หนุ่มหัวเราะเยาะพ่อแฟนที่เป็นกรรมกร แต่เธอพูดสวนกลับได้อย่างสาสม…
นี่เป็นเรื่องราวของสาวคนหนึ่งที่เธอออกมาเปิดเผยเรื่องราวของเธอกับพ่อที่เป็นกรรมกรก่อสร้าง ตอนเด็กๆเธอมักจะนึกน้อยใจที่ต้องถูกพ่อเลี้ยงมาอย่างเลอะเทอะเปรอะโคลนอยู่ในเขตก่อสร้างทั้งวัน แต่ว่าพอโตขึ้นเธอก็ได้รู้ว่าพ่อต้องอดทนยากลำบากเพียงไหนเพื่อหาเงินมาเลี้ยงปากท้องคนในครอบครัว เธอเข้าใจดีว่าอาชีพไม่ใช่ตัวแบ่งความเท่าเทียมทางสังคม ทุกอาชีพก็จำเป็นต้องขยันทำงานถึงจะมีเงิน และในความคิดของเธอนั้นอาชีพกรรมกรของคุณพ่อก็ไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าใครที่ไหนเลย มีครั้งหนึ่งที่พ่อเลิกงานแล้วมารับเธอ ด้วยความไม่รู้ประสีประสาในวัยเด็ก เธอเคยพูดกับพ่อว่า “พ่อตัวเหม็นๆ ไม่ต้องมาอุ้มหนูนะ”
เพราะความเป็นเด็กเธอจึงไม่รู้ว่าคำพูดนี้มันรุนแรงกับพ่อของเธอมากขนาดไหน แต่เมื่อเห็นว่าพ่อดูนิ่งไปเธอก็รู้ได้ว่าเธอทำให้พ่อเสียใจเข้าแล้ว ผ่านไปหลายปีเธอก็ยังคงรู้สึกผิดที่เคยพูดจาทำร้ายจิตใจพ่อ เธอจึงมักจะไปหาพ่อที่เขตก่อสร้างเพื่อกินข้าวเย็นกับพ่อบ่อยๆและกอดพ่อแม้ว่าพ่อจะเต็มไปด้วยคราบเหงื่อในชุดที่เลอะเทอะ
เคยมีแฟนหนุ่มบอกว่างานของพ่อเธอดูต่ำต้อย แต่งตัวดูเลอะๆ เธอจึงตอบกลับไปว่า “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าอาชีพมันมีการแบ่งแยกชั้นวรรณะ แต่ถ้าจะใช้ความสะอาดของเสื้อผ้ามาตัดสินแล้วละก็ อาชีพที่ดูสูงส่งที่สุดก็คงเป็นลูกแหง่ที่เกาะพ่อแม่กิน ไม่ต้องทำงานแต่งตัวเที่ยวเล่นไปวันๆ”
เงินจากหยาดเหงื่อแรงงานของพ่อส่งเสียให้เธอได้ร่ำเรียนตั้งแต่เล็กจนโต พ่อไม่เคยให้อดอยาก แถมยังซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆให้เธอได้ใส่อยู่ตลอด แม้ว่าพ่อต้องตากแดดทำงานหนักขนาดไหนหรือได้รับบาดเจ็บจากการทำงานพ่อก็ไม่เคยเอากลับมาบ่นที่บ้านเลยสักครั้งเดียว
เธอฝากคำพูดให้คนที่ดูถูกกรรมกรและคนที่ทำงานใช้แรงงานเอาไว้ว่า “พวกเขาดูสกปรก แต่ว่าที่สกปรกกว่านั้นก็คือใจและสายตาของคุณที่มองว่าพวกเขาสกปรก
มีคนมากมายที่ต้องทำงานใต้แสงแดดที่ร้อนระอุหรือเสี่ยงอันตรายเพื่อความเป็นอยู่ของครอบครัว ไม่ว่าอาชีพไหนๆก็มีศักดิ์ศรีในตัวเองและเป้าหมายในการหาเงินเพื่อเลี้ยงปากท้องของตัวเองและครอบครัวเหมือนกันทั้งนั้น
Liekr