รัสปูติน หมอผีชั่วจอมวิตถาร ตำนานคำสาปโค่นราชวงศ์รัสเซีย

21 มกราคม 2559 (14:04) โพสท์โดย doctor undertaker

กริกอริ รัสปูติน เกิดในครอบครัวเกษตรกรบ้านนอกของไซบีเรีย รัสปูตินมีความกระหายที่จะเป็นแบบเกษตรกรผู้ที่ทำงาน ดื่มเหล้าหนัก และเสเพลเรื่องผู้หญิง

ขนาดอวัยวะเพศอันผิดมนุษย์มนาของเขาเป็นที่ชื่นชอบของเด็กสาวๆ ในหมู่บ้าน ซึ่งมาดูเขาเปลือยกายว่ายน้ำในสระเช่นเดียวกับพวกเธอ

จากการได้ร่วมสนุกทางกามารมณ์กับเด็ก สาวนาไซบีเรียสามคน ซึ่งเขามีโอกาสพบขณะไปว่ายน้ำเล่นที่ทะเลสาบนั้นเอง ได้ชักจูงให้รัสปูตินรู้ถึงความหลายหลากในศาสนา เขาก็ได้ร่วมกับนิกายนอกรีตนอกรอยที่เรียกว่า นิกายคลิสติ นิกายนี้เชื่อว่ามนุษย์มีบาปมาแต่เริ่มแรก

จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไถ่บาปใน เวลาต่อมา ดังนั้น พวกเขาจึงประกอบพิธีอันพิลึกพิลั่นหลายอย่างเกี่ยวกับความวิตถารในทาง กามารมณ์และการบูชายัญ ผู้คนในหมู่บ้านบ้านเกิดของรัสปูตินไม่เห็นด้วยและรังเกียจพฤติกรรมเหล่านี้ ของเขา จึงขับไล่รัสปูตินออกจากหมู่บ้าน ทำให้เขาต้องเร่ร่อนไปทั่วชนบทของรัสเซียมานานหลายปี แต่ยังไม่วายยังคงทำประกอบการเยียวยารักษาโรคโดยวิธีพลังจิต และชักชวนผู้หญิงในแดนเถื่อนให้เข้าร่วมพิธีกรรมอันวิตถารพิธีกรรมเหล่านี้ ประกอบด้วยการดื่มเหล้า การร้องเพลง การเต้นรำอย่างบ้าคลั่ง และก็ทำกิจกรรมอย่างว่าเป็นหมู่คณะ

เมื่อพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่สาม เสด็จสวรรคต ราชบัลลังก์ตกเป็นของ “พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง” และพระมเหสี “พระนางเจ้าอเล็กซานดรา” สถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

ในขณะ ที่ทรงพยายามเอาชนะใจประชาชนชาวรัสเซีย พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สองและพระมเหสี ก็ดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาองค์รัชทายาทชายสืบราชบัลลังก์ เนื่องจากทรงมีพระราชธิดาล้วนๆ 4 พระองค์ ทรงสวดอ้อนวอนต่อเทพเจ้าขอให้ประทานพระราชโอรส ในที่สุดก็สมพระทัยหวังได้พระราชโอรส ตั้งพระนามให้ว่า “เจ้าชายอเล็กเซย์ นิโคลาวิช โรมานอฟ” กระนั้น เจ้าชายน้อยกลับมีพระพลานามัยอ่อนแอ ทรงประชวรด้วยโรค “ฮีโมฟีเลีย” (โรคเลือดไหลไม่หยุด) ทรงปกปิดเรื่องนี้มิให้แพร่งพราย และพยายามเสาะแสวงหาหมอเก่งๆมารักษาพระราชโอรส แต่ทั้งแผ่นดินก็ยังไม่สามารถเยียวยาอาการป่วยขององค์รัชทายาท

รัสปูตินเป็นผู้มีอำนาจจิต สามารถสะกดจิตช่วยรักษาโรค สามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ จากความสามารถเหล่านี้ทำให้เขาได้รับการเสนอให้เข้าไปสู่ราชสำนัก เพื่อช่วยรักษาโรคพระโลหิตเป็นพิษของเจ้าชายอเล็กซีพระโอรสของพระเจ้าซาร์ กับนางอเล็กซานดร้า

ไม่รู้ว่ารัสปูติน ใช้วิธีอะไร จู่ๆ อาการเลือดตกของเจ้าชายน้อยก็หายจนปลิดทิ้ง!

พระราชินีทรงเชื่อมั่นว่ารัสปูตินได้รับ พลังอำนาจจากพระเจ้า พระนางจึงทรงเชิญให้เขาเข้ามาพำนักอยู่ในราชฐานชั้นใน พื่อดูแลรักษาเจ้าชายน้อยอย่างใกล้ชิด

ที่นี้เองที่ทำให้รัสปูตินได้มีโอกาสคลุกคลีกับสาวกำนัลในราชวัง จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวว่าเขามีสัมพันธ์สวาทต่อนางข้าหลวง ตลอดจนเจ้าหญิง หรือแม้กระทั้งพระราชินีอเล็กซานดราก็ไม่เว้น!

ยิ่งไปกว่านั้น รัสเซียเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 ใน ค.ศ.1914 พระเจ้าซาร์ จึงทรงร่วมในการบัญชาการการรบด้วยตัวพระองค์เอง จึงเป็นเหตุให้รัสปูตินกระทำการบัดสีต่างๆ ได้ตามอำเภอใจหนักขึ้นเพราะเขาเป็นที่โปรดปรานของพระราชินี

พระราชินีทรงคิดว่า พระเจ้าได้สื่อสารกับพระราชวงศ์โดยการผ่านทางรัสปูติน เมื่อเขาพูดสิ่งใด พระนางก็ทรงปฏิบัติตามโดยไม่รอช้า ดังนั้นเมื่อรัสปูตินแนะนำใครมาดำรงตำแหน่งที่สูงๆ หรือขับไล่ใครคนใดคนหนึ่งออกจากวัง พระนางก็ทรงทำตามดังนั้น

ความเหิมเกริมของรัสปูตินทำให้เชื่อพระวงศ์และข้าราชบริพารกลุ่มหนึ่งทนไม่ ไหวกับการกระทำของเขา โดยเฉพาะเจ้าชายยูสโซบอฟ เจ้าชายจึงทรงวางแผนกับผู้ใกล้ชิด ลวงรัสปูตินไปยังห้องใต้ดิน

แผน การฆ่ารัสปูตินก็เริ่มขึ้น โดยการวางยาพิษสถานที่สังหารเป็นห้องใต้ดิน ณ วังมอยก้าของเจ้าชายยุสซูปอฟนั่นเอง โดยเจ้าชายจะเชิญรัสปูตินมาดื่มน้ำชา แล้วให้กินเค้กที่ผสมไซยาไนต์ แรกทีเดียวรัสปูตินปฏิเสธ แต่ก็เปลี่ยนใจหยิบขนมเค้กกินไป ๒ ก้อน ตามด้วยเหล้ามาเดียรา ๒ แก้ว เจ้าชายทรงยิ้มอยู่ในใจ แต่ก็ต้องทรงตกพระทัยขึ้นโดยพลัน เพราะรัสปูตินน่าจะล้มลงสิ้นใจตายไปต่อหน้า แต่รัสปูตินไม่เป็นอะไรเลย

เวลา ล่วงไป ๒ ชั่วโมง ดยุคดิมิตรีจึงส่งปืนพกให้

เจ้าชายทรงถือปืนแอบหลังลงมา พอเหยื่อหันไปเจ้าชายก็ทรงลั่นกระสุนตรงกลางหลังพอดี รัสปูตินร้องเสียงแหลมและล้มลงหงายกับพื้น

โดยไม่คาดฝันรัสปูตินบิดตัว ใบหน้ากระตุก ผุดลุกขึ้นยืน พร้อมกับกระชากอินทรธนูเครื่องแบบทหารของเจ้าชายขาดไปข้างหนึ่ง เจ้าชายทรงตกพระทัยสุดขีดกระโดดหนีวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นบน รัสปูตินคลานสี่ตีนตามขึ้นไปพร้อมด่าเอ็ดอึง

รัสปูตินตะโกนลั่น "ไอ้เฟลิกซ์ ไอ้เฟลิกซ์ ข้าจะฟ้องพระราชินี" กระนั้นก็ตามได้ลั่นกระสุนทันที ๒ นัดแรกผิด นัดที่ ๓ ถูกไหล่ และนัดที่ ๔ ถูกศีรษะ รัสปูตินผงะหงายหลังลงมาจากประตูเหล็ก พยายามจะลุกขึ้น แต่ลุกไม่ไหว นอนกัดฟันด้วยความแค้น พอดีเจ้าชายยุสซูปอฟทรงหายตกพระทัย ทรงถือไม้พลองมาด้วยอันหนึ่ง พลันกระหน่ำตีด้วยอารมณ์แค้นเคืองจนเลือดแดงท่วมหิมะ

ร่างรัสปูติ นถูกห่อด้วยพรม ทิ้งลงในปล่องน้ำแข็งในแม่น้ำเนวา ๓ วันต่อมามีผู้พบศพ จากการตรวจศพพบว่ารัสปูตินไม่ได้ตายเพราะยาพิษหรือฤทธิ์กระสุนปืน แต่ตายเพราะจมน้ำตาย !!!

ก่อนหน้าที่รัสปูตินจะตายไม่นาน เขาได้บันทึกสั้นๆ ถึงพระองค์ว่า

"ขอได้ทรงรับ รู้ว่า หากคนที่ฆ่าหม่อมชั้นตายเป็นคนสามัญธรรมดา ราชวงศ์โรมานอฟก็จะยั่งยืนต่อไป แต่ถ้าหากเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ทำให้หม่อมชั้นตาย พระองค์และครอบครัวจะต้องสิ้นพระชนม์ในสองปี จากฝีมือของประชาชนในรัสเซีย" เกรกอรี รัสปูติน

ไม่ถึง 3 เดือน หลังการตายของรัสปูติน กระแสการปฏิวัติเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่นครหลวงของรัสเซีย ราชวงศ์โรมานอฟถูกโค่นล้ม ตระกูลโรมานอฟพระเจ้าซาร์และพระราชินี พร้อมทั้งเจ้าหญิง เจ้าชาย ถูกสังหารสิ้นทั้งหมด !!!! ราชวงศ์ที่ปกครองรัสเซียมายาวนานหลายร้อยปี

จึงสูญสิ้นลงตั้งแต่บัดนั้น