มิจฉาชีพในคราบ น.ศ. ม.เอกชน ย่านรังสิต ต้มตุ๋นขโมย Iphone 6
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมาค่ะ เกิดขึ้นกับน้องสาวเราเอง
เรื่องมีอยู่ว่า...
น้องเราเป็นเฟรชชี่ปี 1 ของ ม.เอกชน แถวรังสิตค่ะ แล้วน้องได้หาเมทเพื่อหารค่าหออยู่ด้วยกัน เพราะเพื่อนที่เพิ่งรู้จักได้หอไปเรียบร้อยแล้ว เลยใช้วิธีไปแปะประกาศไว้ตามเว็บหอพักต่างๆ ประมาณช่วงกลางเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยทิ้งเบอร์กับไลน์ให้ติดต่อ
วันสองวันก็มีคนแอดไลน์มา บอกว่าเป็นพี่ปีสูง ปี 6 คณะนิเทศน์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน มีตัวเรียนไม่กี่ตัว แต่ขี้เกียจขับรถกลับบ้านบ่อยๆ จะเข้ามาหารค่าหอด้วย น้องเราเห็นว่าเป็นพี่คณะใกล้เคียง ม.เดียวกันก็วางใจถามชื่อ ถามเบอร์ นัดแนะข้อตกลงกัน เรียบร้อย
ข้อสังเกต 1 : น้องบอกว่า มันรู้เรื่องการเรียน เบื้องต้น เช่นเรื่องกิจกรรมได้เพชร เรื่องเชียร์ เรื่องการลงทะเบียน
ข้อสังเกต 2 : น้องเราบอกเค้าไปว่า เตียงในห้องเป็นเตียงใหญ่นะ คงต้องนอนด้วยกันมีปัญหาหรือเปล่า ทางนั้นก็ไม่มีปัญหาค่ะ ไม่ซีเรียสเลย คุยง่ายมากกกกกก แล้วตกลงจะเข้ามาอยู่ด้วยช่วงต้นเดือน ก.ย.
วันที่ 1 ก.ย. ภีม (ชื่อนาง) ติดต่อน้องเรามา ว่าของเยอะมาก ให้ไปช่วยขนของหน่อย อยู่แถวรามอินทรา น้องเราไปค่ะ ตั้งใจไปช่วยขนของจริงๆ พอเจอนาง นางมีกระเป๋าเสื้อผ้าอยู่ใบนึงกับตัวค่ะ บอกว่าจะเอาไอแพดไปคืนเพื่อน รอแป๊ปนะ ตอนนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. เลยได้ไปรอเพื่อนนางอยู่ใต้คอนโด ชื่อ ลุม_นี คอนโดทาวน์ อาคารB ซึ่งเป็นร้านกาแฟ เล็กๆ
นางบอกว่า ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้มั้ย แบตหมดเกลี้ยงเลย พร้อมกับโชว์ให้ดู จะยืมเข้าเฟสขอเบอร์เพื่อนอีกคน เพื่อโทรหาเพื่อนว่ามาถึงแล้ว น้องเราก็ให้ยืมค่ะ แล้วนางกับน้องเราก็นั่งรอกันที่ร้านกาแฟค่ะ
นั่งรอสักพักใหญ่ๆ น้องเราก็สั่งน้ำเปล่ามาดื่ม 1 แก้ว ดื่มน้ำไปสักพักก็เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็กลับมานั่งรอใหม่ ไม่นาน นางก็บอกว่าไม่รอแล้ว ไปฝากของดีกว่า พร้อมกับขอยืมบัตรประชาชนน้องเราไปค่ะ นางบอกว่าลืมเอากระเป๋าตังค์มา แต่ก็ไม่ได้ฝาก บอกว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วรอต่อดีกว่า แต่ก็ไม่ได้คืนบัตรปชช กับน้องเรา แกล้งเนียนไป ส่วนน้องเราเกรงใจไม่กล้าทวงค่ะ
ในระหว่างที่รอ นางชอบยืมโทรศัพท์เล่นเฟสค่ะ (โคตรไม่เกรงใจเลย) เล่นเหมือนของตัวเองเลย น้องเราก็ให้ยืมค่ะ เพราะนางบอกตลอดว่าอยากได้ กำลังตัดสินใจจะซื้อ นั่งสักพักเพื่อนนางก็โทรเข้าเบอร์น้องเรา ใจความว่าเพื่อนกำลังมา ถึงหอแล้ว
นึกภาพเหตุการณ์ที่นางยืมโทรศัพท์โทรนะคะ แล้วก็คุยได้ใจความว่าเพื่อนใกล้เข้ามาแล้ว อยู่แถวนี้ นางก็หนีบโทรศัพท์คาหูลุกไปเปิดประตูหน้าร้าน ทำท่าทางโบกไม้โบกมือ พลางพูดว่า “ไม่เห็นหรอ อยู่ตรงนี้ไง” อะไรแบบนี้ เหมือนท่าทางรอเพื่อนอยู่จริงๆ
แล้วในช่วงที่นางคุยโทรศัพท์ไปเดินโบกมือไป น้องเราก็ง่วงค่ะ น้องเราคิดว่า อาจจะเพลีย แต่ก็นั่งรอนางอยู่ที่ร้านกาแฟ ในใจคิดว่าคงเดินตามไปหาเพื่อน ไม่นานก็คงกลับมา กระเป๋าถือนางก็ยังคงวางก็อยู่ที่ร้านอยู่เลย
เชื่อมั้ยคะ? ว่าหลังจากที่นางเดินออกจากร้านไป เวลาไม่ถึง 3 นาที น้องเราสติดับเลยค่ะ แบบหลับพับไปเลยกับร้านกาแฟ (อันนี้เราอยากถามว่าเป็นเรื่องการวางยาได้มั้ยคะ เพราะไม่รู้ทามไลน์ของการออกฤทธิ์ยา เลยไม่อยากจะฟันธงว่าโดนวางยาด้วย)
เราถามน้อง ว่าแอร์เย็นหรอ นั่งสบายหรอ อาจจะหลับเองก็ได้ น้องบอกว่าไม่ค่ะ แอร์ร้อน ไม่ได้สบายตัวเลย แต่หลับได้
พอน้องตื่น ก็ดูเวลา สรุปว่าน้องหลับไปเป็นเวลาชั่วโมงนิดๆ พอตื่นมา เห็นเวลาแล้วนางยังไม่กลับมาก็เริ่มใจไม่ดี น้องเราเห็นกระเป๋านางวางอยู่ ก็เลยถือวิสาสะค้นค่ะ เปิดไป เจอแค่น้ำเปล่า 2 ขวดค่ะ ! ไม่มีเสื้อผ้าสิ่งของใดๆ ทั้งสิ้น
น้องเราใจเสียเลยค่ะ รีบวิ่งไปถาม พี่ รปภ. ของคอนโด ว่าเห็นคนที่มาด้วยกันกับน้องเราหรือเปล่า เค้าหายไปไหนไม่รู้นานแล้วเป็นชั่วโมงแล้ว แล้วก็บอกรูปพรรณไป พี่ รปภ.บอกว่า อย่าบอกนะว่ามีคนให้น้องมารอที่ร้าน ทำทีเป็นรอเพื่อน พอน้องเราตอบว่าใช่ค่ะ พี่ รปภ.รีบบอกว่า หนูโดนหลอกแล้วล่ะ เพราะเคยมีคดีแบบนี้เกิดขึ้นเหมือนกันกับตึกข้างๆ !!
น้องเรารีบวิ่งไปตู้โทรศัพท์ที่ใกล้ที่สุดโทรหาเครื่องตัวเอง แน่นอนว่าปิดเครื่องค่ะ แล้วน้องก็โทรหาเรา (เราอยู่ ตจว. ทำงานอยู่) ว่าให้เรา Find my iphone ให้หน่อย เราเข้าแอพแต่มันบอกว่าไม่มีเครื่องลงทะเบียนค่ะ มันปิดเครื่องแน่นอนแล้ว
น้องเรารีบไปขอดูกล้องวงจรปิดแถวนั้น แต่เห็นไม่ชัดค่ะ เสี้ยวเดียวเท่านั้น เอาเทปไปไม่ได้ ต้องมีเอกสารจากตำรวจ น้องเลยรีบไปแจ้งตำรวจของเขตนั้นค่ะ
ตำรวจบอกถ้าเป็นเรื่องไอโฟนต้องมีเลขอีมี่ แต่ถ้าเป็นเรื่องบัตรประชาชน ก็แค่ไปทำใหม่ ไม่ต้องแจ้งเรื่องอะไรไว้
(น้องเรากลัวว่าคนร้ายจะเอาเลขบัตรประชาชน ไปทำอะไรเสียหาย ถ้าแค่ทำใหม่อย่างเดียว จะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยคะ?)
ตกค่ำ น้องเรากลับหอมาด้วยความมึนงง รู้ตัวเต็มๆ ว่าผิดที่ไม่รอบคอบ สะเพร่า ไว้ใจคนง่าย ไม่ระวัง และอื่นๆ อีกมากมาย เราพอรู้เรื่องก็ถามน้องว่าข้อมูลส่วนตัว ประวัติเป็นไงมาไง น้องไม่รู้อะไรเลยจริงๆ ไม่ได้เห็นบัตร นศ. ว่าเป็นรุ่นพี่ ไม่รู้ชื่อจริง จำได้แค่รูปร่างหน้าตา
นางแต่งตัว เสื้อโปโลของม.กรุงเทพ สีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น สูงประมาณ 160 นน.ประมาณ 46-48 ผมทรงยืดตรงสไลด์ปลายยาวกลางหลังย้อมสีน้ำตาล 2 ระดับ คือช่วงโคนน้ำตาลเข้ม ปลายผมสีน้ำตาลอ่อน น้ำเสียงโทนนุ่ม สำเนียงเหมือนคน กทม. แต่พูดแผดๆ พูดเร็ว ช่างคุย ผิวสองสี ธรรมดา หน้ารูปเรียวยาว ตาสองชั้น เบ้าตาชัดเจน ดั้งจมูกธรรมชาติ เหมือนฝรั่ง เป็นคนผิวแห้ง ไม่มีสิว ไม่มีฝ้ากระ หน้าใสปกติ มีฟันกระต่าย คอเรียว ใส่นาฬิกา สแตนเลสทั่วไป ใช้โทรศัพท์ไอโฟนห้า และมีไอแพด2 ของเพื่อน กระเป๋าถือหลุยส์ดามิเย่(คาดว่าน่าจะก๊อปเกรดA)
ลำดับเหตุการณ์โดยประมาณนะคะ
14.00 น. ถึงใต้คอนโดยืนรอล็อบบี้กับนาง 5 นาที แล้วนางชวนไปร้านกาแฟ นางบอกน้องเราว่าโทรคุยกันครั้งสุดท้าย เพื่อนอยู่เดอะมอลบางกะปิ คิดว่าใกล้จะถึงแล้ว ขอยืมโทรศัพท์โทรหาเพื่อน จะขอเข้าเฟสขอเบอร์เพื่อนที่นางจะเอาของมาคืน
14.30 น. นางสั่งน้ำกับไอติมมากิน ขอยืมโทรศัพท์โทรหาแม่ จะบอกว่าให้ติดต่อเพื่อนคนที่จะเอาของมาคืนให้ที
15.20 น. นางลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ยืมโทรศัพท์น้องเราโทรหาแม่รอบ 2 ได้ความว่าแม่โทรหาเพื่อนที่จะคืนของแล้ว นางก็บ่นว่ารอนานแล้วเกรงใจน้องเรา แล้วให้แม่โทรหาเพื่อนว่าให้เพื่อนโทรมาเบอร์น้องเรา
15.30 น. นางชวนน้องเรากินน้ำ น้องเราก็สั่งน้ำเปล่ามากิน 1 แก้ว
1ุ6.00 น. น้องเราลุกไปเข้าห้องน้ำ ประมาณ 5 นาที ก็กลับมานั่งต่อ คุยเล่นกันต่อ น้องเราเริ่มง่วงๆ น้องนึกว่าเพลีย เพราะร้านมันร้อนๆ
16.30 น. นางพูดขึ้นว่า หรือพี่จะไปฝากของไว้ น้องเราก็เห็นด้วย จะได้รีบกลับ นางก็เดินไปถามล็อบบี้ แล้วเดินกลับมาบอกว่า ต้องใช้บัตรประชาชน ขอยืมของน้องเรา เพราะนางไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มา (แต่นางซื้อของกินได้ เพราะเอาแต่ตังค์มา 40 ที่เหลือน้องเราเลี้ยง) น้องเราก็เอาบัตรตัวเองให้นาง ไม่กี่นาทีนางก็กลับมา บอกเปลี่ยนใจไม่ฝากแล้ว ไหนๆ ก็รอแล้ว แต่ไม่คืนบัตรนะ เนียนเอา น้องเราก็ไม่ทวงบัตรคืนค่ะ เกรงใจนาง
17.00 น. ช่วงที่รอๆ นางก็ยืมโทรศัพท์เล่นเฟสตลอด น้องเราง่วงมากๆ ตาแทบปิดค่ะ สักพักสายก็เข้า ใจความว่าถึงแล้ว รออยู่ในร้านกาแฟ แล้วก็โดนขโมยไอโฟนอย่างที่เล่าไปก่อนหน้าค่ะ
ตำรวจบอกว่าเรื่องกล้องวงจรปิด เดี๋ยวไปตรวจสอบเอง (เมื่อไหร่ไม่รู้)
เรื่องการตามตัวคนร้าย ต้องให้น้องเราหาพิกัดจากเลขอีมี่กับทางเครือข่ายเอง ได้พิกัดเมื่อไหร่ก็ไปบอกตำรวจ ถึงตอนนั้นเค้าจะไปจับให้ ตอนนี้ทำไรไม่ได้
ส่วนเลขอีมี่ ได้แล้วค่ะ ตอนแรกกล่องหาย เลยโทรไปขอกับทางแอปเปิ้ลออนไลน์โดยมีหลักฐานการสั่งซื้อเลขใบสั่งซื้อค่ะ
พรุ่งนี้น้องจะไปติดต่อกับทางศูนย์เอไอเอสค่ะ เพื่อหาพิกัดคนร้าย
...เราจึงอยากมาเตือนเพื่อนๆ ค่ะ ว่าใครใช้ Iphone ไม่ว่ารุ่นไหนก็เก็บสำรองเลขอีมี่ไว้นะคะ จะจดไว้ที่ไหนก็ได้ เก็บไว้ในโทรศัพท์ตัวเองไม่ช่วยอะไรเลยค่ะ เพราะมันไปพร้อมโทรศัพท์
เรื่องนี้เรามาเล่าต่อนี่รู้เต็มอกค่ะ ว่าน้องเราสะเพร่าเองมากๆ หลายๆ เรื่อง เปิดช่องโหว่ให้มิจฉาชีพแบบไม่มีใครจะใจดีได้ขนาดนี้อีกแล้ว แต่ว่า เราว่ามันเตรียมตัวมาอย่างดีค่ะ ไม่ว่าใครที่ระวังตัวหรือไม่ระวังตัว ก็อาจเสียรู้ได้เหมือนกัน ส่วนตัวเราคิดว่าดีแค่ไอโฟนหายค่ะ ถ้ามันเนียนไปเป็นเมทน้องเราจริงๆ อาจจะเกิดการยกเค้าหมดตัวเลยก็ได้ หรือไม่ก็เกิดอะไรอันตรายกว่านี้
ใครมีเรื่องชี้แนะได้เลยนะคะ เราน้อมรับค่ะ ขอบคุณค่ะ