ชีวิตในรั้ว ISB โรงเรียนที่แพงที่สุดในประเทศไทย
สวัสดีค่าา
บอกไว้ก่อนเลยว่าไม่ได้จะเขียนอวดโรงเรียนเลิศหรูไฮโซแต่อย่างไร เพราะเวลาอ่านกระทู้เกี่ยวกับโรงเรียนอินเตอร์ เจอคอมเม้นแรงๆเยอะ (ชื่อกระทู้แค่เขียนให้น่าสนใจไปงั้น) แต่แค่อยากแชร์ประสบการณ์ เผื่อมีใครอยากรู้ว่าชีวิตในโรงเรียนที่เค้าว่ากันว่าแพงที่สุดในประเทศไทยเป็นยังไง
ถ้าถามเราว่าชอบมั้ย? บอกเลยว่า ชอบ. ชอบมาก.
กิจกรรมเยอะมากกกก กีฬาก็เยอะมากกก แต่เรียนก็ "หนักมากกก"
เริ่มที่เรื่องเรียนก่อนละกัน
ISB (International School Bangkok) มีสอนตั้งแต่อนุบาลถึง ม.6 แต่เราพูดกันแค่เรื่องม.ปลายแล้วกันเนอะ โรงเรียนเข้าตอน 7:20 am - 2:05 pm พักกินข้าวตอน10:20am
ตอนม.3-ม.4 ก็เรียนแบบปกติ (อะไรคือหลักสูตรไม่ปกติ? โนไอเดีย นึกคำอื่นไม่ออกล่ะ)ก็จะให้เลือกตารางเรียนเอง ไม่มีใครมีตารางเรียนเหมือนกันเลย ถึงวิชาจะเหมือนแต่ก็อาจจะเรียนกับครูคนละคน ทุกคนต้องเลือก 8 วิชา แต่เรียนแค่วันละ 4 คาบ คาบละ1ชั่วโมง 25 นาที ให้เวลาเดินเปลี่ยนห้อง 10 นาที ตารางเรียนที่นี่จะแอบงงหน่อย (เอาจริงคือสับสนมากกกก ถ้าไม่มีตารางงานช่วยชีวิต)คือจะมีวันเลขคี่ กับเลขคู่ แบบวันแรกอาจจะเรียน 1,3,5,7 อีกวันเรียน 2,4,6,8 วันต่อมาก็จะเป็น 3,1,7,5 แล้วก็ไปเรื่อยจนกว่าจะกลับมา 1,3,5,7 ใหม่ ฉะนั้นบางวัน วิชานี้อาจจะเรียน 3 วันต่ออาทิตย์ อาทิตย์หน้าก็จะเรียนแค่ 2 ครั้งต่ออาทิตย์ ก็สนุกดีน่ะเรียนแบบนี้ ไม่เบื่อ สลับวิชาไปมา
ใน 8 วิชาที่เลือกเนี่ยก็มีวิชาบังคับน่ะ แบบ ภาษาอังกฤษ สังคม พละ เลข อะไรงี้ แต่แบบบางวิชาเนี่ยเค้าก็จัดห้องให้เด็กเรียนคนละlevel แบบเลขถ้าเก่งมากก็เข้าไปเรียนที่เรียก Triple A (AAA) หรือรองมาหน่อยก็ Double A (AA) แล้วก็มีต่ำลงไปอีก 2 ขั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนม.ต้นเรียนมาอยู่เลเวลไหน หรือตอนสอบเข้าเนี่ยคะแนนเป็นยังไง คนไทยก็โดนบังคับเรียนภาษาไทยน่ะ ก็ประมาณนี้ ไม่ได้แตกต่างจากโรงเรียนอื่นบนโลกแต่อย่างไร
ส่วนวิชาเสรีที่ให้เลือกนี่สิ เยอะเหมือนมดเลย มีทั้ง ภาษา (จีน/ญี่ปุ่น/ฝรั่งเศษ/สเปน) เต้น การถ่ายภาพ jewelry design, การแสดง และอีกมากมายก่ายกอง
พอขึ้น ม.5-ม.6 เนี่ยก็จะเรียนหลักสูตรที่เรียก IB (International Baccalaureate) พูดเลยว่าโหดมาก เพื่อนบางคนบอกว่าโหดกว่ามหา'ลัย (อันนี้เราก็ไม่รู้แหะ) แต่เค้าก็ไม่บังคับน่ะ จะเรียนเป็นหลักสูตรIB หรือเรียนแบบปกติก็ได้
เรื่องกีฬาก็มีแบ่งเป็น 3 seasons. Season แรกก็จะมี ฟุตบอล cross country กับวอลเล่// Season 2 มี touch rugby (สำหรับผู้หญิง ส่วน rugby สำหรับผู้ชาย) บาสเกตบอล ว่ายน้ำ กับ เทนนิส // Season 3 ก็มี track and field แบต แล้วก็ Softball/Baseball
คือก็ถ้าใครอยากเข้าทีมก็ต้องมาคัด แต่ละกีฬามี2ทีม มี Varsity กับ Junior Varsity (JV) ก็นั่นแหละ ทีมหลักคือทีม Varsity แต่ละกีฬาเวลาแข่งจะมีคัดอีกรอบในทีมVarsityเพื่อไปแข่ง IASAS ซึ่งแข่งกับอีก 5 โรงเรียนในตะวันออกเฉียงใต้ ก็ผลัดๆกับเป็นเจ้าบ้าน(ค่าใช้จ่ายออกเอง แต่โรงเรียนก็ช่วยประมาณ40%) โรงเรียนเราก็จัดว่ามีทีมกีฬาที่แข็งแกร่งใช้ได้น่ะค่ะขอบอก
ฝั่งศิลปะก็ไม่แพ้กัน มี IASAS เหมือนกัน แต่จะเรียกว่า CC (Cultural Convention) มีทั้ง เต้น drama โต้วาที คอรัส ดนตรี ศิลปะ MUN etc. พวกที่ทำทั้งกีฬากับศิลปะนี่ก็รอบด้านกันเว่อ ดิฉันตามไม่ทัน ขอยกธงขาว บรั้ยยยส์
เรื่องกิจกรรมนี่ก็ คลับอะไรไม่รู้เยอะแยะ มีมากกว่า 40 ชมรมได้ละมั้งค่ะท่านผู้โช้มม เอาจริงเราก็ไม่เคยนับน่ะ แต่เยอะดี เราชอบ ส่วนมากชมรมที่นิยมคือชมรมช่วยเหลือสังคม (ดูดีป่ะ?) แต่จริงน่ะ บอกเลยเด็กที่นี่ทำกันเยอะมาก จะทำเพื่อมหา'ลัย เพื่อความชอบส่วนตัวรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่อะไรก็แล้วแต่ คือแบบเลิกเรียนแต่ละคนก็จะไปชมรมกันส่วนมาก คือโรงเรียนบังคับว่าอย่างน้อยต้องได้คนละ 40 ชั่วโมงก่อนเรียนจบ ซึ่งก็ไม่ได้ยากน่ะ จะไปช่วยสร้างบ้าน เลี้ยงเด็ก สอนภาษาอังกฤษ ขายผัก อยากทำอะไร เชิญ!
ที่พิเศษสำหรับโรงเรียนเรา เราว่าน่ะ GCW (Global Citizenship Week) เนี่ยแหละพิเศษสุดละ มันคือความชอบส่วนตัว 555 คือประมาณกลางเดือนกุมภา โรงเรียนจะปิด1อาทิตย์ให้นักเรียนไปสังสรรค์ อ่ะม่ายช่ายยย ไปทำกิจกรรมด้วยกัน ส่วนมากก็ไปบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมน่ะค่ะทุกท่าน คือดีงาม แต่พวกที่ไปเที่ยวก็มี มีทั้งโหดมาก โหดน้อย เลือกเอา จะสะเตย์อินบางกอก จะไปต่างจังหวัด หรือบ๊ายบายไทยแลนด์ก็ได้หมด เพื่อนบางคนมีไปแบบนิวซีแลนด์ไรงี้ บอกเลยเป็น1อาทิตย์ที่จะไม่เคยลืม สนุกน้ำตาไหลพรากจริงๆ
โรงเรียนเราก็ประมาณนี้แหละ ถ้าชอบก็บอกน่ะ เผื่อเราจะมีแรงเขียนเพิ่ม แบบเรื่องสังคมไรงี้ แบบว่าเหมือนในหนัง เหมือนชีวิตคิมทันอ่ะป่าวว (คือจริงๆก็ไม่มีน่ะ ไม่ได้มีใครอวดใครอะไรมาก) ใครคิดว่าอินเตอร์เรียนชิล บอกเลยว่าไม่ เพื่อนย้ายมาจากโรงเรียนไทยบางคนยังบอกเลยที่นี่เรียนหนักโคตร เขียนเยอะ คิดเยอะ อ่านเยอะ
วันนี้ก็แค่นี้ก่อนละกัน เยอะล่ะ
ขอบอกก่อนว่าเมื่อวานตื่นมา คนอ่าน 100 กว่าคน ตอนเย็นกลับบ้านมา 1000 กว่าคน คืออารายย ดีใจจนน้ำตาไหลเป็นสายเลือด ขอกราบงามๆ 3 ที
ครั้งที่แล้วมีคนถามเราเรื่องเรียนภาษาอังกฤษเป็นไง ก็บอกเลยยาก เด็กที่นี่คือภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ของตัวเองอ่ะ เด็กไทยด้วยน่ะ ก็จะมีเด็กญี่ปุ่นที่ภาษาอังกฤษจะไม่ค่อยคล่องถ้าเทียบกับชาติอื่น แต่แบบเวลาพูด เขียน แต่ละที ช็อค แบบอะเมซิ่งไทยแลนด์ ถามจริงว่าเกิดไทยหรือเมกา (นี่คือความรู้สึกตอนที่ย้ายมา) ส่วนมากก็จะคุยเป็นภาษาอังกฤษ มีในกลุ่มเด็กไทยด้วยกันก็พูดภาษาไทยเยอะน่ะ แต่ก็ไทยคำอังกฤษคำนั่นแหละ เมื่อก่อนเห็นคนไทยพิมพ์นี่ยิ่งกว่าเห็นผี...คือพิมพ์ได้ด้วยหรอค่ะ? แต่อยู่ๆไปก็รู้ว่าที่นี่ก็พิมพ์ไทยกันได้น่ะ 555
โอเค ในเมื่อครั้งที่แล้วเขียนเรื่องหลักสูตรการเรียนทั่วไป วันนี้พูดเรื่องสังคมมั่งดีกว่าเนอะ
คือเราก็มาจากครอบครัวที่คุณพ่อหัวโบราณมากกก ขาสั้นนี่คือเผาทิ้งหมด บิกิน่ง บิกินี่ อย่าได้พูดถึง คุณปะป๊าไม่ปลื้มค่า (ตอนนี้ก็ยอมๆได้มากขึ้นล่ะพวกขาสั้น พ่อบอกโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ต้องทันสมัยหน่อย) แต่ก็นั่นแหละ ก่อนมาก็จะมีคนบอกตลอดว่า เดี๋ยวระวังลูกจะแรด ระวังจะเป็นเหมือนฝรั่ง ที่สำคัญ ระวังใช้เงินฟุ่มเฟือย!
บอกเลยก่อนมาเนี่ยก็เครียดน่ะ กลัวจะปรับตัวไม่ได้ ทุกคนเค้าจะเว่อร์ใช้แต่แบรนด์เนมทุกอย่างหรือเปล่า เราจะโดนดูถูกหรือเปล่า คิดมากเรื่องนู่นนี่นั่นสารพัดอย่าง
แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ใช่แบบนั้นเลยน่ะ
ก็ต้องยอมรับว่าเด็กที่นี่ก็ใช้แบรนด์เนมกันเยอะ แบบมาที่นี่คือแล็ปท็อปที่เป็น windows นี่นับเครื่องได้เลยน่ะ เกือบทุกคนใช้ Mac ที่ใส่แล็ปท็อปก็ชอบใช้ของ Marc Jacobs กัน ตอนแรกนี่ทำเอาเราไม่กล้าแบกแล็ปท็อปไปโรงเรียนเลย555 แต่ตอนหลังโรงเรียนก็แจก MacBook Pro ให้เด็กทุกคนจากป.6 ขึ้นไป(คืนตอนปลายปีนั่นแหละ ไม่ได้ให้ไปเลย) ก็เลยเป็นการบังคับให้เราแบกมันไปไปในตัว (แอบหนักไปบางที)
แต่ประเด็นคือ ที่นี่ก็ไม่ได้มีการอวดว่า ‘ชั้นมีคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดน่ะ โฮะๆ’ อะไรแบบนี้เลย คือต่างคนต่างซื้อ เห็นอันใหม่ของเพื่อนก็ชมว่า สวยดี แค่นั้น จบ เหมือนมันเป็นไลฟ์สไตล์ของคนที่นี่ ซื้อกันเป็นปรกติ แบบเราเนี่ย อันไหนแพงก็บอกเพื่อน แก มันโคตรแพง เราไม่ซื้อน่ะ นั่นแหละ ก็แล้วกันไป ไม่ได้โดนดูถูกอะไร
ส่วนเรื่องรถยนต์ ยานพาหะนะต่างๆ บอกเลยว่ามาที่นี่แล้วสิ่งแรกที่คิดคือ โอ้แม่เจ้า! นี่มันโรงเรียน หรือโชว์รูมรถAlphard อะไรมันจะเยอะได้ขนาดนี้!!! นับได้เรื่อยๆอ่ะพูดจริง ช่วงแรกๆที่ย้ายมายังไม่รู้จักใคร หลังเลิกเรียนไม่มีไรทำก็นั่งนับรถเนี่ยแหละ นั่งนับดูว่ามีอัลพาร์ดขับผ่านไปกี่คันล่ะ อีกคันที่ฮิตพอๆกันก็ Volkswagen รุ่น Carravelle (มั้ง เรากูเกิ้ลเอา ไม่มีความรู้เรื่องรถพูดเลย) อันนี้สำหรับคนไทยอ่าน่ะ
ส่วนเด็กต่างชาติเนี่ย (ซึ่งก็คือประมาณครึ่งนึงของที่นี่) ถ้าเป็นพวกญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนมากจะอยู่สุขุมวิท ทองหล่อกัน นั่งรถโรงเรียนเอา แต่ที่กิ๊บเกร๋ของที่นี่คือ เพราะโรงเรียนอยู่ในหมู่บ้านนิชดาธานี เด็กที่อยู่ในหมู่บ้าน (เกือบ100%ของเด็กฝรั่ง) จะไม่ขับจักรยาน มอเตอร์ไซค์ ก็รถกอล์ฟมาโรงเรียน การมีรถกอล์ฟคือปกติมากถึงมากที่สุดสำหรับโรงเรียนเรา ข้างๆโรงเรียนเรามีเซ็นทรัลแจ้งฯ ไง มีรถกอล์ฟคือคุ้มสุดๆไปเลย สำหรับคนที่ไม่มีแบบเพื่อนเรา ก็เซ็งกันไปดิ แม่เพื่อนเราบอกปั่นจักรยานจะได้ขาแข็งแรงไงลูก.......(ค่ะแม่ โอเคค่ะ)
สิ่งสุดท้ายที่อยากจะนำเสนอวันนี้คือเรื่องของกิน ของโปรดเราเอง เด็กที่นี่ก็ไม่ต่างจากที่อื่น คือไม่ค่อยชอบอาหารโรงเรียน แต่เราชอบน่ะ 5555 กินซ้ำก็ไม่เคยเบื่อ ชอบกินก๋วยเตี๋ยว ก็ไม่ใช่อะไร เพราะไม่ต้องต่อคิวนาน แค่นั้นแหละ ยกเว้นวันที่มีข้าวซอยอ่าน่ะ วันนั้นก็ค่อยเปลี่ยนไปกินอย่างอื่น มันมีพวกแซนด์วิชที่ให้เลือกเองว่าอยากได้ขนมปังอะไร ใส้อะไรพวกนี้ ไม่ก็มีอาหารญี่ปุ่น salad bar อาหารไทย อาหารฝรั่งให้เลือก
เวลาเรียนเสร็จไม่ซื้อพวกเบเกอรี่ น้ำปั่น ผลไม้ในโรงเรียน ก็จะเดินไปstarbucks ที่อยู่หน้าโรงเรียน (แต่ก็ยังอยู่ในหมู่บ้านไง) เมื่อก่อนมี Villa Supermarket ใกล้ๆกัน แต่ตอนนี้ย้ายไปอยู่สุดหมู่บ้าน ไกลไป ขี้เกียจไง เด็กส่วนมากก็เลยจบที่starbucks เออ! แล้วขนมที่โรงเรียนน่ะ ไม่ขายพวกเลย์อะไรเลย เพื่อสุขภาพมากกก ทุกอย่างต้องเวรี่คลีนแอนด์เฮ้ลตี้ คือแบบต้องออร์แกนิค เราก็ถือซะว่ามันก็ดีต่อพวกเราไป วันไหนอยากตบะแตกก็ค่อยไปซื้อที่ villa ก็แล้วกัน
ก็ประมาณนี้แหละ :)
ขอเสริมให้น้องคนนี้หน่อย ถึงเรื่องที่บอกว่าแพงที่สุดในประเทศไทย
จากเว๊บไซด์ http://www.isb.ac.th/Tuition_Fees/default.aspx ระบุค่าเทอมตั้งไว้ที่
ก่อนอนุบาล เทอมละ 239,000 ปีละ 478,000
เกรด เค-5 เทอมละ 368,500 ปีละ 737,000
เกรด 6-8 เทอมละ 413500 ปีละ 827000
เกรด 9-12 เทอมละ 434500 ปีละ 869000
ยังไม่รวมค่าอื่นๆ นะครับ