เราทำถูกแล้วใช่ไหม ที่ยอมขึ้นคาน แต่ไม่ยอมแต่งงานแล้วเข้าบ้านแฟน
เราคบกับแฟนมา 4 ปีแล้วค่ะ ก็เข้ากันได้ดีทุกอย่าง เป็นลูกจีนด้วยกันทั้งคู่ค่ะ
แฟนเราเป็นลูกชายคนเล็ก คนเดียวของที่บ้าน ส่วนบ้านเราลูกผู้หญิงล้วนค่ะ
ที่ผ่านมาก็วาดฝันกันไว้มากมาย คิดว่าอีก 2-3 ปีคงแต่งงาน ซื้อบ้านสร้างครอบครัวเล็กๆด้วยกัน
ล่าสุดแฟนเรามาเปรยๆว่า ถ้าแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่บ้านเค้านะ เค้าอยากอยู่รวมกับพ่อแม่จะได้ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า
คือเราเข้าใจสถานะและความรู้สึกแฟนนะ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยที่จะต้องเป็นสะใภ้อยู่รวมบ้านเป็นครอบครัวขยาย
ทันทีที่ได้ยินเราก็แสดงความเห็นไปนะ ว่าเราไม่ค่อยสะดวกใจ เราคิดว่าถึงแยกบ้านออกมาก็แวะเวียนไปมาหาสู่กันได้ เราก็เป็นห่วงและอยากดูแลพ่อแม่เราเหมือนกัน ถ้าขอให้แฟนแต่งเข้ามาอยู่บ้านรวมกับพ่อแม่เรา ตัวแฟนเองก็คงไม่สะดวกใจเหมือนกันใช่มั้ย
กลับมานั่งคิด นอนคิดอยู่หลายตลบ จนวันนี้เราเผลอพูดความในใจของเราออกไปให้แฟนได้รับรู้ค่ะ เรายืนยันว่า ถ้าจะมีการแต่งงาน นั่นหมายถึงเราอยากมาสร้างครอบครัวใหม่ด้วยกัน ถ้าแต่งแล้วต้องไปอยู่รวมกับที่บ้านแฟน เราขอไม่แต่งนะ ช่วงเวลาที่เราคบกันมาหลายปี เรามีความสุขมาก ก็ถือเป็นกำไรชีวิตแล้วกัน
ตอนนี้เรากับแฟนก็ไม่ได้เลิกกันนะคะ แต่พอพูดไปให้เข้าใจตรงกัน ความรู้สึกของคน 2 คน มันก็เย็นๆวาบๆอ่ะค่ะ ต่างคนต่างรู้สึกว่ามองไม่เห็นอนาคตด้วยกันทั้งคู่ เราก็ร้องไห้กับตัวเองไปหลายรอบ เห็นคนรอบข้างที่เป็นแฟนกันและกำลังจะแต่งงานปีนี้ปีหน้า ก็อดรู้สึกเจ็บแปล๊บๆไม่ได้ ว่าคงไม่มีวันนั้นสำหรับคู่เรา
...เราคิดถูกแล้วใช่มั้ย ที่จะไม่ยอมอุทิศชีวิตที่เหลืออยู่หลังแต่งงานให้กับครอบครัวแฟน แต่ยอมเลือกอยู่ตัวคนเดียวแล้วดูแลพ่อแม่เรา เก็บ 7-8 ปี ที่คบกันแฟนเป็นความทรงจำดีๆ ก็พอ...
ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้นะคะ เราแค่อยากระบายให้ใครซักคนฟัง ตอนนี้มันรู้สึกมืดมนไปหมดเลยค่ะ