หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ตำนาน.."ฉันไม่ผิดๆๆๆๆๆๆๆ"นางกิ่งแก้ว นักโทษประหารหญิงคนที่ 2 ของไทย แต่เธอไม่ยอมตาย!!!!

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

 


นางกิ่งแก้ว ลอสูงเนิน เธอคนนี้คนไทยเองน้อยคนไม่ค่อยรู้จัก แต่ไม่ยากที่จะค้นหา เพราะประเทศไทยเรามีนักโทษประหารหญิงไม่กี่คน ซึ่งนางกิ่งแก้วนั้นเป็นนักโทษประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของไทยเรา



เรื่องราวของนางกิ่งแก้ว ลอสูงเนินน่าเชื่อว่ามาจากเนื้อหาหนังสือที่เชาวเรศน์จารุบุณย์เชาวเรศน์ จารุบุณย์เพชฌฆาตคนสุดท้ายที่ลั่นกระสุนปืนประหารชีวิตนักโทษหลายราย ก่อนที่การประหารชีวิตไทยจะเปลี่ยนเป็นฉีดยาพิษเข้าเส้นเลือดแทน ซึ่งหนังสือดังกล่าวถูกตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ ทำให้คนต่างชาติรู้เรื่องการประหารชีวิตยิงเป้ามาก ซึ่งพอดีผมไปค้นที่ห้องสมุดไม่เจอหนังสือดังกล่าว ดังนั้นผมขอแปลเท่าที่จะทำได้ล่ะกันน่ะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วย



นางกิ่งแก้ว เป็น พี่เลี้ยงเด็กชาวโคราชที่ทำงานในกรุงเทพ ที่คุ้นเคยและได้รับวางใจกับครอบครัวหนึ่งที่ได้จ้างเธอมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ชายอายุ 6 ขวบ ซึ่งวันที่เกิดเหตุนั้นเธอได้ไปรับเด็กชายที่โรงเรียน ซึ่งเธอเป็นที่รู้จักกันดีในคุณครูในโรงเรียนดีอยู่แล้วและส่งให้เธอโดยไม่ เกิดความสงสัยใดๆ แต่กลายเป็นนางกิ่งแก้วได้ร่วมมือกับพวกโจรผู้ชาย (2 คน) จับเด็กชายไปเรียกเงินค่าไถ่จากพ่อแม่เด็ก โดยตามแผนการนั้นพ่อแม่เด็กจะต้องโยนเงินออกจากรถไฟที่กำลังแล่นและใกล้กับ ธงที่กำหนด ที่นี้ก็เกิดปัญหาขึ้นเมื่อเวลาส่งมอบเงินดันเป็นตอนกลางคืน ผู้ปกครองเด็กมองไม่เห็นธง และส่งเงินผิดพลาดไม่ตรงจุดที่กำหนด ส่งผลทำให้การเลือกเปลี่ยนเงินค่าไถ่ล้มเหลว พวกโจรโกรธแค้นและแทงเด็กตายเพื่อปิดปาก แม้ว่านางกิ่งแก้วพยายามห้ามพวกโจรไม่ทำร้ายเด็ก แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจแทงเด็กตายและนำศพไปฝัง ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี (จากการชันสูตรศพต่อมาพบว่ามีเศษดินในปอดแสดงให้เห็นว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่ หลังฝังศพของเขาบนดินแล้ว)



ด้วยการกระทำของเธอในการฆาตกรรมเด็กชาย นางกิ่งแก้วถูก ตัดสินประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า สำหรับการยิงเป้าของไทยนั้น นักโทษถูกผ้าปิดตาและผูกติดกับเสาหลักรูปไม้กางเขนฟันหน้าเข้ากับกำแพง ไม่ว่าจะเป็นเอว หน้าอก ข้อศอกทั้งสองข้างต้องติดกับไม้กางเขนทั้งสองด้าน และที่ข้อมือมีลักษณะพนมมือโอบรอบเสา ซึ่งต้องมัดให้แน่นจนนักโทษขยับตัวไม่ได้ และจากนั้นก็ตั้งปืนไรเฟิลอัตโนมัติชี้ไปยังหัวใจบริเวณแผ่นหลังของนักโทษ ประหาร (ซึ่งจะทำเครื่องหมายบริเวณหัวใจนักโทษเอาไว้) เมื่อถึงเวลาประหารเพชฌฆาตที่ อยู่ด้านหลังนักโทษจะทำการยิงกระสุนเข้าไปสิบห้านัดเข้าไปบริเวณที่ทำ เครื่องหมาย เพื่อให้นักโทษประหารตายทันทีไม่ให้ทรมานมากเกินไป



นางกิ่งแก้ว ถูกประหารชีวิตเมื่อวันที่ 13 มกราคม 1976 ในเวลานั้นสภาพจิตใจนางกิ่งแก้วย้ำแย่มาก (เคยพยายามฆ่าตัวตายเพื่อหนีโทษประหาร) ซ้ำยังหน้ามืดจะเป็นลม มีอาการทางจิตประสาท ทำให้พี่เลี้ยงต้องคอยดูแลอาการและคอยให้ยาดม ในระหว่างรอประหารเธอก็ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ของเธอในคดีฆาตกรรมเด็กชาย ว่า "ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าเด็ก" เธอขอร้อง "ได้โปรดอย่าฆ่าฉัน ฉันไม่ได้ฆ่าเขา" เธอพูดซ้ำซากแบบนี้ตลอดเวลา แต่หมดสิ้นความหวังเพราะเธอก็ถูกส่งไปยังเวทีประหาร ปืนถูกโหลดและเพชฌฆาตเล็ง อีกสักครูก็มีกระสุนกว่าสิบนัดถูกยิงออกมาเข้าไปจุดที่เชื่อว่าจัดขั้วหัวใจของนางกิ่งแก้ว

ไม่นานหลังจากยิงปืนเสร็จสิ้น หมอได้เดินเข้ามาใกล้ผู้หญิงแล้วตรวจหาชีพจรก็พบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว จุดที่ถูกยิงมีเลือดออกมาปริมาณมาก พวกเขาจัดการแก้ร่างของเธอและวางคว่ำหน้าของเธอลงบนพื้น ซึ่งตอนนั้นเธอก็ชักและกระตุกเล็กน้อย หน้าอกของเธอปริออกเพราะแรงกระสุน ร่างของเธอถูกย้ายไปที่ห้องเก็บศพและวางอยู่บนเตียง ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นเตรียมประหารคนต่อไปที่รอคิวอยู่

แต่แล้วก็เกิดเรื่องเหลือเชื่อขึ้น นางกิ่งแก้วยังไม่ตาย เธอเริ่มส่งเสียง (ดูเหมือนจะพูดว่า"ฉันไม่ผิดๆๆๆๆๆๆๆ") และพยายามลุกขึ้นนั่ง พี่เลี้ยงต้องวิ่งเข้าไปห้องเด็บศพ และพวกเขาพยายามกลิ้งเธอหลายครั้งและกดบนหลังของเธอเพื่อให้เลือดออกเร็ว ขึ้นให้ธอตายสงบ (บางคนพยายามที่จะบีบคอ) แต่เธอก็ยังอ้าปากหายใจไม่เสียชีวิตในทันที แม้จะทำยังไงเธอก็หายใจและยังมีชิวิตอยู่ แม้เลือดจะออกมามากมายก็ตาม ผลสุดท้ายเธอก็ถูกยกกลับไปเวทีประหารและประหารชีวิตใหม่ด้วยการยิงกระสุนอีก 15 นัดอีกครั้ง เธอจึงเสียชีวิต

ไม่มีใครทราบว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น บางทีอาจเป็นเพราะผูกติดกับเสาหลักไม่แน่นพอ ทำให้เธอดิ้นจนกระสุนเลยจุดตาย และอีกทั้งหัวใจของเธอนั้นอยู่ด้านขวาไม่ใช่ด้านซ้ายเป็นเหตุทำให้การประหาร ผิดพลาดดังกล่าว

(มีเหตุหลังจากนี้นิดหน่อย มีเรื่องเล่าว่าหลังจากที่นำศพของเธอมาไว้ห้องเก็บศพ ยังคงมีคนได้ยินเสียง "ฉัน ไม่ ผิด" ดังจากในห้องซ้ำแบบนี้ตลอดเวลา และทุกวันนี้ยังมีผู้พบเห็นเธอเป็นผีวนเวียนที่เรือนจำบางขวาง)



อีกเรื่องเล่าหนึ่งจากปากพัสดี

พัสดีหลายคนเล่าว่า นางกิ่งแก้วรักเด็กคนนี้มาก รักเหมือนลูกของตน และเมื่อวันที่เด็กถูกสังหาร เป็นวันที่นางกิ่งแก้วไม่อยู่ ทางฝ่ายสามีจึงลงมือสังหารเด็กเสีย ฝ่ายนางกิ่งแก้วกลับมาและไม่พบเด็ก ก็รู้ได้ทันทีว่าอาจเกิดอันตรายกับเด็กคนนั้น นางจึงออกตามหาเด็กคน และมาพบรอยดินที่เหมือนพึ่งฝังเสร็จใหม่ นางกิ่งแก้วจึงลงมือขุดจนพบร่างเด็ก แต่ไม่ทันการเสียแล้ว เด็กหมดลมหายใจไปเสียก่อน นางกอดศพและร้องไห้อยู่พักนึง เป็นเวลาเดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังบุกจับพอดี นางกิ่งแก้วจึงตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่าคนตาย นี่คือคำสารภาพที่นางกิ่งแก้ว พูดกับพัสดีภายในเรือนจำ

พัสดีเล่าต่อว่า ขณะที่นางกิ่งแก้วโดนจองจำอยู่นั้น สุขภาพจิตของเธอแย่มาก ได้แต่ร้องไห้และพร่ำเพ้อว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด อยู๋อย่างนั้น ดั่งคนเสียสติ จนนักโทษในเรือนจำเกิดความเวทนานางกิ่งแก้วมาก และเป็นอย่างนี้อยู่ประจำ

จนเมื่อถึงวันประหาร ขณะที่นางกิ่งแก้วโดนคุมตัวไปยังแดนประหาร นางพร่ำเพ้ออยู่ตลอดว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด

เมื่อเข้าสู่หลักประหาร เพชรฆาตก็เตรียมตัวลั่นไกไปที่หัวใจของนางกิ่งแก้ว เสียงปืนชุดแรกดังขึ้น กระสุนพุ่งสู่ร่างนางกิ่งแก้ว จากนั้นเลือดก็สาดพร้อมกับเสียงโหยหวนของนางกิ่งแก้วว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด เพชรฆาตตกใจมากที่นางกิ่งแก้วยังไม่ตาย จึงยิงใส่อีกชุดนึงเพื่อที่จะให้นางกิ่งแก้วพ้นทุกข์โดยเร็ว ปรากฎว่า นางกิ่งแก้วก็ยังไม่หมดลมหายใจและยังตะโกนโหยหวนด้วยความทรมารว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ทางพัสดีและหมอประจำเรือนจำจึงรีบเข้าไปตรวจสอบที่่ร่างนางกิ่งแก้วอีกครั้ง และผลปรากฏว่านางมีหัวใจอยู่ด้านขวา ทางพัสดีจึงต้องวัดเป้าอีกครั้งและทำการประหารใหม่ และคราวนี้นางกิ่งแก้วได้พ้นทุกข์เแล้วสียที พร้อมกับพูดสุดท้ายว่า ฉันไม่ผิด

ยังมีเรื่องเล่าหลังจากจากนางกิ่งแก้วเสียชีวิตไปแล้ว ว่ามีนักโทษและชาวบ้านแถวนั้นพบเจอวิญญาณนางกิ่งแก้วออกมาปรากฎตัวอยู่บ่อยครั้ง บ้างก็เห็นนางกิ่งแก้วเดินร้องไห้และพูดว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด และหายเข้าไปในกำแพงเรือนจำ บ้างก็เห็นว่าเธอลอยอยู่บนเหนือกำแพงเรือนจำ ส่งเสียงร้องไห้โหยหวนว่า ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิดและทุกวันนี้ก็ยังมีคนพบเจอวิญญาณของนางกิ่งแก้วอยู่ แม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
96 VOTES (4/5 จาก 24 คน)
VOTED: PRP, oLuxo, คุณชาย อินดี้, Asuka, เอ๋ง ไม่ดัดจริต, Lovethailand, amzabzaa, lilu, ธนาคม, แรมโบ้, MOS MOS, Surasit, ดีเจ ซูกัส, ปุ้ม, Bung, MarkAdams, รักนะสาวอบอต
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่นเครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจจีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์สูตรคำนวณงวด 2/1/69กัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73จิตรกรฝรั่งเผย "โฉมหน้าจริง" ฮ่องเต้เฉียนหลง ทำชาวเน็ตอึ้ง ไม่เหมือนในหนังเลยสักนิดเจาะลึกเบื้องหลังดราม่า "โตเกียว" และ "หนุ่มแว่น" กับปมร่างทรงเกม ROV ที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีนนิสัยเร่งความแก่ พฤติกรรมเสี่ยงแก่เร็ว อายุสั้นวิมานบนดินที่ไร้เงาเจ้าของ เจาะปมคฤหาสน์ลอยฟ้า 658 ล้านที่กลายเป็นเพียงอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้า
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เทรนด์ใหม่ "ปิดไฟอาบน้ำ" ช่วยแก้ปัญหา "นอนไม่หลับ" แพทย์ชี้ช่วยรีเซ็ตร่างกายได้จริงข่าวลับสุดยอด ไทยเจอพิมพ์เขียว วางทุ่นระเบิดของเขมร ความลับของทางการกัมพูชากัมพูชา ยอมทุบเขื่อนที่หวังเปลี่ยนพื้นที่ หลัก กม.73ช่องทางการรับรางวัลสลากกาชาดมหาดไทย 2568 ตรวจสอบสิทธิและติดต่อรับโชคได้ถึงต้นปีหน้าแซลม่อน ซึมซับความเป็นญี่ปุ่น ที่หลายคนต้องการเน้นสดอร่อย
ตั้งกระทู้ใหม่