5 สัญญาณเตือนสำหรับผู้ศัลยกรรมจมูก
5 สัญญาณอันตรายที่คนทำศัลกรรมจมูกต้องระวัง !!
ปัจจุบันการเสริมจมูกเป็นที่นิยมและแพร่หลาย เนื่องจากการศัลยกรรมเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเห็นผลทันทีหลังทำ แต่ในอีกมุมหนึ่งของการศัลยกรรมจมูกก็อาจมีผลเสียเกิดขึ้นได้ หากคุณสาวๆทั้งหลายไม่เข้าใจ ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ภายหลังศัลยกรรม
วันนี้อีสต์คลินิกจึงขอแนะนำ 5สัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าจมูกของคุณกำลังมีปัญหา เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
สนับสนุนข้อมูลโดย อีสต์คลินิกเชียงใหม่
บวมมากขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือนแรก
อาการลักษณะนี้เกิดจากการติดเชื้อหลังการผ่าตัด เช่นการกินของแสลง (อาหารที่กระตุ้นการอักเสบเช่น ส้มตำ ปูปลาร้า อาหารทะเล ของหมักดอง) หรือ การใช้นิ้วแคะบริเวณแผลทำให้แผลติดเชื้อได้ หรือการอักเสบมากขึ้นจากการกระทบกระเทือน เช่น ซาวน่า โยคะ ออกกำลังกายหนักควรได้รับยาฆ่าเชื้อหรือกินยาลดบวม
มีน้ำเหลืองไหล หรือสะเก็ดติดที่แผล
อาการนี้เกิดได้ 2สาเหตุ 1.แผลปริหลังการเย็บแผล รักษาโดยขี้ผึ้งป้ายแผลสด ถ้าแผลปริอยู่ลึกให้พักจมูก 2.ซฺิลิโคนปลายจมูกยาวเกินไป ทำให้แผลผ่าตัดที่เย็บถูกดึงรั้ง แก้ไขโดยเสริมใหม่ให้ปลายจมูกสั้นกว่าเดิมเพื่อลดการดึงรั้ง
มีสิวเกิดขึ้นบริเวณปลายจมูก ปลายจมูกมีลักษณะใสขึ้น
อาการเหล่านี้เป็นระยะแรกของการอักเสบ ซึ่งนำไปสู่ซิลิโคนทะลุได้ ส่วนใหญ่เกิดจาก การวางซิลิโคนไม่ดี ซิลิโคนมีรูปทรงแหลมเกินไป หรือเสริมด้วยซิลิโคนคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ซิลิโคนทะลุออกมาบริเวณปลายจมูก หรือในบางรายอาจทะลุที่โพรงจมูก วิธีป้องกันก็คือ ให้แพทย์เหลาซิลิโคน smooth ไม่ยาวเกินไป ไม่แหลมเกินไป เมื่อมีการอาการ ไม่ควรบีบสิวเอง หรือฉีดสิว การรักษา ควรถอดพักจมูก หากถอดพักจมูกเกิน 1-2 สัปดาห์จะทำให้จมูกบุ๋มได้ และต้องรับการรักษาด้วยการใช้เนื้อเยื่อบริเวณอื่นมาแปะ
เครดิตรูป : www.east-clinic.com
จมูกมีอาการเบี้ยวเอียงผิดรูป
ในช่วง 1 เดือนแรก Silicone ที่เสริมจะยังลอยอยู่ เนื้อจมูกยังคงบวมอยู่ทำให้การรัดตัวหรือการยุบตัวของเนื้อจมูกไม่เท่ากัน ทำให้ดูเอียงได้ ในกรณีนี้สามารถรอดูผลการรักษาได้ ภายหลัง 1 เดือน ซึ่งอาการเอียงเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเหลาซิลิโคนที่ไม่สมมาตร เสริมซิลิโคนไม่แนบกระดูก การกระทบกระแทกในช่วง 1 เดือนแรก หรือ หลังจากเสริมจมูกไปแล้ว 1 ปี รูปทรงของจมูกเปลี่ยนไป ผิดรูป หรือซิลิโคนไหล เกิดจาก ซิลิโคนที่นิ่มเกินไปและการรัดตัวของพังผืด
จมูกมีอาการบวมแดงเป็นๆ หายๆ หลังศัลยกรรมไปแล้วหลายเดือนหรือปี
อาการลักษณะนี้เกิดจากมีแบคทีเรีย (Bacteria) หรือเชื้อโรคเข้าไปในโพรงที่เราใส่ซิลิโคนเอาไว้ ซึ่งไม่ใช่เป็นแบคทีเรียเข้าไปขณะผ่าตัด แต่อาจเกิดจากแบคทีเรียที่ฝังตัวอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้จมูกบวม ปวด แดง และอักเสบ ซึ่งอาการเหล่านี้พบได้ในรายที่เสริมจมูกด้วยการผ่าตัดใส่ซิลิโคน และจะเกิดภายหลังทำไปแล้วหลายเดือน บางหลายอาจหลายปี การรักษาที่ได้ผลดีที่สุดคือ ถอดซิลิโคน จากนั้นก็พักสักระยะหนึ่ง 4 เดือน 6 เดือน หรือนานกว่านั้น แล้วจึงใส่กลับเข้าไปใหม่ หากปล่อยไว้นานไม่ยอมรับการรักษา จมูกอาจเกิดเนื้อจมูกบางและเกิดการทะลุได้
" สิ่งที่ผู้ที่ต้องการเสริมจมูกต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ เรื่องของความปลอดภัย การเลือกเสริมซิลิโคนให้เหมาะสมกับเนื้อจมูก เนื่องจากแต่ละคนมีพื้นฐานจมูกที่ไม่เหมือนกัน หากทำสิ่งใดที่ฝืนธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมตรงกันข้าม "
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.east-clinic.com
ติดต่อ : www.facebook.com/eastaesthetic