หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

30 คำศัพท์ จากละครสุดน่ารัก "สะใภ้จ้าว"

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

นอกจากความสนุกของละครแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้รับจากละครเรื่องนี้ก็คือ ความรู้ทางด้านภาษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ในวรรณคดี รวมไปถึงคำศัพท์เก่า ๆ ที่เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้ยินกันแล้ว ยิ่งทำให้ได้ตระหนักว่าภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงามมากขนาดไหน

วันนี้ผมก็เลยอยากจะมาแบ่งปันความรู้บางส่วนที่ได้รับจากละครเรื่องนี้ หากใครมีคำไหนเพิ่มเติม มาแชร์กันได้เลยนะครับ

๑. ทหารพระราม

"ทหารพระราม" เป็นการเปรียบเทียบว่ามีกริยาซุกซนเหมือนลิง โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๓ ช่วงที่ ๔  เป็นช่วงที่คุณสอางค์นั่งคุยกับคุณสร้อยเกี่ยวกับการจะจับคู่สาลินกับคุณชายเล็ก ซึ่งคุณสร้อยได้ค่อนสาลิน ว่า "ยิ่งกว่าทหารพระรามอีก"

๒. กระดกกระดนโด่

"กระดกกระดนโด่" เป็นคำกริยามีความหมายว่าทำตัวไม่เรียบร้อย, กระโดกกระเดก โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๒ คุณสร้อยเตือนสาลินให้ทำตัวเรียบร้อยตอนเข้าเฝ้าเสด็จพระองค์หญิง

๓. เปิ่นเทิ่นมันเทศ เทเวศร์สำปะหลัง

"เปิ่นเทิ่นมันเทศ เทเวศร์สำปะหลัง" เป็นสำนวนมีความหมายว่าบ้านนอก โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๖ ช่วงที่ ๙ คุณสร้อยเตือนสาลินแต่งตัวให้ดี ให้เหมาะสมกับการเข้าเฝ้าเสด็จพระองค์หญิง

๔. บิดตะกูด โย้กโย้กฐินบก

"บิดตะกูด โย้กโย้กฐินบก" เป็นสำนวน โดยมีความหมายว่าพูดบิวพริ้ว ไม่ตรงกับความจริง โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๔ คุณสอางค์ต่อว่าคุณสร้อย ที่ไม่ยอมพาสาลินมาเข้าเฝ้าเสด็จ โดยกล่าวอ้างว่าสาลินกริยาไม่เรียบร้อย

สำหรับคำว่า "ตะกูด" มีความหมายว่า "หางเรือเสือ" โดยการถือหางเสือเรือ เป็นการทำให้เรือแล่นไปตรง แต่ลักษณะที่ทำต้องบิดหางเสือไปมา ดังนั้นจึงเอาลักษณะของหางเสือมาเปลี่ยนเป็นลิ้นของคน ที่บิดไปบิดมา

สำนวนบิดตะกูดนี้มีปรากฎอยู่ในวรรณคดีเรื่อง "พระอภัยมณี" ดังนี้
''โจรสุหรั่งฟังนางว่าช่างพูด      บิดตะกูดเกเรทำเผลไพล่
จะพาเจ้าเข้าฝั่งก็ยังไกล        อดอยู่ไม่ได้ดอกบอกจริงจริง''

๕. กระดางลาง

"กระดางลาง" เป็นคำกริยามีความหมายว่ามรรยาทหยาบ, สัปดน โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๒ เสด็จพระองค์หญิงดุ มาลา วรรณา สองสาวใช้

๖. ยักษ์ปักหลั่น

"ยักษ์ปักหลั่น" เป็นสำนวนที่มีความหมายเปรียบเทียบผู้ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ โดยที่มาของสำนวนนี้มาจาก ยักษ์ตนหนึ่งที่มีชื่อว่า ปักหลั่น จากวรรณคดีเรื่อง "รามเกียรติ์" สำหรับในละครนั้น คำนี้ปรากฏอยู่หลายครั้ง ใช้เปรียบเทียบกับทั้งคุณชายรอง และคุณชายเล็ก

๗. โอดกาเหว่า

"โอดกาเหว่า" เป็นภาษาปากแปลว่า ร้องคร่ำครวญ คำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๑๑ ช่วงที่ ๑ เป็นตอนที่คุณสร้อยเอาน้ำข้าวมานวดให้สาลินเพื่อจะได้ดัดมือทำให้มือไม้อ่อน รำสวยงาม แต่สาลินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเนื่องจากน้ำข้าวนั้นร้อน

๘. ท้องยุ้งพุงกระสอบ

"ท้องยุ้งพุงกระสอบ" เป็นสำนวนที่หมายถึง คนกินจุ โดยคำนี้ปรากฏในละครหลายครั้ง ใช้บอกลักษณะนิสัยของตัวละคร ทั้งสาลิน, ชายเล็ก และคนใช้ เช่นในละครตอนที่ ๑๐ ช่วงที่ ๖ คุณสอางค์นำขนมมาให้สาลินรองท้องก่อนจะไปขึ้นโต๊ะเสวยกับเสด็จพระองค์หญิง เนื่องจากสาลินเป็นคนกินจุ จะให้ไปกินเยอะต่อหน้าเสด็จไม่ได้

๙. นอนตกเบิก

"ตกเบิก" เป็นคำกริยา โดยมีความหมายว่า ได้รับสิ่งที่ค้างจ่ายย้อนหลัง เมื่อรวมกับคำว่า นอน จึงกลายเป็น นอนเต็มอิ่ม, นอนเต็มตา, นอนนานจากการอดหลับอดนอน ซึ่งคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๓ ชายเล็กคุยกับชายรองว่าวันนี้เป็นวันหยุด เลยขอนอนให้เต็มอิ่มหน่อย
อย่างไรก็ตาม เราจะคุ้นชินกับคำว่า "เงินตกเบิก" มากกว่า ซึ่งหมายถึง เงินที่ได้รับจากการจ่ายย้อนหลัง

๑๐. ชะเวิกชะวาก

"ชะเวิกชะวาก" เป็นคำคุณศัพท์ใช้บรรยายลักษณะที่เปิดกว้างและลึก มักใช้กับการแต่งตัว โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๑๑ ช่วงที่ ๗ แขกในงานเลี้ยงนินทาจรวยว่าเป็นพวกเมียบ่าว แต่งตัวน่าเกลียด๑๑. อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก

"อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก" เป็นคำอุทานเวลาตกใจ และมีการต่อเติมเป็น "อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก อกต้องแตกตายแน่คุณแม่ขา" และเพี้ยนมาเป็น "อกอีแป้นจะแตก" ในปัจจุบัน สำหรับคำนี้ปรากฏในละครตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๑ ยายพิณอุทานตอนตกใจ เมื่อเห็นชุดแต่งงานของคุณยายขาด

๑๒. อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น

"อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น" เป็นสำนวนมีความหมายว่า เราควรทำสิ่งตอบแทนให้แก่เจ้าของบ้านที่เราไปอาศัยเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณ โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๑๔ ช่วงที่ ๖ สาลินเข้ามาช่วยคุณชายรองจัดบ้านเช่า

๑๓. พินอบพิเทา

"พินอบพิเทา" (พิ-นอบ-พิ-เทา) เป็นคำกริยาที่มีความหมายว่า แสดงความเคารพ, นอบน้อม, นบนอบ คำนี้ปรากฏอยู่ในละครตอนที่ ๑ เป็นตอนที่หญิงก้อยพูดกับวิรงรองเรื่องเบื่อคุณชายรอง (แต่ไม่มีในละคร)

เทพีเพ็ญแสงนั่งตรงหน้าวิรงรอง ห้องทำงานของเขาตกแต่งแนวโมเดิร์นของยุคสมัย แต่ตัวตึกนั้นเป็นแบบเก่า
“ภริยาทูตงั้นเหรอ ตกลงแต่งงานกันไป ฉันต้องกลายเป็นยายเมียทูต เดินตามผัวต๊อก ๆ ไปอยู่ประเทศโน้น ประเทศนี้ ต้องทำพินอบพิเทากับทุกคนทุกสังคมที่ผัวพาไปรู้จัก”
“นั่นแหละหน้าที่ภริยาผู้เพียบพร้อม เธอไม่ต้องการหรอกเหรอ” วิรงรอง
“แล้วชีวิตฉันอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันก็อยากมีชีวิตของฉันเองบ้างซี นี่มันยุคเสมอภาคทางเพศแล้วนะ”

๑๔. บุโรทั่ง

"บุโรทั่ง" เป็นภาษาปาก ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ มีความหมายว่าเก่าและทรุดโหรมมาก โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๑๔ ช่วงที่ ๓ หญิงก้อยว่ารถของศุภรที่ให้ชายรองยืมขับว่าเป็นรถเก่า

๑๕. เอ้อเร้อเอ้อเต่อ

"เอ้อเร้อเอ้อเต่อ" เป็นวิเศษณ์ มีความหมายว่า ปล่อยอารมณ์ตามสบาย หรือในสมัยนี้ที่เรียกว่า ชิลล์ ซึ่งคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๓ ช่วงที่ ๔ เสด็จพระองค์หญิงประสงค์ให้คุณสอางค์กับคุณสร้อยพาศรีจิตรา เข้ามาอยู่ในวัง เพื่อให้ใกล้ชิดกับชายรอง


๑๖. ม้ามโนมัย

"ม้ามโนมัย" เป็นคำนาม ในที่นี้ใช้เปรียบเปรยว่าเป็นคนทำอะไรรวดเร็ว ปู๊ดป๊าด นั่นก็คือลิน โดยคำนี้ปรากฏอยู่ในละครตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๒ สาลินเข้าเฝ้าเสด็จเป็นครั้งแรก ซึ่งมีกิริยาเรียบร้อยไม่เหมือนที่คุณสร้อยบอกว่าเป็นคนซุกซน

สำหรับคำว่า "มโนมัย" นั้นมีความหมายว่า สำเร็จด้วยใจ เป็นการสมาสคำกันระหว่างคำว่า มโน (ใจ) และ มย (สำเร็จ) ส่วน "ม้ามโนมัย" นั้นปรากฏอยู่ในเรื่องสังข์ทอง ดังนี้

     ๏ ครั้นถึงจึงสั่งข้าไท   เร่งผูกมโนมัยที่เคยขี่
รับสั่งใช้ให้ออกไปตีคลี     ครั้งนี้หนักอกหนักใจ
แพ้ชนะอย่างไรก็ไม่รู้      จะลองสู้ดูสักทีหาหนีไม่
เร่งรัดจัดแจงแต่งตัวไว้     บรรดาเหล่าบ่าวไพร่ให้พร้อมพรัก
ว่าพลางทางขึ้นบนชาลา   เปิดประตูเข้ามาในตำหนัก
นั่งแอบแนบนางเมียรัก     ทุกข์นักก้มหน้าไม่พาที
ฯ ๖ คำ ฯ

๑๗. ยอบแยบ

"ยอบแยบ" เป็นคำวิเศษณ์ที่มีความหมายว่า จวนหมด เกือบไม่พอ มักใช้กับสถานะทางการเงิน คำนี้ปรากฏอยู่ในละครตอนที่ ๑๔ ช่วงที่ ๔ เป็นตอนที่คุณชายรองมาขอยืมเงินศุภร

๑๘. พาลพาโล

"พาลพาโล" หรือ "พาลพาโลโฉเก" เป็นคำกริยา มีความหมายว่า พาล, หาเรื่อง, แสร้งพูดใส่ความไม่จริงให้คนอื่น, กล่าวหาเรื่อง
คำนี้ปรากฏอยู่ในละครหลายครั้ง เป็นคำที่สาลินมักใช้ว่าชายรอง ซึ่งตอนที่ยกมานี้อยู่ในละครตอนที่ ๕ ช่วงที่ ๕ เป็นตอนที่ชายรองพาสาลินมาที่สวนเพื่อนพูดคุยกัน

๑๙. แม่สื่อแม่ชัก ไม่ได้ตัวเอาวัวพันหลัก

"แม่สื่อแม่ชัก ไม่ได้ตัวเอาวัวพันหลัก" เป็นสำนวนกล่าวถึง ผู้หญิงที่ทำตัวเป็นแม่สื่อ แต่สุดท้ายกลับเป็นคู่ครองของชายคนนั้นเสียเอง สำหรับคำนี้ปรากฏในละครตอนที่ ๑๔ ช่วงที่ ๙ คุณชายเล็กบอกศรีจิตราว่าอย่าทำตัวเป็นแม่สื่อ เดี๋ยวก็เป็นแบบที่คำโบราณว่าเอาไว้

๒๐. นางบังเงา

"นางบังเงา" เป็นนาม ใช้เรียกหญิงค่าบริการ โดยคำนี้อยู่ในละครตอนที่ ๑๓ ช่วงที่ ๘ เป็นตอนที่หญิงก้อยทะเลาะกับท่านจันทร์ผู้เป็นท่านพ่อ๒๑. เต่าใหญ่ไข่กลบ

"เต่าใหญ่ไข่กลบ" เป็นสำนวนมีความหมายว่า การที่ทำอะไรลงไปแล้วพยายามจะกลบเกลื่อนความผิด ไม่ให้คนอื่นได้รับทราบ
โดยมีที่มาจาก เต่าตนุที่เวลาวางไข่ จะขึ้นมาบนหาดทราบแล้วคุ้ยพื้นทรายให้เป็นหลุมแล้ววางไข่ลงไป จากนั้นก็จะคุ้ยทรายกลบลงไปเพื่อป้องกันการพบเจอของสัตว์ร้ายอื่นๆ ซึ่งคำนี้ปรากฏอยู่ในละครตอนที่ ๑๓ ช่วงที่ ๔ เป็นตอนที่ไนเจลตำหนิพวกบรรณารักษ์ว่าไม่ยอมทำงาน

ส่วนในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า “whitewash” มาจากการทากำแพงด้วยปูนขาว ซึ่งทำให้กำแพงดูขาวสะอาด ปราศจากรอยสกปรก เปรียบกับการกระทำของคนที่พยายามจะปิดบังอำพราง หรือกลบเกลื่อนการกระทำที่ไม่ดีของตน

๒๒. พิพักพิพ่วน

"พิพักพิพ่วน" มีสองความหมายคือ ๑. เป็นคำกริยา แปลว่ากังวล, อักอ่วน ๒. เป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า อาการที่รู้สึกปั่นป่วนในท้อง โดยคำนี้ปรากฏอยู่ในละครตอนที่ ๕ ช่วงที่ ๙ ตอนที่คุณชายรองมาทานอาหารที่บ้านสวนเป็นครั้งแรก

๒๓. หลงรูปจูบเงา

"หลงรูปจูบเงา" เป็นใช้บรรยายอาการของคนที่คลั่งไคล้บุคคลอื่นที่มีรูปลักษณ์, การศึกษา ฯลฯ ที่ดี โดยคำนี้อยู่ในละครหลายครั้ง โดยตอนที่ยกมานี้คือตอนที่ ๖ ช่วงที่ ๓ บราลีว่าลลิตาที่คลั่งไคล้อัศนีย์

๒๔. นิจศีล

"นิจศีล" เป็นคำวิเศษณ์ มีความหมายว่า เป็นปรกติ ทำประจำ คำนี้ปรากฏอยู่ในละครตอนที่ ๗ ช่วงที่ ๕๒ เป็นตอนที่เสด็จพระองค์หญิงค่อนคุณสร้อยว่าจะให้สาลินทำหน้างอคอหักเป็นประจำเหมือนคุณสร้อยหรือไร

สำหรับในทางพระพุทธศาสนา นิจศีลหมายถึง ศีลที่ควรรักษาอยู่เป็นนิจ นั่นก็คือ ศีล ๕ อันประกอบไปด้วย
๑. ปาณาติปาตา เวรมณี งดเว้นจากการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป
๒. อทินนาทานา เวรมณี งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของมิได้ให้
๓. กาเมสุ มิจฉาจารา เวรมณี งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
๔. มุสาวาทา เวรมณี งดเว้นจากการกล่าวเท็จ
๕. สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา เวรมณี งดเว้นจากการดื่มสุราและเมรัย อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท

๒๕. ขายหน้าวันละห้าเบี้ย

"ขายหน้าวันละห้าเบี้ย" เป็นสำนวนแปลว่าถูกทำให้ขายหน้า โดยคำนี้ปรากฏอยู่หลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือตอนที่ ๓ ช่วงที่ ๘ คุณสร้อยพูดถึงสาลินให้เสด็จพระองค์หญิงฟัง

๒๖. เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน เอาแป้งนวลไปขายชาววัง

"เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน เอาแป้งนวลไปขายชาววัง" เป็นสำนวน มีความหมายว่า แสดงความรู้กับผู้ที่รู้เรื่องดีกว่า ซึ่งมีสำนวนที่มีความหมายใกล้เคียงกันอีกสองสำนวนคือ "สอนหนังสือสังฆราช" และ "สอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ"
สำหรับคำนี้ปรากฏในละครตอนที่ ๙ ช่วงที่ ๔ คุณชายเล็กนำหนังสือนิทานมาให้ศรีจิตรายืมแต่กลัวว่า ศรีจิตราจะเคยอ่านหมดแล้ว

สำหรับในภาษาอังกฤษก็มีสำนวนนี้เช่นกันน่ันก็คือ "Carry Coals to Newcastle"
หรือ ขนถ่านหินไปนิวคาสเซิล เนื่อง เมืองนิวคาสเซิลจัดเป็นเมืองที่มีถ่านหินมากที่สุด ในพื้นที่อุตสาหกรรมถ่านหินของอังกฤษ

๒๗. ตัวเปล่าเล่าเปลือย

"ตัวเปล่าเล่าเปลือย" มีความหมายว่า ยังไม่มีครอบครัว ยังโสด คำนี้ปรากฏอยู่ในละครตอนที่ ๑ ช่วงที่ ๒ คุณสอางค์มาบอกข่าวการเป็นคู่หมายกันของคุณชายโตและศรีจิตรา

๒๘. เอาทองไปรู่กระเบื้อง

"เอาทองไปรู่กระเบื้อง" เป็นสำนวนมีความหมายว่าการโต้ตอบหรือทะเลาะกับคนพาลหรือคนที่ฐานะต่ำกว่า เป็นเรื่องไม่สมควร
ซึ่งในสำนวนไทยมีอีกหลายสำนวนที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น "เอาไม้สั้นไปรันขี้", "เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ" โดยคำนี้ปรากฏในตอนที่ ๘ ช่วงที่ ๖ คุณนายพุดซ้อนดุชบาทิพย์ เพราะเอาคุณชายรองไปเทียบกับนายพล (คุณชายเล็ก)

๒๙. แม่สายบัวแต่งตัวเก้อ

"แม่สายบัวแต่งตัวเก้อ" หรือ "แม่สายบัวแต่งตัวค้าง" เป็นสำนวนหมายถึงหญิงที่มีนัดกับชาย แต่สุดท้ายเขาเบี้ยวนัด คำนี้ปรากฏอยู่ในละครตอนที่ ๒ ช่วงที่ ๒ เป็นตอนที่ศรีจิตรารู้ว่าชายโตมีภรรยาอยู่แล้ว

๓๐. เปิ๊ดสะก๊าด

"เปิ๊ดสะก๊าด" เป็นคำที่เพี้ยนเสียงมาจากคำว่า "First Class" (ชั้นหนึ่ง) ซึ่งนำมาใช้ในความหมายที่ต่างออกไป คือ แปลว่า หรูหรา ทันสมัย มักใช้กับการแต่งตัว โดยคำนี้ปรากฏในตอนที่ ๓ ช่วงที่ ๙ เป็นคำชมที่พิมาลาและวรรณาชมคุณสอางค์สมัยสาว ๆ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
68 VOTES (4/5 จาก 17 คน)
VOTED: fullmoon, Punthorn, cutiebarbie, Andreas, อยากรู้อยากเสือก, WhiteKiller, ซาอิ, MuayMuaythai, Betatia, aRnoNAe, เคน กระทิงทอง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สุสานลับใต้ดิน ทำไมไม่มีใครกล้าเปิด "สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้"เลขเด็ดคุณไก่ วุฒินันท์ สอนศรี งวด 16 เมษายน 2567ทหารลาวเดือด! คอมเม้นต์ขู่ "ยูทูปเบอร์ชาวไทย" ?ทำถึงม๊าก! รถเล่นสงกรานต์ของแทร่..มีตั้งแต่ซุ้มกิน ซุ้มเล่น ครบจบที่เดียวเลขเด็ด โค้งสุดท้าย! ให้แม่น งวดวันที่ 16/4/2024AI หลุดบอกเลข งวด 16 เมษายน 2567รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ : รวมมิตรเน้นๆ ความฮาในวันสงกรานต์ ปีใหม่ของไทยจ้าเด็กฝรั่งพลัดหลงจากพ่อ ในงานสงกรานต์สีลม..โชคดีที่คนไทยช่วยเอาไว้ได้นายกเศรษฐา โพสทวิต รุด กราบขอพรและสวัสดีปีใหม่ไทยท่านนายกฯทักษิณผู้ใหญ่ที่เคารพ!
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
วิธีคลายร้อนแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งแอร์ชวนมารู้จักลาบูบู้ มาการอง เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องไม่มีใครมาเลยเหงามากสุดยอดไอเดีย? ถนนใช้ฟลูออเรสเซนต์ตีเส้น เมื่อในยามค่ำคืน จะได้เห็นวิสัยทัศน์ถนนดีกว่าเดิม!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด บันเทิง ดารา
เข็มซ่อนปลาย คืนนี้ยินดีต้อนรับเจ้านายคนใหม่"บอดี้สแลม" ทำเซอร์ไพรส์..เล่นคอนเสิร์ตใหญ่ที่สนามหลวงรวม 8 คนดังไทย - เทศ นางสงกรานต์มโหธรเทวี ประจำปี 2567Lisa Blackpink' โพสต์กอดตุ๊กตาสุดฮิตอีกแล้ว 'ลาบูบู้' รอบนี้ตัวใหญ่กว่าเดิม
ตั้งกระทู้ใหม่