ประโยชน์ของปลาทูไทย มี โอเมก้า-3 กินแล้วฉลาด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
ปลาทูไทย มี โอเมก้า-3 กินแล้วฉลาด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
กินปลาทูหนัก 1 ขีด ได้โอเมก้า-3 เพียงพอกับความต้องการ/วัน ไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารเสริม
ร่างกายคนเราต้องการไขมันชนิดดี เพื่อช่วยให้การฟื้นฟูเซลล์และฮอร์โมน กรดไขมันดี ที่ร่างกายต้องนำไปใช้ ประเภทที่ร่างกายต้องการมากที่สุดคือ กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3 fatty acid) มีประโยชน์ช่วยในเรื่องการบำรุงสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ทำให้เรียนเก่ง ความจำดี เฉลียวฉลาด
กรดไขมันโอเมก้า-3 ยังช่วยวัยผู้ใหญ่ได้ด้วย คือ ป้องกันความจำเสื่อม ลดและป้องกันอาการอักเสบของโรคข้อ ป้องกันโรคหัวใจ และในคนที่เป็นแล้วยังป้องกันไม่ให้มีอาการกำเริบหนักขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุล และทำให้ร่างกายแข็งแรงได้
ปลาทูไทย มี โอเมก้า-3 กินแล้วฉลาด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
กรดไขมันโอเมก้า-3 พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ล้วนเป็นปลาราคาแพงนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะเรามี “ปลาทูไทย” ในประเทศ ที่กินกันมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย แหล่งอาหารทะเลราคาไม่แพง ก็มีกรดไขมันโอเมก้า-3 พอๆ กับปลาราคาแพง
โดยเฉพาะปลาทูอ้วนๆ ตัวใหญ่ๆ จะยิ่งมีไขมันสูง อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ แต่ขอบอกว่า เคล็ดลับในการปรุงปลาทูเป็นอาหารเพื่อให้คงคุณค่าของกรดไขมันโอเมก้า-3 คือ กรดไขมันนี้จะถูกทำลายเมื่อนำไปปรุงอาหารด้วยความร้อนสูงๆ โดยเฉพาะวิธีการทอด เพราะโอเมก้า-3 จะละลายไปกับน้ำมันที่ใช้ทอดเกือบทั้งหมด (ทอดกรอบแบบในภาพนี่ไม่ดีนะคะ แต่กินกับน้ำพริกกะปิอร่อย)
วิธีที่จะประกอบอาหารให้ คงกรดไขมันโอเมก้า-3 ไว้ให้ได้มากที่สุดก็คือ การยำปลาทู ต้มส้มปลาทู ฉู่ฉี่ปลาทู เพราะกรดไขมันโอเมก้า-3 จะละลายอยู่ในน้ำซุปหรือน้ำแกง ไม่สูญสลายไปให้เสียคุณค่า
ในเนื้อปลาทู 100 กรัม หรือ 1 ขีด มีสารโอเมก้า-3 ประมาณ 2-3 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอกับร่างกาย เนื่องจากร่างกายต้องการโอเมก้า-3 ประมาณ 3 กรัม/วัน ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลาเสริมโอเมก้า-3 อีก เพราะจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเพิ่ม เปลืองเงินเปล่าๆ ค่ะ
สรุปว่า... ความเชื่อที่บอกต่อๆ กันมาว่ากินปลาแล้วจะฉลาด ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงนะคะ
******* *******