หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ชื่นชมกับความพยายามค้นหาตัวเองของวิศวกรสาวคนนี้จริงๆ 2 ปีจาก “วิศวกร” สู่ “บาร์ริสต้า”

โพสท์โดย ทิมมี่ ทิมมี่

สวัสดีค่ะ เราชื่อ บี อายุ 24 เรามีเรื่องราวที่อยากมาแชร์ เผื่อจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ค้นหาสิ่งที่ตัวเองรักค่ะ

เราก็เป็นคนนึงที่เหมือนกับหลายๆคน พอเรียนจบ ป.ตรี ก็สมัครงานเป็นพนักงานบริษัท เราเป็นวิศวกร ทำงานประจำ จันทร์-ศุกร์ , 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น, หยุดเสาร์อาทิตย์ พอวันจันทร์ก็ทำงาน วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราเป็นคนนึงที่รู้สึกตื่นเช้ามาบางครั้งก็อยากทำงาน บางครั้งก็ไม่อยาก พอวันจันทร์ก็ขี้เกียจไปทำงาน หรือบางทีเราก็รอเวลากลับบ้าน ทั้งๆที่กลับไปแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรอยู่ดี

เราเป็นสภาพแบบนี้มาประมาณ 1 ปีครึ่ง แต่หลังๆ เราก็ปรับตัว และเริ่มยอมรับสภาพมันได้

จนวันหนึ่งที่เรามองว่ามันคือ “จุดเปลี่ยน” ทางความคิด และการกระทำของเรามากๆ คือ เราเข้าห้องน้ำอยู่ที่โรงงานแล้วอยู่ดีๆเราก็คิดว่า “เฮ้ย! นี่เราใช้ชีวิตอยู่ที่ทำงานมากกว่าที่บ้านอีกนะเนี่ย วันละ 10-12 ชั่วโมง เลยนะ แล้วก็ทุกๆวัน มากกว่าเวลาที่เราอยู่ที่บ้านซะอีกแล้วถ้าเราไม่มีความสุขกับงานเรา ก็เหมือนเราไม่ได้ใช้ชีวิตอ่ะสิ”

ปิ๊ง เหมือนจุดนั้น เราอินมาก แล้วเราก็เริ่มรู้สึกว่า ไม่ได้แล้วอ่ะ เราต้องทำอะไรบางอย่าง

และนี่สิ่งที่เราทำในปีที่แล้ว เพื่อค้นหาตัวเองค่ะ
22 การเดินทางตามหาความฝัน 2014
"ปีแห่งการค้นหาตัวเอง"

Feb: 1."เรียนถ่ายรูปกล้อง DSLR ขั้นพื้นฐาน"ค้นหาตัวเอง #1 ลองเรียนดูเผื่อจะถ่ายรูปสวยแบบคนอื่นบ้าง สุดท้ายไม่ใช่แนว บ้าอยู่ 2 เดือนก็เลิกจ้า ทุกวันนี้เลยใช้กล้อง iPhone ถ่ายรูป 5555
>> แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ ถ่ายรูปได้มุม สื่อความหมายรูปเก่งขึ้นนะ

Mar: 2."เรียนทำไอศครีม Club Sweety" ค้นหาตัวเอง #2 เรียนแล้วสนุกมากเลย ถึงขั้นกลับมามีโปรเจค จะเปิดร้านไอติมเลยนะ ฝึกทำไอติมมาแจกทีมงานที่โรงงานทุกอาทิตย์ สุดท้ายไม่ได้เปิด รู้สึกมันดูมีความเสี่ยงจัง ลงทุนเยอะ คิดแล้วเครียด เงินลงทุนน่าจะเป็นแสนๆเลยนะโปรเจคนี้พับไป ล่มค่ะ!
>> แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ รู้เทคนิคการคำนวณสูตรไอติมเองเลยนะเธอ!

Apr: 3."เป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้าน Fine Dining Restaurant "Whale's Belly"ครั้งแรกในชีวิตที่เป็นพนักงานเสิร์ฟ ไม่เคยทำมาก่อน ทำอะไรไม่เป็นเลย เอาความกล้าเข้าสู้ จำได้ว่าพยายามมากกลับการรีบมาจากทำงานที่ชลบุรีวันศุกร์ ตอนนั้นเลิกงาน 5 โมงเย็น เพื่อเข้าไปทำที่ร้านให้ทัน 1 ทุ่ม
>> เป็นครั้งแรกที่สัมผัสความรู้สึกอินกับการเสิร์ฟอาหารแล้วทำให้ลูกค้ามีความสุข

Apr 4."เป็นพนักงานห้องอาหาร Colonnade โรงแรมสุโขทัย โรงแรม 5 ดาว"ครั้งแรกที่เข้ามาทำงานในโรงแรม อันนี้ Walk in เข้าไปสมัครทิ้งชื่อ เบอร์โทรไว้ ค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 350 บาท! 55555 ได้ลองทำงานที่ไม่เคยทำ เช็ดจานบุฟเฟ่ 500 ใบ จัดโต๊ะ พับดอกบัว และแอบกินอาหารโรงแรมฟรี อิอิ
>> อันนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นจุด Climax ที่รู้สึกว่าไม่เคยทำงานอะไรที่สนุกและตื่นเต้นขนาดนี่มาก่อนจริงๆ แค่เห็นอุปกรณ์ในครัวก็ตื่นเต้นมากแล้วเริ่มมาถูกทางล๊ะนะ!!!

May: 5."เป็นพนักงานเสิร์ฟร้านFine Dining Restaurant Le Du"ได้มาเป็นพนักงาน part time เต็มตัวทุกศุกร์-เสาร์ อันนี้ก็โทรมาสมัคร ไม่มี Resume บอกว่า "อยากทำ Part Time เสิร์ฟค่ะ พูดอังกฤษได้นิดหน่อย" ได้เห็นเชฟทำอาหารแปลกๆ ได้เสิร์ฟอาหารเป็นภาษาอังกฤษ ได้ฝึกเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟไวน์
>> ค้นพบว่า "ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือเครียดมาจากงานขนาดไหน แต่พอได้มาทำงานเสิร์ฟในร้านอาหารแล้วมีความสุขทุกครั้ง" และเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเปลี่ยน

May 6."เข้าอบรมคอร์มกาแฟ SCAE มาตรฐานยุโรป 1 วัน" หมดไปเกือบ 20,000 บาท!!! รวมค่าสอบเอาใบ certificateตอนแรกแค่คิดว่าอยากลองเรียนดูเฉ๊ยเฉย!!! ไหงตอนเรียนมันจริงจังจังอ่ะ เข้าไปเรียนมีแต่คนวงการกาแฟเก่งๆ มีทั้งเจ้าของร้าน คนคั่วกาแฟ เจ้าของไร่ที่พม่า ผู้เชี่ยวชาญกาแฟของ ปตท. ที่ทำร่วมกับ Amazon ส่วนเราความรู้กาแฟเป็น "0" เอาตัวรอดตอนสอบจากคนข้างๆตลอด แพงก็แพง ทำอะไรลงไปเนี่ย แต่เรียนแล้วก็ได้รู้ว่า กาแฟนี่มันธุรกิจทำเงินระดับโลกเลยน๊ะ
>> ค้นพบว่า กาแฟเนี่ยมันมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะนะ

May 7."เป็น Cook Helper งานแต่งงาน ที่โรงแรมสุโขทัย" ในที่สุดความฝันก็เป็นจริง อยากทำงาน part time ในครัวมาก สุดท้ายเค้าก็เรียกตัวเข้าไปช่วย ได้เห็นการทำงานในครัวโรงแรม วัตถุดิบ การจัดระบบครัว ได้ออกไปยืนเสิร์ฟแขกด้วย สนุกมากๆๆๆ
>> ค้นพบว่า"มันมีช่องว่างทางธุรกิจอีกเยอะนะ ในจุดที่เราไม่เคยรู้"

May 8."ครั้งแรกที่ขายเสื้อยืดที่ตลาดนัด" อยู่ดีๆก็ปิ๊งไอเดีย การเปิดร้านอาหารต้องใช้เงินทุน นึกได้ก็ไปแพลตินัมเลย ซื้อเสื้อยืดร้านที่ตัวเองชอบมา 60 ตัว ลงทุนประมาณ 10,000 บาท หาที่ขายที่ตลาดมืดที่ชลบุรีหลังเลิกงาน ไม่เคยขายของเองมาก่อนเลย โต๊ะอะไรไม่มี๊ปูผ้าใบขาย cost down สุดๆ รถก็ไม่มีค่ะ นั่งรถมอไซไปขาย! แล้วให้เพื่อนมารับกลับบ้านตอนดึก บ้าสุดๆอ่ะอันนี้
>> ทำให้เข้าใจว่าลูกค้าแต่ละคนมีความชอบที่ต่างกัน ทำเลโคตรสำคัญ!!! แต่ถ้าทำให้ลูกค้าติดใจแล้ว จะติดใจไปตลอดนะ!

May 9."ลงเรียน Cheese Workshop & Wine Pairing"เห็นได้ยินมาว่ากินชีสคู่กับไวน์มันฟินมากเลยนะ แล้วชีสนี่ก็มีมากมายหลายแบบ อยากเลือกเป็นมั่งเลยไปเรียนดู เรียนไปเรียนมาอินฝันเล็กๆไว้พอตอนแก่มีฟาร์มวัวไว้ผลิตชีสขายดีกว่า อิอิ
>> อันนี้เรียนเสริมความรู้ประดับไว้เฉยๆ ยังไม่ค่อยได้ใช้เลย 55555

Jun: 10."เรียนทำอาหารยุโรป ราชภัฎสวนดุสิต" ได้ลองเรียนทำอาหารแบบจริงจังก็คราวนี้แหละ มีชุดเชฟด้วย เพิ่งรู้ว่าการทำอาหารมันคือวิทยาศาสตร์ ได้จับอุปกรณ์ครัวเต็มรูปแบบ เจอเพื่อนที่ชอบเหมือนกัน ตอนนั้นเหนื่อยมากทำเสิร์ฟที่ร้านอาหารถึงบ้านเที่ยงคืน กว่าจะนอนตีหนึ่ง แล้วตีห้าครึ่งตื่นจ้า ไปเรียนอีก ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ยัน 5 โมงเย็น แล้วก็ไปเสิร์ฟอาหารต่อบ้าไปแล้ว!!!
>> ค้นพบว่ามีความสุข แล้วก็สนุกมากๆๆๆ เวลาทำอาหาร เพราะได้จับวัตถุดิบของจริง ที่ไม่ต้องมานั่งแหง่วหน้าคอม

Jun 11."เรียน Coffee Cupping @ Roots BKK คอร์สนี้ยากมาก มันคือการเรียนชิมการแฟว่ามีรส กลิ่นอะไร ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ากาแฟที่คนเค้าบ้าๆกันมันขนาดนี้เลยหรอ! เป็นการฝึกประสาทสัมผัสทางจมูก ปาก ตา แบบลึกซึ้งสุดๆ
>> ฟินที่สุดคือได้เจอไอดอล Role model ของความสำเร็จที่ปลื้มมากๆ เป็นเจ้าของร้านกาแฟที่ทำความฝันตัวเองจนสำเร็จ

Aug: 12."เที่ยวต่างประเทศคนเดียวเองครั้งแรก" อันนี้ไปมาเก๊า 3 วันตอนแรกจะไปกับเพื่อน แต่ cancel กัน ก็เลยไปคนเดียวก็ได้ ฝรั่งก็เที่ยวคนเดียวกันเยอะแยะ อยากไปหาแรงบันดาลใจ ตื่นเต้นมากๆ เที่ยวหลงทางหลายรอบ แถมโดนแม่โกรธไป 2 อาทิตย์อ่ะคร๊าาา โทษฐานไปเที่ยวคนเดียว 5555
>> ได้มุมมองใหม่ๆหลายอย่าง (เหมือนลูกเป็ดน้อยออกท่องโลกกว้าง!) ทำให้เรามีความกล้ามากขึ้น และเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตัวเองคนเดียวได้อย่างมีความสุข

Aug 13. "เรียนคอร์สอาหารไทย"ทำเป็นเล่นไป จำได้ว่าเรียนคอร์สนี้ อินกับทฤษฎีมากกกกก เฮ้ย! รู้ถึงประวัติศาสตร์อาหารไทยเลยนะ รักอาหารไทยมาก รู้สึกว่า อาหารไทยเนี่ยมันเป็นตัวเราสุดๆล๊ะ รักการทำอาหารไทยมากกว่าตอนทำอาหารยุโรปซะอีก ตอนที่เพิ่งเรียนแกะสลักมา กลับบ้านมาบ้าแกะสลักเลยจ้าานั่งแกะมันทุกกวัน
>> รู้สึกว่ายิ่งเรียนยิ่งรักในการทำอาหารมากๆ อนาคตนี่มันต้องทำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับอาหารไทยนะ narrow down สิ่งที่ตัวเองชอบได้แล้วนะเธอ

Sep: 14. "เรียน Wooden Workshop"ไปลองเรียนศาสตร์อื่นดูบ้าง ไปเรียนงานไม้ค่ะ จริงๆตอนแรกตั้งใจจะเรียนเพื่อทำจานชาม ในร้านตัวเอง เรียนไปเรียนมา เหนื่อยมาก ต้องค่อยๆแคะเนื้อไม้ แคะไป 3 ชม ยังไม่ได้ช้อนกินขนมเลย TT น้ำตาจะไหล วันต่อไปหยุดเรียน แกล้งป่วยเลย 555
>> ค้นพบว่าคนเรามันมีความชอบนะเฮ้ย! เราสนุกกับการทำอาหารมาก แต่งานไม้นี้แทบต้องอดทนทำ มันคอนเฟิร์มว่างานไม้ไม่ใช่ตัวฉันแน่นอน และงานอาหารมันคือตัวฉัน
เราไปเรียนที่ Atelier Rudee ค่ะ ลอง search หาเพจเค้าในเฟสบุ๊คได้
ที่เรียนอยู่ใกล้ BTS อุดมสุข ถ้าจำไม่ผิด

งานไม้มีสัก 2-3 course นะคะที่นี่
คอร์สที่เราเรียนเป็นพื้นฐาน "Wooden Workshop"
สอนพื้นฐานการเลือกไม้ แล้วเค้าจะให้เราทำชิ้นงานจากไม้ 1 ชิ้น จากไม้แท่งสี่เหลี่ยมนี่แหละ แกะให้เป็นอุปกรณ์ต่างเรา ฝึกใช้สิ่ว เลื่อยฉลุ กระดาษทราย เรียน 2 วัน 3,500 บาท

ส่วนคอร์สอื่นจะเป็นทำงาน furniture จากไม้
งานไม้จะเป็นผู้ชายสอน

นอกจากนี่ที่นี่มีสอนอีกหลายอย่างด้วยนะ พวกงานโลหะ เครื่องประดับจากวัสดุแปลก
ผู้หญิงที่เป็นคนสอนนี่ก็เก่งมากๆเลยนะ ไปเรียนจากยุโรปมาทางด้านนี้โดยตรง

Sep 15. "เรียน Intensive Sushi Course"ลางานไปเรียนเลยค่ะ เคลียร์วันลาพักร้อน เรียนทำซูชิ 2 วันของสถาบันแห่งหนึ่ง
>> ค้นพบว่า ถ้าอยากเก่งทำเนื้อสัตว์ให้อร่อยต้องเรียนครัวยุโรปถ้าอยากชิมรสชาติอาหารเก่งต้องเรียนครัวไทยแต่ถ้าอยากลับมีดเก่งล่ะก็ต้องซื้อที่ลับมีด เอ้ย! เรียนครัวญี่ปุ่นจ้า!

Oct: 16. "เรียน Beer Appreciation Workshop"ครั้งแรกที่ได้ชิมเบียร์ หลากหลายรสชาติ หลายประเทศ รสชาติแปลกที่ไม่เคยชิมที่ต่างจากเบียร์บ้านเรา เออ มันเจ๋งดีนะ
>> ค้นพบว่าอันนี้ก็สนใจนะ อยากลอง brew beer เองมั่ง (เรียนเสร็จ กลับมาก็เพ้อเจ้อตลอด)

Oct 17. "เรียน Wine Study"คอร์สนี้เรียนโหดมาก 3 เดือน 47,000 บาท อ่ะ ได้ชิมไวน์ประมาณ 70 ขวดทั่วโลก เรียนประวัติศาตร์และก็ Wine Pairing กับอาหารด้วยนะ เรียนจบคอร์สนี้ไม่ได้เก่งไวน์ขึ้นมากมายขนาดนั้นนะ เพราะต้องใช้ประสบการณ์ จะให้เก่งภายใน 3 เดือนไม่มีทางแน่นอน
>> แต่คอร์สนี้ทำให้ประสาทสัมผัสการดม และการชิมดีขึ้นมากจริงๆ สูสีกับน้องหมาที่บ้านยุนะ

Oct 18. "สอบกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน" ผู้ประกอบการอาหารไทย ระดับ 1 (ผู้ช่วยกุ๊กนั่นเอง)สอบอันนี้เพียงเพื่อสิ่งเดียวเท่านั้นใบ certificate ค่า!!! ก็เค้าบอกเอาไปทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊กได้เกือบทั่วโลกเลยนะ ไม่อดตายแน่นอน สอบข้อเขียนผ่านฉิวเฉียด สอบปฏิบัติผ่านฉลุย เย่! ทำอาหาร 4 เมนูตามโจทย์ที่กำหนดให้ถูกต้อง
>> ค้นพบว่าจุดแข็งของตัวเองคือสามารถทำงานภายใต้ความกดดันแข่งกับเวลาได้นะ

Nov: 19. "เรียนร้อยพวงมาลัย"คือเรามี Project ค่ะ (อีกล๊ะ) อยากเปิดสอนทำอาหาร ร้อยมาลัยให้ฝรั่ง แต่ยังทำไม่เป็น! 55555 เลยไปให้แม่เพื่อนสอน
>> ค้นพบว่า ชอบมากเลยนะ รู้สึกเป็นแบบหญิงไทย 5555 แต่ให้ทำตลอดไม่เอานะ ทำมาหากินไม่ทันใจ อิอิ

Nov 20. "สอบ Blind Wine Tasting"เป็นการเตรียมตัวสอบที่จริงจังกว่าตอนมหาลัยอีกคุยกับ google แทบทั้งวันอ่ะ Search หาไวน์ตัวนี้เป็นยังไง องุ่นพันธุ์นี้เด่นยังไง ปลูกที่อเมริกา กับออสเตรเลีย รสชาติต่างกันมั๊ย
>> ค้นพบว่าข้อสอบที่ตัวเองนัดที่สุดคือ Food & Wine Pairing คือไม่ได้ทำแล้วได้คะแนนดีสุดๆนะ แต่รู้สึกว่ามันคือตัวตนของเรา เวลาเราไปเป็นพนักงานเสิร์ฟ narrow down ความชอบได้อีกแล้วนะ รู้สึกว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟนี่ใช่เลย!

21. "ทำกระทงขายครั้งแรกที่ตลาดนัด"เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ชอบมากกกกกก ทำกระทงเนี่ย ต้องพับใบตองด้วยนะ ไม่งั้นไม่อิน เอาไปขายกับทีมงานที่ทำงานที่โรงงานด้วยกัน ขายที่ตลาดที่ชลบุรี มันมากๆๆๆ
>> ค้นพบว่า แค่ขายกระทงให้ได้กำไรนี่มันก็ไม่ง่ายนะเธอ!

Dec: 22 "พาแม่ไปเที่ยวต่างประเทศเองครั้งแรก" พาไปสิงคโปร์ตั้งใจมากเลย วางโปรแกรมแต่ที่ๆแม่อยากไป
>> ค้นพบว่า
ถึงเวลาที่เราต้องโตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะ
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเป็นผู้ให้บ้าง
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่น
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเข้มแข็ง
ถึงเวลาที่เราต้องเข้าใจคนอื่นไม่ใช่มองแต่ตัวเอง!

ในที่สุดก็เขียนจบ ใช้เวลาเขียนนานมากๆ เป็นปีที่ใช้เวลาคุ้มที่สุดใน 24 ปีที่ผ่านมาเลยนะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า

เราทำทั้งหมดนี่ในปี 2014 พร้อมๆกับการทำงานประจำ เราทำงานประจำที่ชลบุรี นิคมอมตะนคร จันทร์-ศุกร์ แล้วทุกเสาร์อาทิตย์เรามาเรียนและทำงาน Part Time บอกเลยว่าเหนื่อยมาก แต่เรามีความสุขทุกครั้งที่ทำมัน ที่เรามีเงินไปเรียนคอร์สมากมาย ทั้งหมดมาจากเงินเก็บเราล้วนๆ บ้านเราฐานะปานกลาง ไม่รวย เชื่อมั๊ย ทุกวันนี้เราไม่มีรถ เรายังขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า ไปไหนมาไหนอยู่เลย

จนสิ้นปีที่แล้วเราตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง วิศวกร แบบถาวร เพราะเราอยากหาประสบการณ์ในร้านอาหาร การลาออกของเรา เราก้าวออกมาด้วยความภูมิใจ เป็นการลาออกแบบเปิดเผย เพื่อนๆที่ทำงานรู้ว่าเราลาออกทำไมและเป็นกำลังใจให้เรา แล้วเราก็รักที่ทำงานเก่าเรามากๆด้วย แล้วก็เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เราก็ตัดสินใจทำความฝันอีกอย่างนึงคือ

Backpack 24 วัน คนเดียว!
4 ประเทศ 6 เมือง 4 สายการบิน 8 Hostel 2 คอร์สเรียนทำอาหาร
หาประสบการณ์ และทำสิ่งที่อยากทำ

สุดท้ายๆๆ เราอยากให้กำลังใจทุกคนว่า!!! เราทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นใครคนหนึ่งจริงๆๆๆ นะ แต่เราต้องค้นหาตัวเองให้เจอ ซึ่งการค้นหาตัวเองให้เจอมันไม่ง่าย แต่มันก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ถ้าเจอแแล้วมันจะคุ้มค่ามากๆๆๆๆ แล้วเราก็จะเป็นตัวของตัวเองได้ เก่งในแบบของเรา เก่งในแบบที่เราเป็นแต้มต่อ

ตอนนี้เราก็ยังคงค้นหาตัวเองอยู่นะ ยิ้ม) เรารู้แล้วว่าเราชอบงานด้านอาหาร และเครื่องดื่ม จุดแข็งจุดอ่อนของเราคืออะไร แต่ก็ยังไม่รู้จักตัวเองลึกๆ

นี่ตั้งกระทู้มา.....ว๊ากกก ไม่เกี่ยวกับบาร์ริสต้า เท่าไหร่เลย สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อกระทู้ล๊ะ!
งั้นเกริ่นอะไรที่เกี่ยวกับบาร์ริสต้าหน่อยล๊ะกันนะ! เดี๋ยวแฟนๆคอกาแฟจะผิดหวัง TOT

ตอนนี้เราทำงานที่ร้าน Roast Coffee & Eatery นะ ที่อยู่ตรงซอยทองหล่อ 13 Seenspace ร้านนี้ดังเรื่องกาแฟมากๆๆๆ เราเป็น Junior Barista อยู่ที่นั่น หน้าที่หลักของเราก็คือล้างแก้ว!!! อิอิ จริงๆคือดูแลเครื่องดื่มทั้ง Signature Drink, Milk Shake, Smothies และ Cocktailประมาณ 65% ที่เหลือก็ชงกาแฟ เราถือว่าเป็น beginner มากๆๆๆๆๆ สมัครเข้ามาทั้งๆที่ไม่เคยชงกาแฟมาก่อน, Steam นมไม่เป็น, Latte Arts ก็ไม่ได้เลย แต่ตอนสัมภาษณ์เราใส่เต็มที่เลยนะว่าทำไมถึงสนใจกาแฟ ชอบอาหารเครื่องดื่ม ชอบทำงานบริการ แล้วสุดท้ายเค้าก็รับเราเข้ามา แล้วที่นี่ก็จะมีการเทรนพนักงานเรื่อยๆๆๆ

Barista นี่ก็เป็นอีกงานหนึ่งที่เราอยากลองตั้งใจกับมันดู เราเริ่มงานได้เกือบ 1 เดือนแล้ว เราอยากแยกแยะกลิ่นกาแฟได้ เราอยากวิเคราะห์ shot กาแฟให้เป็น เราอยากเท Latte Arts ได้ และนี่แหละ คืองานที่เราอยู่กับมันทุกวัน และมีความสุขทุกครั้งที่ทำมัน ยิ้ม)

ยังไงก็แวะมาทักทายกันได้นะ ที่ร้านกำลังจะเปิดสาขา 2 ตรงห้างใหม่ Emquartier @BTS พร้อมพงษ์
เราจะบริการให้เต็มที่เลย ยิ้ม)
 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ทิมมี่ ทิมมี่'s profile


โพสท์โดย: ทิมมี่ ทิมมี่
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
68 VOTES (4/5 จาก 17 คน)
VOTED: บิสกิต, Tanyaphat, Thorsten, Ployza, แม่อุ๊, thanatan, vho, ปุ้มปุ้ม, Nightingale, ฺ, Chawap, อรอินทร์ค่ะ, nkart
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ด่วน! ติดต่อขอมอบตัวแล้ว สามารถ มือยิง 3 รายเพจดัง แฉ แม่สามารถถาม ใครเสียหายจากการกระทำของตน เงินที่นำมาตนคืนให้หมดแล้ว ที่บอกแผ่นดินเสียหาย เสียหายตรงไหน..."ลิซ่า" เป้าแตก! ขณะไปดูแข่ง F1..ทำเอาแฟนๆ ขำและล้อเลียนไม่หยุดตำนานตลอดไป!! กับการประกวด Miss planet international 2024 บอกเลยว่า.. ที่สุดหนุ่มไรเดอร์อมของหลวง ชี้เกิดใน สน.จริงรวมเลขเด็ด! หวยแม่จำเนียร งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567ลูกค้ากินบุฟเฟ่ต์ 210 บาทไม่ยั้ง ชาวเน็ตห่วงร้านขาดทุน เจ้าของเผยคำตอบพลิกความคาดหมายออกหมายจับผู้นำพม่า มิน อ่อง หล่ายรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่ลมเย็นพัดมาโกรกๆ ใกล้บรรยากาศปีใหม่แล้วซินะเนี่ย เตรียมมองหาของขวัญกันได้ละเด้อเพจดัง เปิดคลิปวีดีโอ ชาย ไม่ใส่เสื้อ เข้าเซ่เว่นไล่ล่าขบวนการขนแรงงานต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง เด็กสุด 2 ขวบเพจดังเเฉ ครูโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดสระบุรี ใช้คำพูดหยาบคายกับนักเรียนและเรียกเด็กว่า "ตัว"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ด่วน! ติดต่อขอมอบตัวแล้ว สามารถ มือยิง 3 รายหนุ่มไรเดอร์อมของหลวง ชี้เกิดใน สน.จริง"10ข้อคิดเตือนใจ"จากพี่30+ถึงรุ่นน้อง20+คลารา เปตัชชิ หญิงสาวผู้เคียงข้างผู้นำเผด็จการของอิตาลี เบนิโต มุสโซลินี จนวาระสุดท้าย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด เกย์
อาร์ม arm หนุ่มน้อย สุดน่ารัก lซ็กซี่ ขวัญใจ ชาวโซเชียลMaybe หนุ่มหล่อ งานดี หุ่นแซ่บ กล้ามแน่น ขวัญใจสาวๆ บนโลกออนไลน์เอริค Werewolf หนุ่มกล้ามโต ลีลาเด็ด เป้าตุง เซ็กซี่ ยั่วยวน ไม่ธรรมดาออสก้า ธนัช Oscarland นายแบบ เน็ตไอดอล หนุ่มหล่อ หุ่นแน่น ผิวเนียน
ตั้งกระทู้ใหม่