นักกีฬาทีมชาติไทยที่พ่อถูกลอบยิงจากภัยใต้ มีเงินใช้เรียนหนังสือเดือนละ 1,500 บ.
ผมเขียนเรื่องราวต่อไปนี้ขึ้นโดย
1. ไม่ได้ต้องการเรียกร้องใดๆ นะครับ เพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ
2. ไม่ได้ต้องการเชิดชูใครๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
3. ขออนุญาตผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ในเรื่องราวต่อไปนี้นะครับ เนื่องจากอยากให้ทุกคนได้อ่าน
เด็กคนนี้ ชื่อ นิสมาน มะสีละ เป็นหนึ่งในเยาวชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ่อเสียชีวิตจากการถูกลอบยิง มีพี่-น้องทั้งหมด 4 คน นิสมานได้รับเงินเยียวยาเดือนละ 1500 บาท (ไม่ใช่ 7 ล้านบาทเหมือนบางกรณี) แต่เงินเยียวยานี้ไม่ได้มาทุกเดือนบางครั้งต้องรอหลายเดือนถึงจะได้ตกเบิก เงิน 1500 บาทต้องใช้กับพี่น้อง 4 คน เนื่องจากคุณแม่มีครอบครัวใหม่
นิสมานตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อเนื่องจากต้องทำหน้าที่ดูแลครอบครัว อาจารย์นิรุตต์ โว๊ะนิเน็ง อ.พิเศษ วิทยาลัยชุนนราธิวาสและมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ชักชวนนิสมานเล่นฮอกกี้เพื่อจะได้ใช้กีฬาเป็นแรงผลักดันไม่ให้ดำเนินชีวิตไปในทางที่ผิดและช่วยเหลือส่งเสียให้เรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 นิสมานสามารถสอบเข้าเรียนต่อเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เอกพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
โดยที่ไม่สามารถทำเรื่องกู้ ก.ย.ศ. ได้ทัน เขาต้องเรียนในชั้นปีที่ 1 ด้วยเงินค่าใช้จ่ายเดือนละ 1500 บาท (ซึ่งไม่ได้ออกทุกเดือนและต้องแบ่งบางส่วนให้พี่น้อง)
ความจริงก็คือในบางครั้งนิสมานไม่ได้ทานข้าวเลย 2- 3 วันติดต่อกันเพื่อจะใช้เงิน 1500 บาทให้ครบ 1 เดือน เขาไม่ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษาใดๆ จากทางมหาวิทยาลัย
ด้วยความช่วยเหลือจากคณาจารย์ในภาควิชาพลศึกษาที่จะพยายามหาแหล่งเงินทุนให้และพยายามขอผ่อนผันการชำระค่าเทอม และช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายส่วนตัวบางส่วน และนิสมานไม่เคยนำสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาเป็นข้ออ้างในการทำสิ่งไม่ดีต่างๆ เขาตั้งใจเล่าเรียนและเล่นกีฬา และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมฮอกกี้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้แชมป์การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยในครั้งที่ผ่านมา นับเป็นเหรียญทองฮอกกี้ทีมชายเหรียญแรกของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในรอบหลายสิบปีที่เข้าร่วมการแข่งขัน
ด้วยความมุ่งมั่นและไม่ย่อท้อกับชีวิตคณาจารย์และโค้ชช่วยกันผลักดันและออกค่าใช้จ่ายให้นิสมานเข้ากรุงเทพ เพื่อคัดตัวแทนทีมชาติไทย และด้วยความทุ่มเทเขาได้รับการคัดตัวเป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมาที่ประเทศสิงคโปร์ แม้จะไม่ได้เหรียญรางวัลใดๆ กลับมาเหมือนกีฬาประเภทอื่นๆ แต่นักศึกษาเอกพลศึกษาชั้นปีที่ 1 จากจังหวัดนราธิวาสคนนี้ก็ยังมุ่งมั่นที่จะเรียนและเล่นกีฬาต่อไป โดยไม่นำอดีตที่เลวร้ายมาบั่นทอนความฝันของตัวเอง และประทังชีวิตด้วยเงินเยียวยาแค่เดือนละ 1500 บาท
ปัจจุบันเขากำลังได้รับการพิจารณาทุนการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัยครับ