หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ไม่ว่าเธอจะป่วยโคม่าสักกี่ครั้ง…ผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยยอมปล่อยมือไปจากเธอ

โพสท์โดย นางเบิร์ด

 

ลำพังแค่ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย เธอก็ทุกข์ใจมากพออยู่แล้ว คนที่รักยังมาซ้ำเดินจากกันไปอีก คราวนี้กำลังใจของเธอแทบหมดสิ้น แต่ในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเหลืออยู่บ้าง ฟ้าได้ส่งผู้ชายอีกคนเข้ามาในชีวิต ที่ทำให้ชีวิตคนป่วยอย่างเธอเปลี่ยนไป

 

รู้ข่าวร้ายครั้งแรกตอนม.4

ปิ่นเกริ่นให้ฟังว่า ตอนนั้นเธอเป็นเด็กแสบมาก จนทางโรงเรียนต้องโทรไปฟ้องผู้ปกครองอยู่บ่อยๆ แม่ของเธอเลยตัดสินใจให้ย้ายมาเรียนมอปลายที่เชียงใหม่ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเรียนอยู่ม.4 กำลังจะขึ้นม.5 และวันนั้นเองที่เธอตื่นขึ้นมา อยู่ดีๆ ก็รู้สึกไม่มีแรง เป็นไข้ต่ำๆ ทุกวัน เริ่มลุกไม่ขึ้น หนักเข้าก็ถึงกับยกมือขึ้นมาแปรงฟันไม่ได้ ปกติที่บ้านเธอจะเป็นแนวซื้อยามากินเอง แต่ครั้งนั้นเธอรู้เลยว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอมีเสลดออกมาเป็นเลือด ที่บ้านจึงก็เริ่มพาเธอไปหาหมอที่โรงพยาบาล วินิจฉัยกันไปสารพัด เป็นไวรัสบ้าง ไข้เลือดออกบ้าง เปลี่ยนไปถึง 3 โรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็ยังหาไม่เจออยู่ดีว่าเธอเป็นโรคอะไรกันแน่ จนอากงตัดสินใจเรียกตัวเธอให้กลับมาหาหมอที่กรุงเทพ พร้อมกันกับที่ญาติของเธอก็ได้เปรยขึ้นมาว่า อาการคล้ายกับคนเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง เลยบอกให้คุณหมอตรวจผลเลือดเธอดู และผลปรากฏว่า…เธอเป็นโรคเอส แอล อี

 

IMG_8732

 

ทำให้ชีวิตเด็กซนๆ อย่างเธอต้องเปลี่ยนไป

ครั้งแรกที่หมอบอกว่าเป็นโรคพุ่มพวง “เราก็ตกใจ แต่ยังไม่รู้ว่าคืออะไร จนหมอเค้าอธิบายให้ฟัง บอกว่าห้ามโดนแดดเลย ห้ามกินอะไรที่ไม่สุก ทุกอย่างที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ห้ามเครียด ห้ามนอนดึก จนเรารู้สึกว่าโหขนาดนั้นเลยหรอ ปกติเราเป็นคนที่ชอบตีกอล์ฟ ว่ายน้ำ เล่นบาส ก็ใจหายว่าเราต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตหมดเลยหรอเนี่ย” ปิ่นบอกว่าคนที่เป็นโรคนี้จะมีผื่นขึ้นที่แก้ม เรียกว่า Lupus เหมือนรอยหมาป่า โรคนี้เป็นได้ทุกระบบในร่างกาย คนที่เป็นหนักๆ ต้องกินยากดภูมิไว้ ตัวปิ่นเองเคยกินเยอะสุด 12 เม็ดต่อวัน ซึ่งถือเป็นโดสที่เยอะมาก ยาที่กินก็มีส่วนผสมของเสตียรอยด์ ทำให้มีไซด์เอฟเฟคท์ ทั้งหน้าบานกลม แก้มป่อง ขนขึ้นเยอะจนเหมือนผู้ชาย สิวขึ้น กินจุ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม น้ำหนักขึ้น ด้านหลังท้ายทอยจะมีโหนกไขมันปูดขึ้นมา อารมณ์ก็จะเหวี่ยงขึ้น แต่จะขยัน เธอเล่าว่าบางคนหนักถึงขั้นเป็นโรคจิตไปเลยก็มี ตัวเธอกินโดสนี้อยู่ 2 เดือน หลังจากนั้นก็ดูตามอาการ หมอก็ให้ลดบ้าง แต่วันแรกที่เธอกลับไปเรียนแล้วเจอกับสายตาของทุกคนนั้น เธอสัมผัสได้เลยว่ามันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่มีใครรังเกียจเธอ แต่เธอเองที่รู้สึกเหมือนตัวประหลาด เลยตัดสินใจดร็อปเรียนไว้ก่อน

 

วิกฤตครั้งที่ 1 เรื่องของความรัก

ตอนที่เธออยู่เชียงใหม่ ก็มีแฟนเหมือนเด็กทั่วไป ความรักครั้งนี้เริ่มจากผู้ชายคนหนึ่งชอบเธอเอามากๆ แต่ติดตรงที่ไม่ตรงสเปค ปิ่นเลยไม่สนใจ ทำให้เขาเสียใจมาก ไม่ยอมกินข้าววกินปลา จนแม่เขาต้องมาถามหาเธอถึงที่โรงเรียน “พอเรารู้ก็ยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ เค้าพยายามตลอด แต่เราก็ไม่ใจอ่อน จนอยู่ดีๆ เค้าก็มีแฟน” พอรู้ว่าต้องเสียเขาไปแล้วจริงๆ ปิ่นก็อดใจหายไม่ได้ และนั่นทำให้เธอเริ่มหันกลับมามองผู้ชายคนนี้อีกครั้ง “เริ่มกลับมาคุยกัน ได้รู้จักครอบครัวเค้า กินข้าวด้วยกัน แต่ระหว่างนั้นเค้าก็สอบไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น มีกลับมาบ้าง 6 เดือนครั้ง” ด้วยระยะทางที่ไกลกัน ก็ทำให้เธอท้อ “เค้าโทรมาบอกว่าขอมีแฟนที่ญี่ปุ่นอีกคนได้มั๊ย เค้าอยากใช้ชีวิตให้เต็มที่ ตอนนั้นเราอึ้งไปเลย ก็ฝืนบอกไปว่าได้ แต่ซักพักก็ทนไม่ไหว เพราะเขาโทรมาเล่าเรื่องของแฟนอีกคนให้ฟังตลอด” นั่นทำให้เธอตัดสินใจบอกเลิก แค่นั้นยังไม่พอ เหมือนโดนแทงซ้ำเข้าที่แผลเดิม เมื่อเขาสารภาพกับเธอว่า “ตลอดเวลาที่คบกันแม่เค้าบอกเสมอว่าคบกับคนป่วยอ่ะ มันไม่ดีหรอก เหมือนต้องคอยดูแลไปตลอดชีวิต และเค้าบอกว่าจริงๆ เค้าอาจจะแค่สงสารเรา ไม่ได้รักเราก็ได้” พอได้ฟัง ปิ่นก็รู้สึกโกรธมาก “เริ่มจากมันไม่ใช่สเปค จนเราเปิดใจมองข้ามมาแล้ว เราเคยไปง้อเค้า แต่เค้าบอกว่าเค้าเลือกแล้ว ไม่รักเราแล้ว เค้าแพลนชีวิตเค้าไว้แล้ว และเราก็จะกลายเป็นภาระให้เค้าแน่ๆ ในอนาคต” นาทีนั่นเหมือนหัวใจเธอบอบช้ำจนถึงที่สุด

 

แต่ก็มีสิ่งๆ ดี ที่แฝงอยู่ในวิกฤต

อย่างที่เขาบอกกันว่าจะดูเพื่อนแท้ ให้ดูตอนที่เราแย่ ปิ่นเองก็เช่นกัน ตอนที่เธอป่วย คนรอบข้างเริ่มดึงเธอให้เข้าไปรู้จักโลกของบุญบาปและกรรม ปกติเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยเคยเข้าวัด แต่เมื่อเธอป่วย เพื่อนก็เริ่มพาไปเข้าวัด ทำบุญ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มสวดมนต์ นั่งสมาธิ และเรื่องราวดีๆ ก็เริ่มเกิดขึ้น “หลังจากกลับไปเรียน จากเมื่อก่อนเราเรียนได้เกรดสองกว่าๆ ตอนนี้เราได้ 4.00 เป็นคนแรกของโรงเรียนที่เอ็นทรานซ์ติด นิเทศฯ จุฬาฯ เมื่อก่อนชอบเถียงพ่อแม่ ตอนนี้ทุกอย่างกลับพลิกหมด เริ่มสำนึก เกิดความรู้สึกว่ารักแม่ขึ้นมา จากที่เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกเลย พอมาป่วย มันทำให้เราได้เห็นว่าแม่ยังดูแลเราหมดทุกอย่าง” ปกติปิ่นเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บความรู้สึก อาจจะเพราะเธอไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง

 

IMG_8736

 

แล้ววิกฤตครั้งที่ 2 ก็ตามมาติดๆ

ตอนกลับมาเรียนที่กรุงเทพ ตอนนั้นเป็นช่วงรับน้อง ปิ่นก็บอกรุ่นพี่ว่าเธอป่วย ด้วยภายนอกที่ดูไม่เหมือนคนป่วย ทำให้เธอก็ต้องฝืนทำอะไรหลายๆ อย่าง เพราะไม่อยากให้ใครว่า แต่ความจริงปิ่นบอกว่าข้างในมันไม่มีแรงแล้ว “เราเริ่มป่วยหนัก ตอนนั้นเป็นงูสวัด บวกกับ SLE ลงที่ไต โปรตีนรั่ว (สภาวะที่ร่างกายไม่สามารถกรองของเสียได้) ตอนที่เป็นจะนอนไม่หลับ ปวดข้อ ปวดกระดูก เพราะมันคือการอักเสบของหลอดเลือด  แต่ตอนที่ลงไตครั้งนั้นโชคดีว่าคุณหมอยังกู้กลับมาได้” พอช่วงปี 3 ผมของเธอเริ่มจะร่วง จากที่รู้เฉพาะคนที่สนิท คนอื่นๆ ก็เริ่มสังเกตได้ ทำให้เธออายจนไม่กล้าไปเรียน หรือไปเรียนเสร็จปุ๊บก็กลับบ้านเลย ช่วงนั้นเธอกลายเป็นคนซึมเศร้า นอนร้องไห้ตลอด แต่ปิ่นเป็นคนเข้มแข็ง ตราบใดที่เธอยังไหว เธอก็จะไม่แสดงให้คนอื่นรู้ เพราะคิดว่าอดทนไป เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง

 

IMG_8731

 

เหมือนฟ้าส่งกำลังใจที่ยิ่งใหญ่มาให้เธอ

หลังจากที่ปิ่นเริ่มมีอาการดีขึ้น ผมเริ่มขึ้น เธอก็ไปฝึกงาน แล้วนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้รู้จักกับผู้ชายชื่อ เล่ เขาโตกว่าเธอถึง 5 ปี เล่ไม่ได้ฝึกงานที่เดียวกับปิ่น แต่เป็นพี่ที่ออฟฟิศเดียวกับที่เพื่อนของปิ่นไปฝึกงาน เพราะแผลจากครั้งที่แล้วยังไม่หายดี ทำให้ปิ่นยังไม่พร้อมที่จะมีความรักใหม่ บวกกับอายุที่ห่างกันเยอะ แต่สุดท้ายเมื่อทุกอย่างถูกขีดไว้ เขาและเธอก็ได้รู้จักกัน “เริ่มคุยกันใน msn ตอนแรกเราก็ไม่ตอบ แต่พอรู้ว่ามีที่มาที่ไปก็ลองคุยเล่นๆ แก้เซง หลังจากนั้นเขาก็โทรมา แต่เราก็ไม่รับ ก็เลยคุยกันในแชทต่อไป จนเริ่มรู้สึกได้ว่าชอบอะไรเหมือนๆ กัน เข้ากันได้ คุยกันดึกๆ ทุกคืน สนิทกันค่อนข้างเร็ว แล้ววันนึงเค้าก็ชวนไปกินข้าว” แต่เธอก็ปฏิเสธไป ด้วยเหตุผลว่ามันยังเร็วไปสำหรับคนที่เพิ่งคุยกันแค่เดือนเดียว จนวันเกิดของเขา เธอก็ยังไม่ยอมไปเจอ แต่เธอแอบบอกว่าตอนนั้นรู้สึกผิดมาก เมื่อเธอกลับไปเชียงใหม่ ก็เริ่มรู้สึกคิดถึง เลยคิดกับตัวเองว่ากลับมากรุงเทพคราวนี้ จะยอมไปเจอเขาซะที แต่ก่อนจะเจอกันเธอก็ไปแอบส่องดูรูปเขาในเฟสบุ๊คก่อน “ครั้งแรกที่เจอ รู้สึกว่าโหห…ทำไมหน้าเด็กจัง ดูดีนะเนี่ย ก็โอเคไปกินข้าว ดูหนังกัน จนเป็นแฟนกัน”

 

IMG_8711-horz

 

แต่เธอไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นรักแท้หรือเปล่า

ปิ่นเล่าว่าตอนแรกที่คุยกันเขายังไม่รู้ว่าเธอป่วย หรืออาจจะพอรู้มาคร่าวๆ บ้าง ตอนหลังเธอเลยตัดสินใจบอกเขาถึงโรคที่เธอเป็น ในใจเธอตอนนั้นก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ ใจหนึ่งก็กลัวเขาจะเดินจากไปเหมือนรักครั้งก่อน แต่อีกใจก็ไม่อยากปิดบัง “พอเราบอกไป เค้าก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากคบกัน จากเมื่อก่อนที่พี่สาวจะเป็นคนพาไปหาหมอ เค้าก็จะเป็นคนพาเราไปแทน พี่ก็มีแอบงอนๆ บ้าง” ตั้งแต่นั้นเขาสองคนก็จะคอยลุ้นผลเลือดไปด้วยกัน แต่ปิ่นก็เป็นคนดื้อ เธอไม่ยอมกินยา ไม่ดูแลตัวเอง จนอาการเริ่มแย่ลง เธอบอกว่าเมื่อไหร่ที่กินยาเกิน 3 เม็ด หน้าเธอจะเริ่มบวม เธอก็จะหยุดกิน เพราะกลัวไม่สวย เธอไม่อยากให้เขาเห็นเธอในสภาพนี้ เธอแคร์เค้ามาก และที่สำคัญเธอกลัวว่าเขาจะทิ้งเธอ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ความรักของพวกเขาแฮปปี้มาก

 

IMG_8730

 

ทุกอย่างกำลังไปได้ดี…แต่ชะตาก็เหมือนเล่นตลก

ตอนปี 4 ปิ่นเริ่มเจ็บสะโพก เพราะกระดูกสะโพกตาย ต้องถือไม้เท้าไปเรียน และตอนนั้นเธอเองก็เป็นหัวหน้าโปรเจ็ค ต้องอยู่ทำงานดึกที่คณะ จนในที่สุดเธอเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหว อีกทั้งใจก็อยากขึ้นไปรับปริญญาแบบสวยๆ และนั่นทำให้เธอตัดสินใจที่จะผ่าสะโพก “ถึงเราจะรู้ว่าอายุสะโพกมันไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิต แต่ยังไงก็ไม่ใช่ตอนนี้ อายุเท่านี้ เราก็บอกหมอว่าจะรับปริญญาเดือนหน้าแล้ว ทันมั๊ย หมอบอกอ่ะ งั้นก็ผ่าเลย ตอนนั้นเรานอนโรงพยาบาล 2 อาทิตย์ เล่ก็มานอนเฝ้าตลอด เขาจะนอนอยู่ที่พื้น เพราะแม่เรานอนที่โซฟา ระหว่างนั้นเขาก็พาพ่อแม่มาเยี่ยม ตอนผ่ามันปวดมาก น้ำตาไหลตลอด เขาก็จะคอยเดินมาเช็ดให้ ปลอบว่าไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็หายแล้ว”

 

IMG_8733

 

วิกฤติครั้งที่ 4 เธอเริ่มทรุดหนัก

หลังเรียนจบ อาการเธอก็เริ่มทรุดลง เธอเองก็ดื้อไม่ยอมกินยา จนมันลงไตเรื่อยๆ จนคุมไม่อยู่ เธอเริ่มกินอะไรไม่ได้ รู้สึกแน่นตลอดเวลา เริ่มทรมานมาก ต้องให้เลือดเกือบทุกอาทิตย์ เพราะค่าเลือดต่ำมาก “หมอบอกว่าวิธีสุดท้ายแล้วนะ คือฟอกน้ำเหลือง ต้องเจาะคอ ฟอกวันเว้นวัน จนปี 56 พอฟอกน้ำเหลืองเสร็จเราก็ดีขึ้น ก็ไปเชียงใหม่ ขึ้นเชียงรายไปเที่ยวแม่สาย เลยไม่คุมอาหาร วันนั้นเราปั่นจักรยานไปคนเดียวในสวน อยู่ดีๆ ก็เงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า ในใจก็รู้สึกว่าทำไมมันมีความสุขจังเลย ทั้งทีก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน” แต่ความรู้สึกนั้นก็อยู่กับเธอได้ไม่นาน พอตกดึก จิตของเธอก็ตกฮวบ ความดันขึ้น จนทุกคนบนดอยตกใจ ไม่รู้จะทำยังไงดี เธอบอกว่ารู้ตัวอีกทีคือไม่ไหวแล้ว ทุกอย่างออกมาหมด ปวดหัวมาก ตอนนั้นคนที่ไปด้วยกันก็โทรให้แม่ของเธอมารับ “ระหว่างทางเราไม่รู้ตัวเลย เค้าเล่าให้ฟังทีหลังว่าแวะที่โรงพยาบาลแล้วแต่เค้าไม่รับ เพราะกลัวเราจะมาตาย รู้ตัวอีกทีคือ เราอยู่กลางภูเขาบนดอย มีผู้ชายคนหนึ่งที่มากับแม่มาอุ้มเราไป แล้วภาพก็ตัดไปเลย”

 

ครั้งนี้เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด

หลังจากที่แม่ของเธอรับตัวไป ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น “คืนนั้นแม่เล่าให้ฟังว่าปิ่นเหมือนโดนบีบคออยู่ หน้าอกกระตุกขึ้นมา แม่ตื่นมาเห็นพอดีก็ตกใจมาก วิ่งเข้ามากอด แล้วก็เรียกชื่อเราตลอด  สักพักอาการเราก็ดีขึ้น พอตอนเช้าไปหาหมอ เค้าก็บอกว่า ไตวาย เรียกว่า SLE ลงไตกับขึ้นสมองพร้อมกัน คราวนี้เราสลบไปเลย ไม่รู้ตัว แม่ก็โทรบอกทุกคนที่มีรายชื่ออยู่ในมือถือเรา ประมาณว่าให้มาสั่งเสีย เพื่อนก็นั่งรถทัวร์ขึ้นมาหา เล่รู้ก็บินมาเลย มานั่งสวดมนต์ให้ ตอนที่นอนเราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อย่างนึงที่จำได้คือพ่อเดินเข้ามาจับมือเรา แล้วบอกว่าเล่เป็นคนดีนะ ทั้งทีก่อนหน้านี้พ่อไม่เคยพูดอะไรเลย พ่อเล่าให้ฟังว่าเขาคอยดูแลเรา ร้องเพลงที่เราชอบให้ฟัง ตอนนั้นเรานอนไม่รู้สึกตัว แต่เหมือนข้างในมันรับรู้ น้ำตาก็ไหลออกมา” ตอนนั้นปิ่นบอกว่าเธออยากฟอกไต แต่แม่ไม่ยอม เพราะรู้ว่าถ้าฟอกไตแล้ว ต้องฟอกไปตลอดชีวิต จนพี่สาวช่วยพูดให้ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มฟื้น ครั้งแรกที่ลืมตาเธอเห็นเพื่อนๆ ยืนอยู่รอบเตียง แล้วก็มีท่อเสียบอยู่เต็มไปหมด จากการป่วยครั้งนั้น ทำให้เธอมีแผลในสมอง ส่งผลให้เธอเห็นภาพซ้อน เวลาคุยต้องหลับตาข้างหนึ่ง พออาการดีขึ้น เธอก็ไม่ยอมกินยากันชัก เพราะหวังว่าไตจะฟื้นตัวได้ เลยไม่อยากกินยาเยอะ โดยที่ไม่รู้เลยว่า มันเป็นการตัดสินใจผิดครั้งยิ่งใหญ่

 

พอร่างกายอ่อนแอ จิตก็เริ่มตกตาม

“ตอนนั้นเป็นช่วงที่ท้อมาก พอเรียนจบ เพื่อนทุกคนมีงานทำ เหมือนทุกคนดูประสบความสำเร็จ ทำให้เรารู้สึกนอยด์ จากเด็กที่ตอนเรียนเป็นหัวหน้า จบเกียรตินิยม อันดับ 1 ครูอาจารย์ซัพพอร์ตเต็มที่ แต่จบมากลับทำงานไม่ได้ เพราะร่างกายเรามันไม่ได้ ฝืนไปก็ไม่ได้ พอกินยาเยอะๆ กระดูกก็เริ่มผุ” แต่อย่างที่บอกว่าเธอเป็นคนเก็บความรู้สึก ไม่ค่อยพูดกับใครโดยเฉพาะคนในครอบครัว เธอมักจะแสดงออกว่าเข้มแข็ง แต่เมื่อเธอไม่ไหว ก็ต้องปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา เธอท้อกับโรคที่รักษายังไงก็ไม่หายซะที มันทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกไปไหน และเล่ ผู้ชายคนเดียวที่คอยยืนเคียงข้างเธอมาตลอดๆ ก็เป็นผู้ชายคนเดียวกับที่ทำให้เธอกล้าที่จะอ่อนแอให้เขาเห็น มีหลายครั้งที่พวกเขากอดกันร้องไห้

 

IMG_8739

 

อีกครั้งที่เธอทำให้คนรอบข้างเกือบใจสลาย

คราวนี้ปิ่นชักขึ้นมาอีกรอบ ตอนนั้นเธอฟอกไต 3-4 วันต่ออาทิตย์ เธอบอกว่ารอบนี้ทรมานมาก ทุกอย่าง ทั้งร่างกายและจิตใจ “พี่สาวมาเล่าให้ฟังว่าคราวนี้จู่ๆ เธอก็ยกแขนขึ้นมา เอาเล็บจิกพี่สาวอย่างแรงจนเลือดออก แล้วก็เอานิ้วชี้เคาะลงบนเตียงไม่หยุด แล้วก็สลบไป” และก็เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา พอเธอฟื้นขึ้นมาก็จะเจอเล่อยู่ข้างเตียงเสมอ ครั้งนี้เธอเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง และแผลในสมองของเธอก็เพิ่มขึ้น ครั้งนี้ทุกอย่างดูรุนแรงมาก “หมอเดินมาบอกแม่ว่าให้ทำใจว่าเราอาจจะเป็นอัมพาต เพราะสมองโดนทำลาย พอเราเริ่มรู้ตัว เค้าก็ให้ลองออกแรงถีบดู แต่เราไม่มีแรงเลย เราเดินไม่ได้ ต้องใช้รถเข็น ตอนนั้นปวดหัวมาก จนนอนไม่ได้เป็นอาทิตย์ อารมณ์ก็เหวี่ยงจนจะเป็นบ้า ครั้งนี้คือที่สุดในชีวิต” แต่นั้นยังไม่หมด เธอโดนเจาะปอดเพราะน้ำท่วมปอด ถ่ายเป็นเลือด จนเจอว่าเลือดหายไปครึ่งหนึ่งของตัว พอตรวจดูก็เจอว่าแผลที่หมอส่องกล้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจคราวก่อนนั้นมันเป็นแผลเปิดทั้ง 5 จุด

 

IMG_8738

 

และเรื่องน่ารักของเขา ก็ทำให้พลังของเธอกลับมา

“ตอนนั้นเราทำบุญเยอะมาก รู้สึกได้ว่าเวลาเจออะไรหนักๆ จะมีคนมาช่วยเราทุกครั้ง มันทำให้เราเชื่อเรื่องบุญ-กรรม ทุกครั้งเวลาเราเจออะไรหนักๆ เราจะสวดมนต์ตลอด พยายามดึงตัวเองออกมาไม่ให้ไปโฟกัสที่ความเจ็บปวดของร่างกาย” ตอนนั้นเธอบอกว่าตัวดำปี๋ บวม เดินไม่ได้ แต่เล่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับกลายเป็นพลังที่ทำให้เธอมีแรงก้าวเดินต่อไป ถึงจะอยู่ไกลกัน พวกเขาก็เฟสไทม์กันทุกวัน คุยกันตลอด คอยปลอบให้กำลังใจเสมอ เธอบอกว่าชายคนนี้ไม่เคยทำให้เธอเสียใจเลยสักครั้ง เธอเป็นคนแต่งหน้าไม่เป็น เขาก็จะคอยบอกว่าไม่แต่งอ่ะดีแล้ว เวลาเธอโทรมเขาก็มีวิธีพูดปลอบโยน “เค้าเป็นคนดีมาก ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยเห็นเค้าโมโหใครเลย ไม่เคยขึ้นเสียงกับเราเลยสักครั้งตลอด 5 ปีที่คบกันมา เขาเป็นคนใจเย็น ขณะที่เราเป็นคนใจร้อน เราเป็นคนขี้หึง ขี้บ่น แต่เค้าก็ยอมตลอด ไม่เคยทะเลาะกันเลย เค้าดูแลเราดีเหมือนเดิมทุกอย่าง ครอบครัวเขาก็ดีกับเรามาก คอยให้กำลังใจ”

 

IMG_8723

 

ซีนที่เธอประทับใจไม่มีวันลืม

ในวันเกิดของปิ่นปีแรกที่พวกเขาคบกัน เขาพาเธอไปเดทที่ซีเครท การ์เด้นท์ “เค้าทำเซอร์ไพร์ส ให้พนักงานเดินเรียงแถวร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์เข้ามา เค้ายื่นไอโฟนในกล่องที่ห่อเอง พร้อมกับการ์ดใบหนึ่งที่เราเพิ่งมาเปิดอ่านตอนถึงบ้าน (ก่อนหน้านี้เล่เป็นคนที่ทานเนื้อ ในขณะที่ปิ่นไม่ทาน) ในการ์ดใบนั้นเขาเขียนว่าเขาตั้งใจว่าหลังจากวันนี้ไปเขาจะไม่กินเนื้อวัวไปตลอดชีวิต และขอให้ผลบุญนี้ส่งผลให้เราหายป่วย” นั่นทำให้เธอประทับใจมาก ทุกคนบอกเสมอว่าเธอโชคดีที่มีเขา แต่ไม่มีใครเคยถามเธอเลยว่าเธอรู้สึกยังไง “ทุกครั้งที่เรามองหน้าเค้า เราแอบคิดตลอดว่าเขาเป็นคนดีเหลือเกิน อยากให้เขาไปเจอคนอื่น เพราะเรามองเห็นอนาคตว่าถ้าเค้าอยู่กับเราจะเป็นยังไง”

ความรักของปิ่นได้ก้าวข้ามความอยากได้ครอบครอง มันคือความรักที่อยากเห็นคนที่เรารักมีความสุข ได้เจอสิ่งที่ดี แล้วคุณล่ะ เคยเจอกับคนที่ทำให้รู้สึกรักได้แบบไม่มีเงื่อนไขแบบนี้บ้างหรือยัง

 

Page “อีป่วย”

ระหว่างที่เธอป่วย ก็ได้ทำเพจขึ้นมาเล่นๆ ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอาไว้เป็นบันทึกอาการป่วยของตัวเอง อย่างเพื่อนก็จะชอบมาถามอาการว่าเป็นยังไงบ้างในเฟสบุคส่วนตัวของเธอ จนรู้สึกว่าเรื่องป่วยมันเริ่มเยอะแล้ว เลยย้ายมาที่เพจดีกว่า “ตอนแรกมีแค่เพื่อนกับคนรู้จักไม่กี่คน ในนั้นก็จะเป็นการรายงานอาการป่วยแบบละเอียดยิบ เมื่อต้นปีป่วยเส้นเลือดในสมองอักเสบ โดนเพิ่มยา ก็จะเห็นเลยว่าการเปลี่ยนแปลงในเวลา 3 วันเป็นยังไงบ้าง เรียกว่าตามติดชีวิตอีป่วย มีกิจวัตรประจำวันบ้าง มีโควตให้กำลังใจบ้าง จนคนเริ่มแชร์กันออกไปเยอะขึ้น เริ่มไปแชร์ใน SLE Club ไตวายเรื้อรัง ก็เริ่มมีคนเข้ามาปรึกษาเรื่องอาการป่วย เรื่องความรักก็มี เราก็ให้คำแนะนำไป” เธอตั้งใจว่าจะทำให้เพจนี้เป็นพื้นที่ที่จะบอกให้ทุกคนรู้ว่าคนป่วยก็แฮปปี้ได้เหมือนคนปกติ เธอจะมีลงบทความที่เธอเขียนเองด้วย เรียกว่าเน้นแนวขำๆ ฮาๆ เข้าถึงคนง่าย ให้มุมมองเรื่องป่วยๆ กลับมาดี มีวิธีดูแลรักษาตัวเอง  จากประสบการณ์จริง อยากให้ดูไม่เครียด และที่สำคัญเธอยังไม่เคยเห็นเพจไหนที่ทำแบบนี้เลย

 

IMG_8734

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
นางเบิร์ด's profile


โพสท์โดย: นางเบิร์ด
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
VOTED: Thank you, Noina stupid, แม่เสือ, Chawap, makhamdong, aRnoNAe, ฮั่วชวี่ปิ้ง, นางเบิร์ด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ไวรัลชุดเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ: ชุดหรือศิลปะ?"ขอเน้นย้ำถึงกลุ่มที่ยังไม่ได้รับเงิน กรุณาแก้ไขบัญชีโดยด่วน เงินจำนวน 10,000 บาทจะถูกโอนในรอบสุดท้ายในวันที่ 19 ธันวาคมนี้แห่ถาม "หนุ่ม กรรชัย" ลาออกแล้วแน็ก ชาลี ยอมรับ อักษรย่อ ว. คือแม่ผมเอง ลั่นพร้อมจ่ายแทนเต็มที่กรมอุตุฯ เตือน 10 วันล่วงหน้า ฝนตกหนักต่อเนื่อง ช่วงไหนลมหนาวพัดแรง...หลายคนยังไม่รู้ เปิดใช้ซอสหอยนางรมแล้ว"ต้องทำแบบนี้"นักท่องเที่ยวดื่มเหล้าปนพิษในลาว กลายเป็นดราม่าเดือด เมื่อชาวเกาหลีขยี้มุมมองจนต้องร้อง อีหยังวะลิลลี่ ได้หมดฯ ฉลองวันเกิดสุดแซ่บ! เจอแซวแรง รีบสวนกลับทันควันเจ้าอาวาสหลับลึกเกิน ปลุกกันทั้งวัดก็ยังไม่ตื่น ถึงกับต้องงัดประตูไปช่วย ลูกศิษย์บอกเพราะท่านหูตึงสกัดจับแก๊งซิ่ง'น้ำไม่อาบ'!บางรายเจ็บสาหัส!ทะเลสาบฮาซู่: กระจกส่องท้องฟ้าแห่งมองโกเลียในชื่นชม! "ผู้กำกับดาว"โรงพักทุ่งสง เมืองคอน เข็นรถผู้สูงอายุเดินไม่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.เมืองคอน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
แห่ถาม "หนุ่ม กรรชัย" ลาออกแล้ว"ไวรัลชุดเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ: ชุดหรือศิลปะ?"สกัดจับแก๊งซิ่ง'น้ำไม่อาบ'!บางรายเจ็บสาหัส!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด เรื่องน่ารักๆ ซึ้งๆ
นายสุดยอด! สองฮีโร่รุ่นจิ๋วโดดน้ำเจ้าพระยาช่วยชีวิตสาว โซเชียลชื่นชมความกล้าหาญฮาวทูเสิร์ฟข้าวผัดไก่ให้ถูกใจลูกค้าฝรั่ง พนักงานทำดี ทำถึง เดินเสิร์ฟเฉย ๆ มันธรรมดาไปสินะฮาลั่น! คำตอบของหนูน้อยไร้เดียงสาที่มาประกวดนางนพมาศ..รับรองขำแน่นอนเมื่อรถไฟกลายเป็นโลกแห่งการ์ตูน : ขบวนรถโธมัสในญี่ปุ่นที่คุณต้องไปสัมผัส
ตั้งกระทู้ใหม่