เนวิน-เปิดเมืองบุรีรัมย์ จับคู่นักธุรกิจ "แมตชิ่งบิสซิเนส"

เนวิน ชิดชอบ หันหลังให้สภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 5 ปี ทิ้งการเมืองระบบ "พรรค" หันไปอยู่กับ "พวก" ที่มีทั้งคนการเมือง-นักธุรกิจทุกระดับ เป็นเครือข่ายเหนียวแน่น โยงใยตั้งแต่บุรีรัมย์ถึงกรุงเทพฯ

อาจกล่าวได้ว่า กลุ่มนักธุรกิจระดับเจ้าสัวเมืองไทย 10 อันดับต้น ๆ มีคนระดับทายาทเป็น "เพื่อนเนวิน"

คนการเมืองระดับ วี.ไอ.พี.มีอำนาจสูงสุด ทั้งในทำเนียบ-นอกทำเนียบ ล้วนมีคอนเน็กชั่นพิเศษกับ"เนวิน" แม้เขาจะบอกนักข่าวเป็นร้อยครั้งพันคำว่า "ไม่เคยคุย ไม่เคยยุ่ง ไม่เคยใกล้ อยู่แบบนี้ 5 ปีแล้ว วันที่บอกว่าเลิกก็เลิก อยากพิสูจน์ให้คนเห็นว่าการสร้างความเจริญ การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ผู้คนและเมือง ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจทางการเมืองเสมอไป ตอนนี้พิสูจน์ได้แล้ว"

ดังนั้นน้อยยิ่งกว่าน้อยครั้ง ที่จะเห็น "เนวิน" จะปรากฏตัวในวงสังคมชั้นสูง เขาบอกว่า ถูกเชิญไปงานสังคม จะถามก่อนว่าต้องแต่งตัวอย่างไร ถ้าต้องใส่ขายาว-ชุดสูท "ไม่ไป...ฝากซองไปก็แล้วกัน อยู่อย่างใส่กางเกงขาสั้น เสื้อยืด รองเท้าผ้าใบ กางเกงขายาวไม่เคยใส่มา 5 ปี"

แต่เมื่อ "ประชาชาติธุรกิจ" ขอให้เขาขึ้นเวทีเพื่อพูดคอนเซ็ปต์ "จับคู่ธุรกิจเมืองบุรีรัมย์" ที่จะจัดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เขารับปากทันที พร้อมฉายหนังตัวอย่าง "แมตชิ่งบิสซิเนส" ระหว่างนักลงทุนเมืองกรุงกับนักธุรกิจบุรีรัมย์และเมืองบริวาร

"เมืองบุรีรัมย์เป็นเมืองที่มีศักยภาพ มีอนาคต ต้องการนักธุรกิจจากกรุงเทพฯมาแชร์ประสบการณ์ มา Matching จับคู่กับนักธุรกิจในเมืองนี้ จะเป็นการเชื่อมโลกธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ หรือจะร่วมกันลงทุนแบบ Profit Sharing ก็ได้ เพราะเมืองมีกำลังซื้อ"

"เนวิน" แนะนำว่า นักธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุนในบุรีรัมย์ และมองเห็นโอกาสของเมือง ต้องการ "การจัดสัมมนานักธุรกิจในเชิง Matching มันจะเวิร์ก ไม่ใช่ทำแล้วจบ"

"คอนเซ็ปต์ของเมืองนี้มันต้องเป็นสปอร์ตซิตี้ เป้าหมายคือต้องเป็น Hub ของฟุตบอล และมอเตอร์สปอร์ต ในประเทศนี้ไม่มีเมืองไหนเลยที่จะเป็น Hub ของฟุตบอลและมอเตอร์สปอร์ตได้นอกจากบุรีรัมย์ เพราะมันมีจุดแข็งของมัน"

เขาส่งสัญญาณถึงนักธุรกิจในเมืองใหญ่ หากจะไปลงทุนที่บุรีรัมย์ "โอกาส" คือ เมืองนี้ "มีของ" ที่เมืองอื่นไม่มี เป็นเมืองที่มีจุดขายเรื่อง "Lifestyle Healthy Sport" ครบเครื่องทั้งเป็นเมืองแปลก-ยิ่งใหญ่อลังการและมีความเป็น International Standard

 พร้อมพรั่งทั้งการเป็นเมืองแห่งการ Entertain

"เนวิน" ยืนยันว่า "นี่คือกระแสของโลก"

ประกอบกับระบบการขนส่งของประเทศที่ก้าวหน้า ทั้งโลว์คอสต์แอร์ไลน์ รถทัวร์ รถยนต์ส่วนตัว และรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ที่กำลังจะเกิดขึ้น "เมืองผ่านจะไม่มีความหมาย แต่เมืองที่มีจุดแข็ง จุดขาย มี Magnet จะกลายเป็น Destination"

เขาจึงเปลี่ยนบุรีรัมย์จากที่เคยเป็นเพียง "เมืองผ่าน" มาเป็น "เมืองพัก" โดยใช้ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" เป็นแม่เหล็ก

"ในปี 2016 บุรีรัมย์จะเป็นเมืองที่คนอยากมามากที่สุด"

"เราก็ครีเอตบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน เราคิดว่าจะต้องเป็นท็อปไฟฟ์ของเอเชีย เราจะเป็นทีมฟุตบอลหนึ่งทีมที่เป็นตัวแทนของคนทั้งอาเซียนเพื่อสู้กับ

ยักษ์ทั้งหลายในเอเชีย"

"เมื่อประชาคมเออีซีเปิดได้ไม่เกิน 3 ปี เราจะมี Supporter ไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน ใน 6 ล้านคน 30 เปอร์เซ็นต์มาบุรีรัมย์เพื่อดูบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดตัวเป็น ๆ เล่นปีละ 2 ล้านคน คนหนึ่งก็ใช้เงิน 2,500 บาท ปีหนึ่งมี 5,000 ล้านสำหรับเมือง 1 เมือง"

เศรษฐกิจเมืองบุรีรัมย์จึงคึกคัก-คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งที่เป็นพ่อค้าวาณิช นักกีฬา ผู้ชมชอบกีฬาฟุตบอล และผู้นิยมกีฬาผาดโผนขับเคี่ยวความเร็วในลู่แข่งรถ อีเวนต์ธุรกิจกีฬาในเมืองนี้ถูกจัดขึ้นปีละ 100 อีเวนต์เป็นอย่างน้อย

เนวินขายไอเดีย "ในสนามแข่งรถ จะมีอีเวนต์ประมาณ 70 ครั้ง สนามฟุตบอลอีก 30 อีเวนต์ เมืองนี้จะเป็นเมืองเดียวในประเทศไทยและอาเซียน หรือในเอเชียด้วยซ้ำไป ที่มีอัตราเฉลี่ย 1 ปีมี 100 อีเวนต์ หมายความว่าทุก Weekend มาที่นี่ ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะไม่มีอีเวนต์รองรับ มี Football Hotel แห่งเดียวในเอเชีย เราตั้งใจทำ Story ทุกอย่าง เพื่อจะสร้างเมืองนี้ให้แข็งแกร่งขึ้น"

"ใครที่อยู่กับกรอบความคิดแบบเดิมเสร็จแน่นอน เมืองไหนที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลง และแตกต่างจากคนอื่นตายแน่นอน แต่เรามีบุรีรัมย์โมเดล ภายใต้เงื่อนไข แปลก-หาดูไม่ได้ที่อื่น อลังการ-มาตรฐานโลก"

"ที่นี่เป็นเงินลงทุนเอกชนทุกเม็ด ทุกสตางค์ ไม่สนใจราชการ ราชการไม่ต้องมาใกล้ อย่าขวางก็แล้วกัน"

"เนวิน" อยากให้บุรีรัมย์เป็นมากกว่า "เมืองพัก" แต่เป็น "Hub" ของตะวันออกเฉียงเหนือด้วย

"โอกาสธุรกิจอย่ามองว่ามีบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ไอโมบาย สเตเดี้ยม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เป็นประโยชน์เฉพาะเมืองบุรีรัมย์ ไม่ใช่...ทุกครั้งที่มีการแข่งฟุตบอลแมตช์ใหญ่ ทุกครั้งที่มีการแข่งขันรถยนต์ โรงแรมในสุรินทร์ บุรีรัมย์ โคราช เต็มหมด"

ในระดับประเทศ "เนวิน" พูดแตะไปที่การบริหารบ้านเมือง

เขาบอกว่า "กีฬา" และ "อีเวนต์" ที่มีนักท่องเที่ยวระดับโลกแห่ไปชมนับแสนคนต่อแมตช์ มีแชมป์ระดับโลกเข้าร่วมแข่งขัน มีทีมแข่งที่ลงทุนนับพันล้านเข้าร่วม นั่นย่อมพิสูจน์แล้วและเชื่อมั่นได้ว่า "ประเทศอยู่ในภาวะปกติ สงบ ปลอดภัยขนาดไหน โดยไม่ต้องไปโรดโชว์ หรือส่งทูตไปเจรจา ไม่ต้องจ้างล็อบบี้ยิสต์ด้วยเงินมหาศาล ภายใต้รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง"

"ในยามที่เศรษฐกิจประเทศเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่กระตุ้นด้วยนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อ จะไปทำอะไรกับเศรษฐกิจของประเทศ อีเวนต์กีฬาได้ทั้งอิมเมจของประเทศ ได้ทั้งสตางค์ หากรัฐบาลจัดแข่งเอฟ 1 ผมยกสนามให้ใช้ฟรี เพราะสำหรับผม ผมไม่เก็บเงิน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเมืองนี้คือเศรษฐกิจเมืองนี้ รายได้ของคนเมืองนี้ ชื่อเสียงของเมืองนี้ มันคุ้มค่ากับการยกสนามให้ใช้ฟรี"

ไม่ว่าหยิบจับอะไร ดูเหมือนเป็นเงิน-เป็นทอง เพราะ "เนวิน" มั่นใจว่า "บรรดา Big Spend ทั้งหลายมีหมุดหมาย Destination คือที่นี่"

เมื่อโอกาสทางธุรกิจและความมั่งคั่งรออยู่มหาศาล "เนวิน" เล่าว่า ทุกวันจะมีพ่อค้า-นักธุรกิจมาถามว่าจะลงทุนอะไรเพิ่มอีก เขาตอบไปว่า "ใครอยากมาลงทุนอะไรเชิญเลยสาขาบริการ ท่องเที่ยว หลากหลาย สปา นวด ผับ ร้านอาหาร บาร์ ได้หมด เราทำ Community Mall ตอนนี้แฟรนไชส์อาหารระดับโลกก็เข้ามาทุกแบรนด์ แข่งขันกันสูง"

"ตอนนี้ห้างโรบินสันกำลังจะเปิด ค่ายเซ็นทรัลมาส่งข่าวว่าจะมาทำโรงแรม ตระกูลพูลวรลักษณ์บอกว่าจะมาทำโรงหนังผมบอกใครอยากทำอะไรมาทำเลย จะช่วยจัดการให้เรียบร้อย"

จึงไม่น่าแปลกใจที่ป้ายประกาศขายที่ดินที่บุรีรัมย์ราคาถีบขึ้น จากไร่ละไม่เกิน 1 ล้านบาทเมื่อ 5 ปีก่อน วันนี้พุ่งขึ้นเป็นไร่ละ 5-6 ล้านบาท

"เนวิน" ขับรถมอเตอร์ไซค์ไป-กลับกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ เดือนละหลายเที่ยว ด้วยกางเกงขาสั้น-เสื้อยืดทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เขาแลเห็นตัวตน-ตัวเอง-อดีตรัฐมนตรีที่ผ่านมา "เล่นการเมืองมาชั่วชีวิตทั้งตระกูลชิดชอบ คนยังไม่รักเท่ากับ 5 ปี ที่เลิกเล่นการเมือง วันนี้เดินไปไหน จาก ฯพณฯ เนวิน เป็นลุงเนวิน ต่างกันสิ้นเชิง เป็นลุงเนวินเหมือนเป็นเทพเจ้า ให้ความสุข ให้ความรัก ให้ความร่ำรวยกับเขา"

"สิ่งที่เราพยายามคิด พยายามทำมาตลอดชีวิตนักการเมือง แก้ปัญหาความยากจน ทำให้เขามีงานทำ โดยคิดว่าอำนาจการเมืองทำได้ ผลคือ Zero เมื่อก่อนใช้คำว่าบุรีรัมย์เชย แต่วันนี้ขายได้ ใครใส่เสื้อบุรีรัมย์ไม่รู้สึกอับอาย มันได้ทั้งความภาคภูมิใจ ความรักถิ่นกำเนิด"

พบ "เนวิน" ตัวเป็น ๆ ต้องคุยเรื่องการเมืองติดปลายนวม ความเห็นของเขา เวลานี้คือ "ไม่ว่ารัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง หรือยึดอำนาจ ไม่ต่างกัน สำหรับชาวบ้านความสำคัญที่สุดคือ ปากท้อง ทำให้เศรษฐกิจโต ทำให้ชีวิตคนเปลี่ยนแปลงได้ ประเทศไทยมีประท้วงมาจากปัญหาปากท้องทั้งนั้น"