หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“ชุมพร1” ปลาหมอไซด์ใหญ่ ถูกอกเกษตรกรไทย ติดใจผู้บริโภค

โพสท์โดย MOS MOS

 

คุณสุรพินโญ พลาพล หรืออาจารย์โญ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่ผันตัวมาเอาดีด้านการเกษตร ภายใต้ชื่อ “ไร่พอเพียงตามรอยพ่อ” ซึ่งเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ เลขที่ 14/ 2 หมู่ 7 ตำบลสามพวง อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย เป็นผู้หนึ่งที่เลือกการเลี้ยงและเพาะขยายพันธุ์ปลาหมอชุมพร1 เพื่อสร้างรายได้ ให้ข้อมูลกับ “เกษตรกรก้าวหน้า” ว่าปลาหมอชุมพร1 เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ โดยการรวบรวมสายพันธุ์ปลาหมอไทยจากทั่วประเทศ คล้ายกับการพัฒนาสายพันธุ์สัตว์ชนิดอื่น อย่างไก่ หรือ โค โดยคัดสายพันธุ์ที่ดีที่สุดจากพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อนำมาปรับปรุงพันธุ์ ทำให้ได้ผลผลิตที่ดีกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งใช้เวลาในการศึกษาวิจัยในการปรับปรุงพันธุ์นานกว่า 10 ปี จนประสบความสำเร็จเป็นปลาหมอชุมพร1 ให้เกษตรกรได้นำไปเลี้ยงอยู่ในปัจจุบัน

โดยปกติแล้ว ปลาหมอชุมพร1 ใช้ระยะเวลาการเลี้ยง 4 เดือน จะได้ปลาขนาด 3-6 ตัว/กิโลกรัม แต่สำหรับลูกพันธุ์ของฟาร์ม เกษตรกรนำไปเลี้ยงเพียง 3 เดือนเท่านั้น เนื่องจากที่ฟาร์มจำหน่ายลูกพันธุ์ขนาดใหญ่ 4-6 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่เกษตรกรนำไปเลี้ยงแล้วมีอัตรารการรอดสูง ต่างจากลูกพันธุ์ขนาดเล็ก หรือปลาใบมะขาม ซึ่งมักน็อกน้ำหรือถูกศัตรูจำพวกแมลงโจมตีได้ง่าย อย่างเช่น ตัวโม่งของแมลงปอ สามารถโจมตีปลาใบมะขามได้ถึง 20 ตัวใน 1 นาที ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงของเกษตรกรอย่างยิ่งในการเลี้ยงปลาระยะนี้

เรื่องของพันธุกรรมก็มีผลโดยตรง ทั้งกับประสิทธิภาพการเลี้ยงและราคาจำหน่าย ซึ่งเกษตรกรมือใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ มักได้ลูกพันธุ์ไม่ใช่พันธุ์แท้มาเลี้ยง ทำให้อัตราการเจริญเติบโตต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ที่สำคัญจำหน่ายไม่ได้ราคา ดังนั้นเกษตรกรต้องเลือกแหล่งพันธุ์ที่เชื่อถือได้ หรือต้องศึกษาลักษณะของปลาหมอชุมพรให้ดี เพื่อใช้พิจารณาในการตัดสินใจเลือกแหล่งพันธุ์ สำหรับลักษณะที่บ่งบอกว่าเป็นปลาหมอชุมพร1 คือ หัวเล็ก ตัวใหญ่เหมือนรูปใบไม้ และใหญ่กว่าปลาหมอพันธุ์อื่น ๆ ส่วนสีไม่แตกต่างจากปลาหมอทั่วไปนัก ที่สำคัญเนื้อมาก เนื้อแน่น มีรสชาติที่อร่อย
สำหรับผู้ที่สนใจเลี้ยงปลาหมอชุมพร1 อาจารย์โญแนะนำว่า ต้องดูพื้นฐานของต้องเองก่อนว่ามีความพร้อมแค่ไหน ทั้งความรู้ในการเลี้ยงการจัดการ ในท้องถิ่นหรือพื้นที่ใกล้เคียงมีตลาดรองรับหรือไม่ มีความชอบในอาชีพเกษตรไหม มีเวลาที่มาจัดการดูแลมากน้อยแค่ไหน และต้องมีเงินทุนสำรองในการขุดสระ เตรียมบ่อ ค่าพันธุ์ และค่าอาหารที่ต้องใช้ตลอดการเลี้ยงด้วย ซึ่งหากมีความพร้อมทุกด้านที่กล่าวมาก็สามารถเลี้ยงได้

“ปลาหมอชุมพร1 สามารถเลี้ยงได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในบ่อปูน บ่อพลาสติก กระชัง หรือแม้แต่ในพื้นที่เล็กตามในเมืองก็สามารถเลี้ยง (ไว้รับประทานเอง) ได้ แต่ถ้าเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ แนะนำให้เลี้ยงในบ่อดินดีที่สุด เพราะต้นทุนต่ำและสามารถกระตุ้นการกินของปลาได้ง่าย เช่นใช้การถ่ายเทน้ำออกจากบ่อ ทำให้ปลาสดชื่นและกินอาหารได้ดี รวมถึงการใช้เกลือเม็ดผสมกับปูนขาวใส่ลงในน้ำ ทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้นและปลาก็สดชื่นขึ้นด้วย ทั้งนี้เกลือช่วยให้ปลากระชุ่มกระชวย และเกลือยังมีแร่ธาตุบางอย่าง และมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดค่าแอมโมเนียของน้ำ อากาศในน้ำจะดีขึ้น ปลาจะไม่เครียด กินอาหารได้มากและสุขภาพแข็งแรง”

หากเกษตรกรขุดสร้างพื้นที่ 1 ไร่ สามารถเลี้ยงปลาหมอชุมพร1 ได้ถึง 50,000 ตัว แต่บ่อต้องมีความลึกที่ 2-2.5 เมตร เนื่องจากหากบ่อมีปริมาณน้ำที่มาก อากาศในน้ำก็ถ่ายเทได้ดี ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของปลาโดยตรง ขณะที่หากบ่อตื้น ปริมาณน้ำในบ่อไม่มากพอ ซึ่งบ้านเราเป็นเมืองร้อนอุณิหภูมิของน้ำค่อนข้างสูง หากมีฝนตกลงมาปลาก็มีโอกาสน็อกน้ำได้

“รูปแบบการเลี้ยงที่ผมใช้ ไม่จำเป็นต้องปล่อยน้ำเขียวลงในบ่อหรือต้องนำมูลโคมาใส่เพื่อให้แพลงตอนเจริญเติบโต เนื่องจากปลาหมอชุมพรเป็นปลากินเนื้อ ไม่ใช่ปลากินพืชจึงไม่จำเป็นต้องมีแพลงตอนในบ่อ ที่สำคัญปลาหมอชุพร1 ค่อนข้างแข็งแรงอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมเท่าไรนัก การเตรียมบ่อเลี้ยง ให้เตรียมก่อนนำปลาลงเลี้ยงเพียง 4-5 วันเท่านั้น ไม่ต้องเตรียมน้ำในบ่อไว้นานเป็นเดือน เนื่องจากแมลงที่เป็นศัตรูของลูกปลาอาจมาวางไข่ได้ ซึ่งวิธีป้องกันแมลงที่อยู่ในน้ำทำได้โดย นำน้ำมันพืชประมาณ 1 ลัง เทลงไปในบ่อ ทำให้แมลงวางไข่ไม่ได้ ซึ่งวิธีนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับลูกปลา”

สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยงช่วงแรก ใช้อาหารสำเร็จรูปที่มีโปรตีน 40 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป (อาหารปลาดุกเบอร์ 1) เมื่อลูกปลาโตขึ้นก็เปลี่ยนมาใช้อาหารสำหรับปลาดุกเบอร์ 2 หรือให้กินอาหารกบก็ได้ เพราะมีโปรตีนที่สูงกว่า โดยให้ช่วงเช้าและเย็น เฉลี่ยตลอดการเลี้ยง 3 เดือน บ่อเลี้ยงจำนวน 50,000 ตัว ต้องใช้อาหารประมาณ 120-150 กระสอบ (ปัจจุบันกระสอบละ 500 บาท) นับว่าเป็นต้นทุนที่สูงมาก แต่ถ้าเกษตรกรเลี้ยงแล้วมีอัตราการรอดสูง ก็จะได้รับกำไรไปเต็ม ๆ อย่างแน่นอน เกษตรกรที่เลี้ยงแล้วประสบปัญหาขาดทุน ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากปลาตายนั่นเอง

“การให้อาหารปลาหมอชุมพร1 ที่เลี้ยงในบ่อขนาดใหญ่ ว่าต้องให้จำนวนที่แน่นอนเท่าไร คำนวณได้ค่อนข้างลำบาก แต่ใช้วิธีการประมาณ ซึ่ง 1 เดือนแรก ให้อาหารปลาดุกเบอร์ 1 ตลอด แล้วเปลี่ยนมาให้เป็นอาหารปลาดุกเบอร์ 2 ในเดือนถัดมา หรือให้ใช้การสังเกตจากขนาดตัวและปากของปลา ซึ่งถ้าปลาตัวโตขึ้นหน่อยก็เปลี่ยนสูตรอาหารที่เม็ดใหญ่ขึ้น การเลี้ยงปลาหมอชุมพร1 ในเชิงพาณิชย์ ไม่จำเป็นต้องให้แมลงเป็นอาหาร แต่ให้เน้นอาหารที่มีโภชนาการครบถ้วนเป็นหลัก เลี้ยงด้วยอาหารกบหรืออาหารปลาดุกเบอร์ 2 ไปจนกว่าจะทำการจับขายได้ ซึ่งเกษตรกรมีกำไรแน่นอน”

ด้านการตลาดของปลาหมอชุมพร1 วิธีง่าย ๆ ก็คือ ไปติดต่อตามร้านค้าหรือแผงปลาในตลาดในพื้นที่ ร้านละประมาณ 5-10 กิโลกรัม แล้วบริการไปส่งให้ทุกวัน อาจจะต้องเหนื่อยหน่อยในช่วงแรก แต่ถ้าผ่านไปสัก 1-2 เดือน สินค้าเริ่มติดตลาดแล้ว ปลาที่เลี้ยงไว้หลายหมื่นตัวเชื่อว่าไม่พอจำหน่ายอย่างแน่นอน ซึ่งอาจต้องรับปลาจากเกษตรกรรายอื่นมาขายด้วยซ้ำ เพราะราคาที่ขายหน้าบ่ออยู่ที่กิโลกรัม 75-90 บาท ตามขนาด แต่มาขายส่งที่ตลาดได้ถึงกิโลกรัมละ 110-120 บาท ซึ่งมีกำไรอยู่พอสมควร หรือเกษตรกรอาจไปเปิดตลาดใหม่ ๆ โดยการออกร้านตามงานในท้องถิ่นหรือร่วมกับหน่วยงานในชุมชน แปรรูปเป็นปลาหมอเผาเกลือพร้อมน้ำจิ้ม ซึ่งเป็นอีกช่องที่สร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง

อาจารย์โญ บอกว่าเกษตรกรที่เลี้ยงปลาหมอชุมพร1 ประมาณ 20,000 ตัวขึ้นไป แนะนำว่าให้ไปลงทะเบียนกับกรมประมงหรือศูนย์วิจัยประมงเพื่อการันตีคุณภาพสินค้า พร้อมพิสูจน์ว่าสินค้าคุณภาพ ไม่มีสารเคมีตกค้างหรือใช้ยาปฏิชีวนะ และแนะนำให้ออกแบบป้ายไวนิลหรือเอกสารรับรองเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้เป็นที่รู้จัก ขยายตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีกำไรจากการเลี้ยงมากขึ้น

สำหรับเกษตรกรมือใหม่ที่เลี้ยงปลาหมอชุมพร1 ครั้งแรก แนะนำให้เลี้ยงไม่เกิด 30,000 ตัว เพราะเป็นจำนวนที่เหมาะสมสำหรับทำตลาดในพื้นที่เองได้ไม่ยาก หากมีช่องทางจำหน่ายแล้วค่อยขยายปริมาณการผลิต” อาจารย์โญ กล่าวในที่สุด

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
MOS MOS's profile


โพสท์โดย: MOS MOS
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
75 VOTES (4.4/5 จาก 17 คน)
VOTED: fujita, เอ๋ง ไม่ดัดจริต, ซาอิ, จอมยุทธอินดี้, MAX MARS, nkart
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สูตรคำนวณงวด 2/1/69จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิดเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจสถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นกัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73อาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด่วนวันนี้ ประชาชนในปอยเปต โดนสั่งให้อพยพด่วน หลัง ไข่จากสยามเมืองยิ้ม ลงรัวๆ มากกว่า 15 ลูกภายในวันเดียวงงทั้งสถานี ไวรัลญี่ปุ่น คู่ชายหญิง ทำอะไรบางอย่างกลางชินจูกุ คนหยุดดูเป็นตาเดียวข่าวลับสุดยอด ไทยเจอพิมพ์เขียว วางทุ่นระเบิดของเขมร ความลับของทางการกัมพูชาเทรนด์ใหม่ "ปิดไฟอาบน้ำ" ช่วยแก้ปัญหา "นอนไม่หลับ" แพทย์ชี้ช่วยรีเซ็ตร่างกายได้จริง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ข่าวลับสุดยอด ไทยเจอพิมพ์เขียว วางทุ่นระเบิดของเขมร ความลับของทางการกัมพูชาเทรนด์ใหม่ "ปิดไฟอาบน้ำ" ช่วยแก้ปัญหา "นอนไม่หลับ" แพทย์ชี้ช่วยรีเซ็ตร่างกายได้จริง
ตั้งกระทู้ใหม่