โสเภณีรับอเมริกันจีไอ

Japan’s Holy War (42) โดย นฤนารท พระปัญญา

โพสนี้ เรามาอ่าน เรื่องราวเก่าในช่วงระหว่างสมัยสงครามและหลังสงครามของญี่ปุ่นกันต่อนะคร่า

เพียง 3 วันหลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะออกแถลงการณ์ทางวิทยุยุติสงครามด้วยความพ่ายแพ้ของกองทัพของพระองค์ สถานีตำรวจในกรุงโตเกียวได้รับคำสั่งลับจากรัฐบาลให้รีบเตรียมการโดยเร่งด่วนเพื่อเปิดสถานบริการทางเพศ เน้นลูกค้าที่เป็นทหารสหรัฐที่จะเข้ามาประจำการในประเทศญี่ปุ่นในฐานะผู้ยึดครอง

ทางการญี่ปุ่นคาดหมายว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในกรุงโตเกียวและเมืองใหญ่อื่นๆที่มีทหารฝ่ายสัมพันธมิตรนำโดยบรรดาจีไอตามที่เรียกทหารสหรัฐ คงจะไม่แตกต่างกับสภาพของกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และเมืองใหญ่อื่นๆที่อยู่ภายใต้การยึดครองของทหารกองทัพแดงสหภาพโซเวียต

สภาพในกรุงเบอร์ลินโดยเฉพาะส่วนที่ถูกยึดครองโดยทหารโซเวียต บรรดาสตรีไม่เว้นแม้เด็กหญิงจะถูกทหารโซเวียตที่อยู่ในภาวะกลัดมันและคลุ้มคลั่งด้วยความแค้นใช้เป็นเครื่องบำบัดความใคร่ชนิดไม่บันยะบันยัง สตรีจำนวนมากเลือกความตายหนีความเจ็บช้ำอับอาย

ทางการญี่ปุ่นมองภาพของทหารอเมริกันเป็นปิศาจผิวขาวไม่แตกต่างกับทหารโซเวียต จึงคิดหาวิธีการป้องกันเด็กและสตรีของตน เจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละท้องที่จึงมีหน้าที่จัดหา “สตรีผู้มีประสบการณ์” พร้อมจะเข้าทำงานพิเศษเพื่อปกป้องคุ้มครองเด็กและสตรีส่วนใหญ่ของประเทศ

สตรีผู้มีประสบการณ์ถูกจัดเข้าสู่สถานบริการที่รัฐจัดตั้งขึ้น อาทิ ในเขตไอบารากิ Ibaraki ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว สถานีตำรวจได้เปลี่ยนหอพักตำรวจโสด เอาที่นอนมาจากทหารเรือมาใช้ ให้เป็นซ่องโสเภณีขนาดเล็กที่มีหญิงให้บริการ 20 คน ทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมดำเนินการได้ใน 1 สัปดาห์

ญี่ปุ่นเป็นสังคมที่ทำงานอย่างมีระบบ มีการจัดการการค้าประเวณีมาตั้งแต่ยุคโชกุนมีอำนาจ เมืองใหญ่ไม่ว่าจะเป็นเกียวโต โอซากา หรือเอโดะที่ปัจจุบันคือโตเกียว ต่างล้วนถูกบริหารจัดการแยก “เขตโคมแดง” ออกอย่างชัดเจน

ทันทีที่เริ่มจัดตั้งสถานบริการทางเพศให้กับลูกค้าทหารอเมริกันที่เข้ามายึดครอง ทางการโดยคำแนะนำของกระทรวงมหาดไทยได้จัดตั้งสมาคมสันทนาการและบันเทิง (RAA-Recreation and Amusement Association) ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยประสานงานซ่องโสเภณีจำนวนมากมายหลายร้อยแห่งในกรุงโตเกียว

แรกทีเดียวบรรดาสตรีผู้ให้บริการต่างรู้สึกหวาดกลัวลูกค้าทหารอเมริกัน ฝรั่งร่างยักษ์ผิวขาว เนื่องจากชาวญี่ปุ่นทุกคนต่างถูกสั่งสอนเป็นเวลา 4 ปีในช่วงสงครามว่า พวกนี้เป็นศัตรู เป็นยักษ์เป็นมาร แต่สุดท้ายเงินก็สามารถซื้อได้แทบทุกสิ่ง ทหารอเมริกันจีไอให้เงินค่าทิปเพิ่มเติมจากเงินค่าตัว ทั้งยังมีของฝาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารกระป๋อง ขนม และบุหรี่ แทบทุกครั้ง

วันที่ 28 สิงหาคม 1945 เครื่องบินของกองทหารหน่วยล่วงหน้าลงแตะพื้นทางวิ่งสนามบินอัตซุงิ (Atsugi) ที่เป็นฐานทัพตั้งอยู่ทางทิศใต้ของกรุงโตเกียว ตกค่ำหลังจากทำงานทั้งวัน พวกเขาสังเกตเห็นสถานบริการจัดตั้งโดย RAA เปิดพร้อมให้บริการ

ซ่องอัตซุงิเป็นหนึ่งในสถานบริการทางเพศแห่งแรกๆที่เปิดขึ้นเพื่อให้บริการทหารอเมริกันจีไอโดยเฉพาะ

เซอิชิ คาบูรางิ (Seichi Kaburagi) เจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของ RAA ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ได้เขียนในสมุดบันทึกส่วนตัวและภายหลังนำมาตีพิมพ์ว่า “มีทหารอเมริกันจีไอหลายร้อยคนยืนต่อคิวรอรับบริการ พวกเขาต่างกำเงินดอลลาร์ไว้ในมือ ค่าบริการชั่วคราวอยู่ที่ครั้งละ 15 เยน เทียบได้กับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ตามอัตราแลกเงินในขณะนั้น ลูกค้าจะได้รับตั๋วพร้อมกับถุงยางอนามัย 1 อัน”

ซ่องอีกแห่งหนึ่งชื่อ Komachien หรือที่พวกจีไอรู้จักกันในชื่อ “the babe garden” แรกทีเดียวมีหญิงบริการ 38 คน และต้องเพิ่มเป็นกว่า 100 คนในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ความต้องการสตรีมีมากเสียจน RAA ต้องติดป้ายโฆษณารับหญิงบริการเพิ่มโดยด่วน โดยใช้คำเชิญชวนว่าต้องการ “Women of the New Japan”

เซอิชิ คาบูรางิ บันทึกว่า มีหลายครั้งที่กลายเป็นเรื่องเศร้า

“นาซูเอะ ทากิตะ เป็นสตรีอายุ 19 ปีญาติพี่น้องเสียชีวิตทั้งหมดในสงคราม เธอต้องการสมัครเข้าทำงานในสำนักงาน แต่กลับถูกพูดชักจูงโน้มน้าวจนเข้าทำงานเป็นโสเภณีในสถานบริการ หลังจากนั้นไม่กี่วันเธอตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดขวางขบวนรถไฟ”

เขาเขียนในบันทึกว่า แทบจะไม่มีสตรีชาวญี่ปุ่นอยากมาเป็นโสเภณีให้บริการทหารต่างชาติ เว้นแต่พวกเธอจะถูกบังคับด้วยความอดอยากยากแค้นในครอบครัว หรือเพื่อตอบแทนบุญคุณบิดามารดา

ทหารสหรัฐในญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีจำนวน 350,000 นาย ประจำอยู่ทั่วประเทศ มีโสเภณีชาวญี่ปุ่นจำนวน 70,000 คน ให้บริการทางเพศ

ในที่สุดวันที่ 25 มีนาคม 1946 นายพลดักลาส แมกอาเธอร์ ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังสัมพันธมิตร ได้ลงนามในคำสั่งให้สถานบริการทางเพศทั้งหมดเป็นเขตห้ามเข้าสำหรับทหารอเมริกัน

ไม่กี่สัปดาห์หลังคำสั่งดังกล่าว สมาคมสันทนาการและการบันเทิงหรือ RAA ปิดตัวลง ขณะเดียวกับที่เกิดสถานบริการทางเพศนอกกฎหมายผุดขึ้นแทนที่

คาดกันว่าระหว่างสงคราม ญี่ปุ่นได้จัดตั้งสถานบริการทางเพศสำหรับทหารของตนในดินแดนที่เข้าไปยึดครอง มีสตรีนานาชาติถูกบังคับเข้าทำงานเป็นหญิงโสเภณีที่เรียกว่า Comfort Women ราว 50,000-200,000 คน หลังสงครามได้เกิดกระแสการเรียกร้องอย่างกว้างขวางโดยสตรีที่เคยตกอยู่ในฐานะ Comfort Women ราวกับเน้นย้ำตราบาปของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นระหว่างสงคราม

แม้จะไม่แสดงตัวออกรับผิดตรงๆ แต่ญี่ปุ่นก็แอบให้เงินชดเชยในหลายกรณี

อย่างไรก็ดี ตราบจนกระทั่งปัจจุบัน ไม่มีสตรีญี่ปุ่นออกมาแสดงตัวแม้แต่รายเดียว!