ย้อนตำนาน Nokia เดินหมากพลาดตาเดียว พ่ายแพ้ทั้งกระดาน
อะไรคือความผิดพลาดของโนเกีย อดีตราชามือถือโลกติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 14 ปี บทความนี้จะพาไป "ย้อนรอย" ดูความผิดพลาดเหล่านั้นครับ
บริษัทชื่อ "โนเกีย" มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 149 ปี โดยเปิดกิจการตั้งแต่ปี 1865 เพื่อเป็น "โรงเลื่อยไม้" และเริ่มใช้ชื่อ "โนเกีย" ครั้งแรกพร้อมกับจดทะเบียนบริษัทในปี 1871
จากนั้นเส้นทางของโนเกียก็บุกตะลุย ฝ่าฟันกาลเวลามาอย่างโชกโชน เอาตัวรอดผ่านสงครามโลกสองครั้ง ภาวะเกือบล้มละลายหลายครั้ง และทำธุรกิจหลากหลายตั้งแต่ยาง สายเคเบิล กระดาษ รองเท้า ยุทโธปกรณ์ (เช่น หน้ากากป้องกันแก๊ส) พลาสติก เคมีภัณฑ์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์ (โนเกียเคยขายคอมพิวเตอร์มาก่อนในยุค 80s แถมยังเคยทำจอภาพ CRT/LCD ก่อนขายให้ ViewSonic)
อ่านประวัติของโนเกียเพิ่มเติมได้จาก เว็บไซต์โนเกีย
ช่วงปลายทศวรรษ 80s โนเกียประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักในธุรกิจทีวี ถึงขนาดซีอีโอ Kari Kairamo ฆ่าตัวตายในปี 1988
จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโนเกียคือปี 1992 ซีอีโอคนใหม่ Jorma Ollila (ปัจจุบันเป็นประธานบอร์ดของ Royal Dutch Shell) ตัดสินใจเลิกทำธุรกิจทุกอย่าง แล้วหันมาทุ่มให้ "โทรศัพท์มือถือ" เพียงอย่างเดียว
ช่วงทศวรรษ 80s โนเกียเป็นแกนหลักในการพัฒนามาตรฐาน GSM มาก่อน เมื่อกระแสโทรศัพท์มือถือเริ่มมาแรง บวกกับเทคโนโลยี GSM สามารถเอาชนะ CDMA ได้ ทำให้กระแสเหล่านี้ช่วยหนุนเสริมให้โนเกียภายใต้การคุมบังเ...ยนของ Ollila กลายเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์อันดับหนึ่งของโลกได้สำเร็จในปี 1998
ย้อนดู "ระบบปฏิบัติการ" ของโนเกีย
นับจากนั้นเป็นต้นมา ยุคทองอันยาวนานของโนเกียก็เริ่มต้นขึ้น แต่ทว่า... เกือบ 20 ปีหลังจากนั้น มันก็สิ้นสุดลง
ในความรับรู้ของคนทั่วไป ความผิดพลาดของโนเกียเกิดจากการปรับตัวไม่ทันเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน แต่คำถามก็คือ โนเกียไม่รู้เลยหรือว่า "สมาร์ทโฟน" กำลังจะมา?
โทรศัพท์มือถือในยุคก่อนเป็น "อุปกรณ์สื่อสาร" ไม่ใช่ "อุปกรณ์คอมพิวเตอร์" หน้าที่หลักของมันคือเชื่อมต่อกับเครือข่าย cellular เพื่อสื่อสารด้วยเสียงเป็นหลัก
จุดขายของโทรศัพท์ในยุคนี้จึงเน้นคุณภาพของสัญญาณ บวกกับการออกแบบตัวเครื่อง ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ คุณภาพของงานประกอบ ในขณะที่ซอฟต์แวร์นั้นเป็นแค่ "ส่วนเสริม" ที่เป็นลูกเล่นหรือจุดขายเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
ในยุคแรกๆ โนเกียจึงไม่มีชื่อเรียก "ระบบปฏิบัติการ" ของโทรศัพท์มือถือ ในลักษณะเดียวกับระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ (คนทั่วไปอาจเรียกกันเล่นๆ ว่า Nokia OS แต่มันไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการนะครับ) พอมาถึงช่วงปี 2000 บวกลบเล็กน้อย โนเกียก็คลอด "แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์" (ไม่ใช่ OS เต็มตัว อาจพอเทียบได้กับ Desktop Environment ของฝั่งพีซี) ออกมาทั้งหมด 6 ตัว (อ้างอิง) ไล่จากรุ่นเล็กไปใหญ่ดังนี้
- Series 20
- Series 30
- Series 40
- Series 60
- Series 80
- Series 90
ตัวอย่างสถาปัตยกรรมของ Series 40
ทั้งหมดทั้งปวงที่เขียนมาตั้งยาว ถือเป็นกรณีศึกษาเชิงธุรกิจที่ดีมากๆ ว่าความล้มเหลวของโนเกีย เกิดจากความผิดพลาดเพียงเรื่องเดียว แต่ดันไปพลาดในจุดสำคัญที่ส่งผลให้พ่ายแพ้ทั้งกระบวนเกม
ถ้าเรามองอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือตลอด 10 ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือโทรศัพท์เปลี่ยนแปลงตัวเองจาก "อุปกรณ์สื่อสารด้วยเสียงแบบพกพา" มาเป็น "คอมพิวเตอร์พกพา" ในยุคของสมาร์ทโฟน
โนเกียที่เป็นเจ้าโลกของ "อุปกรณ์สื่อสาร" ด้วยเสียง ไม่สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็น "คอมพิวเตอร์พกพา" ได้ เนื่องจากรากเหง้าของธุรกิจที่แตกต่างกัน
บริษัทมือถือในยุค 90s โดดเด่นในแง่วิศวกรรมฮาร์ดแวร์ ด้านการสื่อสารให้รับสัญญาณได้ดี สนทนาแล้วเสียงคมชัด แบตเตอรี่อึดทน แต่กลับไม่เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ ส่วนติดต่อผู้ใช้ ระบบปฏิบัติการ แอพ ฯลฯ มากนัก
พอมาถึงทศวรรษ 2000s ที่โลกหมุนสู่ "สมาร์ทโฟน" บริษัทมือถือในอดีตจึงล้มหายตายจาก หรือไม่ก็ต้องถอนตัวจากวงการกันถ้วนหน้า ให้เอ่ยชื่อก็อย่างเช่น Siemens, Palm, Ericsson, Motorola และล่าสุดคือ "โนเกีย" (รายที่เหลืออยู่คือ HTC กับ BlackBerry ที่กำลังลำบากอยู่ในเวลานี้)
ในขณะเดียวกัน เราเห็นบริษัทสายไอทีบุกเข้าโลกอุปกรณ์พกพา ที่ชัดเจนคือแอปเปิลกับกูเกิล (ซึ่งทำได้ดีทั้งคู่) ส่วนบริษัทฮาร์ดแวร์สายไอทีก็ปรับตัวเข้าสู่โลกของโทรศัพท์เช่นกัน (Samsung, LG, Lenovo, Huawei)
โนเกียเห็นอนาคตก่อนใครว่าต้องปรับตัว ต้องหา "อะไรบางอย่าง" มาทดแทน Symbian ที่เริ่มถึงขีดจำกัด แต่น่าเสียดายว่าวัฒนธรรมองค์กร และมุมมองของผู้บริหารโนเกียในยุคนั้น กลับไม่สามารถนำพาบริษัทให้เดินตามวิสัยทัศน์ดังกล่าวได้
ถ้าโนเกียสามารถเปลี่ยนผ่านจาก Symbian เป็น Maemo/MeeGo ได้ในช่วงปี 2006-2008 สถานการณ์ในเวลานี้อาจไม่เกิดขึ้น เมื่อโนเกียทำไม่สำเร็จเพราะเกิดปัญหาภายในหลายประการ (ดังที่กล่าวไปแล้ว) การเปลี่ยนใจมาเลือก Windows Phone ในปี 2011 จึงถือเป็น "ความพยายามแก้ปัญหา" ที่อาจมาช้าเกินไป (ไม่ว่า Elop จะเลือกอะไร ตัวเลือกที่มีอยู่ในตอนนั้นก็ไม่เลิศเลอเพอร์เฟคต์สักอย่าง)
แถมโนเกียที่พยายามกู้ชีพกลับมาภายใต้ยุค Elop ก็มาเจอ "เคราะห์ซ้ำกรรมซัด" ตรงที่ไมโครซอฟท์ไม่สามารถนำพา Windows Phone ให้โดดเด่นได้ตามที่สัญญาไว้ การเจอปัญหาใหญ่ๆ สองครั้งในจุดสำคัญที่สุด (ในที่นี้คือระบบปฏิบัติการ/แพลตฟอร์ม) จึงทำให้โนเกียหมดอนาคตในฐานะบริษัทมือถืออิสระที่เคยใหญ่อันดับหนึ่งของโลก ไปอย่างน่าเสียดาย
ถือเป็นการปิดตำนานโนเกีย จากการเดินหมากพลาดตาเดียว (เปลี่ยนผ่านจาก Symbian ไม่สำเร็จ) ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอยู่หลายปี จนพ่ายแพ้ทั้งกระดาน ต้องขายกิจการมือถือทิ้งในท้ายที่สุดครับ
ปิดท้ายด้วยแผนภาพ ประวัติศาสตร์ระบบปฏิบัติการของโนเกีย นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา (คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม)
สูตรคำนวณงวด 2/1/69
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
หลายพื้นที่ที่ทหารไทยสามารถยึดคืนได้สำเร็จ
ทหารช่าง นาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ชายแดนตราด
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
เด็ก 5 ขวบจุดไฟเผากระดาษทิชชูเล่น ทำวิลล่าหรูวอด
สมาคมฟุตบอลเอเชียเตรียมลงโทษผู้ตัดสินชาวลาว
กระถางต้นไม้จิ๋วบนโต๊ะทำงาน เรื่องเล็กๆ ที่ช่วยให้ใจเราเบาลงโดยไม่รู้ตัว
อาหารที่ลงท้าย สูตรฮ่องเต้ คืออะไรต่างจากธรรมดายังไง?
“บอย ภิษณุ" ประกาศขายบ้านหรูแล้ว ราคา 70 ล้าน
แนะนำ! เว็บไซต์ ai สามารถวาดรูป [l8+](สร้างฟรี) ผู้ใหญ่เท่านั้น
สมาคมฟุตบอลเอเชียเตรียมลงโทษผู้ตัดสินชาวลาว
หลายพื้นที่ที่ทหารไทยสามารถยึดคืนได้สำเร็จ
🤯Google ค้นพบความลับ พิมพ์ "67" แล้วจอจะสั่น! ไขปริศนาทำไม Google ถึงกลายเป็นสนามเด็กเล่นของชาวเน็ต
เสน่ห์เหนือกาลเวลา Polaroid vs Instax – การต่อสู้ของภาพถ่ายด่วนในยุคดิจิทัล
PixNapping ภัยคุกคามใหม่สำหรับ Android ที่ 'ลึก' กว่าเดิม ขโมยข้อมูลได้แม้กระทั่งในอดีต!
X Processor 5 ในร่างเล็ก พลัง AF และ Video ที่มาพร้อมกับ Fujifilm X-T30 III



