หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หนุ่มโสดแบกเป้ขึ้นรถไฟฟรี หนีไปเกาะเต่า งบน้อยไปคนเดียวก็เฟี้ยวได้

โพสท์โดย ทิมมี่ ทิมมี่

ขอกราบสวัสดีสามครั้งพร้อมส่ายหัวดุ๊กดิ๊กแบบลุงสายันต์

ขอต้อนรับทุกท่านสู่กระทู้เที่ยวสุดเฟี้ยว แบบหนุ่มโสดเปลี่ยว เที่ยวคนเดียว  ณ เกาะเต่า กับการตัดสินใจเที่ยวแบบโดดเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต เปิดประสบการณ์การเที่ยวเกาะเต่าแบบ 4วัน3คืน แบบใช้งบน้อยที่สุด เพื่อเป็นแนวทางเผื่อผู้สนใจอยากจะแบคแพค หนีโลกแห่งความจิงไปอยู่ในโลกอีกโลกที่ไม่มีคนรู้จัก

การเที่ยวคนเดียวกับการภาพถ่ายตัวเองที่ใช้ความพยายามอย่างล้นเหลือ ขอจุดไฟในตัวทุกคนให้ออกเดินทางเจอโลกใหม่ๆ รออะไรกันครับทุกคน ปรบมือออ ~~ ออ !!




คำเตือน : กระทู้รีวิวนี้อาจจะมีแต่ภาพของ จขกท. มากเกินไปอาจจะทำให้ทุกท่านโมโหอยากจะกดกากบาทขวาบนปิด และอาจมีถ้อยคำหยาบคายและภาษาวิบัติเพื่อสื่ออารมณ์ และเป็นครั้งแรกของการรีวิวอาจจะขาดตกบกพร่องในรายละเอียดและความต่อเนื่อง จึงใคร่ขออภัยท่านผู้อ่านที่น่ารักไว้ ณ ที่นี้

คำแนะนำ :สำหรับท่านที่ยาวไปขี้เกียจอ่านให้เลื่อนไปด้านล่างจะมี
รวมรูปภาพสรุปการเดินทาง , งบประมาณ , Trick ที่จขกท.แนะนำ
ติดตามหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม IG : Nutsuksawakhon
กล้องที่ใช้ : Sony RX100 M2 , Gopro (เฉพาะในน้ำ)



ก่อนอื่นต้องขอท้าวความถึงก่อนวันเริ่มต้นของการไปเที่ยว เนื่องจากความเหงาหงอยของจขกท. ที่ทุกคนรอบข้างทำงาน และ รุ่นน้องก็อยู่ในช่วงสอบมิดเทอมของมหาลัย จึงได้แชร์กระทู้ของท่าน High on dreams (http://pantip.com/topic/32100654) แต่ไม่ได้รับความสนใจจากคนรอบข้าง จึงได้เกิดประกายการหนีเที่ยวครั้งนี้

และเนื่องด้วยความจนของ จขกท.และไม่ได้เตรียมเงินไว้ ทริปนี้เลยต้องใช้เงินให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ จึงเกิดทริปโหด ตลก หลง ฮา แต่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความทรงจำ ที่ไม่มีวันหาได้ถ้าไม่ไปด้วยตัวเองคนเดียว

และแล้วทริปก็เริ่มขึ้นด้วยการเซิทหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การเดินทาง ที่พัก และได้ข้อสรุปแรกรถไฟฟรี เป็นทางเลือกที่แสนดี สำหรับการประหยัดเงิน จึงจัดแจงหารอบรถไฟฟรี โทรสายตรง 1690 ได้ความว่ามีรถไฟขบวนเร็วที่ 171 ( เร็วจริงๆแล้วใช่ไหม T T ) กรุงเทพ-สุไหงโกลก ออกจากกรุงเทพ 13.00 และต้องลงสถานีชุมพรเวลา 21.12 ถือเป็นเวลาที่ลงตัวอย่างยิ่ง จึงจัดกระเป๋าเตรียมกล้องล้างเมม เตรียมตัวเดินทาง ~~ ง



Start Day 1 !!!
งงตัวเองว่าทำไมกล่าวบทนำหลายรอบ ไม่เริ่มสักที คราวนี้เริ่มจริงๆแล้วนะ หลังจากจัดกระเป๋าเรียบร้อยเดินทางขึ้นรถไฟฟรี จขกท ขึ้นจากสถานีศาลายาโดยรถไฟจะมาถึงตอน 14.08 จึงมาก่อนเวลา 30 นาที เพื่อการซื้อตั๋วขึ้นรถไฟ เดินทางมาถึงสถานีตีตั๋วเรียบร้อย ได้ตั๋วมาแถมยังมีเวลาเหลืออีก 20 นาที จึงไหว้วานน้องสุดที่รักที่เป็นคนรู้จักคนสุดท้ายของทริป ให้เป็นตากล้องให้ถ่ายกับสถานีรถไฟ

เวลาผ่านไปไม่นานเริ่มได้สัมผัสกลิ่นอายความร้อนของอากาศเมืองไทยที่ร่ำรือกัน ทำให้นึกถึงคำขู่ที่แสนน่ากลัวของรถไฟฟรี แต่ก็ช่างมันตั้งใจแล้ว อย่าไปกลัวลำบาก ถึงเวลารถไฟมาก็ได้ดูตั๋วด้วยความสงสัยว่ามันไม่เห็นจะมีเลขขบวนกับเลขที่นั่งเลย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าขึ้นอันไหน จึงตัดสินใจถามสาวๆชาวใต้ที่ดูเป็นผู้เชี่ยวชาญ ได้ความว่าให้ไปซื้อตั๋วฟรีที่มีเลขที่นั่ง ผมก็มึนงงอยู่ 30 วิเห็นจะได้ พี่สาวชาวใต้เห็นความโง่ของผม ไตร่ตรองแล้วไม่เข้าท่าแน่ๆ จึงได้พาวิ่งไปซื้อตั๋วที่มีที่นั่งจากคนเก็บเงินหน้าทางเข้าห้องน้ำ(ลับขนาดนี้จะรู้ได้ยังไง555) แต่ขณะเดียวกันนั้นเอง"ประกาศรถไฟขบวนต่อไปเป็นรถไฟขบวน 171 บลาๆๆ "

รถไฟมาแล้วครับ คราวนี้ทั้งผมทั้งพี่สาวผู้โชคร้าย วิ่งกันหน้าตั้งเพื่อไปซื้อตั๋วใหม่ให้ผม สวมวิญญาณนักวิ่งยิ่งกว่ายูเซน โบลต์ กระโดดขึ้นรถไฟ โง่เรื่องตั๋วยังไม่พอ ยังทำมึนหาโบกี้ไม่เจออีก พี่สาวผู้โชคร้ายจึงบอก "ขึ้นๆไปก่อนเถอะ แล้วค่อยเดินหาเดี๋ยวกูตกรถ" ล้อเล่นนะครับ พี่เค้าสุภาพมาก ผมใส่ไข่เพื่อความสนุกสนาน 5555

แม้จะทุลักทุเลไปบ้างแต่เควสแรกของผมสำเร็จได้มีที่นั่งบนรถไฟอย่างสมบูรณ์  ขอขอบคุณพี่สาวผู้โชคร้ายทั้ง3คน ที่ช่วยให้เด็กน้อยอย่างผมที่เกือบจะตกรถไฟได้ไปต่อ



ภาพนี้เป็นคุณแม่ลูกสองที่นั่งตรงข้ามผม ถ่ายหลังจากนั่งรถไฟมาสักพักด้วยความตื่นเต้น พอหมดความรู้สึกนั้น สิ่งที่สัมผัสได้ต่อมาคือความร้อน แต่ก็พอทนไหวถ้าแลกกับคำว่าฟรี ผมทนได้  และด้วยมิตรไมตรีที่น่ารักช่างคุยของผมจึงได้เจอกับพี่ชายที่นั่งติดกับผมชื่อพี่ ดาวุตพี่เค้าเป็นคนชุมพร แต่ทำงานที่ยะลา จับความได้ว่าเป็นนักลงทุน เดินทางไปกทม.เพื่อหาแนวคิดในการเปิดร้านขายของเพื่อพัฒนาธุรกิจของพี่เค้าในยะลา เท่สุดๆ พี่เค้าได้สอนแนวคิดการลงทุน แลกเปลี่ยนแนวคิดการทำธุรกิจ ทำให้เวลา 8 ชั่วโมงบนรถไฟ ไม่เหงาและดูสั้นลงมาก

นอกจากมิตรภาพน่ารักๆ ของคนไทยแล้ว ยังมีวิวนอกหน้าต่างตลอดทางที่สวยงามมองแก้เบื่อ ก็เป็นอีกสเน่ห์ของรถไฟฟรีชั้น3 ที่ได้เจอคนจำนวนมาก ได้เห็นวิถีชีวิตบนรถไฟที่เราไม่เคยเห็น พ่อค้าแม่ค้าบนรถไฟที่กลับบ้านสัปดาห์ละครั้ง หลับนอนพักผ่อนกันบนรถไฟ(พี่ดาวุตบอกมา) ได้มองเห็นความลำบาก ยิ่งทำให้รู้สึกถึงว่าโชคดีแค่ไหนที่ตัวเองมีโอกาสดีๆ กว่าคนอื่น เกือบลืมบอกรถไฟจะเลท 1-2 ชม. ทำให้ผมถึงสถานีรถไฟชุมพรประมาณ 22.15 น.ผมได้ไปต่อ 5555



กลางวันเด็กๆยังสนุกสนาน พอพระอาทิตย์เริ่มตก เด็กๆก็เริ่มหมดแรง พระอาทิย์ที่ทำงานมาทั้งวันก็ถึงเวลาพักผ่อนบรรยากาศเย็นลง ฝากไว้เพียงความสวยงามของแสงสุดท้ายก่อนจะลับขอบฟ้า



หลังจากนั่งมาถึงค่ำรถไฟก็มาถึงจุดหมาย สถานีรถไฟชุมพร เควชที่สองก็เริ่มขึ้นคือต้องไปขึ้นเรือนอนที่ออกเวลา 23.00 น.(แล้วแต่วันควรโทรเช็คแต่ละบริษัท) แต่รถไฟจะเลทตามที่กล่าวไว้แล้ว หลังจากถึงสถานีชุมพรจึงต้องรีบเดินทางไปท่าเรือ ทางเลือกที่มีทางเดียวตอนนั้นก็คือมอเตอร์ไซรับจ้างหน้าสถานี ด้วยราคา 100 บาท พี่เค้าจะไปส่งถึงท่าเรือพร้อมทั้งพาไปซื้อตั๋วเรียบร้อย หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ ตอนนั้นเหลือเวลาอีก 20 นาที จึงได้ตุนขนม กินมาม่าเพื่อกันหิวในตอนกลางคืน เพราะบนเรือจะไม่มีของขายแต่ที่ขาดไม่ได้ไหนๆก็จะมีโอกาสได้นั่งเรือตอนกลางคืนแล้ว ก็ต้องมีเบียร์มานั่งจิบ เป็นสิ่งวาดฝันไว้ก่อนมาว่าต้องได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือ ดูดาว จิบเบียร์ แค่คิดก็ฟินสุดๆ พอเสร็จภารกิจการกินก็ถึงเวลาเรือออก

ในตอนนี้คุณจะรู้สึกว่าภาษาไทยบ้านเกิดของเรา จะไม่มีโอกาสได้ใช้อีกแล้ว ให้สัมผัสเหมือนจขกท.เที่ยวยุโรปก็มิปาน ฝรั่งเต็มไปหมด มองไปทางไหนก็มีแต่ฝรั่ง คนไทยนี่แรร์ไอเทมมาก ขึ้นเรือเรียบร้อยแต่ผมไม่ได้จองมาก่อนจึงได้นอนเตียงเสริมเป็นเบาะที่ปูระหว่างเตียงหลัก แต่สำหรับผมความสบายเหมือนกันนอนไหนก็ได้ขอให้ได้ไปก็พอ ไปดูเตียงเรียบร้อยก็เดินดูบรรยากาศรอบเรือได้เจอเพื่อนฝรั่งคนแรก เธอมาจากเดนมาร์กมาเที่ยวไทยครั้งนี้ครั้งที่ 8 คิดในใจตูคนไทยไม่รู้จะเที่ยวไทยน้อยกว่าเจ๊แกหรือเปล่า แต่ดูเป็นเซียนท่องเที่ยวเพราะที่บ้านทำบริษัทเกี่ยวกับจัดทริปท่องเที่ยวเที่ยวเดนมาร์กครบทุกซอกทุกมุมแล้ว แถมยังชวนไปเที่ยวบ้านบอกว่าจะพาเที่ยวฟรี ด้วยความหน้าด้านของผมก็ตอบตกลงไว้ก่อนแลกเฟสบุคไว้เผื่ออนาคตและก็ชวนกันขึ้นไปนั่งชิวบนดาดฟ้าเรือ มีสาวผมบลอนด์ซื้อเบียร์ขวดมา 2 ขวด แต่ดันไม่มีฝาเปิด เข้าทางสกิลที่สั่งสมมาจากวงเหล้าที่ฝึกมาอย่างเชี่ยวชาญ วิชาเปิดขวด หยิบขวดมาควงสองทีจับฝาทั้งสองมางัดกันตามตำรา โพล๊ะ !!  ฝาเปิดออกพร้อมฟองฟอดดั่งแชมเปญ ทุกคนหันมาปรบมือจ้าาา งงจ้า แถมยังมีฝรั่งอีกหลายคนมาให้สอนเปิด เปิดได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็สนุกสนานกันไป แต่ก็ฟินอย่างที่ตั้งใจไว้จิบเบียร์ ดูดาว เม้ากับฝรั่ง เพลินยาวไปถึงตี 2 กว่าจะลงมานอยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายของดาดฟ้า แล้วราตรีนี้ก็จบลงหลับสนิทด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน .

Day 2

ลืมตางัวเงียตื่นขึ้นมาอีกทีดูเวลา 6 โมงเช้า ห้องนอนเปิดไฟเป็นสัญญาณแจ้งเตือนว่าเรือใกล้เทียบท่าแล้ว เก็บของเรียบร้อย เรือก็จอดเข้าเทียบท่า ด้วยความแกร่งกล้าวิชารับกระเป๋าจากห้องสัมภาระได้ ก็เดินตามหาหนังสือคัมภีร์เทพเกาะเต่า ตามคำแนะนำของท่าน high on dreams นามว่า Koh Tao complete guide ตามที่ได้รับคำแนะนำมา เมื่อได้รับเหมือนท่านได้รับ Hack map ทั้งหมดในเกาะเต่า ทุกหาดทุกอ่าว รวมทั้งรูปตัวอย่างของแต่ละที่ประกอบการตัดสินใจ หาได้จากถามร้านค้าหรือโรงแรมต่างๆจะเป็นเอกสารแจกฟรี



ตอนเรามาถึงจะค่อนข้างเช้าจะไม่ค่อยมีร้านเปิดอยู่ดี เพื่อความประหยัดจขกทจึงเลือกใช้การเดินแทนรถรับจ้าง เพื่อความประหยัดงบแถมยังได้ชมบรรยากาศยามเช้าอีกด้วย หลังจากออกจากท่าเรือเดินไป7-11เพื่อหาอะไรกินรองท้อง ตามคำแนะนำหาดแรกที่ใกล้ที่สุดและจะมาถึงเป็นหาดแรกจากบริเวณท่าเรือ ก็คือหาดทรายรี ฟ้าเริ่มเปิดแดดเริ่มส่องก็ เรือจอดค่อนข้างเยอะบรรยากาศจะคล้าย ๆ ภาพด้านล่าง



น้ำใสสมกับระยะทางที่เดินทางมาจริง ต่อไปก็เป็นการหารายชื่อ hostel แล้วแต่ชื่อที่ได้ลายแทงมากลับหาเจอแต่ทางร้านเปิดเป็นรีสอร์ทแทนซะแล้ว ก็ยังชิวๆที่อื่นก็ได้เยอะแยะ เดินชิมลางถึงเกือบ9โมงเช้าเจอ Hostel ไม่กี่ที่ พูดไทยก็งงใส่ ต้องพูดอังกฤษจะดีกว่า ทั้งเกาะแทบไม่มีคนไทย มีแต่พม่ากับฝรั่ง ได้ข้อสรุปทุกที่เต็มทุกที่เนื่องจากเป็น High Season ลองมาอีกที 11.00 น. เริ่มสูญเสียความมั่นใจ + กับความเหนื่อยที่แบกกระเป๋าเป้มาด้วย จึงตัดสินในเช่ามอเตอไซดีกว่า โง่จริงๆ ถ้าเช่าตั้งแต่ท่าเรือก็สิ้นเรื่องแล้ว แต่ไม่เป็นไรยังฟินกับบรรยากาศตอนเช้าถือว่ายังคุ้มค่า มอเตอร์ไซต์หาเช่าได้ในราคา 200 บาท มีหลายร้านผมเลือกร้านที่ไม่เสียค่ามัดจำ ร้านปกติมีค่ามัดจำ 2-5 พันบาท ตรงนี้ใช้สกิลส่วนตัวนะครับ เป็นคนไทย ก็หาคนไทยละกันจะได้ไม่ต้องเสียค่าประกัน
 
ร้านที่ผมไปเช่าเป็นคนไทยใจดีให้แค่ใช้บัตรปชช.มัดจำไว้ แล้วก็ได้รับคำเตือนจากพี่ให้เช่าว่า ขับระวังๆนะ ค่าปรับโหด ด้วยความห่วงใยสำหรับคนไทยด้วยกัน แต่ผมขับรถมอเตอร์ไซต์แข็งผมสมควรเลยไม่กลัวเท่าไหร่ แต่เจ้าของร้านยังย้ำบอกว่าทางหฤโหดมาก ล้มกันมานักต่อนัก แต่ก็ไม่เอะใจ คิดว่าก็ไปหลายที่แล้วคงไม่เป็นไรมั้ง

    ตรงนี้สำคัญได้มอเตอร์ไซต์เรียบร้อยก็ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน มีเวลาก่อนที่พักจะเช็คเอาท์ อีกประมาณ 1 ชั่วโมงจึงตัดสินใจจอดรถแวะถ่ายรูปที่หาดทรายรี แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นมาคนเดียวถ่ายรูปยังไงวะครับ ปกติเป็นคนชอบมีรูปตัวเองในที่เที่ยวต่างๆ ถ่ายlandก็ไม่เป็น เดินถ่ายสักพักเริ่มทนตัวเองไม่ไหว อยากมีรูปเลยหยิบขาตั้งกล้องมาถ่ายตัวเองรีโมทผ่านโทรศัพท์บ้าง ตั้งเวลาบ้าง (พวกรูปถือโทรศัพท์คือรีโมทผ่านไอโฟน) ก็เป็นสภาพดังที่เห็นก็มาคนเดียวก็ต้องทำใจ T T แต่ก็ได้ภาพที่ตัวเองพอใจ แม้จะหลาบสิบเทคก็ตาม อิอิ




ถ่ายไปสักพักก็กลับไป Hostel ที่เต็มเมื่อเช้า จึงมาที่ Jizzo Hostel แล้วก็สนทนากับพี่พม่าจนได้เตียงว่าง ราคา 300 บาท ห้องรวมเตียง2ชั้นประมาณห้องละ 10 เตียง มีแอร์ ห้องน้ำรวม และมีลอคเกอร์ให้ (กุญแจเตรียมเอง) ขึ้นหอไปก็แปลกใจนึกในใจว่า ห้องแอร์ทำไมมันร้อนจังวะไหนบอกมีแอร์ไง เดินไปดูแอร์มีป้ายบอกเปิด 2ทุ่ม - 9 โมงเช้า โอ้ยยย โดนหลอกกอีกแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะยังไงก็ออกไปเที่ยวอยู่แล้ว วางของ เตรียมของ อาบน้ำอาบท่า อัดครีมกันแดดเรียบร้อยถึงเวลาลุยรอบเกาะ

การกินข้าวแต่ละมื้อควรเลือกร้านข้าวที่ดูคนท้องที่เค้ากินกันจะได้ราคาถูกกว่าร้านปกติ จึงได้ร้านของคนไทยราคาเริ่มต้น 60 กว่าบาท แพงนะแต่ของบนเกาะแพงกว่านี้เยอะครับ นั่งคุยตามประสาดีใจเจอคนไทยก็ให้แนะนำว่ามีเวลา 1 วัน ควรขับไปเที่ยวหาดไหนบ้าง ได้ความว่าอย่าไปอ่าวโตนดและ mango bay เพราะทางโหดมาก ไปลำบาก เด่วรถล้ม จึง list จากหนังสือ kohtao complete guide ที่เที่ยวตามทางรอบเกาะโดยวนตามเข็มนาฬิกา แล้วคุณป้าเจ้าของร้านได้แนะนำว่าวันที่สองควรซื้อ one day trip ไปดำน้ำรอบเกาะเพื่อความคุ้มค่ากับเวลา แถมยังประหยัดค่าอาหาร ถ้าไปให้มาติดต่อป้าได้ ป้าจะลดให้เป็นพิเศษ ให้ไปตัดสินใจมาตอนเย็นค่อยมาบอกป้าก็ได้ กินเสร็จเรียบร้อยก็ขับรถไปเติมน้ำมันเตรียมพร้อมลุยวันแรก

เริ่มต้นด้วยที่แรกอ่าวลึก แต่ขับไปขับมาไม่เห็นป้าย เลยสิครับตามสไตล์ ขับยังไงก็ไม่ถึงสักที ขับไปสักพัก โอ้โห ทางโหดมาก ทั้งชัน หลุมบ่อ และที่สำคัญเป็นทราย แถวนี้แ-่งโหดครับไม่แน่จริงอยู่ยาก สวมวิญญาณมอเตอร์ครอสใจเสาะ ค่อยๆคลานไปแบบสบายๆ เนื่องจากกลัวล้ม ไม่กลัวเจ็บ แต่กลัวเสียตัง 55555 ขับมาสักพักมาเจอป้ายอ่าวโตนด อ้าววว ไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่ ไมมาโผล่นี่วะ ถึงว่าทางโหดจัง แต่คงหลงมาไกลก็เลยไปต่อดีกว่าจนถึงหาดแบบทุลักทุเล จอดรถและเดินต่ออีกสักพักก็ถึง หาดแรกนามว่า อ่าวโตนด สวยงามตามท้องเรื่องครับ เป็นหาดทรายมีหินก้อนใหญ่ เริ่มมีภูมิต้านทานในการมาคนเดียว เริ่มใช้เทคน้อยลงในการถ่ายภาพ แม้แดดร้อนแค่ไหนแต่ใจก็สู้ครับ ไหนๆก็มาแล้ว ใช้ความพยายามในการให้ชาวต่างชาติถ่ายภาพให้ปรากฎว่า 5 คนผ่านไป ยังไม่ได้ภาพถูกใจเลย ตัดสินใจตั้งกล้องถ่ายตัวเองไปอย่าไปเขินครับ คนไม่รู้จักฝรั่งทั้งนั้นเจอกันครั้งเดียว อย่าไปอาย ถ้าคนรู้จักก็สนิทกันอย่าไปเขิน จำ qoute นี้ไว้ครับจะสามารถหน้าด้านได้ทุกสถานการณ์แล้ว 55555 อ่าวเป็นดังภาพด้านล่าง ค่อยข้างเงียบและสวยงาม น้ำใสมากตื่นเต้นครับ อยู่สักพักจนถ่ายรูปจนร้อนทนไม่ไหวก็ไปหาดต่อไป





แถมรูป จขกทซะหน่อย อิอิ หลังจากเดินขึ้นจากหาดโตนดมาเอารถแล้วก็เปิดแผนที่ใหม่ดูทางเลี้ยวให้มั่นใจ ก็ลุยต่อครับ ขับกลับทางหฤโหดกลับไปสักพัก จะเจอป้ายทางเลี้ยวเขียนว่า luek beach เล็กมากนะครับ สังเกตดีๆ ไม่งั้นได้เลยกลับเมืองอีก เมื่อเลี้ยวลงมาจากทางหลักขับมาสักพักข้างทางก็จะมีทุ่งหญ้าหินข้างทางก็เพลินสวยงาม ขับไปอีกไม่นานก็เจอความสวยงามแบบลืมทะเลทุกที่ไปเลยครับ หาดขาว น้ำทะเลสีฟ้าเขียว ตรงตามคอนเซปทะเลในอุดมคติ คนเงียบ มีที่นั่งพักฟรีในร่มให้อ่านหนังสือ ผมประทับใจที่นี่มาก เลยอยู่นานมาก นอนเล่น ถ่ายรูป ซึมซับบรรยากาศ เนื่องจากมีที่ร่มให้อยู่ แถมลมยังเย็นมากๆ แต่ช่วงที่ไปเป็นช่วงลมพัดเข้าเกาะแรง จึงทำให้ขยะเยอะกว่าปกติ แต่ก็ยังสวยมากๆอยู่ดี ดูนาฬิกาอีกทีก็บ่าย2 แล้วจึงตัดสินใจไปต่อเพราะมีเวลาน้อย
 
รูปนี้ถ่ายจากที่หลบแดดเป็นร้านค้าใกล้ๆหาด มองออกไปจะเป็นต้นมะพร้าวเรียงกัน แต่กล้องไม่ wide ก็เลยถ่ายได้แค่นี้ครับ T T



หลังจากนี้ก็ยอมพ่ายแพ้แก่ความร้อนจากแดดของไทย ความพยายามในกานถ่ายรูปตัวเองเริ่มหมดไป ดาวจะไม่ทนน !!! กระทู้หลังจากนี้ก่อนจะถึงช่วงเย็นของวันก็จะกลายเป็นกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวอย่างแท้จริงไปสักพักนะครับ 555 พูดซะมากมายต่อๆ

ขับรถวนไปเรื่อยๆ ต่อไปจะเจอหาดทรายแดง แต่ไม่รู้รูปหายไปไหนครับ 55555 ชมบรรยากาศระหว่างทางไปแทนนะครับ




ต่อมาจะเป็นที่ที่ฮิตที่สุด เนื่องจากไปง่ายทางค่อนข้างสะดวก อ่าวฟรีดอม บรรยากาศจะค่อนข้างสนุกสนาน มีฝรั่งค่อยข้างเยอะ ไม่เหงาแน่นอนจนถึงขั้นวุ่นวายซะด้วยซ้ำ บนหาดมีร้านขายอาหาร มีปิงปองทะเลให้เช่ามาเล่นกัน ถ้าใครกลัวเหงาหาดนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

หาดต่อมาเป็นหาดโฉลกบ้านเก่าหาดสุดท้ายของวันเนื่องจากทนความร้อนไม่ไหว อยากจะกลับไปอาบน้ำให้สบายตัว เป็นหาดส่วนตัวที่เป็นคล้ายๆท่าเรือ มีร้านอาหาร และ โรงเรียนสอนดำน้ำอยุ่ที่ชายฝั่ง ก็อยู่ได้ไม่นานก็เป็นดังรูปประมาณนี้




และแล้วผมก็ยอมแพ้กลับโฮสเทลมาพักผ่อน เพื่อเตรียมตัวไปชมพระอาทิตย์ตก กลับมาถึงโฮสเทลวาดฝันว่าจะสบายแอร์เย็นฉ่ำ พอมาถึงก็เอ้าร้อนกว่าข้างนอกอีก แอร์มันเปิดเป็นเวลา โง่ซ้ำสองอีกรอบ แต่ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนจากแดด ไม่งั้นจะป่วยจะหมดสนุกซะก่อน

หลังจากอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็ถึงเวลาเย็นประมาณ 5 โมงกว่าๆ จึงเปิดแผนที่เลือกหาดที่อยู่ฝั่งตะวันตกเพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตก จึงตัดสินใจเลือกจุดชมวิว ดุสิตบัญชา ซึ่งเป็นรีสอร์ทส่วนตัว เพราะดูจากรูปถ่าย จัดแจงของหยิบกุญแจรถคร่อมภาหนะคู่ใจ รีบขับเพื่อไปหามุมถ่ายรูป ขับไปไกลมาก ไกลแล้วไกลอีก จนเจอทางที่โคตรหฤโหดยิ่งกว่าหาดโตนด ขับไปไกลมากจนเจอป้าย Mango bay เอ้าเวรกำหลงอีกแล้วไม่ได้หลงธรรมดาหลงมาไกลมาก งานเข้าครับ เวลาจำกัดด้วยพระอาทิตย์จะตก จึงตัดสินใจกลับรถรีบขับกลับมา
 
ขากลับนี่ทุลักทุเลมากครับ ต้องรีบขับกับทางหฤโหด ย้ำว่า หฤโหด นึกว่าขี่มอเตอร์ครอส หวุดหวิดไปหลายรอบ แต่ก็ยังเอาชีวิตรอดมาได้สักพักก็ดูแผนที่ พบกับคำว่า อื้อหืออ มันคนละทางเลยนี่หว่า หลงอะไรแบบนี้ช่างน่าอับอายวงศ์ตระกูลยิ่งนัก ไม่ควรแก่การเล่าให้ใครฟังแต่ก็เล่าไปแล้ว ขับกลับมาทางใหม่ได้ไม่นานเกินอึดใจก็ไปถึง ดุสิตบัญชารีสอร์ท ทางลงชันมากต้องเดินเท้าเข้าไป หวังว่าจะพบกับความสวยงามจากจุดชมวิวที่เห็นเกาะนางยวล พร้อมแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่ไปถึงก็หน้าเหวอครับ เพราะที่ที่ลงด้านล่างได้เป็นเฉพาะลูกค้าของรีสอร์ท แต่รีสอร์ทสวยมากนะครับ มีร้านอาหารบนจุดชมวิวที่มองเห็นเกาะนางยวนตามภาพด้านล่าง แนะนำอย่างยิ่งสำหรับผู้มีโอกาสไปทาน แต่ทริปนี้ท่องไว้ ประหยัด ประหยัด ทำให้อดใจเลือกทางเลือกสุดท้าย

 
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ทิมมี่ ทิมมี่'s profile


โพสท์โดย: ทิมมี่ ทิมมี่
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
52 VOTES (4/5 จาก 13 คน)
VOTED: Spoke, เบเบ๋, ชื่อน้ำค้างไม่ใช่น้ำแข็ง, zen juff juff, ผักแปม, FORFAME, atome, toto, uoon
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
สมาคมโรงแรมกระบี่ ยื่นมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือชาวเน็ตกระหน่ำวิจารณ์ น้ำปั่นแก้วละ 465 บาท คุ้มจริงไหม? ทำไมถึงแพงได้ขนาดนั้นเจ้าหญิงเวียงชื่น เทพวงศ์ ไม่ยอมถูกจับกุมคุมขัง ยอมปลิดชีพตน ด้วยการดื่มยาพิษเลบานอนตายเพิ่มเป็น 12 ราย เจ็บ 66 ราย หลังโดนอิสราเอลถล่ม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด เกย์
ความหลากหลายทางเwศในสังคมไทยLGBTQความหลากหลายทสงเพศที่ต้องเข้าใจช่วงนี้หนุ่มอินโด กำลับเทรนค่ะบอย นายแบบหนุ่มหล่อ หน้าคมเข้ม แซ่บสไตล์ไทย
ตั้งกระทู้ใหม่