หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คดีฆาตกรรม 30 ศพที่สึยามะ !!!

โพสท์โดย ผีเจ้า

 

คิดว่าหลายท่านในที่นี้คงจะได้อ่านนิยายสืบสวนคดีฆาตกรรมของนักสืบคินดะอิจิ เคียวสึเกะซึ่งเขียนโดยอ.โยโคมิโสะ เคย์ชิไปแล้ว
(ที่เป็นปู่ของคินดะอิจิ ฮะจิเมะในการ์ตูนน่ะคับ) ในตอน"หมู่บ้านแปดหลุมศพ"ซึ่งเป็นตอนหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของซีรียส์ ยังจำได้ไหมว่ามีการพูดถึงคดีฆาตกรรม 33 ศพในตอนต้นเรื่อง และต้นแบบของคดีดังกล่าวนี้ก็คือคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นจริงในจังหวัดโอคายามะนั่นเอง

ลองอ่านกันดูนะครับ สนุกมากครับ !!



津山事件 หรือ 津山三十人殺し
คดีสึยามะ หรือคดีฆาตกรรม 30 ศพที่สึยามะ


จากเมืองสึยามะในจังหวัดโอคายามะไปทางตอนเหนือ 20 กิโลเมตรคือหมู่บ้านไคโอะและหมู่บ้านซาคาโมโตะซึ่งอยู่เยื้องไปทางจังหวัดโทตโทริ ทั้งสองหมู่บ้านนี้เป็นชุมชนขนาดเล็กในหุบเขา มีผู้อาศัยรวมกันเพียง 43 ครัวเรือนหรือ 205 คนเท่านั้นเอง




โทอิ มุทสึโอะ เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 1917 ที่เมืองยูกิชิเงะในอำเภอโทมาดะนั่นเอง ทั้งพ่อและแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่เขาอายุยังน้อยเนื่องจากวัณโรค โยเนะผู้เป็นย่าจึงรับเขาและพี่สาวชื่อมินาโกะมาเลี้ยงและย้ายกลับมายังบ้านเกิดที่หมู่บ้านไคโอะ
* บ้านซึ่งครอบครัวโทอิเช่าอยู่นี้ แต่เดิมเป็นบ้านของเทระคาวะ จิโยะซึ่งภายหลังกลายมาเป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายคดีสึยามะ ซึ่งเมื่อปี 1875 จูจิโร่ผู้เป็นสามีเก่าของจิโยะ ได้ไปมีความสัมพันธุ์เชิงชู้สาวกับทาเอะซึ่งเป็นภรรยาของฟูจิโมริ โทคุโซ และถูกสามีจับได้ โทคุโซผู้เป็นสามีคิดแค้นจึงนำดาบญี่ปุ่นบุกมาถึงบ้านเทระคาวะ แต่ฆ่าทาเอะไม่ลง เมื่อฆ่าจูจิโร่แล้วก็คว้านท้องตัวเองตาย ในตอนนั้น โทคุโซมีอายุ 21 ปีเท่ากับโทอิ มุทสึโอะยามก่อคดีพอดี
 



 
มุทสึโอะในวัยเด็กนั้นเป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว มักขลุกในตัวอยู่ในบ้านเล่นกับพี่สาวเสียมากกว่า เมื่ออายุได้ 6 ปีซึ่งเป็นปีที่เขาต้องไปเข้าเรียนชั้นประถม ย่าก็อ้างเหตุผลว่าหลานมีร่างกายอ่อนแอต้องอยู่รักษาตัวกับบ้านจึงทำให้มุทสึโอะเข้าเรียนช้ากว่าเด็กคนอื่นไปหนึ่งปี ในข้อนี้ นอกจากจะเพราะตัวมุทสึโอะเองไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว ส่วนหนึ่งยังมาจากอคติของผู้เป็นย่าที่มีต่อทางโรงเรียนอีกด้วย

(ไม่กี่ปีก่อนนี้ ราคาซื้อข้าวสารถีบตัวสูงเป็นประวัติการณ์ สร้างกำไรให้กับครอบครัวชาวนาเช่นบ้านโทอิ แต่ครูใหญ่ของโรงเรียนได้ไปยื่นเรื่องกับทางอำเภอให้ทำการควบคุมราคาซื้อขายข้าวสาร จึงสร้างความไม่พอใจให้กับโยเนะผู้เป็นย่าเป็นอย่างมาก)
ภายหลังเมื่อมุทสึโอะเข้าเรียน เขามีผลการเรียนดี รักการอ่าน ทางโรงเรียนแนะนำว่าเขาควรจะไปเรียนต่อที่โรงเรียนประจำจังหวัด หากถูกย่าโยเนะคัดค้าน มุทสึโอะจึงปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป

ปี 1932 หลังเรียนจบมาได้ไม่นานนัก มุทสึโอะก็ป่วยหนักและถูกแพทย์สั่งห้ามทำงานหนัก เขาอยู่เฉยๆไม่งานอะไรพักหนึ่งจนอาการเริ่มดีขึ้นแล้วเข้าเรียนต่อในโรงเรียนวิชาเสริมประจำหมู่บ้านตามคำแนะนำของมินาโกะผู้เป็นพี่สาว

(แน่นอนว่าเจอย่าคัดค้านก่อน) หากเมื่อพี่สาวแต่งงานออกจากบ้านไป มุทสึโอะก็เริ่มเบื่อหน่ายการเรียนและกลับมาขลุกตัวอยู่กับบ้านอีกครั้ง เขาไม่คบหากับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่เขียนหนังสือมาอ่านให้เด็กแถวบ้านฟังบ่อยๆ
 



ในหมู่บ้านของมุทสึโอะยังมีธรรมเนียมโยไบหลงเหลืออยู่

(夜這い - ธรรมเนียมในแถบคันไซสมัยก่อน ซึ่งจะถือว่าผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงานและแม่ม่ายเป็นสมบัติส่วนรวมของผู้ชายในหมู่บ้านเดียวกัน พอตกค่ำก็จะไปมาหาสู่เพื่อมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวโดยความยินยอมของทั้งสองฝ่าย)

มุทสึโอะจึงมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายรายผ่านธรรมเนียมดังกล่าว หากในปี 1937 มุทสึโอะเข้าสอบเป็นทหารและถูกตัดสินให้สอบตกเนื่องจากมีอาการเบื้องต้นของวัณโรค จากในช่วงนี้เองที่ผู้หญิงที่เขาคบหาอยู่พากันปฏิเสธที่จะมีสัมพันธ์ด้วย เนื่องจากผู้หญิงในยุคนั้นมีค่านิยมชื่นชมผู้ชายที่เข้ารับการเกณฑ์ทหารมากกว่า ซ้ำในยามนั้นวัณโรคยังเป็นโรคติดต่อที่ไม่สามารถรักษาได้ จึงยิ่งทำให้คนในหมู่บ้านพากันกีดกันเขาออกไปและมักจะซุบซิบนินทาเยาะเย้ยเขาอยู่บ่อยๆ




ในปีเดียวกัน มุทสึโอะสอบได้ใบอนุญาตล่าสัตว์แล้วก็ซื้อปืนล่าสัตว์แบบยิงสองนัด ปีถัดมาซื้อปืนบราวนิ่งแบบยิงห้านัดและขึ้นไปซ้อมยิงปืนบนภูเขาทุกวัน พอตกค่ำก็ถือปืนเดินวนเวียนไปมาในหมู่บ้าน สร้างความกังวลให้กับคนในแถบนั้นมาก ซึ่งในข้อนี้ มีการวิจารณ์ว่ามุทสึโอะคิดจะใช้ปืนขู่พวกผู้หญิงให้มีความสัมพันธ์กับตนโดยไม่ได้คิดจะฆ่าชาวบ้านแต่อย่างไร
 
หรือบ้างก็ว่าเขาเพียงแต่ใช้ปืนเป็นเครื่องป้องกันตัวจากการรุมทำร้ายของคนในหมู่บ้านเท่านั้น หากในไม่ช้า มุทสึโอะก็เอาที่นาไปจำนองเพื่อนำเงินมาซื้อปืนสำหรับล่าสัตว์ใหญ่ซึ่งอาจหมายความโดยนัยว่าเขากำลังเตรียมจะก่อคดีในไม่ช้า จนวันหนึ่ง โยเนะผู้เป็นย่าเห็นมุทสึโอะใส่ยาลงในซุปมิโสะของตน จึงโวยวายขึ้นมาแล้วไปแจ้งความกับตำรวจว่าตัวเองจะถูกหลานฆ่า ทางตำรวจจึงยกคนมาค้นบ้านและยึดอาวุธปืนทั้งหมดไป พร้อมกันนั้นยังได้ยึดดาบญี่ปุ่น ดาบสั้น มีดจีนรวมทั้งใบอนุญาตล่าสัตว์ไปอีกด้วย

แต่กระนั้น มุทสึโอะก็ยังอาศัยเส้นสายของคนรู้จัก รวบรวมปืนและอาวุธต่างๆมาอีกครั้ง เขารอจนกระทั่งผู้หญิงสองคนซึ่งเคยคบหากับตนมาก่อนแต่แต่งไปอยู่หมู่บ้านอื่นกลับมายังหมู่บ้าน จึงได้เริ่มก่อคดีขึ้นคืนนั้นเอง ในขณะเกิดคดี มุทสึโอะมีอายุได้ 21 ปี




วันที่ 20 พฤษภาคม 1938 ในคืนก่อนเปิดฉากคดีฆาตกรรมที่สึยามะนั้นเอง เมื่อเวลาประมาณสี่โมงเย็น มุทสึโอะขี่จักรยานวนไปตามบ้านต่างๆที่ตนวางแผนจะเข้าโจมตีเพื่อตรวจตราล่วงหน้า ประมาณห้าโมงเย็นวันเดียวกัน เขาปีนเสาไฟฟ้าขึ้นไปตัดสายไฟทำให้ไฟดับทั้งหมู่บ้าน หากชาวหมู่บ้านก็ไม่มีใครเอะใจเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไปแจ้งให้ช่างไฟฟ้ามาซ่อมสายไฟแต่อย่างไร




หลังจากนั้น มุทสึโอะก็กลับมาบ้าน ขึ้นไปในห้องใต้หลังคาแล้วเปลี่ยนชุดเตรียมออกรบ เขาใส่เสื้อคอตั้งของทหาร พันสายคาดกับหน้าแข้งทั้งสองข้าง บนหัวพันกระบอกไฟฉายขนาดเล็กสองอันไว้ราวกับเขาของปีศาจ แล้วแขวนไฟหน้าของจักรยานไว้กับตัว ที่เอวเสียบดาบญี่ปุ่นกับมีดจีนอีกสองเล่ม ในมือถือปืนบราวนิ่งขนาดยิงติดต่อกันเก้านัด เขายัดกระสุนลงในกระเป๋ากว่า 100 นัด สะพายย่ามซึ่งบรรจุดินปืนกับปลอกกระสุน และวางพินัยกรรมของตนทิ้งไว้แล้วก็พร้อมที่จะเปิดฉากการล้างแค้นในที่สุด




วันที่ 21 พฤษภาคม 1938 เวลาประมาณ 0 นาฬิกากว่าๆมีฝนตกเล็กน้อยหากก็หยุดลงในไม่ช้า อากาศในคืนนั้นหนาวเหน็บ มีแสงจันทร์ส่องลอดเมฆลงมาเป็นระยะ และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มุทสึโอะสามารถก่อคดีฆาตกรรมมากรายได้ภายในคืนเดียวนั้นมาจากการที่หมู่บ้านนี้ยังห่างไกลความเจริญ ชาวบ้านส่วนใหญ่มักไม่ลงกลอนประตูแม้แต่ในเวลากลางคืนนั่นเอง




หลังที่ 1 เวลาประมาณตีหนึ่ง 40 นาที มุทสึโอะลงมาจากห้องใต้หลังคาแล้วเข้าไปในห้องนอนย่า ใช้ขวานฟันคอผู้เป็นย่าขาดกระเด็นไปถึง 50 เซนติเมตร

ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 1 ราย

*จากจุดนี้ลงไป ค่อยๆอ่านนะครับ เพราะรายชื่อจะเพิ่มขึ้น ท่านอาจจะสับสนได้ !!




หลังที่ 2 เขาเลือกบ้านคิชิโมโตะ คัทสึยูกิเป็นเหยื่อรายถัดมา คัทสึยูกิซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวอยู่ระหว่างการเกณฑ์ทหารจึงไม่อยู่บ้าน ส่วนสึกิโยะ(50)นั้นเคยมีความสัมพันธ์กับมุทสึโอะมาก่อนแต่มาภายหลังได้ปฏิเสธเขา ซ้ำยังเอาเรื่องไปพูดให้คนอื่นฟังทั่วหมู่บ้านจนมุทสึโอะคิดแค้นใจเป็นพิเศษ หากพอจะใช้ปืนก็เกรงว่าเสียงปืนจะดังไปถึงหูคนอื่น เขาจึงใช้ดาบญี่ปุ่นแทงอกสึกิโยะจนทะลุเสื้อทาทามิ ก่อนจะแทงซ้ำที่ปาก
หลังจากนั้นก็ใช้ดาบเล่มเดียวกันฟันลูกชายวัย 14 ปีและ 11 ปีที่นอนอยู่ข้างๆจนเสียชีวิต ส่วนลูกสาวชื่อมิสะ(19)ไม่อยู่บ้าน หากมุทสึโอะก็รู้ดีว่าเธอไปค้างอยู่ที่บ้านเทระคาวะ
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 4 ราย



หลังที่ 3 เป็นบ้านของครอบครัวนิชิดะ ฮิเดชิ โทเมะ(43)ผู้เป็นภรรยาก็เป็นหนึ่งผู้หญิงที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วยและกล่าวปฏิเสธมุทสึโอะมาก่อน เขาจ่อปืนยิงท้องของโทเมะซึ่งหลับอยู่จนอวัยวะภายในระเบิดกระจายออกมา

ที่ห้องข้างๆ ฮิเดชิผู้เป็นสามี(50) เรียวโกะลูกสาวคนโต(22) และทสึรุโกะน้องสะใภ้(22)ต่างนอนหลับอยู่ที่โต๊ะอุ่นขา เรียวโกะเป็นหนึ่งในสองคนที่ทำให้เขาเลือกจะลงมือในคืนนี้ เธอเคยคบหากับมุทสึโอะแต่แต่งงานไปอยู่หมู่บ้านอื่น ที่กลับมาบ้านก็เพื่อจะเยี่ยมดูแลแม่ที่กำลังป่วยเป็นหวัดนั่นเอง ทั้งสามคนสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงปืน หากก็ถูกมุทสึโอะยิงตายในที่นั้นเอง
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 8 ราย




หลังที่ 4 ครอบครัวคิชิโมโตะ ทาคาชิ มุทสึโอะบุกเข้าบ้านยิงทาคาชิเจ้าบ้าน(22) และนิชิดะ จิเอะ(20)ตายคาฟูก จิเอะกำลังท้องหกเดือน กระสุนถูกครรภ์ของเธอตายสนิทในทันที

หลานชื่อทากาโอะกระโจนเข้ามา หากก็ถูกมุทสึโอะให้ด้ามปืนฟาดแล้วยิงที่อกจนเสียชีวิต ก่อนจะหันไปพูดกับทามะ(70)ผู้เป็นย่าว่า"ฉันไม่มีความแค้นอะไรกับบ้านแกหรอก แต่ลูกสาวนิชิดะแต่งเข้าบ้านนี้ ฉันก็เลยต้องฆ่าพวกแกด้วย" ทามะร้องขอชีวิต มุทสึโอะจึงสั่งให้เงยหน้าขึ้นแล้วยิงที่อก ทามะกระเด็นปลิวไป เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสก็จริง แต่ก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหารย์
* จิเอะเป็นลูกสาวคนรองของนิชิดะ โทเมะ ผู้เคราะร้ายในบ้านหลังที่ 3
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 11 ราย




หลังที่ 5 บ้านเทระคาวะ เซย์อิจิมีผู้อาศัย 6 คน ต่างก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงปืน เมื่อมุทสึโอะบุกเข้ามาทางประตูหน้าบ้าน เซย์อิจิผู้เป็นเจ้าบ้าน(60)ออกมาดูว่าใครแล้วก็ถูกยิงที่อกถึงแก่ชีวิต

เทย์อิจิลูกชายคนโต(19)กระโจนออกนอกบ้านทางหน้าต่างหากก็ถูกยิงที่หลัง โทกิลูกสาวคนที่ห้า(15)กับฮานะลูกสาวคนที่หก(12)กำลังจะหนีออกไปทางระเบียงหากก็ถูกยิงเสียก่อน เซ็ตสึโกะผู้เป็นสะใภ้(22)โดนต้อนไปที่มุมห้องแล้วถูกยิงที่อกจนเสียชีวิต (เทย์อิจิกับเซ็ตสึโกะเพิ่งจะแต่งงานกันเมื่อ 6 วันก่อนเกิดคดีนี้เอง)

ยูริโกะลูกสาวคนที่สี่(22)นั้นเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมุทสึโอะแต่เธอหนีไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น มุทสึโอะแค้นใจจึงบุกไปโยไบในคืนวันแต่งงานนั่นเอง ผลทำให้ยูริโกะต้องหย่าไปโดยปริยาย มุทสึโอะตั้งใจจะกลับมาคบกับยูริโกะใหม่หากฝ่ายผู้หญิงแต่งงานอีกครั้งไปอยู่หมู่บ้านอื่น และเพิ่งจะกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้ (เธอเป็นหนึ่งในสองคนที่ทำให้มุทสึโอะตัดสินใจลงมือ) ในวันเกิดเหตุ ยูริโกะหนีออกทางประตูหลังไปหลบอยู่ที่บ้านเทระคาวะ ชิเงคิจิที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้เธอมีเพียงบาดแผลเล็กน้อยและรอดชีวิตมาได้ แต่สมาชิกคนอื่นๆของเทระคาวะอีกหลังนั้นไม่ได้โชคดีด้วย
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 16 ราย




หลังที่ 6 บ้านเทระคาวะ ชิเงคิจิหลังนี้แต่เดิมไม่ได้อยู่ในแผนล้างแค้นของมุทสึโอะ หากเมื่อเขารู้ตัวว่ายูริโกะหนีมาที่นี่จึงไล่ตามมา ตอนที่มุทสึโอะมาถึง คนในบ้านได้ลงกลอนประตูแล้ว มุทสึโอะจึงตะโกนโวยวายสั่งให้เปิดประตูอยู่ที่หน้าบ้าน โคชิโร่ผู้พ่อ(86)อยู่ที่เรือนเล็กไม่ทันทราบเรื่องราว เมื่อเปิดประตูระเบียงก็ถูกยิงซ้อนกันสองนัดที่อกจนเสียชีวิตในทันที

ภายในเรือนใหญ่ยูริโกะกับครอบครัวเทระคาวะอีก 4 คนปิดประตูลงกลอนหน้าต่างอย่างแน่นหนา แต่เมื่อมุทสึโอะทุบประตูหลังพร้อมกับระรัวยิงปืน ชิเงคิจิผู้เป็นเจ้าบ้านก็เกรงว่าหากปล่อยไว้ท่าจะไมดี จึงให้ชินจิลูกชายคนรอง(17)ออกทางประตูข้างไปขอความช่วยเหลือจากบ้านเทระคาวะ เก็นอิจิ หากขณะกำลังหลบออกไปก็ถูกมุทสึโอะพบเห็นเสียก่อน ชินจิจึงหลบอยู่ในกอไผ่รอดสายตาคนร้ายมาได้ มุทสึโอะจึงกลับมาที่บ้านเทระคาวะ ตะโกนโวยวายแล้วยิงใส่ประตูสองนัด ซึ่งหนึ่งนัดยิงถูกขาของยูกิโกะลูกสาวคนที่สี่(21)จนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 17 ราย




มาถึงตรงนี้ เสียงปืนที่ดังติดๆกันหลายนัดก็ทำให้ชาวบ้านเริ่มรู้ตัวถึงเหตุการณ์ผิดปกติในที่สุด




หลังที่ 7 คือบ้านของเทระคาวะ โคจิซึ่งอยู่บนเนิน มุทสึโอะเคยจ่ายเงินให้กับโทโยะ(45)เพื่อที่จะมีความสัมพันธ์ด้วยแต่ภายหลังก็ถูกปฏิเสธ ซ้ำเธอยังรับหน้าที่เป็นแม่สื่อหาคู่ให้กับเรียวโกะและยูริโกะอีกด้วย โทโยะและลูกชายชื่อโคจิ(21)ยังคงนอนหลับสนิทโดยไม่ทันได้ยินเสียงปืน มุทสึโอะจึงยิงแม่ลูกทั้งคู่ตายคาที่นอน
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 19 ราย




หลังที่ 8 คือบ้านเทระคาวะ เซ็นคิจิซึ่งอยู่ใกล้ๆกับบ้านของมุทสึโอะเอง ที่จริงแล้วมุทสึโอะไม่มีความแค้นโดยตรงกับบ้านนี้ หากฟุเนะชิตะ ทสึรุโยะ(21)กับคิชิโมโตะ มิสะ(19)ซึ่งเคยปฏิเสธเขามานอนค้างที่นี่เพื่อช่วยเลี้ยงตัวไหม เขาลอบเข้าไปในโรงเลี้ยงไหมแล้วยิงใส่ทั้งคู่คนละสองนัด คนหนึ่งถูกยิงที่ศีรษะจนสมองกระเด็นออกมา ส่วนอีกคนถูกยิงที่ท้องจนไส้ทะลัก เสียชีวิตในที่นั้นทั้งคู่
ฮิระจิ โทระภรรยาเจ้าบ้าน(65)ซึ่งนอนค้างในที่เดียวกันพยายามร้องขอชีวิต หากก็ถูกยิงทะลุท้องจนถึงแก่ความตาย
หลังจากนั้น มุทสึโอะบุกเข้าไปในเรือนใหญ่ก็จริง หากก็เปลี่ยนใจ กลับออกมาโดยไม่ได้ฆ่าใคร
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 22 ราย




หลังที่ 9 เป็นบ้านของฟุเนะชิตะ เคียวอิจิ (ทสึรุโยะผู้เป็นลูกสาวถูกฆ่าตายไปแล้วที่บ้านก่อน) มุทสึโอะเข้าไปเจออิโตะ(47)กำลังดูไฟในโรงไหมอยู่พอดี จึงระรัวยิงปืนใส่จนอิโตะได้รับบาดเจ็บสาหัส อิโตะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหากก็เสียชีวิตในอีก 6 ชั่วโมงให้หลัง
เคียวอิจิเจ้าของบ้านได้ยินเสียงปืนจึงหนีออกจากบ้านไปได้ทัน (เขาเคยแต่งงานกับยูริโกะมาระยะหนึ่ง จึงเป็นไปได้ที่จะอยู่ในรายการแค้นของมุทสึโอะด้วย) เคียวอิจิวิ่งไปยังป้อมตำรวจเพื่อจะแจ้งความ หากป้อมที่ใกล้ที่สุดนั้น นายตำรวจออกไปตระเวณรักษาการณ์พอดี เคียวอิจิจึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากอีกป้อมที่อยู่ห่างออก ซึ่งกว่าเขาจะไปถึงนั้นก็เป็นเวลาประมาณตีสอง 40 นาที
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 23 ราย




หลังที่ 10 คือครอบครัวอิเคะยามะ มัทสึโอะ นอกจากลูกชายคนโตที่กำลังอยู่ระหว่างไปเที่ยวทัศนศึกษาแล้ว สมาชิกคนอื่นๆอีก 7 คนอยู่บ้านกันพร้อมหน้า ที่มุทสึโอะเลือกครอบครัวนี้เป็นเหยื่อก็เพราะมัทสึโอะเป็นพี่ชายของเทระคาวะ มัทสึโกะที่เขาเคยมีสัมพันธ์ด้วย หากพอมัทสึโกะทราบว่าเขาป่วยเป็นวัณโรคก็บอกเลิกคบหาในทันที (มัทสึโกะเห็นท่าทางมุทสึโอะไม่น่าไว้ใจจึงพาลูกของตนย้ายไปอยู่เกียวโต ก่อนไปได้ชวนนิชิดะ โทเมะ(ผู้เคราะห์ร้ายในบ้านหลังที่ 3)ให้หนีไปด้วยกัน
 
 
แต่โทเมะไม่ไปโดยให้เหตุผลว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรให้ถูกแค้นจนถึงขนาดต้องฆ่าฟันกัน) มัทสึโอะเปิดบานระเบียงออกมาข้างนอก เมื่อถูกมุทสึโอะพบที่ประตูหลังก็โดนรัวยิงใส่ หากเจ้าตัวลนลานหนีไปซ่อนในกอไผ่ทันจึงรอดมาได้
 
จากนั้นมุทสึโอะเข้าไปในบ้านแล้วยิงมิยะผู้เป็นภรรยา(34)จนเสียชีวิต และยังลั่นปืนใส่เทรุโอะลูกชายคนที่สี่(5)จนไส้ทะลักออกมาจากท้อง ทสึรุผู้เป็นแม่(72)ถูกกระสุนทะลุผ่านไหล่ซ้ายเสียชีวิต คัทสึอิจิผู้พ่อ(74)พยายามจะหนีออกทางประตูหน้า แต่ถูกมุทสึโอะรัวปืนใส่ กระสุนหกนัดยิงถูกตัวและทะลุถูกปอดเสียชีวิต ส่วนลูกชายคนรองและลูกชายคนที่สามนั้น มุทสึโอะละเว้นชีวิตให้จึงรอดมาโดยไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 27 ราย




หลังที่ 11 เป็นบ้านบนเนินสูงของเทระคาวะ คุระอิจิซึ่งเป็นคนมีฐานะในหมู่บ้าน คุระอิจิได้ใช้เงินมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายคนในหมู่บ้านซึ่งในจำนวนนั้นมีมัทสึโกะและมิโยะรวมอยู่ด้วย มาถึงตรงนี้ ไฟรถจักรยานของมุทสึโอะดับไปแล้ว หากเมื่อปีนมาถึงยอดเนิน เขาก็ตะโกนเรียกให้คุระอิจิออกมา ฮามะผู้เป็นภรรยา(56)ถือเทียนออกมาดู พอกำลังจะหันกลับไปในบ้าน
 
มุทสึโอะก็ลั่นปืนมาโดนมือที่ถือเทียนของฮามะ คุระอิจิรีบมาช่วยฮามะดันประตูไม่ให้คนร้ายเข้ามา หากเมื่อเห็นมุทสึโอะลั่นปืนใส่ประตูห้านัดทะลุมาโดนแขนขวาของฮามะก็ตกใจ วิ่งหนีขึ้นไปชั้นสองแล้วเปิดหน้าต่างออกมาตะโกนขอความช่วยเหลือ (เนื่องจากบ้านนี้อยู่บนเนินสูง เสียงจึงได้ยินไปทั่วหมู่บ้าน) มุทสึโอะยิงปืนใส่คุระอิจิหากไม่โดน เมื่ออีกฝ่ายฟุบตัวหลบไป คนร้ายจึงตัดใจไปยังบ้านอื่นต่อ ฝ่ายฮามะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลก็จริง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตไปในอีก 12 ชั่วโมงให้หลัง
ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต 28 ราย




หลังที่ 12 จนถึงตรงนี้ล้วนเป็นคดีที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านไคโอะก็จริง แต่บ้านหลังถัดมานี้เป็นบ้านของโอกาเบะ คาสึโอะในหมู่บ้านซากาโมโตะที่อยู่ข้างเคียงกัน มุทสึโอะวิ่งไปตามทางในร่องเขาเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตรเพื่อจะตามมาล้างแค้น มิโยะผู้เป็นภรรยา(32)นั้นมีความสัมพันธ์หลายครั้งกับมุทสึโอะแต่ถูกคาสึโอะผู้เป็นสามี(51)ขัดขวางมาตลอด จนพักนี้มิโยะเองก็มีท่าทีเย็นชากับเขาไปอีกคน บ้านโอกาเบะปกติจะลงกลอนประตูไว้ก็จริง แต่มิโยะปลดกลอนออก (คาดว่าคงเพราะการคบหากับคุระอิจิ) คนร้ายจึงบุกเข้ามาในบ้านได้ คาสึโอะพยายามจะคว้าปืนลมมายิงสู้ หากก็ถูกมุทสึโอะยิงใส่เจ็ดนัดจนเสียชีวิตไปพร้อมกับภรรยา


และแล้วในที่สุด คดีฆาตกรรมซึ่งกินเวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งก็สิ้นสุดลง รวมจำนวนผู้เสียชีวิต 30 ราย
(28 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ อีก 2 รายได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในภายหลัง) บาดเจ็บหนัก 1 ราย บาดเจ็บอีกเล็กน้อย 2 ราย
 



หลังจากฆ่าสามีภรรยาโอกาเบะแล้ว ประมาณตีสาม มุทสึโอะไปยังบ้านทาเคดะเพื่อขอกระดาษกับพู่กัน อัทสึโอะคุง(5)เป็นเด็กที่ไปฟังมุทสึโอะเล่าเรื่องให้ฟังบ่อยๆเป็นผู้นำกระดาษกับดินสอมาให้ เขาบอกกับเด็กชายว่า"ตั้งใจเรียนให้ได้ดิบได้ดี"แล้วก็รับของมา เขาเดินขึ้นภูเขาไป 3 กิโลเมตรครึ่งเพื่อเขียนพินัยกรรมเพิ่มเติม และฆ่าตัวตายเป็นการปิดฉากคดีสึยามะลงในที่สุด
(ผลการชันสูตรศพ พบว่าเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณตีห้าของวันเกิดคดี)




พินัยกรรมหรือจดหมายลาตายที่พบข้างศพของโทอิ มุทสึโอะในเขามีใจความดังนี้

"ผมกำลังจะตายแล้วจึงขอเขียนข้อความทิ้งเอาไว้ ผมได้ตัดสินใจทำการลงไปก็จริง แต่ไม่สามารถฆ่าคนที่ควรจะฆ่า กลับฆ่าคนที่ไม่ควรจะฆ่าเพราะเหตุการณ์พาไป ต้องขออภัยคุณย่ามาจากใจจริง ย่าเลี้ยงผมมาตั้งแต่สองขวบ ผมไม่ควรจะฆ่าท่านก็จริง แต่สงสารท่านที่ต้องถูกทิ้งไว้เพียงลำพังจึงตัดสินใจทำเช่นนั้นลงไป ผมตั้งใจจะฆ่าท่านให้ไปสบายแต่ลงท้ายก็ไม่ได้ดังใจคิด มีแต่ต้องหลั่งน้ำตาให้ด้วยความเสียใจ ผมต้องขอโทษพี่ด้วย ขอโทษจริงๆ ยกโทษให้น้องชายไม่เอาไหนคนนี้ด้วย ผมทำเรื่องเช่นนี้ลงไป

(ถึงจะรู้ดีว่าเป็นความผิดของตัวเอง) พี่จะไม่ทำศพให้ผมก็ได้ ถึงจะโดนทิ้งให้เน่าเปื่อยอยู่กลางทุ่งก็สมกับความตั้งใจของผมแล้ว สี่ปีที่เจ็บป่วยต้องเผชิญกับความเย็นชาของสังคม ผมร้องไห้กับความกดขี่ข่มเหง แม้จะได้รับความรักจากครอบครัว หากก็ยากที่จะทนทานได้ สังคมควรจะเห็นใจคนป่วยวัณโรคให้มากกว่านี้ ผมเบื่อที่จะเป็นคนอ่อนแอแล้ว ครั้งหน้าจะขอเป็นคนเข้มแข็ง ชีวิตของผมที่ผ่านมามีแต่ความทุกข์ คราวนี้จะขอเกิดใหม่ไปหาชีวิตที่มีความสุขกว่านี้

อะไรๆก็ไม่เป็นไปตามที่คิด ที่ผมตัดสินใจลงมือในครั้งนี้ก็เพราะเทระคาวะ ยูริโกะที่เคยคบหากันกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ทั้งนิชิดะ เรียวโกะก็กลับมาพอดี แต่เทระคาวะ ยูริโกะกลับหนีรอดไปได้ ยังมีเทระคาวะ คุระอิจิอีกคน เสียดายที่ต้องปล่อยให้มันรอดไป คนพรรค์นั้นควรจะถูกกำจัดให้หายไปจากโลกนี้ เจ้านั่นให้เงินหลอกล่อแม่ม่ายตัวคนเดียวให้คบหากับตัวเอง จนไม่มีผู้หญิงคนไหนในหมู่บ้านที่ไม่มีความสัมพันธ์กับมันเลยก็ว่าได้ คิชิโมโตะ จุนอิจิก็เอาแต่ลักลอบล่าสัตว์ มีแต่คนในหมู่บ้านรังเกียจ คนอย่างพวกเขาสมควรจะถูกกำจัดไปจากโลกนี้
"ฟ้ากำลังจะสางแล้ว ผมขอตัวตายไปก่อนล่ะ"
 



ในความเป็นจริงนั้น เนื่องจากมุทสึโอะซึ่งเป็นคนร้ายได้ฆ่าตัวตายไปโดยไม่ถูกสอบปากคำ ทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีต่างก็เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก รูปคดีจึงทราบได้เพียงจากคำให้การของคนที่รอดชีวิตอยู่เท่านั้น จึงยังมีหลายส่วนที่ยังคลุมเคลืออยู่ ทั้งผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ต่างก็มีความสัมพันธ์เป็นญาติ จึงมีความเป็นไปได้ที่ต่างจงใจจะป้ายความผิดทั้งหมดให้กับมุทสึโอะแต่ผู้เดียว

หลังเกิดคดี ญาติของมุทสึโอะที่ไม่ถูกทำร้ายถูกครหาว่ารู้แต่แรกแล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นแต่ก็ไม่กล่าวห้ามปราม จึงถูกตัดขาดชาวบ้านคนอื่นๆ




นอกจาก"หมู่บ้านแปดหลุมศพ"ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว คดีนี้ยังเป็นต้นแบบในสื่อต่างๆอีกหลายอย่างด้วยคับ ที่ผมพอจะทราบก็ในเกม Siren กับเกม 零-赤い蝶-(Fetal Frame II -Crimson Butterfly-) เป็นต้น.

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ผีเจ้า's profile


โพสท์โดย: ผีเจ้า
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (4/5 จาก 10 คน)
VOTED: ป้าสวย, kleoland, Rinnn, โดราเอม่อน, ท่านฮั่ว แม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้ง, ginger bread, จิ๊บจิ๊บ, aiv, เฟิสไงจำไม่ได้หรา
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มกล้ามโตจีบสาว สาวไม่เล่นด้วย เลยจับสาวทุ่มลงพื้นนักเรียนมุสลิมในเยอรมันเผย "ศาสนาของเรา อยู่เหนือกฎหมาย!!"ยังจำ " คลิปแรก " ของโลกบน YouTube กันได้ไหมสาวสอบติดครู ร้องไห้หนัก เหตุบนลิเกไว้ 4 วัด เข่าทรุดหลังรู้ราคาลิเกสำนักงานพุทธฯ สั่งตรวจสอบ พ่อแม่ "น้องไนซ์" เชื่อมจิตหนุ่มเครียด! แฟนไปทำศัลยกรรม แล้วหน้าตลกจนไม่มีอารมณ์..ด้วย?สรุปดราม่า "กุสุมา สันป่าเหียง"”ดอนเมือง“ ถูกยก สนามบินดีที่สุดในโลกอันดับ 10 ของสายการบินต้นทุนต่ำอีก 50 ปีข้างหน้า ไทยจะ "ร้อนเท่าทะเลทรายซาฮาร่า"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หลวงพ่อทองคำ พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกไทยเสนอเป็นคนกลาง ไกล่เกลี่ยสงครามเมียนมาเอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?เมื่อหนูน้อยทำตุ๊กตา "ลาบูบู้"..เพราะรู้ซื้อไม่ได้ มันราคาแพง!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
hijack: จี้ จี้เครื่องบินอีก 50 ปีข้างหน้า ไทยจะ "ร้อนเท่าทะเลทรายซาฮาร่า"detain: กักขัง ควบคุมตัวยังจำ " คลิปแรก " ของโลกบน YouTube กันได้ไหม
ตั้งกระทู้ใหม่