คำสอนของ สเด็จ ในละครสี่แผ่นดิน ลึกซึ้งกินใจ
ดังเช่นประโยค "พลอย มาช่วยข้าคัดทับทิบพวกนี้หน่อยซิ ข้าจะเอาไปให้เขาทำเข็มกลัดให้ เอ้าพลอยคัดให้ได้ขนาดตามที่ข้าขัดเอาไว้แล้วนะ ข้าละเบื่อจริงจริง ไอ้พวกเครื่องเพชร เครื่องทองพวกเนี่ยะ ใส่เข้าไปไม่เคยสบายใจเลยสักทีสิ ครั้นจะไม่ใส่ เดี๋ยวคนนู้นก็ว่าอย่างนั้น คนนี้ก็ว่าอย่างนี้
ค่อนให้บ้าง นินทาให้บ้าง ไม่รู้ไปเห็นมันดียังไง หิวขึ้นมาก็กินเข้าไปไม่ได้ เอามาใส่รกรุงรังอยู่ตามตัวเนี่ยะ พอหายก็ยุ่งยากอีก... พลอย พลอยเคยสังเกตุบ้าง
ไหม ว่าไอ้พวกของต่างๆเหล่าเนี่ยะ ที่เห็นว่ามันมีราคาหนะ มันดีจริงจริง มันมีราคาจริงจริง ก็เพราะว่าปากคนพูด ถ้ามีคนใดคนหนึ่ง ที่เป็นคนที่คนเชื่อถือหนะ บอกว่าไอ้นั้นดี ไอ้นี่ดี คนก็เห็นดีเห็นงามตามกันไปหมด ถ้าอย่างเจ้านายในวังอะนะ นัดกันเอาก้อนกรวดมาแขวนคอกันทุกองค์ ก็ต้องมีคนทั้ง
หลายเนี่ยะนะ ก็เห็นดีเห็นงามตามกันไปหมดอีกนั้นแหละ ...ก็นั้นแหละ ถึงว่าจะเป็นกรวดหรือเป็นเพชรมันหายไป เราก็เสียดายเป็นธรรมดา ยิ่งรักมาก ก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนนะถึงกับเสียคนไปเลยก็มี ถ้าไม่อยากจะทุกข์มาก ไม่อยากจะเสียคน ก็ไม่ต้องไปรักอะไรให้มันมากนัก ถ้าจะรักหนะนะ ก็
ต้องรู้ว่ากำพืดมันเป็นกรวด หรือว่าเป็นเพชร ถ้าเรารู้ราคาจริงๆของมันเข้าแล้วหนะ ถ้ามันหายไป เราม่ตองไปเสียดายอะไรมันมากนัก"
หรือประโยคนี้ "ชีวิตของคนเรามันก็เหมือนละคร เรามีหน้าที่รำก็รำไป ส่วนปี่พาทย์เขาก็เล่นอยู่อีกทาง เราเป็นตัวละครเราก็ต้องรำให้ถูกจังหวะ แล้ว
ถ้าใครรำได้ถูกจังหวะจะโคนแล้วคนนั้นก็จะได้รับแต่คำชม"
ชมคลิป