ผมอยากทราบว่า นรก กับสวรรค์ ใช้ server ตัวไหนครับ!!!!!!!!!!

อย่างที่รู้กันครับ ว่า นรกกับสวรรค์ ว่าจะมีการบันทึก การกระทำของเราไว้ ทั้ง กรรมดี กรรมชั่วครับ ว่าแต่ละคน ทำอะไรมาบ้าง เพราะนับจากเกิดจนถึงตาย ก็ถือว่า เยอะนะครับ  
ลองคิดเล่น ๆ นะครับ ว่า  

1  คน 1 ชม ทำไปหลายอย่างเลย บางที ทำดีและไม่ดีเป็นสิบอย่างใน 1 ชม   แล้วหนึ่งวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี ดังนั้น คงต้องมีการเก็บข้อมูลไว้เยอะมากๆ นะผมว่า

1 คน  [  1 ชม  x  24  ชม x   365 วัน x   70 ปี โดยเฉลี่ย ] x 10 กรรมดี-ชั่ว =  6,132,000  ----- อันนี้แค่ 10 กรรมดีชั่ว

หากสวรรค์ นรก เก็บทุกรายละเดียด ยกตัวอย่าง 100 กิจกรรม ต่อ ชม
1 คน  [  1 ชม  x  24  ชม x   365 วัน x   70 ปี โดยเฉลี่ย ] x 100 กิจกรรม =  61,320,000  ----- อันนี้แค่ 100 กิจกรรม

หาก ประชากรโลก มี   10,500 ล้านคนในปี 2050  [http://goo.gl/hjwj91]

ก็จะมี ข้อมูลประมาณ  61 ล้าน   x   10,500 ล้าน เรคคอร์ด

อันนี้ ลองคิดเล่น ๆ ถือว่าเยอะเลย  ผมเลยมีคำถามครับ  ถามท่านผู้รู้ครับ

1. นรก กับสวรรค์ นี้จะ มี Data Center เป็นของตัวเอง ไหมครับ เหมือนกับ FB and Google
2. ข้อมูลนี้ใครจะเป็นคนกรอกครับ  data input ต้องเยอะมาก ๆ พยายม และบริพารคง กรอกไม่ไหว
3. server ของสวรรค์ กับ นรก จะแยกกันไหมครับ และ spec นี้ต้องใหญ่ไหมครับ ใครมีรายละเอียดแชร๋ด้วยนะครับ
4. เขามีการ ดูแล ระบบ backup and ลบดาต้า เก่า ๆ อย่างไงบ้างครับ เช่นคนไปเกิดแล้ว ต้องลบออกไหม
5. เขามีโปรแกรมเมอร์เองหรือเปล่าครับ หรือว่า oursource บริษัทในอินเดีย หรือ เมกาครับ
6. โปรแกรมเมอร์ที่ตายไป  ยื่นใบสมัครเองที่นี้ได้ไหมครับ

พี่ ๆคนไหนรู้และมีประสพการณ์แนะนำ ด้วยนะครับ  อยากรู้ครับ เผื่อจะได้ศึกษาต่อ ผมคิดว่า โปรเจ็คนี้น่าสนใจมากครับ

คอมเม้นหน่อยครับ

มีคนคอมเม้นว่า

ไม่ได้ขึ้นมาที่โลกนานเลย มาเอา Raspberry Pi Model B+ ที่เพิ่งออก ว่าจะเอาไปใช้ทดสอบ iBeacon ในนรกซะหน่อย เจอกระทู้นี้น่าสนใจ ขอตอบก่อนกลับไปที่นรกละกัน

ที่ จขกท. ถามมา มันต้องลงรายละเอียดเยอะครับ ผมขอเล่าก่อน แล้วค่อยตอบคำถามตอนท้ายนะครับ

เริ่มจากข้อมูลก่อน ว่ากันระดับแต่ละดวงวิญญาณเลย เพราะข้อมูลของคนๆ หนึ่งจะยาวนานมาก ตั้งแต่ดวงวิญญาณเริ่มกำเนิดขึ้นมาไปจบที่นิพพานหรือแตกดับไป บางช่วงเวลาอาจจะตกนรกหลายกัปหลายกัลป์ บางดวงเกิดมาตั้งแต่ Big Bang ตอนนี้ยังวนอยู่ในวัฏสงสารอยู่เลย ข้อมูลจึงมีขนาดมหึมาและไม่เป็นโครงสร้างแบบตาราง เพราะฉะนั้นจะเก็บเป็นโครงสร้างแบบ Relational เลยไม่ work ครับ เกิดต้อง re-structure นี่นรกแตกแน่ๆ (ส่วนใหญ่สวรรค์ไม่ค่อยยุ่งครับ กำหนดนโยบายซะมากกว่า) ต้องทำเป็น Document-Based อย่างเช่นโครงสร้าง JSON เป็นต้น เมื่อ data เป็น document-based การเก็บลงฐานข้อมูลก็ต้องเป็นแบบ NoSQL ครับ (http://goo.gl/2uzQ)

ย้อนไปในสมัยก่อน ตอนที่ท่านท้าวเวสสุวรรณท่านให้สุวรรณเลขากับสุวานเลขาจดกรรมดีกรรมเลวนั้น แรกๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ข้อมูลก็อยู่กับวิญญาณและก็ใช้หนังสือของท่านฯ ทั้ง 2 นี่แหละเป็นตัว sync ข้อมูล แต่เมื่อจำนวนวิญญาณที่เกิดขึ้นมันมากขึ้นเรื่อยๆ และยุคสมัยที่มันหมุนเร็วขึ้น การทำงานก็ช้าลงเป็นเงาตามตัว ทางนรกสวรรค์ก็มีการประเมินกันว่า พื้นที่ที่ดวงวิญญาณมีมันจะเริ่มไม่พอแล้ว ต้องหาทาง upload ไปซักที่นึง นอกจากนั้นเมื่อก่อนระบบการชดใช้กรรมก็ไม่ทันการเพราะเก็บที่ดวงวิญญาณ ต้องเอามา sync กับบัญชีหนังหมาตอนตายแล้วค่อยประเมินว่าจะใช้บุญใช้กรรมยังไง แล้วก็ต้องรอกันในชาติหน้า บวกกับที่เทวดานั้นมีเวลาที่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ การหาเทวดามาแทนก็ค่อนข้างยาก กรรมดีเลวต้อง 50/50 เป๊ะ จึงต้องเอาระบบเข้ามาช่วย และให้เทวดาทั้งหลายเป็น Product Owner ค่อยๆ implement กันเป็น iteration ไป วาง timeframe ยาวกันเป็นสิบๆ ปีเลย พอ implement เสร็จก็จะคอยเป็น consult เพื่อปรับปรุงระบบต่อๆ ไป แต่ผมว่าคงไม่จบอะครับ อีกเยอะ!!!

กลับมาที่ database ครับ แรกๆ ก็ใช้ Relational Database ของเจ้านึงที่เคลมว่าดีที่สุดในโลก แต่ก็มีปัญหาที่ระบบมันโตเร็วมว้าากกกก แป๊บๆ ก็ต้องเพิ่ม disk เพิ่ม CPU + Load Balance + re-index กันวุ่นวาย ก็เลยลองเปลี่ยนไปใช้ MongoDB ที่ webboard เจ้านึงเอาไปใช้แล้วล่มเป็นว่าเล่นอยู่ช่วงนึงนั่นแหละครับ แต่ก็ไม่ไหวอยู่ดี เพราะพอโลกมัน online คนก็ทำกรรม online กันมากขึ้นด้วย เดี๋ยว load bit, หลอกลวง, drama กัน กรรมทั้งนั้น สุดท้ายก็เลยหันไปใช้ Big Data พวก Hadoop แล้วใช้พวก Solr อะไรแบบนี้เข้ามาช่วยแทน (http://goo.gl/ooAtv) แทบรากเลือดแต่ก็ช่วยได้เยอะเลย พวก spec ของ server ใช้พวก PC เทพ ก็ OK แล้ว ไม่ต้องใช้ server 2U 4U ให้เปลือง พังก็ถอดออก เดี๋ยวมันกระจาย data กันเอง ส่วน algorithm ส่วนใหญ่ตอนนี้ยังใช้ Map/Reduce อยู่ แต่เห็นท่านสุวรรณฯ นั่งดูงานถ่ายทอด Google I/O อยู่แล้วบอกว่าทาง Google จะออกเครื่องมือใหม่แทน Map/Reduce (ผมไม่ได้นั่งดูด้วย ไม่รู้ชื่ออะไร) คงต้องรอ phase หน้าครับ แต่เราน่าจะได้ใช้กันในชาตินี้แหละ

พอได้ Big Data เข้ามาช่วยบวกกับที่ได้ engineer ที่ตายลงมาให้คำปรึกษาเรื่อง Graph Search ที่ facebook ใช้ ก็ช่วยให้สามารถ map กรรมดีกรรมชั่วทั้งของตนเองและผู้อื่นได้เร็วขึ้น ยิ่ง engineer เพิ่งติดตั้ง redist (http://redis.io) ยิ่งเร็วเข้าไปอีก สังเกตุว่าเดี๋ยวนี้กรรมติดจรวดเลย ทำไม่ดีเอาไว้ไม่ต้องรอชาติหน้า เห็นกันในชาตินี้แหละ อย่างบางคนนี่ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ต้องเร่ร่อนเป็นสัมพเวสีในร่างเนื้อกันเลยทีเดียว อ๊ะ อันนี้ไม่ได้ว่าใคร ยก case ให้เห็นกันเฉยๆ ว่าเร็วจริง

ส่วน data center นี่ ต้อง 24x7 ครับ ระดับ SLA ที่ 99.9999% ยังไม่พอเลย (เรื่อง HA ครับ http://goo.gl/O9aMW) เลยต้อง implement Tier 4 กันเลยทีเดียว (http://goo.gl/aL4v) เพราะห้ามล่มเด็ดขาด หา engineer implement ยากเหมือนกัน แถวไทยนี่น้อยแบบใช้นิ้วนับได้เลย ไม่ตายซะที รอไม่ไหวเลยต้องข้ามไปสิงค์โปร์กับออสเตรเลียก่อน เห็นท่านท้าวฯ เกริ่นว่า “จบ phase หน้า ขอ Tier 5 นะ” ... รอ engineer ชุดใหม่ไหมท่าน เดี๋ยวเค้าไปเกิดกันก่อนแล้วใครจะทำละครัฟ -_-!

กลับมาที่ดวงวิญญาณแต่ละดวง พอโลกมนุษย์เริ่มมี 3G การส่งบาปบุญก็เร็วขึ้น สามารถอัดได้เต็ม 72 mbps เลย แต่ที่ไทยนี่ช้าหน่อย บางทีบาปบุญมี lag บ้างเหมือนกัน (ทีตอนทำ speed test ทำไมเร็วหว่า ?_?) แต่ตอนนี้ถือว่าเหลือๆ เพราะส่งกันด้วย CoAP (http://goo.gl/5VRJa) ข้อมูลเล็กกว่า JSON มั่ก แต่ก็คาดว่าซักปี 2020 นี่น่าจะเริ่มแน่นๆ ตอนนั้นถ้า upgrade เป็น 4G ก็น่าจะไปต่อได้อีกหลายปี แต่ขอดูทางโลกก่อน ถ้า 5G หรือ 6G ออกมาทันก็ค่อย up กันไป

พอโครงข่ายมันเร็ว ดวงวิญญาณก็ไม่ต้องเก็บบาปบุญทั้งหมดอีกต่อไป แต่เอาหลักการของ Internet of Things มาใช้แทน คือเมื่อทำกรรมดี ก็ POST ไปที่ RESTful Server ของทางสวรรค์นรกเลย (กระจาย server รับ load ตาม Geo-Location) ส่วนข้อมูลที่อยู่ที่วิญญาณก็จะเก็บเฉพาะบาปบุญที่ถึงคราว​ ณ ช่วงเวลานั้นๆ โดย server จะคอย Push ลงมาด้วย Push Notification ถ้าเป็นผลบุญก็มีสิ่งดีๆ เกื้อหนุน ถ้าเป็นผลกรรมก็เต็มๆ แต่ก็มีบางคนที่ถึงคราวเคราะห์แต่มีบุญมาบรรเทา ก็จะเกิด event ที่แตกต่างหันไป ซับซ้อนครับ เรื่องนี้ Graph Search ช่วย map พวกเจ้ากรรมนายเวรให้ แล้วมีพวก Rules Engine มาช่วยประเมินผลกรรม เมื่อก่อนนี่ต้องกำหนดกันตั้งแต่ส่งลงมาเกิด เดี๋ยวนี้ไม่ต้องละ ลดงานไปเยอะเลย ที่สำคัญบางครั้งก็มีการส่งกรรมให้ตามทันในชาตินี้เลย จะได้ลดความแออัดในนรก เดี๋ยวนี้คนตกนรกเยอะเลย คงต้องรอยุคพระศรีฯ โน่นแหละจึงจะลดความแออัดลงไป นี่ก็ได้ยินว่าจะเอา iBeacon (http://goo.gl/be4cWy) มาตามตำแหน่ง Indoor กันเลย เห็นมีเจ้าหน้าที่บ่นๆ ว่าบางทีถ้าเข้าในอาคารกรรมตามสนองที่เกี่ยวข้องกับ location-based มันไม่แม่น ... คงต้อง research กันอีกซักพักละนะ ของมันยังใหม่อยู่

ส่วน flow งานนี่ต้องเล่ากันอีกยาวครับ มันนอกเหนือจากที่ จขกท. ถามมา ผมขอจบแค่ตรงนี้ละกัน เครื่องไปนรกจะออกละ ขอใช้เวลาที่เหลือตอบคำถามของ จขกท. ครับ

1. นรก กับสวรรค์ นี้จะ มี Data Center เป็นของตัวเอง ไหมครับ เหมือนกับ FB and Google
    - มีครับ ตอบไปแล้ว implement Tier 4 ใช้พวก Big Data, Map/Reduce, Graph Search และอื่นๆ อีกมากมาย

2. ข้อมูลนี้ใครจะเป็นคนกรอกครับ  data input ต้องเยอะมาก ๆ พยายม และบริพารคง กรอกไม่ไหว
    - ตอนนี้เป็น Internet of Things ผ่าน 3G ครับ ไม่ต้องมี data entry แล้ว มีวิญญาณตกงานเพียบเลย ไม่รู้ว่าจะได้มาเกิดก่อนกำหนดไหม ไม่ได้ตามเหมือนกันครับ

3. server ของสวรรค์ กับ นรก จะแยกกันไหมครับ และ spec นี้ต้องใหญ่ไหมครับ ใครมีรายละเอียดแชร๋ด้วยนะครับ
    - ไม่แยกครับ เพราะว่ากันด้วยบาปบุญของดวงวิญญาณเป็น 1 document แต่มี Data Center ขนาดใหญ่กระจายกันออกไปตาม Geo-Location เพื่อรับบุญกรรมและประมาณผลได้เร็ว ส่งต่อไปยัง DC อื่นได้แบบ realtime ตามตำแหน่งดวงวิญญาณ DC แต่ละแห่งก็ใหญ่กว่าสนามฟุตบอล 10 สนามและซ้อนกันหลายชั้น ระบบทั้งหมดเป็น Public Cloud ครับ

4. เขามีการ ดูแล ระบบ backup and ลบดาต้า เก่า ๆ อย่างไงบ้างครับ เช่นคนไปเกิดแล้ว ต้องลบออกไหม
    - ลองอ่านเรื่อง Tier 4 นะครับ มี fault tolerance แน่นครับ ส่วนข้อมูลไม่ลบครับ แม้ดวงวิญญาณจะแตกดับไปแต่ข้อมูลของบุญกรรมก็จะเก็บไว้ให้ดวงวิญญาณรุ่นหลังได้ศึกษากันต่อไปเป็น knowkedge base ครับ กำลังหาทีม engineer เก่งๆ ทำ H&H-Pedia (Heaven & Hell Wikipedia) อยู่ครับ ใครทำอะไรเอาไว้ก็ search ได้ครับ อันนี้ไม่ด่วนอะไรตายแล้วก็มาสมัครกันได้

5. เขามีโปรแกรมเมอร์เองหรือเปล่าครับ หรือว่า oursource บริษัทในอินเดีย หรือ เมกาครับ
    - มีหลากหลายครับ ส่วนใหญ่จะดูตาม location ที่ engineer ท่านนั้นหมดลม ก็จะประจำที่ DC ตาม Geo เลย ยุคนี้เป็น Cloud-Based หมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องย้ายดวงวิญญาณมาประจำแล้วครับ มีอะไรก็ HangOut หรือ Facetime เอา แต่เรื่อง tool นี่บังคับกันลำบาก จีนชอบ WeChat ของญี่ปุ่นก็ Line เมกายุโรปชอบ WhatsApp นี่เดี๋ยวจะไปประชุมเรื่องนี้แหละ จะเอา  Skype ก็ไม่ครบ แล้วท่านศาสดาก็ตาเขียว บอกว่า “ถ้าอยากใช้ก็รอตาบิลมาแทนผมละกัน” เฮ้อ เอาใจไม่ถูกครับ

6. โปรแกรมเมอร์ที่ตายไป  ยื่นใบสมัครเองที่นี้ได้ไหมครับ
    - ถ้าเป็นระบบนี้ ค่อนข้างยากครับ ส่วนใหญ่จะแทงชื่อมาตั้งแต่ตอนใกล้ตาย ระบบมัน critical ครับ แต่ก็มีหลุดมาบ้างเหมือนกัน ถ้าสนใจจริงๆ แนะนำให้ไปฝึกทำข้อสอบสัมภาษณ์เข้า Google หรือ facebook ครับ แล้วพวก math กับพวก Design Patterns นี่ขอแน่นๆ เลย ส่วนภาษาได้หมดครับ ที่นี่มีใช้ทุกภาษา อยู่ที่ว่าส่วนไหนใช้อะไร ทั้ง Java, C# Mono, Node.js, Python, etc. แต่อย่าฆ่าตัวตายแล้วมาสมัครนะครับ เคยมี programmer ทำมาแล้ว เค้าไม่รับครับ โดนส่งกลับมาใช้กรรมซะ 7 ชาติแน่ะ นี่ก็ยังไม่ครบเลย

ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วครับ จบประชุมคราวนี้ว่าจะไปพักร้อนบนสวรรค์ซักเดือน เหนื่อยโฮกเลย ไปละ เราอาจจะได้เจอกันเมื่อสิ้นลมครับ สวัสดี ^_^