ความเห็นของหลวงปู่พุทธะอิสระต่อข่าวงานวันเกิด ณ วัดพระธรรมกาย
หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ได้แชร์โพสต์ว่า
วันเกิด แธมมี่ นะจ๊ะ
๒๓ เมษายน ๒๕๕๘
เห็นข่าววัดพระธรรมกายจัดงานวันเกิดให้นายไชยบูลย์ สุทธิผล จัดพิธีอย่างอลังการงานสร้างว่า มีคนไปร่วมงานด้วยเป็นหลายหมื่น ทั้งพระ ทั้งฆราวาส
โดยเฉพาะพระ ได้รับฎีกานิมนต์กันเกือบทุกวัด ยกเว้น วัดอ้อน้อย ไม่เคยไป เพราะรู้มานานแล้ว ว่ามันไม่ใช่พระ แต่นักบวชผู้รับจ้างชื่นชอบ เพื่อไปร่วมแสดงความยินดี ในงานวันเกิดอลัชชีปาราชิก นายไชยบูลย์ สุทธิผล
งานนี้ได้ข่าว แว่ว แว่ว มาว่า พระเถระตั้งแต่เจ้าอาวาส จนถึงรองสมเด็จฯ ไปร่วมงานกันเพียบ
มีตั้งแต่ รองสมเด็จฯ ไปจนถึง เจ้าอาวาส
ที่น่ายินดี ก็คือ งานนี้ แธมมี่ จ่ายค่าตัวให้แก่พระเพิ่มขึ้น
จากสมภาร วัดธรรมดา เคยได้ ๕,๐๐๐ ก็ขยับขึ้นมาเป็น ๑๐,๐๐๐
ถ้าเป็นสมภาร วัดหลวง เคยได้ ๑๐,๐๐๐ ก็ขยับขึ้นเป็น ๑๕,๐๐๐
เจ้าคณะตำบล, อำเภอ เคยได้ ๗,๐๐๐ – ๑๐,๐๐๐ ก็ขยับขึ้นเป็น ๑๐,๐๐๐ - ๑๕,๐๐๐
เจ้าคณะจังหวัด เคยได้ ๒๐,๐๐๐ ก็ขยับขึ้นเป็น ๒๕,๐๐๐ ถึง ๓๐,๐๐๐
เจ้าคณะภาค เคยได้ ๒๕,๐๐๐ ก็ขยับขึ้นเป็น ๓๐,๐๐๐ – ๓๕,๐๐๐
รองสมเด็จ เคยได้ ๓๐,๐๐๐ – ๓๕,๐๐๐ ก็ขยับขึ้นเป็น ๕๐,๐๐๐ – ๕๕,๐๐๐
สมเด็จ เคยได้ ๑๐๐,๐๐๐ ก็ขยับขึ้นเป็น ๑๕๐,๐๐๐ บาท อาจจะแถมด้วยก็รถเบนซ์อีกหนึ่งคัน สำหรับใช้เดินทาง อันนี้แล้วแต่ว่าจะสนิทสนมกันมากน้อยแค่ไหน
แถมท้ายด้วย สมภารบางวัดที่ไม่ได้ไป ก็นำฎีกาไปขายให้แก่พระลูกวัดหรือไม่ก็เพื่อนพระด้วยกัน ข่าวว่า ใบนิมนต์ของ ธรรมกาย เขาขายกันตั้งแต่ใบละ ๒,๐๐๐ – ๕,๐๐๐ บาท
ส่วนพวกสมเด็จ ถ้าไม่ได้ไป และมีฎีกานิมนต์ จะมีสาวกธรรมกาย นำปัจจัยไทยธรรมไปถวายถึงวัด เรียกว่า ประเคนกันถึงที่
งานนี้พอมาเทียบกับข่าวที่กำลังดังกระหึ่มโลกโซเชี่ยล คือข่าวเศรษฐีนีแจกเงินคนแก่ในวันเกิด ๖๐๐ คน คนละ ๓๐๐ – ๕๐๐ บาท
ดูแทบจะไม่ติดฝุ่นอลัชชีปาราชิก อย่างนายไชยบูลย์เลย ใครไม่รู้ว่า ทำไมเดียรถีย์ปลอมเขามาบวชจนกลายร่างเป็นอลัชชีปาราชิกเนี่ย มันทำอย่างไรถึงได้ร่ำรวยขนาดจัดงานวันเกิดได้อย่างอลังการ
ที่บอกว่า เดียรถีย์ หมายถึงพวกนอกศาสนา ไม่ปฏิบัติ ไม่ศรัทธาในพระพุทธรรมอย่างเที่ยงตรง แท้จริง ปลอมเข้ามาบวชเพื่อหวังเพียงแค่ลาภสักการะ ยศถาบรรดาศักดิ์ และความสุขสบายที่จะได้จากการต้มตุ๋นหลอกลวง
และที่เรียกว่า อลัชชีปาราชิก นั้นหมายถึง ผู้บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนาแล้วไม่ละอายชั่ว ไม่เกรงกลัวบาป ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย อย่างซื่อตรง ละเมิดข้อห้ามและไม่กระทำตามข้ออนุญาต เป็นอาบัติอย่างหนัก คือปาราชิก ขาดจากความเป็นนักบวช
เหมือนๆ กับเหตุการณ์ ที่มีลูกศิษย์มาเล่าให้ฟังว่า น้องชายเขานั่งเครื่องบินของการบินไทย ไปสหรัฐอเมริกา ในเวลาบ่ายสองโมงเศษ ก่อนที่เครื่องจะขึ้น แอร์โฮสเตสก็เข้ามาให้บริการผู้โดยสาร ขณะนั้นข้างหลังของลูกศิษย์ฉัน มีพระนั่งคนหนึ่ง พอพนักงานบริการเดินมาถึงที่นั่งของพระนั้น จึงถามขึ้นว่า พระคุณเจ้า จะฉันอะไรไหมคะ (เขาคงหมายถึง เครื่องดื่มจำพวกชากาแฟ)
พระนั้น ตอบว่า มีอะไรก็จัดมาเถิดโยม อาตมาฉันได้ทั้งหมดแหละ พนักงานต้อนรับการบินไทย ไม่แน่ใจ จึงย้อนถามพระนั้นกลับไปว่า บ่ายแล้วยังฉันได้อีกหรือคะ พระนั้น ตอบว่า อยู่บนเครื่องบิน ไม่มีเวลา ฉันได้ พระวินัยไม่ได้ห้าม
พอเครื่องบิน บินมาถึงน่านฟ้าเกาหลี ต้องลงจอดเพื่อเปลี่ยนเครื่อง เป็นเวลา ๔ ทุ่มเกาหลี แต่ ๒ ทุ่มไทย หลังจากเปลี่ยนเครื่องแล้ว เครื่องขึ้น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ก็นำเอาอาหารมาเสริฟอีกครั้ง พระนั้นก็ทำตัวเป็นผู้รับที่ดี แด๊กเข้าไปอีกมื้อแล้วพี่น้อง รวมความแล้ว ตั้งแต่บ่าย ๒ โมงเศษ จนถึง ๔ ทุ่มเกาหลี มันเล่นไป ๒ มื้อ
แล้วพี่น้องรู้ไหมว่า พระคนนั้นมันเป็นใคร?
ไอ้น้ำฝน พี่น้อง ไอ้น้ำฝน แห่งวัดไผ่ล้อมยังไงล่ะ ยังจำได้ไหม ตัวนี้แหละ ที่ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีรถหรู แต่กลายเป็นคดีได้ พี่น้อง แถมยังเป็น เจ้าของรถหรู และผู้ค้ารถหรูหรารายใหญ่ของจังหวัดนครปฐม ที่สั่งรถจากนอก แล้วถอดเป็นชิ้นๆ ใส่ลัง เข้ามาทางเรือ พอมาถึงเมืองไทยก็สำแดงเท็จ อ้างว่าเป็นอะไหล่รถเก่า เพื่อหลบเลี่ยงภาษี (มันปาราชิกชัดๆ ในความผิดฐานตระบัดสัตย์) แล้วร่วมมือกับลูกชายนักการเมืองใหญ่คนหนึ่ง ไปว่าจ้างอู่รถที่เป็นลูกของนักการเมือง ประกอบเป็นตัวรถแล้วไปหาซื้อทะเบียนรถเก่ามาสวม หรือไม่ก็ใช้ทะเบียนปลอม ซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือ ตั้งแต่กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมการขนส่ง
พอทุกอย่างเรียบร้อย ก็นำมาขายให้ลูกหลานไฮโซทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่ดาราที่วิ่งเข้า วิ่งออกวัดไผ่ล้อมอยู่พักหนึ่ง
ตั้งแต่คดีรถหรูดังขึ้น จนกลายเป็นคดีค้างคา อยู่ในดีเอสไอ พวกดาราเหล่านั้นก็หายหน้าจ้อย
ได้ยินว่านายน้ำฝนไปสหรัฐฯ ครั้งนี้ นอกจากนำเครื่องรางของขลังไปหลอกขายชาวบ้านในงานสงกรานต์ที่วัดไทยในแอลเออย่างที่เห็นในภาพ แล้วมันยังไปดูลู่ทางหาบ้านหาช่อง เผื่อจะหลบคดีรถหรู ปาราชิก มีลูกเมีย ไปอยู่กับรุ่นพี่อย่างยันตระ เณรคำ และอีกหลายๆ คนที่หลีกภัยปาราชิก
ไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ข่าวเขาว่ากันว่า ประเทศนี้มีเสรีภาพจนอาบัติปาราชิกเอื้อมเข้าไปไม่ถึง เรียกว่าเป็นเมืองปลอดอาบัติว่างั้น
แธมมี่ ก็ดูจะมีบ้านอยู่ในประเทศนี้ด้วยนะพี่น้อง
ว่างๆ จะให้ลูกศิษย์เขาหารูปมาให้ดู ว่าบ้านพวกอลัชชีพวกนี้โก้หรูขนาดไหน
เรียกว่า โก้ ถึงขนาดพวกฝรั่งมันพูดกันว่า คนไทยนี่ดีนะ ใจบุญ โง่ หลอกง่าย แค่พูด แค่แสดงกลนิดๆ หน่อยๆ ให้ดูก็เชื่อ ก็ยอมจ่ายเงิน ปรนเปรอให้ผู้แสดงนั้นมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแล้ว ดังที่เห็น
ยังจำได้ไหม ฝรั่งขาบวมเป็นโรคเท้าช้างนั่งขอทานตอนกลางวัน คนไทยหลั่งไหลไปให้เงินด้วยความสงสาร พอตกกลางคืน ฝรั่งเอาเงินไปเที่ยวไปกินเหล้า พอเมา มันยังว่าคนไทยโง่ หลอกง่าย
เมื่อไหร่ คนไทยจะฉลาดเสียที อลัชชีจะได้สูญพันธ์
พุทธะอิสระ
หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)