คำพูดที่ sale บอกผม ''ต้องเอาตัวรอดกันเองเเล้วนะครับ" ธุรกิจไทยกำลังจะตาย
กระทู้นี้ผมเขียนขึ้นไม่ได้มีเจตนาอะไร เเต่อยากจะเตือนเจ้าของโรงงานระดับ SMEs เจ้าเล็กๆ เเละกลางๆ หรือคนที่ทำธุรกิจนะครับ จริงๆ คิดว่ารู้กับอยู่เเล้วกับเศรษฐกิจไทยเเบบนี้ เเต่ไม่คิดว่าจะใกล้ตัวเเละน่าตกใจขนาดนี้ (เห็นต่าง เห็นพ้อง ไม่เป็นไรวิจารณ์ได้ครับ)
ผมทำงานเกี่ยวกับวงการ packaging หรือกระดาษลูกฟูก เป็นวงการที่หลายธุรกิจจำเป็นต้องใช้ กำไรไม่เยอะครับ เพราะมีหลายเจ้า เเต่อาศัยเน้นปริมาณ เพราะเราส่งให้ภาคอุตสาหกรรม
ผมเพิ่งมีโอกาสได้คุยกับ sale ที่รู้จักกันมานาน สมัยที่ยังดิวงานกับคุณพ่อ จริงๆ sale ก็คงมาเยื่ยมลูกค้าเเละตามยอดเพิ่ม ตามประสา sale เเต่เราก็มีโอกาสเเลกเปลี่ยนมุมมองของงานกัน เเละนี้คือสิ่งที่ sale บอกผม
- ลูกค้ารายนึงที่สั่งวัตถุดิบ (กระดาษ) เดือนนึงประมาณ 5 ล้าน เดี่ยวนี้เหลือ 1 ล้านกว่าๆ (อันนี้เจ้าเล็กนะครับ)
- ลูกค้ารายเล็กอีกโรง ปิดไปเเล้ว ทนพิษไม่ไหว สายป่านไม่ยาว
- โรงงานใหญ่ต้นสาย ลดการผลิตลง จากปรกติรันงาน 24 ชม. (4กะ) เดียวนี้ทำงาน 10 ชม.
- บางโรงคุยเล่นว่า ถ้าไม่ไหวจริงๆ โรงงานคงต้องไฟไหม้ (หมายถึงเผาโรงงานเอาประกัน อันนี้คุยกันเล่นๆ ขำๆนะครับ)
- ยอดขายจากล้านกว่า เหลือเเค่ 3 เเสน (อันนี้หมายถึงโรงงานผม ><)
- โรงงานใหญ่บางโรง เเต่ก่อนรับผลิตที่ 5000 ใบขึ้นไป เดี๋ยวนี้ 500 ก็รับ หันมาตีรายย่อยสู้กับ SMEs เจ้าเล็กๆเเล้ว
เเละนี้คือสิ่งที่ผมบอก sale
- เฮียรู้ไหม ของเฮียปิด 1 โรง ของผมเท่าที่รู้เฉพาะปีนี้ 3 ที่เเล้วนะ 1 ที่รู้จัก เเต่ไม่ถึงสนิทกัน อีก 2 ที่รู้จากลูกค้า คือลูกค้ามาหาเราให้เราผลิตของให้ เเล้วบอกว่า โรงงานที่ผลิตอยู่ปิดไปเเล้ว พอลูกค้าบอกชื่อบริษัท ผมก็เเอบช๊อคนะ เพราะรู้จักหมดเลย (คือรู้จักบริษัทเเต่ไม่เคยติดต่อกัน)
- sale โรงงานต้นสาย ไม่ได้มีเฮียคนเดียวนะ ทุกทีผมจะมี 2 เจ้าเผื่อฉุกเฉิน ซึ่งต่อราคาเเล้วต่อราคาอีกก็ได้อย่างมากเเค่ 1% T T เดียวนี้ sales เจ้าอื่นวิ่งกันพล่านเลย ไม่ต้องต่อ ลดมาทีเดียว maximum เลย ราคาถูกกว่าเยอะ เเต่เราไม่มีปัญญาสั่งเเล้ว เพราะงานเราก็ไม่มี ตอนนี้มี supplier ในมือ 7 เจ้าเเล้ว เเต่สั่งจริงเเค่ 3 (ข้อนี้จริงๆน่ากลัวมาก เพราะระบบงานมันรวนไปหมดต้นน้ำกระทบหนักเพราะทุนเยอะ)
- ผมเอาราคาให้ sale คนนี้ดู sale ช๊อคเลย เขาบอกว่านี้มันไม่ใช่ราคาครับ นี้มันต้นทุนเเล้ว!! (อันนี้ไม่รู้จริงไหมนะครับ เเต่ราคาต่ำกว่าเยอะจริง)
- ของผมโรงงานเล็กๆ มีรถเเค่ 5 คัน รถ 10 ล้อ 1 คัน เเต่ก่อนวิ่งคันละ 2 รอบต่อวัน (เท่ากับประมาณ 10-12 เที่ยว) เดียวนี้ ใช้ 2 คัน 1 เที่ยว (วันละ 2 เที่ยว)
- ลูกค้าที่รู้จักกัน ที่อยู่รอดช่วงนี้คือส่งออกทุเรียน ขายดี เเต่หมดหน้านี้ไม่รู้จะเป็นยังไง ส่วนส่งออกเจ้าอื่นไม่ต้องพูดถึงเลยสั่งน้อยลงเยอะ เเถมดึง credit กันยาว T T
ธุรกิจใครยังดีอยู่ถือว่าโชคดีนะครับดีใจด้วย เเต่วงการ packaging เป็นภาคหนึ่งที่ผันไปตามระบบเศรษฐกิจเลย ดูได้ชัดเจน เพราะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่หลายภาคส่วนต้องใช้ เเละเศษรฐกิจจะดี ไม่ดี วงการนี้เป็นอีกหนึ่งวงการที่รับรู้ก่อนเลย ตั้งเเต่เรื่องการผันผวนของราคากระดาษเเล้ว
ที่เขียนมานี้ก็เพื่อจะเล่าอีกมุมนึงครับ ว่าในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะสงบนี้ ในหลายธุรกิจมันเป็นอาการเฮื๊อกสุดท้ายที่ใกล้จะตายนะครับ ถ้าผู้เกี่ยวข้องยังไม่รีบเเก้ไขหรือเอาคนเก่งจริงๆมาบริษัทด้านเศรษฐกิจไทย อีกไม่นาน SMEs ต่างๆไม่เหลือนะครับ..
จากประชาชนตัวเล็กๆคนนึง
หลายคนอาจเคยคุ้นหูได้ยินคำว่า B2B, B2C, B2G แต่อาจจะไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร B2B Marketing คือการทำการตลาดระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ หรือระหว่างองค์กรหนึ่งกับอีกองค์กรหนึ่ง ที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “Business-to-business” ในขณะที่ B2C เป็นธุรกิจที่พวกเราน่าจะคุ้นเคยมากที่สุด คือ “Business-to-consumer” หรือการตลาดระหว่างบริษัทกับผู้บริโภค เช่น Internet Marketing หรือ โปรแกรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ สู่ผู้บริโภค เป็นต้น และ B2G ย่อมาจาก Business-to-government หรือ การตลาดระหว่างองค์กรกับรัฐ เช่น การจัดซื้อของรัฐหรือ e-government
คำศัพท์เหล่านี้ แต่ก่อนเขาใช้กันเฉพาะแวดวงธุรกิจ E-commerce แต่ปัจจุบันคำเหล่านี้ก็ขยายไปยังธุรกิจแบบทั่วไปมากขึ้น ดังนั้นปัจจุบัน เราใช้คำว่า B2B ขยายความกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด การขาย รวมถึงธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) ที่เกิดขึ้นระหว่างองค์กรหนึ่งกับองค์กรอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคหรือลูกค้าผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปใช้โดยตรง ดังนั้นคงจะพอมองเห็นภาพว่า ธุรกิจแบบ B2B นี้ต้องอาศัยวิธีการทำการตลาดที่แตกต่างกับการตลาดทั่ว ๆ ไป แบบ B2C อยู่พอสมควร
*** ทิมมี่ขอเป็นกำลังให้ธุรกิจไทยที่กำลังเผชิญปัญหาต่างๆ อยู่ในขณะนี้ด้วยนะครับ ขอให้สามารถพ้นผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างดีครับ ***
คุณ Occult
http://pantip.com/topic/33886818/desktop