Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เจาะลึก 28 ปี “Nike Air Max”กับแรงบันดาลใจที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

โพสท์โดย ทรั้ง

 

ถึงแม้ วันครบรอบ28ปีNike Air Maxจะผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่ก็จะเขาเอาเกร็ดความรู้ เกี่ยวกับที่มาและแรงบันดาลใจในการออกแบบรองเท้า NIKE มาฝากกันนะครับ 

ประวัติความเป็นมาของ Air Max รวมไปถึงแรงบันดาลใจของ ทิงเกอร์ แฮทฟิลด์ ผู้คิดค้นนวัตกรรมนี้ ว่าแต่ละรุ่นมีที่มาที่ไปกันอย่างไร รับรองว่าข้อมูลละเอียดเอาไปโม้กับเพื่อนได้เลย


AIR MAX 1

นวัตกรรมอาจไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นได้เสมอไป แต่เมื่อใดก็ตามที่นวัตกรรมสักอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ มันก็อาจสร้างแรงกระเพื่อมได้มากเกินกว่าจะวัดประเมินได้  ในปี 1987 ไนกี้ได้เปิดตัว ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 1 (Nike Air Max 1) รองเท้ารุ่นแรกที่อวดนวัตกรรมให้เห็นได้อย่างชัดเจน  นวัตกรรมที่ว่าคือระบบรองรับแรงกระแทก ไนกี้แอร์ (Nike Air) ซึ่งได้กลายเป็นช่องทางใหม่ในเวลาอันรวดเร็วให้กับการแสดงออกถึงตัวตน สไตล์ และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ประสิทธิภาพอันแท้จริง  ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 1 ปรากฏตัวขึ้นในฐานะของผู้สั่นสะเทือนและพลิกโฉมหน้าวงการ และนับจากนั้นเป็นต้นมา โลกของรองเท้าก็ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล

ทิงเกอร์ แฮทฟิลด์ คือหัวหน้าทีมนักออกแบบที่พาแอร์แม็กซ์ออกมาโลดแล่นอย่างมีชีวิตชีวา ในตอนนั้นไนกี้แอร์ไม่ใช่สิ่งใหม่ โดยกระเปาะอากาศแอร์-โซล (Air-Sole Unit) ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในรุ่น ไนกี้ แอร์ เทลวินด์ (Nike Air Tailwind) เมื่อช่วงปลายปี 1978 แต่ในครั้งนั้นนวัตกรรมนี้ยังถูกหุ้มอยู่ภายในวัสดุโฟม

อย่างไรก็ตาม แฮทฟิลด์ซึ่งเป็นสถาปนิกผู้มากด้วยชั้นเชิงในการพลิกผันสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ได้นำแรงบันดาลใจมาจากงานสถาปัตยกรรมสวนกระแสแห่งหนึ่งในปารีส เขาตัดองค์ที่เป็นโฟมรอบๆ พื้นรองเท้าออกไปเพื่อเผยให้เห็นกระเปาะอากาศแอร์-โซลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เปลือยขอบให้เห็นอย่างกล้าได้กล้าเสียว่ามีแอร์-โซลอยู่ในนั้นจริง

“ผมไปปารีสเพื่อเที่ยวชมบ้านเมือง แต่ก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมปงปีดูว์ (Pompidou Center) ด้วย” แฮทฟิลด์เล่า “มันเป็นอาคารที่เอาสิ่งที่โดยปกติจะซ่อนอยู่ข้างในกลับออกมาไว้ด้านนอก โดยผิวอาคารที่เป็นกระจกกลับไปซ่อนอยู่ข้างใน พอกลับมาโอเรกอนผมได้เข้าประชุมกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่กำลังออกแบบกระเปาะอากาศแอร์-โซลในขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แล้วผมก็เชื่อมโยงความคิดขึ้นมาได้ว่า บางทีเราน่าจะเปลือยให้เห็นเทคโนโลยีแอร์-โซลดูบ้างและสร้างสรรค์รองเท้าสักรุ่นที่ไม่มีใครเหมือน”

ในตอนนั้นหลายคนมองว่านี่เป็นไอเดียที่หลุดโลกเกินไป แต่แฮทฟิลด์และทีมงานก็ยังเดินหน้าผลักดันต่อ และเพื่อทำให้รองเท้ารุ่นใหม่ยิ่งโดดเด่นท่ามกลางรองเท้าวิ่งรุ่นอื่นๆ ในยุคนั้น พร้อมกับตอกย้ำเนื้อความสื่อสารเรื่องการมองเห็นได้ (Visibility) ไนกี้ แอร์แม็กซ์ รุ่นแรกจึงมาในสีสันที่เด่นชัดสะดุดตา

รองเท้าตระกูล แอร์แม็กซ์ มีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องตลอด 28 ปีที่ผ่านมาผ่านการปรับโฉมได้อย่างติดตาติดใจนับร้อยรุ่น ทว่าการดำรงอยู่ของแต่ละรุ่นล้วนมีผลพวงบางส่วนมาจากความสุดยอดของ ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 1 ด้วยกันทั้งสิ้น

AIR MAX 90

ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 90 (Nike Air Max 90) เต็มไปด้วยสง่าราศี  แม้ในขณะที่ยืนอยู่นิ่งๆ รองเท้ารุ่นนี้ก็ยังดูเป็นชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีซที่กำลังโลดแล่น

แอร์แม็กซ์ 90 เปิดตัวในปี 1990 และหากถือว่ารุ่นแรกคือรุ่นปี 1987 นี่ก็คือรองเท้ารุ่นที่ 4 จากตระกูลแอร์แม็กซ์ โดยรองเท้ามีองค์ประกอบของ ไนกี้แอร์ ที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติที่นิยามรองเท้ารุ่นนี้คือความงามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเลื่อนไหล แฮทฟิลด์ตระหนักดีว่าเค้าโครงของมันจะสัมผัสพื้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิ่ง การออกแบบจึงมุ่งกระตุ้นความรู้สึกของการเคลื่อนไหวไปข้างหน้า

นอกจากนี้ แอร์แม็กซ์ 90 ยังผสานแผ่นพลาสติกลายเซาะร่องพร้อมแนวรูร้อยเชือกเพิ่มพิเศษเพื่อสร้างความกระชับอย่างสมบูรณ์แบบ องค์ประกอบสำคัญอีกอย่างคือสีสัน โดยเฉดสีแดงเจิดจ้าของรองเท้า ซึ่งต่อมาเป็นที่เรียกขานกันว่า “อินฟราเรด” (Infrared) ช่วยเน้นความโดดเด่นให้กับ Air-Sole เป็นเฉดสีที่ยากเกินจะรอดพ้นสายตา และยังคงเป็นคุณลักษณะที่บ่งบอกความเป็น แอร์แม็กซ์ 90 เช่นเดียวกับรูปทรงของรองเท้า

แอร์แม็กซ์ 90 ได้รับความนิยมตั้งแต่เริ่มเปิดตัวและเป็นสัญลักษณ์แห่งทศวรรษใหม่อีกด้วย ในปีต่อๆ มานักออกแบบของไนกี้ได้ปรับเปลี่ยนเค้าโครงใหม่ แต่มันก็ยังคงรองเท้าซึ่งเป็นที่ต้องการและเป็นรุ่นที่ขาดไม่ได้อยู่ตลอดไป

 

AIR MAX 180

ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 180 ถือกำเนิดขึ้นจากความคิดอ่านร่วมกันของแฮทฟิลด์กับนักออกแบบซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์ แอร์ฟอร์ซ 1 (Air Force 1) คือ บรู๊ซ คิลกอร์  บุคคลผู้เป็นตำนานทั้งสองมุ่งสู่เป้าหมายที่จะทำให้สามารถเห็น Air-Sole ของแม็กซ์แอร์ (Max Air) ได้ทั้งที่พื้นรองเท้าชั้นกลางและชั้นนอก ซึ่งช่วยเน้นคุณสมบัติของรองเท้าในการรองรับแรงกระแทก 180 องศา

หน้ารองเท้ามีปลอกด้านในแบบ Stretch Dynamic ใหม่ที่ยืดหยุ่นตามการขยับตัวของเท้า ในขณะที่ส้นรองเท้ามีเบ้าขอบขึ้นรูปเพื่อพยุงส้นเท้า ลายเซาะร่องพื้นที่ปลายเท้าถือเป็นช่วงต้นๆ ของการทดลองเพื่อมอบการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ

Air-Sole ของรองเท้ารุ่นนี้กลายเป็นที่จดจำไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว และเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ไนกี้เปิดตัว แอร์แม็กซ์ 1 ด้วยภายนตร์โฆษณาได้อย่างติดตา การเปิดตัวของ แอร์แม็กซ์ 180 ได้แรงหนุนจากภาพยนตร์โฆษณาที่ร่วมสร้างสรรค์ขึ้นโดยนักเขียนการ์ตูนฝีมือระดับตำนาน ยอดฝีมือด้านเอฟเฟ็คท์พิเศษ และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง

 

AIR MAX 93

สำหรับ ไนกี้ แอร็แม็กซ์ 93 (Nike Air Max 93) พลังขับเคลื่อนอยู่ที่การทำให้มองเห็นองค์ประกอบข้างในได้ แล้วคุณจะทำอย่างไรให้ผู้ที่คุณเคยเซอร์ไพรส์มาครั้งแล้วครั้งเล่าได้รู้สึกตื่นตะลึงอีก? หัวใจของมันอยู่ตรงกระเปาะที่ส้นรองเท้ามาโดยตลอด แล้วทำไมไม่ทำสุดขีดไปเลยล่ะ? ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นล่าสุดของแฮทฟิลด์เป็นการต่อยอดลายเซาะร่องเพื่อความยืดหยุ่น (Flex Groove) ของ แอร์แม็กซ์ 90 และยังใช้ปลอกเท้าด้านในแบบ Dynamic-Fit ที่ทำจากยางนีโอพรีนเพื่อประคองเท้าและข้อเท้าอีกด้วย

นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่เกินกว่าจะบอกว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ได้ คือ Air-Sole ที่มองเห็นได้ 270 องศา ได้แรงบันดาลใจมาจากเหยือกนมพลาสติก โดยเป็นการเป่าขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยีทางวิศวกรรมที่มีความแม่นยำสูง มันได้สร้างมาตรฐานใหม่ของระบบรองรับแรงกระแทกขึ้นโดยสมบูรณ์แบบ และยังได้กลายเป็นรากฐานสำคัญให้กับการออกแบบ Air-Sole ที่ปลายเท้าอีกด้วย


 

AIR MAX 95

ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 95 (Nike Air Max 95) ไม่ได้เป็นแค่รองเท้า แต่มันคือรองเท้าตระกูลแอร์แม็กซ์ที่มีความแตกต่างอย่างแท้จริง

รองเท้าไนกี้แอร์แม็กซ์ 95 ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 1995 นั้นเป็นรองเท้ารุ่นแรกในตระกูลแอร์แม็กซ์ที่โชว์นวัตกรรมไนกี้แอร์บริเวณฝ่าเท้า ซึ่งนวัตกรรมใหม่ล่าสุดช่วยสำหรับในการรองรับแรงการกระแทกจากการวิ่งโดยใช้ชิ้นส่วนไนกี้แอร์ถึง 2 ชิ้นเพื่อให้นักวิ่งรู้สึกถึงความสบายกว่าเดิม นอกจากนี้ รองเท้าแอร์แม็กซ์ 95 ยังเป็นรองเท้ารุ่นแรกในตระกูลแอร์แม็กซ์ที่ใช้บริเวณกลางส้นรองเท้าเป็นสีดำ ซึ่งแตกต่างไปจากลักษณะของรองเท้าวิ่งปกติ

การใช้ชิ้นส่วนไนกี้แอร์ถึง 2 ชิ้นถือเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจที่สำคัญของการสร้างสรรค์รองเท้ารุ่นนี้จากร่างกายของมนุษย์ ส่วนบริเวณกลางส้นรองเท้าซึ่งเป็นเสมือนศูนย์กลางของงานออกแบบนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากกระดูกสันหลัง ด้านข้างรองเท้าที่ผลิตจากไนล่อนเปรียบเสมือนซี่โครง ในขณะที่ช่วงบนของรองเท้าและหน้ารองเท้าเปรียบเสมือนผิวหนังและกล้ามเนื้อ

การไล่สีหน้ารองเท้าที่เป็นสีมืดนั้นเป็นความตั้งใจของไนกี้ที่จะให้รองเท้าดูไม่สกปรกแม้วิ่งบนเส้นทางแบบใดก็ตาม รายละเอียดอื่นๆเช่นการวางตำแหน่งตราสัญลักษณ์ของไนกี้ ตัวพิมพ์แบบใหม่ และการใส่สีในชิ้นส่วน Air-Sole จากภายในตัวชิ้นส่วนถือเป็นไฮไลท์ที่ทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีความน่าจดจำเฉกเช่นรองเท้าแอร์แม็กซ์ 1 และแอร์แม็กซ์ 90

แอร์แม็กซ์ 95 ถือเป็นโฉมหน้าใหม่ของการออกแบบและเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก ลอนดอน หรือโตเกียว มีผู้คนจำนวนมากอยากสวมใส่นวัตกรรมแห่งอนาคต และรองเท้ารุ่นนี้ยังคงดึงดูดความสนใจของผู้คนได้จนถึงปัจจุบัน

AIR MAX 97 

ด้วยชิ้นส่วน Max Air 97 ที่ยาวตลอดตัวรองเท้า แอร์แม็กซ์ 97 จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของไนกี้ รองเท้ารุ่นนี้จำเป็นต้องมีหน้ารองเท้าที่สอดรับกับนวัตกรรมที่โดดเด่นนี้ เมื่อแรกผลิต รองเท้ารุ่นนี้มีสีเงินและได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรถไฟความเร็วสูงในกรุงโตเกียว ชิ้นส่วนที่เป็นเงาทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีลักษณะราวกับเปล่งประกายได้ด้วยตัวเอง รองเท้ารุ่นนี้ยังถือเป็นรองเท้ารุ่นคลาสสิกที่สะท้อนถึงยุคแม็กซิมัลลิซึ่ม ยุคที่การแต่งเติมรายละเอียดมากๆไม่ว่าในเรื่องภาพยนตร์ ดนตรี หรือสไตล์ ซึ่งทำให้รองเท้าคู่นี้ถือเป็นดีไซน์คลาสสิกรุ่นหนึ่ง

AIR MAX 2003 

หน้ารองเท้าที่เรียบง่ายและคุณสมบัติการรองรับแรงกระแทกที่ดียิ่งกว่าเดิมคือจุดเด่นของไนกี้แอร์แม็กซ์รุ่นปี 2003 สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ได้ยืมชิ้นส่วน  Air Sole แบบเดียวกับรองเท้าแอร์แม็กซ์ 97 แต่ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยีการหล่อขึ้นรูป การประกอบ และคุณสมบัติใหม่ที่ช่วยให้ตัวเท้ามีระยะห่างจากพื้นน้อยลงเพื่อการเคลื่อนไหวที่ดียิ่งขึ้น สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ มีการเลือกนำเสนอสีของรองเท้าที่ดูเรียบง่ายขึ้นแทนที่จะใช้สีสันที่สะดุดตาเหมือนรองเท้ารุ่นก่อนหน้าในตระกูลแอร์แม็กซ์

หน้ารองเท้าของรองเท้ารุ่นนี้ผลิตจากวัสดุพิเศษของเทจิน (Teijin) แบบเดียวกับที่ใช้ผลิตปุ่มสตั๊ดและปุ่มของรองเท้ากรีฑาและฟุตบอล วัสดุนี้ช่วยให้รองเท้ามีน้ำหนักเบากว่าเดิม มีรูปลักษณ์ที่ดูพรีเมี่ยมแต่แฝงไปด้วยความดุดัน และให้ความรู้สึกนุ่มสบายตั้งแต่ใส่ครั้งแรก



AIR MAX 360 

แอร์แม็กซ์ 360 เป็นรองเท้าที่ได้รับการรังสรรค์ให้ผู้สวมใส่รู้สึกราวกับเดินอยู่บนอากาศจากรองเท้าแอร์แม็กซ์คู่แรกเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน รองเท้ารุ่นนี้ใช้ชิ้นส่วน Max Air ที่มีสมดุลดียิ่งขึ้น มีการลดจำนวนโฟมที่ใช้คั่นกลางระหว่างเท้ากับชิ้นส่วน Air-Sole และมีการใช้เทคนิคการขึ้นรูปด้วยความร้อนเป็นครั้งแรกเพื่อการสร้างชิ้นส่วนซัพพอร์ทแบบ 360 องศา

รองเท้ารุ่นนี้ใช้สีเดียวกับรองเท้าแอร์แม็กซ์ 1 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างสรรค์ในรองเท้ารุ่นนี้ พร้อมกับการใช้เทคนิคการทำลวดลายบนหน้ารองเท้าที่ใช้เลเซอร์เพื่อให้ความรู้สึกที่คล้ายคลึงกับรองเท้าแอร์แม็กซ์ 95 แต่รองเท้ารุ่นนี้มีรุ่นที่ผลิตเป็นจำนวนจำกัดซึ่งใช้หน้าผ้าแบบต่างๆของรองเท้าแอร์แม็กซ์หลากหลายรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ด้วย

 

AIR MAX 2015 

แอร์แม็กซ์ 2015 เป็นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ไปและฉีกกฏเกณฑ์รองเท้าพร้อมๆกัน รองเท้าวิ่งรุ่นล่าสุดในตระกูลแอร์แม็กซ์นี้มีหน้ารองเท้าที่สอดรับกับชิ้นส่วน Max Air รุ่นปี 2013 ที่มีความยืดหยุ่นสูงและให้ความรู้สึกนุ่มขณะสวมใส่กว่าเดิม นอกจากนี้ รองเท้ารุ่นนี้ยังเป็นรองเท้ารุ่นแรกในตระกูลแอร์แม็กซ์ที่มีหน้ารองเท้าแบบสังเคราะห์ที่น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี และเกือบจะไร้ฝีเข็มโดยสิ้นเชิง หน้ารองเท้านี้จะทำงานร่วมกับนวัตกรรมไนกี้ฟลายไวร์ (Flywire) เพื่อช่วยรองรับเท้า แนวคิดของการใช้โครงสร้างแบบท่อและพื้นรองเท้าที่ยืดหยุ่นได้ดีกว่าที่เคยช่วยให้นักวิ่งรู้สึกสบายขณะวิ่งกว่าเดิม การออกแบบตราสัญลักษณ์ของไนกี้แบบกลับด้านยังถือเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ของรองเท้าตระกูลแอร์แม็กซ์อีกด้วย

 



Air Max Zero

ย้อนกลับไป 29 ที่แล้ว จากจุดเริ่มต้นที่ของ ทิงเกอร์ แฮทฟิลด์ นักออกแบบรองเท้าระดับตำนานของ ไนกี้ เล่าให้ฟังถึงภาพร่างของอากาศที่มองเห็นได้ (Visible Air) ชิ้นแรกๆ ของเขา ณ ตอนนั้นไนกี้แอร์ได้เปิดตัวไปแล้วและประสบความสำเร็จอย่างสูงในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการวิ่ง แต่แฮทฟิลด์คิดว่าแค่นั้นยังไม่พอ เรื่องของอากาศที่อยู่ใต้เท้าน่าจะต้องมีการขยายความให้เกรียวกราวยิ่งขึ้นอีก  ตอนนั้นไนกี้กำลังพัฒนา Air-Sole เหล่านี้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีก และคิดว่าน่าจะต้องให้ใครๆ ได้เห็นมันและเข้าใจว่ามันคืออะไร ซึ่งที่นั่นเขาเยี่ยมชมศูนย์ศิลปวัฒนธรรมปงปีดูว์ (Centre Pompidou) และเกิดแรงบันดาลใจจากการออกแบบตัวอาคารที่โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการตลบเอาสิ่งที่ควรอยู่ข้างในออกมาไว้ข้างนอก เมื่อกลับถึงโอเรกอนเขาเริ่มลงมือออกแบบ และนำแนวคิดอากาศที่มองเห็นได้ ออกมาโลดแล่นอย่างมีชีวิตในร่างของรองเท้าวิ่ง ที่ปฏิวัติวงการนี่คือเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่รับรู้ แต่เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้มีอยู่แค่นั้น การออกแบบ ไนกี้ แอร์แม็กซ์ 1 ไม่ได้เสร็จสิ้นในคราวเดียว ที่จริงแล้วมันเป็นผลจากภาพร่างหลากหลายแบบ โดยหนึ่งในแบบแรกๆ ที่สุดก็คือแนวคิดของ แอร์แม็กซ์ ซีโร่ ซึ่งในการร่างแบบนี้แฮทฟิลด์ยังไม่ทราบในทีแรกว่าเขากำลังใช้แนวทางการออกแบบที่ทำให้ต้องรอ 29 ปีจึงจะทำให้เป็นจริงได้

ในเวลานี้ กรีม แม็คมิลแลน รับหน้าที่การออกแบบ Air Max Zero จึงเติมความก้าวล้ำด้วยการบรรจุนวัตกรรมล่าสุดของไนกี้เข้าไป โดยประกอบไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ พื้นรองเท้าชั้นนอก แอร์แม็กซ์ 1 อัลตร้า (Air Max 1 Ultra) ที่เพิ่งเปิดตัวในรองเท้ารุ่น แอร์แม็กซ์ 1 อัลตร้ามัวร์ (Air Max 1 Ultra Moire) ซึ่งมีโครงสร้างไฟลอน (Phylon), หน้ารองเท้าแบบเชื่อมติดกัน(Fused Upper) ที่ช่วยลดความหนาโดยที่ไม่สูญเสียคุณสมบัติในการประคองเท้า, และวัสดุตาข่ายซึ่งเป็นด้ายเส้นใยยาวชนิดเส้นเดี่ยว (Monofilament Yarn) ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างหัวรองเท้าพิเศษโดยที่ไม่สูญเสียคุณสมบัติในการระบายอากาศไป ทั้งหมดนี้ทำให้แนวคิดแรกเริ่มของแฮทฟิลด์เป็นจริง แนวคิดที่เกิดขึ้นก่อนจะมี Air Max 1



Nike Thailand
Website : http://www.nike.com/th/th_th/

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ทรั้ง's profile


โพสท์โดย: ทรั้ง
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: ไอ้รวย, Unwanted, Doraemonk, PRP, ทรั้ง
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
โหนกระแสเดือด! ทนายภูเก็ตถูกจวกยับ ปมอวดหล่อ คั่วหญิง 13 คนจำแทบไม่ได้! นักแสดงสาวปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 15 ปี ลุคใหม่ทำคนตะลึงเตือนภัย! ภูเขาไฟฟูจิอาจปะทุครั้งใหญ่ ญี่ปุ่นอัปเดตแผนอพยพใหม่กะเทยร่วมกับผัวหนุ่ม ฆ่ๅน้อง ไกด์ น้องชายในไส้ตัวเอง แล้วเอาไปฝังดินนาน 3 เดือนนักบินดึงผดส.ออกมาจากห้องน้ำหลังเข้าห้องน้ำนานเกินไปรัก 1 ปีไปไม่รอด! คู่รักดังประกาศเลิก ทำแฟนๆ ใจหายเคล็ดลับความอร่อย! ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังที่ไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันมาตลอด 100 ปี?สุดแปลก! นี่คือคนที่ใช้ชีวิตแบบ "สุนัข"นายแบบดังกัมพูชา ดราม่าอีกแล้ว!!!จากรักสุดปัง สู่ทางตัน! นางงามดังประกาศเลิกแฟนมหาเศรษฐี"สามีผู้โชคดี! คลิปไวรัลภรรยาสาวสวยใจดี อบอุ่นจนชาวเน็ตอิจฉา"มีผลแล้ว! กฎหมายห้ามตีลูก
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นอกจากไทย มีประเทศไหนบ้างที่นิยมกินหมูเหมือนบ้านเรานายแบบดังกัมพูชา ดราม่าอีกแล้ว!!!สุดแปลก! นี่คือคนที่ใช้ชีวิตแบบ "สุนัข"เตือนภัย! ภูเขาไฟฟูจิอาจปะทุครั้งใหญ่ ญี่ปุ่นอัปเดตแผนอพยพใหม่ลูกชาย 53 เสยหน้าแม่ 73 โมโหนึ่งข้าวเหนียวไม่ได้ดั่งใจ แม่ขอไม่เอาเรื่อง ยังรักลูกเหมือนเดิม ‎"สามีผู้โชคดี! คลิปไวรัลภรรยาสาวสวยใจดี อบอุ่นจนชาวเน็ตอิจฉา"
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เพื่อนๆรู้หรือไม่ ? ห่านน่ะมีสิ่งที่คล้ายๆกับฟันอยู่บนลิ้นของเขานะ แปลกดีไหมล่ะ...^_^มาทำความรู้จักกับทีมฟุตบอล ทีมชาติ อารูบา กัน ทีมชาติที่เพิ่งชนะทีมฟุตบอลทีมชาติ กัมพูชามาอย่างดุเดือด 1 - 2 เมื่อวานนี้ ประเทศ อารูบา ของเขาอยู่ที่ไหนกันนะ ?อาหารที่ไม่ควรทานร่วมกันหนุ่มนักศึกษาแพทย์เยอรมัน กับการเดินทางเดี่ยวในไทยที่เปลี่ยนชีวิต
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง