจริงๆ ก็ไม่ผิดศีลครับ
ก็ไปดูประเด็นสองว่าถ้าไม่ผิดศีล แล้วบาปไหม
ย้อนขึ้นไปอ่านก่อนอีกทีได้ว่า บาปคืออะไร..
ถ้าเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ จิตเราจะเริ่มเห็นการมีเพศสัมพันธ์เป็น
"สิ่งที่มีได้โดยไม่ต้องมีการผูกมัด" เป็นเรื่องสัญชาตญานการสืบพันธุ์ล้วนๆ
ลดระดับจากการ "ร่วมรัก" มาเป็นการ "ร่วมเพศ"
จิตเราจะลดระดับจากความเป็นมนุษย์ลงไปใกล้กับสิ่งมีชีวิตในภพภูมิที่ต่ำกว่า
และการที่จิตลดระดับลงนี่แหละ คือสิ่งที่อธิบายว่า ทำไมถึงบาป
เพราะบุญหรือบาป เราวัดกันที่จิตใจเป็นสำคัญ
ถ้าเคยทำมาครั้งสองครั้ง ก็อาจยังไม่รู้สึกอะไรหรอก
แต่ถ้าทำบ่อยๆ แล้วสังเกตจิตได้ ดูจิตออก จะรู้เลยว่า จิตมันบิดๆเบี้ยวๆ มืดๆ
เรื่องซื้อบริการ ก็คล้ายๆกันครับ มันต่างกันแค่ว่ามีเงินมาเกี่ยว หรือไม่มี
แค่ดีกว่าไปมอมเหล้าหรือฉุดผู้หญิงไปข่มขืนเท่านั้นเอง
พญามารท่านรู้จุดอ่อนพวกเราดีครับ ท่านก็หาของมาล่อเราเรื่อยๆ
ถ้าเป็นพวกที่มัวเมาอยู่แล้ว ท่านไม่ค่อยยุ่งหรอก
แต่ถ้าเมื่อไหร่คิดจะออกจากกาม คิดจะออกจากทุกข์ คิดจะพ้นจากสังสารวัฎ
จะโดนรับน้องทุกราย จัดหนักบ้างเบาบ้าง ตามที่เราเปิดโอกาส
เหมือนจะต่อยกับนักมวยเขี้ยวๆ เขาแค่รอจังหวะเราการ์ดตก ก็ซัดตูม
บางคนเป็นคนดีมาตลอด เผลอไปเมาแล้วนอนกับคนแปลกหน้าทีเดียว ติด HIV เลย
พระพุทธเจ้าเลยไม่ได้ทรงสอนแค่ศีล ๕ นะครับ
เพราะท่านคงทรงทราบล่วงหน้าว่า มนุษย์ชาติจะมีพวกหัวหมออยู่ไม่น้อย
เลยทรงสอนดักไว้ เผื่อใครจะอ้างว่า เล่นการพนัน ไม่อยู่ในศีล ๕
คนโสดเที่ยวหญิงบริการไม่ผิดศีล
ด้วยการตรัสสอนเรื่องทางของความเสื่อม ที่คนมีปัญญาไม่พึงเสพ
มีเรื่องการพนัน และเที่ยวกลางคืน เที่ยวโสเภณีอยู่ด้วย
แปลว่า ถ้าอยากมีชีวิตที่เจริญๆยิ่งๆขึ้นไป อย่าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้
ถึงมีคำว่า ศีลธรรม คือมีทั้งส่วนของ ศีล และส่วนของ ธรรม
ไม่ได้แปลว่า เลยจากศีลมาแล้ว ทำอะไรก็ดีหมด ไม่ใช่นะค้าบพี่น้องค้าบ
อันนี้ไม่ได้ว่าใครนะ ผมเตือนตัวเองให้พยายามทำตามที่ครูบาอาจารย์สอน
อะไรที่ยังชั่ว เลิกไม่ได้ก็ลด ลดได้แล้วก็พยายามละ ละได้แล้วก็จะเลิกได้เอง
เลิกชั่วแล้วจะทำดีขึ้น ชีวิตจะสงบสุข สบายใจมากขึ้น สุขมากขึ้น ทุกข์น้อยลง
บุญรักษา สติรักษา ศีลรักษา ธรรมรักษานะครับ
www.dhamma.com