เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาเตือนกลุ่มหาผลประโยชน์วัดบ้านไร่ยุติได้แล้ว

 

เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินหลวงพ่อคูณ และวัดบ้านไร่นำผู้เชี่ยวชาญและตำรวจตรวจสอบ ชาวโคราชคึกคักเหมารถร่วมงานศพ “แอ๊ด คาราบาว”ไปร่วมเคารพศพ

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 19 พฤษภาคม 2558 ที่กุฏิภายในวัดพายัพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงการตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดบ้านไร่ หลังจากพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาย อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มรณภาพว่าอาตมาในฐานะเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงนามคำสั่งคณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมา ที่ จจ10/2558 ลงวันที่ 18 พ.ค. 2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคม และวัดบ้านไร่ โดยมีคณะกรรมการรวมทั้งสิ้น 31 คน ทั้งจากฝ่ายสงฆ์และฆราวาส

ทั้งนี้มีพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นที่ปรึกษา พระราชสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานกรรมการ

สำหรับรองประธานกรรมการ 5 คน ประกอบด้วย พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด พระภาวนาประชานาถ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ นายบัญชายุทธ นาคมจรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา นายสมพงษ์ วิริยะจารุ วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา นายอำเภอด่านขุนทด

ส่วนคณะกรรมการ ประกอบด้วย หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายราชการ และคณะสงฆ์ ระดับอำเภอ ตำบล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมนุมทั้งระดับตำบล หมู่บ้าน รวมทั้งกรรมการวัดบ้านไร่ชุดเดิมที่ทำหน้าที่รักษาการอยู่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ และมี ดร.มหาสิงขร ปริยตติเมธี เลขานุการเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด เป็นกรรมการและเลขานุการ

พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หน้าที่กรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน

พระราชวิมลโมลีเปิดเผยว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีหน้าที่ในการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคม และทรัพย์สินของวัดบ้านไร่ ทั้งเงินสด บัญชีเงินรับบริจาคทุกรายการ บัญชีเงินเช่าบูชาวัตถุมงคล บัญชีเงินฝากธนาคาร บัญชีเงินมูลนิธิ สิ่งของมีค่า รายการวัตถุมงคลที่มีอยู่ บัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัด หรือบัญชีหนี้สินค่าใช้จ่ายต่างๆ

โดยให้คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งนี้ประชุมหารือ และดำเนินการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินต่างๆ ทั้งรายรับ-รายจ่าย หรือบัญชีหนี้สินของวัดบ้านไร่ พร้อมรายละเอียดทั้งหมดทุกรายการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และมิให้มีข้อสงสัย หรือมีข้อขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น แล้วประกาศให้สาธารณชนทราบต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วันจึงจะทราบข้อเท็จจริง

ผู้ต้องการผลประโยชน์ยุติได้แล้ว

พระราชวิมลโมลี กล่าวว่า เมื่อหลวงพ่อคูณ ล่วงลับไปแล้ว ผลประโยชน์คงไม่เป็นเรื่องใหญ่โต และผู้ที่ต้องการจะได้ผลประโยชน์จากหลวงพ่อคูณ คงจะต้องยุติบทบาทเพราะท่านไม่อยู่แล้วจะเอาอะไรมาอ้างไม่ได้ หรือมีน้อยที่เหลือก็มี แต่ว่ามีอะไรที่เหลืออยู่ในวัดที่พอจะขายได้ ทำอะไรได้ก็คงคิดได้แค่ตรงนั้น

แต่จะมีกิจกรรมอะไรคับคั่งเหมือนตอนที่ท่านอยู่คงไม่มี แต่ที่จะมีอะไรคาราคาซังอยู่คือ กรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่กับชุดเก่าว่าจะเคลียร์กันได้แค่ไหน ต้องอาศัยกรรมการชุดนี้ที่แต่งตั้งไปช่วยดูให้ละเอียด

ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่โฉนดที่ดิน ใบตั้งวัดอยู่กับใคร การบริหารวัดในช่วงที่ผ่านมามีการบริหารงานแบ่งสัดส่วนอย่างไร ทั้ง กุฏิวัด พิพิธภัณฑ์ วิหารกลางน้ำ ซึ่งมีหลายจุดมีระบบการแบ่งงานกันอย่างไร ตรวจสอบรายรับรายจ่ายอย่างไร ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการตรวจค้นเข้าไปช่วยด้วยว่ามีการเก็บกุญแจตู้เซฟ ตู้บริจาค และประตูหน้าต่างไว้กับใครอย่างไร และได้ทำการซีนไว้หรือยัง ตั้งแต่หลวงพ่อคูณมรณภาพ หรือปล่อยให้ใครไปรื้อค้นเอาของมีค่าไป ทุกอย่างมีครบหรือไม่

รวมถึงเงินที่ผ่านมาทางมูลนิธิ เงินที่ผ่านมาทางหลวงพ่อคูณ และมีใครรู้เห็นว่าหลวงพ่อคูณมีทรัพย์สินอะไรอยู่บ้าง และยังอยู่ครบหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้คาดว่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน

“ฉะนั้นคณะกรรมการชุดนี้ต้องละเอียด ต้องเอาตำรวจมาช่วยตรวจค้นเหมือนการตรวจหายาบ้าเพื่อจะได้ตอบสังคมได้” พระราชวิมลโมลี กล่าว

สวดพระอภิธรรมรอบพิเศษ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคมที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) พระสงฆ์จากจังหวัดนครราชสีมา พร้อมพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 300 รูป และประชาชนประมาณ 2,000 คน ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมรอบพิเศษ โดยมีพระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายมหานิกาย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระภิกษุจากจังหวัดนครราชสีมา โดยมีประชาชนจากทั่วสารทิศทยอยเดินทางมากราบสักการะไม่ขาดสาย

แอ๊ด คาราบาว(สวมหมวก)ไปร่วมสักการะสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ก่อนเริ่มสวดพระอภิธรรมศพรอบพิเศษ เมื่อเวลา 13.30 น. นายยืนยง โอภากุล หรือ “แอ๊ด คาราบาว” ได้เดินทางมาสักการะสรีระสังขาร หลวงพ่อคูณ ภายในหอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก

พินัยกรรมหลวงพ่อคูณเป็นเรื่องยิ่งใหญ่

ภายหลังกราบสักการะสรีระสังขารแล้วแอ๊ด คาราบาว ให้สัมภาษณ์ว่า หลังทราบว่าหลวงพ่อคูณละสังขารแล้วรู้สึกเสียใจ ตั้งใจเดินทางมากราบ เมื่อว่างเว้นจากงานแล้วจึงรีบเดินทางมากราบสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ก่อนที่จะเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตที่ จ.มหาสารคาม

“เราได้เห็นคุณงามความดีที่หลวงพ่อคูณท่านทำต่อสังคม ไม่ใช่เฉพาะทางพุทธศาสนาเท่านั้น แม้แต่เรื่องของการรักษาพยาบาล ก่อนที่ท่านจะละสังขารไป ท่านได้เขียนพินัยกรรมที่ถือเป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ที่ท่านทำเพื่อความเมตตาธรรม มุ่งหมายให้แก่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงมากราบลาท่านเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนจะแต่งเพลงให้หลวงพ่อหรือไม่นั้น คงไม่ทำแล้ว ที่แต่งไปถือว่าสุดยอดแล้ว”

มข.จัดทำโปสการ์ด-กลอนอาลัย

ขณะที่ รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีมติจัดทำโปสการ์ดหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ขนาด 14.8 x 10.5 ซม.หรือประมาณ ¼ ของกระดาษ A4 สี่สีสองหน้า ด้านหน้าจะเป็นภาพหลวงพ่อคูณในกรอบฉลุลายไม้สวยงาม ด้านหลังจะเป็นบทกลอนกราบอาลัยหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ในเมตตาอุทิศสรีระกายเป็นวิทยาทานแก่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประพันธ์โดย ผศ.อนงค์ ร่งแจ้ง อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข.

โดยจัดทำขึ้นเพียง 50,000 ใบเท่านั้น เพื่อนำมาแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่เดินทางมากราบสรีระสังขารได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก ทั้งเป็นการร่วมไว้อาลัยต่อการละสังขารของหลวงพ่อคูณ

ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ของโรงพิมพ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยจะแล้วเสร็จและสามารถเริ่มแจกจ่ายได้ในวันที่ 20 พ.ค. สำหรับการแจกให้แก่ประชาชนนั้นจะต้องรอมติที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการทุกฝ่ายว่า จะดำเนินการลักษณะใดว่าจะแจกจ่ายบริเวณประตูทางเข้า หรือแจกจ่ายในจุดทางออกทั้ง 2 จุด รวมไปถึงช่วงระยะเวลาของการแจกจ่ายด้วย เพื่อป้องกันความโกลาหลหรือความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

จับตานำดอกไม้มาขายในงาน-ลมแรงพัดเต๊นท์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศโดยทั่วไปยังคงมีประชาชนคนบางกลุ่มนำเอาดอกไม้เข้ามาจำหน่ายภายในบริเวณสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศล โดยอ้างว่าจะนำเงินรายได้บริจาคให้แก่คณะแพทยศาสตร์ มข.นั้น ได้กำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพราะคณะกรรมการจัดงานฝ่ายบำเพ็ญกุศลได้มีคำสั่งชัดเจนในการจัดหาดอกไม้ให้ประชาชนที่มาร่วมงานฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมากราบสรีระสังขาร

ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น.ได้เกิดเหตุลมพายุขนาดใหญ่พัดตรงเข้ามาที่เต็นท์โรงทาน บริเวณด้านทิศตะวันตกของศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยแก่น ทำให้เต็นท์โรงทางของลูกศิษย์ที่เข้ามาร่วมทำบุญล้มพับหลายเต็นท์ โดยแรงลมที่พัดกระหน่ำมาอย่างรวดเร็ว พัดกระหน่ำเป็นเวลานานประมาณ 30 วินาที แรงลมก็ค่อยๆ หายไป โชคดีเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

คนโคราชขึ้นรถ 19 คันไปร่วมงานสวดพระอภิธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.ที่บริเวณลานสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางขึ้นรถบัสโดยสาร 19 คัน ที่จังหวัดนครราชสีมาโดย นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าฯจัดเตรียมไว้ให้บริการประชาชนเดินทางไปร่วมสวดพระอภิธรรมศพ ในงานบำเพ็ญกุศลพระเทพวิทยาคมที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น เวลา 19.00 น.คืนนี้กันอย่างคึกคัก

ชาวโคราชขึ้นรถบัสไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมหลวงพ่อคูณที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เบื้องต้นจังหวัดนครราชสีมาจัดเตรียมรถโดยสารไว้ 10 คัน แต่เนื่องจากมีพี่น้องประชาชนต้องการเดินทางไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลหลวงพ่อคูณ นักบุญแห่งที่ราบสูงจำนวนมากทำให้รถโดยสารถูกจองเต็มทุกที่นั่ง ผู้ว่าฯ จึงต้องจัดรถโดยสารเพิ่มอีก 9 คัน รวมเป็น 19 คัน เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนแต่ก็ยังมีประชาชนอีกหลายรายที่ไม่มีที่นั่ง และบางส่วนเลือกเดินทางไปใช้บริการรถโดยสารประจำทาง ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแทน รถโดยสารทั้ง 19 คันออกเดินทางจากบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเวลา14.00 น.

จัดบริการเพิ่มวันละ 5 คันออก 14.00 น.

รายงานข่าวเปิดเผยว่าจังหวัดยังได้จัดเตรียมรถบัสไว้ให้บริการประชาชนวันละ 5 คัน สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปร่วมงานบำเพ็ญกุศล หลวงพ่อคูณ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยรถจะออกเวลา 14.00 น. ทุกวันและในคืนสุดท้ายคือ วันที่ 24 พฤษภาคมนี้ จะจัดเตรียมรถไว้บริการเบื้องต้นกว่า 10 คันออกเดินทางเวลา 10.00 น. เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติด เนื่องจากจะมีประชาชนหลั่งไหลมาร่วมงานจำนวนมาก

ดองศพหลงพ่อคูณแยกจากอาจารย์ใหญ่อื่นๆ

นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มข.เปิดเผย ว่า หลังเสร็จพิธีสวดพระอภิธรรมในวันที่ 24 พฤษภาคมจะมีพิธีมอบศพให้ภาควิชากายภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข.เพื่อเตรียมดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณเป็นอาจารย์ใหญ่

ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมแล้วคาดจะใช้งบประมาณมากกว่า 1 ล้านบาท มีบริษัทเอกชนในกรุงเทพฯเป็นผู้จัดทำตามแบบที่คณะแพทยศาสตร์กำหนดคาดจะใช้เวลา 1 เดือน ซึ่งสรีระสังขารหลวงพ่อคูณจะดองแยกจากร่างอาจารย์ใหญ่ของบุคคลอื่นๆ ตามที่ศิษยานุศิษย์ต้องการให้มีการแยกดองและเพื่อความเหมาะสมทางคณะแพทยศาสตร์ มข.จะมีการจัดทำอ่างแก้วเป็นพิเศษเฉพาะร่างของหลวงพ่อคูณ

อ่างดองทำด้วยสแตนเลสแบบพิเศษ

นายยรรยง ทุมแสน หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ กล่าวว่า หลังสวดศพหลวงพ่อคูณ ครบ 7 วัน จะรับร่างหลวงพ่อคูณมาเพื่อนำร่างมาดอง ด้วยอ่างแก้วที่ทำด้วยสแตนเลสแบบพิเศษ ประดับลวดลายทั้งแท่นและฐาน จะดองเฉพาะร่างของหลวงพ่อคูณเพียงร่างเดียว ซึ่งปกติการดองศพนั้นจะใช้ลักษณะของการดองรวม 8-10 ร่างอาจารย์ใหญ่ โดยร่างของหลวงพ่อคูณนั้นจะดองไว้ 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ลงอ่าง เมื่อครบกำหนดแล้วจะนำเข้าห้องปฏิบัติการ เพื่อศึกษาด้วยวิธีชำแหละ

ทั้งนี้ การดองร่างของหลวงพ่อคูณจะดองทั้งร่างที่ยังห่มจีวรและจะตรวจสอบโดยตลอดว่าการห่มจีวรจะมีผลกระทบอย่างไรกับร่างหลวงพ่อคูณหรือไม่

อนุสาวรีย์หลวงพ่อคูณ 70 ล้านบาท

ด้านนายกิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. กล่าวต่อว่า กรณีที่ศิษยานุศิษย์และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาหลวงพ่อคูณบางส่วนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ร้องขอให้เปิดศูนย์ประชุมให้ได้สักการะก่อนเวลา 06.00 น.นั้น ขอเรียนว่าทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัยร่างสรีระสังขารหลวงพ่อคูณและอาคารสถานที่ ดังนั้นจึงขอประชาชนที่มาร่วมพิธีได้เข้าใจและเข้าร่วมพิธีตามเวลาที่กำหนด

"ผมได้ประชุมหารือกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยและคณะแพทยศาสตร์มข. ในการเตรียมสร้างอนุสรณ์สถานพระเทพวิทยาคมภายใน มข. ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในเรื่องของครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ คาดจะใช้งบประมาณ 70 กว่าล้านบาท ซึ่งทางศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อคูณจะหาเงินมาช่วยด้วย”นายกิตติชัยกล่าว

รายละเอียดเบื้องต้นอนุสรณ์สถานหลวงพ่อคูณไม่ได้สร้างเหมือนอนุสาวรีย์ทั่วไป เพราะภายในจะมีห้องประชุมหลวงพ่อคูณในฐานะที่เป็นอาจารย์ใหญ่ มีการจัดแสดงประวัติหลวงพ่อคูณ และมีห้องเรียนรู้ที่บอกเล่าเรื่องราวที่หลวงพ่อคูณสนใจมอบสรีระสังขารให้กับคณะแพทยศาสตร์ ภายในห้องอาจจะมีรูปปั้นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณอยู่ด้วย แต่ทั้งหมดต้องประชุมหาข้อสรุปกันอีกครั้ง