พลิกประวัติ หญิงงามที่สุดแห่งจักรวาลตลอดกาล
ในโลกใบนี้มีหญิงงามอยู่มากมาย แต่จะมีหญิงใดที่งามอมตะยาวนานกว่า 5 ศตวรรษ และทำให้ผู้คนทั่วโลกใฝ่ฝ้นจะได้ยลโฉม เธอหาใช่อิสตรีที่มีเสน่ห์เร่าร้อนด้วยอาภรณ์น้อยชิ้น หากแต่เธองามเย้ายวน ชวนหลงใหล ด้วยองค์ประกอบอันสมจริงดุจดั่งมีชีวิต ลึกลับซ่อนเร้นด้วยฝีแปรงอันประณีตละมุนละไม เธอคือหญิงงาม "โมนาลิซา" งานศิลปะชั้นเลิศ ที่ศิลปินอัจฉริยะ นาม เลโอนาร์โด ดาวินชี ได้รังสรรค์ขึ้นด้วยจิตวิญญาณ
โม นาลิซา คือภาพวาดสีน้ำมัน สูง 77 เซ็นติเมตร กว้าง 53 เซ็นติเมตร เธอถือกำเนิดขึ้นในคริสต์วรรษที่ 16 ระหว่างปี ค.ศ.1503-1507 (พ.ศ.2046-2050) ด้วยฝีแปรงของเลโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินเอกของโลก เขาใช้เวลาถึง 4 ปี จึงรังสรรค์เธอได้สำเร็จ
ด้วยฝีแปรงดุจดั่งเนรมิตรความมหัศจรรย์ได้เกือบเทียบเทียมธรรมชาติ และสัดส่วนรูปทรงที่ถ่ายทอดได้อย่างไร้ที่ติ โมนาลิซาจึงได้รับคำชื่นชมและมีคนรู้จักมากที่สุดในโลก เธอน่าค้นหาและซ่อนเร้น โมนาลิซาดูทึบทึบราวกับเป็นกระจกสะท้อนความรู้สึกนึกคิดอันยากหยั่งถึง ดวงหน้าและแววตาดูร้อนรุ่มและสงบนิ่งในเวลาเดียวกัน รอยยิ้มของเธอมีเสน่ห์ยากจะเข้าใจ จนทำให้ภาพนี้ได้รับคำชื่นชมว่า "เหมือนนางฟ้ามากกว่ามนุษย์" ความงามสมบูรณ์แบบเช่นนี้ เป็นบทพิสูจน์สำคัญว่าเลโอนาร์โด คือ ยอดอัจฉริยศิลปินตัวจริงของโลก
ลี โอนาร์โด ดาวินชี ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1452 ที่หมู่บ้านอังกีอาโน ไม่ไกลจากเมืองวินชี เมืองเล็กๆ ในแถบชนบทของทัสคานี สันนิษฐานว่าด้วยบรรยากาศอันงดงามของที่นี่นี้เองที่ทำให้หนูน้อยเลโอนาร์โด เริ่มรักและผูกพันกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เขาบันทึกไว้ว่า "การเขียนภาพเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ ทำให้สิ่งที่อธิบายไม่ได้ดูเหมือนจะอธิบายได้"
หากแต่ยังไม่มีใครอธิบายและสรุปได้ว่า โมนาลิซาในภาพนี้คือใคร
เป็นคำถามที่ผู้คนสงสัยและค้นหามากว่า 5 ศตวรรษ
บางคนเชื่อว่า ภาพนี้ไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นภาพเหมือนจำแลงของเด็กหนุ่มรูปงามผู้ติดสอยห้อยตาม เพราะลีโอนาร์โดเองมีชื่อที่ถูกกล่าวขานกันว่าเขาเป็นพวกรักร่วมเพศ จึงเกิดข้อสันนิษฐานนี้ขึ้น
บางทฤษฎีเชื่อว่าเป็นภาพของเลโอนาร์โดเอง เพราะเป็นภาพที่เขานำติดตัวไปด้วยทุกที่จนเสียชีวิต หากมีผู้ว่าจ้างจริงภาพนี้คงตกอยู่ในมือของผู้ว่าจ้างไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่สนับสนุนทฤษีนี้ยังกล่าวเสริมว่า ลายปักขดเชือกที่รอบคอเสื้อของ โมนาลิซา คือลายเซ็นลับของ ดาวินซีเอง เพราะในภาษาอิตาเลี่ยนคำว่า "ขดเชือก" จะตรงกับคำว่า "วินชีเร่" (Vincire) บางทีเธอผู้นี้อาจไม่มีตัวตนแต่เกิดจากซอกหลืบอันลึกลับในจิตใจของเขาเอง
จริงๆ แล้วชื่อ โมนาลิซา ไม่ได้ถูกตั้งโดยดาวินชี แต่ตั้งขึ้นโดย จอร์โจ วาซารี (Giorgio Vasari) ศิลปินและนักชีวประวัติชาวอิตาลี คำว่า โมนา (Mona) ในภาษาอิตาลี นั้นก็คือคำว่า มาดอนนา(madonna) หรือคุณผู้หญิง (my lady) หรือ มาดาม(Madam) ในภาษาอังกฤษ ดังนั้นความหมายของชื่อนั้นก็คือ "มาดาม ลิซา" แต่ในปัจจุบัน บางครั้งก็จะใช้คำว่า มอนนา ลิซา(Monna Lisa) แทน เนื่องจากภาษาอิตาลีคำว่ามาดอนนานั้น ส่วนมากจะใช้คำย่อว่า มอนนา
หลังจากเลโอนาร์โดสิ้นชีวิต ผู้ครอบครองโมนาลิซาคนแรก คือ กษัตริย์ฝรั่งเศส ผู้ให้การอุปถัมน์ดาวินชีในปั้นปลายชีวิต ซึ่งพระองค์โปรดให้นำภาพไปประดับที่ห้องสรงในพระราชวังฟองแตนโบล แต่เมื่อจักรพรรดินโปเลียนขึ้นครองราชย์ ภาพโมนาลิซา ถูกย้ายมาพำนักในห้องพระบรรทมและมีชื่อเรียกอย่าง สนิทสนมว่า "มาดามลิซา"
โมนาลิซาเคยโดนโจรกรรมไปจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 1911 กว่าจะค้นเธอพบและจับกุมขโมยได้ก็ต้องใช้เวลาถึง 2 ปี ปรากฎว่าโจรใจกล้ารายนี้คือคนทำความสะอาดในพิพิทภัณฑ์นั่นเอง และสถานที่พบเธอก็คือบ้านเกิดของเธอ ณ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
การหายไปและกลับสู่พิพิธภัณฑ์อกีครั้ง ชวนให้ผู้คนพากันตั้งข้อสังเกตว่า รอยยิ้มของเธอเปลี่ยนไป เกิดข้อสันนิษฐานว่า เธออาจไม่ใช่โมนาลิซาตัวจริง อย่างไรก็ตามข้อสงสัยประเด็นนี้ก็ตกไปในที่สุด ปัจจุบันโมนาลิซาได้รับการทะนุถนอมอย่างดีในตู้กระจกปรับอากาศและกันกระสุน ภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ประเทศฝรั่งเศส
กล่าวได้ว่า ภาพหญิงงาม "โมนาลิซา" ได้รับการเผยแพร่ในรูปโฉมและรูปแบบต่างกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปสการ์ด ข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึก และงานโฆษณาต่างๆ รวมถึงการแปลงโฉมเธอในหลากหลายรูปอารมณ์ ตามแต่แนวถนัดของศิลปินแต่ละคน
ไม่ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยมานาน โมนาลิซาในยุคมิลเลเนียมจะเปลี่ยนโฉมไปมากมายเพียงใด หาก แต่โมนาลิซา ของเลโอนาร์โด ดาวินชี ก็ยังคงงามตราตรึงเป็นศิลปะชิ้นเลิศที่รอผู้คนทั่วสารทิศพิสูจน์ความเป็น อมตะสตรีแห่งจักรวาลของเธอ
http://variety.teenee.com/world/73364.html